เห็นกระแสเยอะมากช่วงที่หนังฉายโรง ก็ตามอ่านบ้างทั้งกระทู้แนะนำและจากสื่ออื่นๆ ช่วงนั้นติดตามเวอร์ชั่นละครทีวีของช่อง 5 อยู่บวกกับดูมาหลายเวอร์ชั่นมากทั้งหนังและละครในช่วงชีวิตนี้เลยไม่คิดจะไปดูในโรง พอมีแผ่นก็เลยดูซะหน่อยว่าที่เขาวิจารณ์กันต่างๆนาๆนี่จริงเท็จแค่ไหน สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงไหม
เปิดแผ่นดูมาได้สัก 5 นาทีเริ่มเกิดคำถามโอ้แม่เจ้า นี่มันคู่กรรมหรือเปล่า บ้านนางเอกบรรยากาศและการแต่งกายมันไม่ใช่จริงๆ น้องอังเธอแทนต้วเองว่าเราตลอดเวลาวัยรุ่นยุคไหนหรือเธอ หรือว่าชาวสวนสมัยโน้นเขาพูดกันสไตล์นี้ หุหุ เกิดไม่ทันเหมือนกันค่ะ แล้วไหนล่ะฉากที่ร่ำลากับวนัสใต้ต้นลำพูหรือเอาแค่ให้เห็นวนัสสักฉากก็ยังดีตอนต้นเรื่องจะได้เข้าใจว่านางเอกมีสัญญาอะไรไว้กับอีกคนถึงได้ไม่สามาถปล่อยใจให้โกโบริได้ตั้งแต่แรก ไม่มีเลย เผลออีกนิดเดียวโกโบริถูกฟันบาดเจ็บ อ้าวไหนล่ะตาบัวตาผล ตัวละครมีความเป็นมายังไง ทำไมถึงแค้นพระเอกถึงขนาดทำร้ายเอา เพียงเพราะพระเอกเป็นคนญี่ปุ่นเหรอ และการสื่อสารระหว่างพระนางนี่เรียกว่า เคมี ดับสนิทค่ะ พยายามเอาใจช่วยตลอดเรื่องว่าเขาจะทำให้เรารู้สึกว่าเขารักกันตอนไหน แม้แต่ฉากในหลุมหลบภัยฉากหนีระเบิด ถ่ายทำพอใช้ได้นะแต่อารมณ์ไม่ได้ค่ะ ฉากที่อึดอัดสุดๆๆในหนังทั้งเรื่องคือตอนโกโบริเมาและปล้ำน้องอัง มันยืดเยื้อน่ารำคาญไร้สาระสิ้นดีเสียอารมณ์มากๆ เสียดายเวลาด้วยแทนที่จะเพิ่มฉากที่จะทำให้ผู้ชมที่ไม่เคยอ่านหรือดูคู่กรรมมาเลยเข้าใจถึงตัวละครและเนื้อเรื่องมากขึ้น ส่วนการแสดงของน้องริชชี่นางเอกไม่ขอพูดอะไรมากเพราะพูดกันเยอะมากแล้ว ง่ายๆสั้นๆค่ะ ไม่ผ่าน ไม่ว่าจะตีความแบบไหนถ้าขึ้นชื่อว่าอังศุมาลินจากบทประพันธ์เรื่องคู่กรรมโดยคุณทมยันตีแล้วน้องเขายังสอบไม่ผ่านจริงๆ สงสารและเสียดายน้องมากถ้าได้เล่นบทอื่นที่เหมาะสมกับตัวน้องกว่านี้คงได้แจ้งเกิดในวงการแน่ๆเพราะแววนักแสดงก็พอมีอยู่ แต่ในความเป็นอังศุมาลินที่แข็งนอกอ่อนในน้อง แข็ง แข็ง และชา ทั้งเรื่องไปหน่อย และวนัสฉบับเชตกยุคก็เหนือบรรยายค่ะ นางเอกเรียกพี่นัสอีกต่างหาก พอฉากวนัสกลับมาหาดูแล้วเหมือนน้ามาคุยกับหลานสั่งสอนตอนจบว่าถ้าจะรักใครก็รักซะนะอย่าฝืนความรู้สึกตัวเองไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่าวนัสรักอังศุมาลินแบบหญิงชายและผูกพันกับคนๆนี้มาก คำสัญญาที่ให้กันไว้ใต้ต้นลำพู เขากับตัว เพื่อนรักแต่วัยเยาว์ ไม่เหลือซากค่ะในเวอร์ชั่นนี้ ถ้าไม่เคยดูคู่กรรมมากก่อนนี่บอกได้เลยว่า งง สิ้นดี
สิ่งเดียวที่เป็นจุดแข็งของเรื่องนี้คือ ณเดช อย่างที่เขาว่าจริงๆ น่าเสียดาย ฉากบางตอนก็ถ่ายทำสวยดีเช่นตอนจูงมือกันวิ่งหนีระเบิด ฉากสะพานพุทธ แต่บรรยากาศริมน้ำและบ้านนางเอกมันดูแล้วไม่ใช่จริงๆ นี่เหรอบ้านสวนทำไมใหญ่โตหรูหราขนาดนี้ หลุมหลับภัยก็สร้างอย่างดี ที่วิ่งหนีกันลงท้องร่องล่ะบรรยากาศความสมจริงของยุคสงครามโลกหายไปไหนหมด ก่อนที่จะเปิดแผ่นดูก็ทำใจแล้วแหละว่าอันนี้เขาตีความใหม่ ไม่เหมือนคู่กรรมที่เคยดูๆมา แต่ทำใจลำบากจริงๆเพราะชื่อเรื่องก็ยังเหมือนเดิม เอามาจากนวนิยายเรื่องเดิม แต่ทำไมมันคนละเรื่องได้ขนาดนี้คะ ถ้าใช้ชื่อเรื่องอื่นและขึ้นว่า เค้าโครงเรื่องจาก คู่กรรม โดยทมยันตี คงจะพอทำใจได้ ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆค่ะ จากประชาชนคนนึงที่ชอบเรื่องคู่กรรมมาก ตั้งแต่จำความได้ก็มีภาพยนต์เวอร์ชั่น วรุฒ จินตหรา เบิร์ด อุ๋ม และที่โปรดสุดก็คือเบิร์ด กวาง ฉบับละครทีวีช่อง 7 ฉบับช่อง 5 บี้หนูนาก็ชื่นชมหลายอย่างโดยเฉพาะการคงไว้ซึ่งโครงเรื่องเดิมและการให้เกียรติผู้ประพันธ์ หรือว่าฉบับภาพยนต์ 2013 นี่เขาตีความบทประพันธ์แบบ abstract ที่สายตาชาวบ้านอย่างดิฉันไม่ get ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขออภัยมา ณ ที่นี้
คู่กรรม 2013 ฉบับภาพยนต์ ดูจบแล้วอึ้ง...
เปิดแผ่นดูมาได้สัก 5 นาทีเริ่มเกิดคำถามโอ้แม่เจ้า นี่มันคู่กรรมหรือเปล่า บ้านนางเอกบรรยากาศและการแต่งกายมันไม่ใช่จริงๆ น้องอังเธอแทนต้วเองว่าเราตลอดเวลาวัยรุ่นยุคไหนหรือเธอ หรือว่าชาวสวนสมัยโน้นเขาพูดกันสไตล์นี้ หุหุ เกิดไม่ทันเหมือนกันค่ะ แล้วไหนล่ะฉากที่ร่ำลากับวนัสใต้ต้นลำพูหรือเอาแค่ให้เห็นวนัสสักฉากก็ยังดีตอนต้นเรื่องจะได้เข้าใจว่านางเอกมีสัญญาอะไรไว้กับอีกคนถึงได้ไม่สามาถปล่อยใจให้โกโบริได้ตั้งแต่แรก ไม่มีเลย เผลออีกนิดเดียวโกโบริถูกฟันบาดเจ็บ อ้าวไหนล่ะตาบัวตาผล ตัวละครมีความเป็นมายังไง ทำไมถึงแค้นพระเอกถึงขนาดทำร้ายเอา เพียงเพราะพระเอกเป็นคนญี่ปุ่นเหรอ และการสื่อสารระหว่างพระนางนี่เรียกว่า เคมี ดับสนิทค่ะ พยายามเอาใจช่วยตลอดเรื่องว่าเขาจะทำให้เรารู้สึกว่าเขารักกันตอนไหน แม้แต่ฉากในหลุมหลบภัยฉากหนีระเบิด ถ่ายทำพอใช้ได้นะแต่อารมณ์ไม่ได้ค่ะ ฉากที่อึดอัดสุดๆๆในหนังทั้งเรื่องคือตอนโกโบริเมาและปล้ำน้องอัง มันยืดเยื้อน่ารำคาญไร้สาระสิ้นดีเสียอารมณ์มากๆ เสียดายเวลาด้วยแทนที่จะเพิ่มฉากที่จะทำให้ผู้ชมที่ไม่เคยอ่านหรือดูคู่กรรมมาเลยเข้าใจถึงตัวละครและเนื้อเรื่องมากขึ้น ส่วนการแสดงของน้องริชชี่นางเอกไม่ขอพูดอะไรมากเพราะพูดกันเยอะมากแล้ว ง่ายๆสั้นๆค่ะ ไม่ผ่าน ไม่ว่าจะตีความแบบไหนถ้าขึ้นชื่อว่าอังศุมาลินจากบทประพันธ์เรื่องคู่กรรมโดยคุณทมยันตีแล้วน้องเขายังสอบไม่ผ่านจริงๆ สงสารและเสียดายน้องมากถ้าได้เล่นบทอื่นที่เหมาะสมกับตัวน้องกว่านี้คงได้แจ้งเกิดในวงการแน่ๆเพราะแววนักแสดงก็พอมีอยู่ แต่ในความเป็นอังศุมาลินที่แข็งนอกอ่อนในน้อง แข็ง แข็ง และชา ทั้งเรื่องไปหน่อย และวนัสฉบับเชตกยุคก็เหนือบรรยายค่ะ นางเอกเรียกพี่นัสอีกต่างหาก พอฉากวนัสกลับมาหาดูแล้วเหมือนน้ามาคุยกับหลานสั่งสอนตอนจบว่าถ้าจะรักใครก็รักซะนะอย่าฝืนความรู้สึกตัวเองไม่รู้สึกแม้แต่นิดเดียวว่าวนัสรักอังศุมาลินแบบหญิงชายและผูกพันกับคนๆนี้มาก คำสัญญาที่ให้กันไว้ใต้ต้นลำพู เขากับตัว เพื่อนรักแต่วัยเยาว์ ไม่เหลือซากค่ะในเวอร์ชั่นนี้ ถ้าไม่เคยดูคู่กรรมมากก่อนนี่บอกได้เลยว่า งง สิ้นดี
สิ่งเดียวที่เป็นจุดแข็งของเรื่องนี้คือ ณเดช อย่างที่เขาว่าจริงๆ น่าเสียดาย ฉากบางตอนก็ถ่ายทำสวยดีเช่นตอนจูงมือกันวิ่งหนีระเบิด ฉากสะพานพุทธ แต่บรรยากาศริมน้ำและบ้านนางเอกมันดูแล้วไม่ใช่จริงๆ นี่เหรอบ้านสวนทำไมใหญ่โตหรูหราขนาดนี้ หลุมหลับภัยก็สร้างอย่างดี ที่วิ่งหนีกันลงท้องร่องล่ะบรรยากาศความสมจริงของยุคสงครามโลกหายไปไหนหมด ก่อนที่จะเปิดแผ่นดูก็ทำใจแล้วแหละว่าอันนี้เขาตีความใหม่ ไม่เหมือนคู่กรรมที่เคยดูๆมา แต่ทำใจลำบากจริงๆเพราะชื่อเรื่องก็ยังเหมือนเดิม เอามาจากนวนิยายเรื่องเดิม แต่ทำไมมันคนละเรื่องได้ขนาดนี้คะ ถ้าใช้ชื่อเรื่องอื่นและขึ้นว่า เค้าโครงเรื่องจาก คู่กรรม โดยทมยันตี คงจะพอทำใจได้ ทั้งหมดนี้ความเห็นส่วนตัวล้วนๆค่ะ จากประชาชนคนนึงที่ชอบเรื่องคู่กรรมมาก ตั้งแต่จำความได้ก็มีภาพยนต์เวอร์ชั่น วรุฒ จินตหรา เบิร์ด อุ๋ม และที่โปรดสุดก็คือเบิร์ด กวาง ฉบับละครทีวีช่อง 7 ฉบับช่อง 5 บี้หนูนาก็ชื่นชมหลายอย่างโดยเฉพาะการคงไว้ซึ่งโครงเรื่องเดิมและการให้เกียรติผู้ประพันธ์ หรือว่าฉบับภาพยนต์ 2013 นี่เขาตีความบทประพันธ์แบบ abstract ที่สายตาชาวบ้านอย่างดิฉันไม่ get ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขออภัยมา ณ ที่นี้