คิดว่า "ชายคนนี้" กำลังทำอะไร ???

กระทู้คำถาม
จริงๆ แล้วเรื่องนี้เกิดมานานแล้วหละค่ะ แต่นึกสนุก อยากตอกย้ำความเชื่ออีกนิดว่า มีใครคิดยังไงบ้าง ... สังคมไทย ชายไทย เข้าใจยากไปรึปล่าว? ก็ไม่แน่ใจ เรื่องราวมีหลายระยะ ค่ะ อยากทราบความเห็น ระยะ ที่ 1. เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ....

... เรื่องมีอยู่ว่า สามีภรรยาคู่นึง แต่งงานกันมาก็สัก 3-4 ปี (แต่ก่อนแต่งมาอยู่ด้วยกันนั้นเป็นแฟนกันก็เกือบๆ 5 ปี) แรกๆ ก็ดีแต่ต่อมาฝ่ายภรรยาต้องไปทำงานต่างจังหวัด จะกลับเข้า กทม. ก็ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง ช่วงเสาร์-อาทิตย์ เลยไม่ทราบว่าสามียังไงคือ ไว้ใจมาก แต่ที่สังเกตุคือ สามีจะกลับเข้าบ้านหลัง 2.00 น. ไปแล้วหนักหน่อยก็มาพร้อมรถขนขยะตอนเช้ามืดไปเลย..ทุกวัน (365 วัน) และตื่นแต่เช้าประมาณไม่เกิน 8.00 ออกจากบ้านใหม่ (ไม่เคยอ่อนเพลีย แข็งแรงดี) บางวันก็ออกไปเร็วกว่านั้น เหมือนมางีบ แล้วแต่งตัวไปทำงาน ภรรยาเกรงใจมากว่าสามีทำงานหนัก ...ฝ่ายภรรยาก็ทำงานหนักเงินเดือนเยอะกว่าสามี (ขณะนั้น) ทราบเลาๆ ว่ามีคนตักเตือนภรรยาว่า น่าจะกลับมาอยู่บ้านได้แล้ว มาดูพฤติกรรมสามีบ้าง กลับดึกดื่นๆ มากไปจะติดนิสัย และสามีจะเหงาหรือเปล่า จนวันหนึ่งภรรยาก็สามารถย้ายกลับเข้ามาทำงานใน กทม. ได้ดังเดิม แต่กลับกลายเป็นว่า เธอต้องมานอนรอสามีกลับบ้านดึกมากๆ ทุกวัน นานไปก็เธอก็เพลียร่างกาย และตื่นสายไปทำงานไม่ค่อยไหว ร่างกายอวบอ้วนเพราะฮอร์โมนทำงานผิดพลาด จาก 45 กก. โหลดไป 77 กก. ระหว่างที่นอนรอ..เธอรออยู่ชั้นล่าง แล้วก็มาสะดุ้งตื่นอีกทีราวๆ ตี 4 กว่าๆ หรือ ตี 5 ไปเลย มองออกไปหน้าบ้านเห็นรถสามีมาจอดนิ่งอยู่ ก็คือสามีเธอกลับมาแล้ว เมื่อเธอมองหา ก็พบว่าสามีขึ้นไปนอนชั้นบนเรียบร้อยโดยไม่เคยปลุกภรรยาให้เข้านอนให้เรียบร้อย ไม่เคยสนใจว่าเธอนอนตากยุงรอ สักครั้งเดียวเลย ฝ่ายภรรยาเล่าว่า เมื่อตื่นมาพบแบบนั้นก็เดินไปล้มตัวลงนอนข้างๆ สามีเป็นที่เป็นทาง สามีจะสะดุ้งตื่นและเดินหนีลงไปนอนชั้นล่าง (แทนที่เธอ) แต่เธอด้วยความอ่อนเพลียก็ไม่เคยคิดอะไร ขอหลับต่อสักนิดสบายๆ ก่อนต้องตื่นไปทำงานก็ยังดี แต่ทุกเช้า สามีจะรีบลุกมา (สายๆ) ก่อนภรรยาออกไปทำงานและมาพูดคุยโน่นนี่กับภรรยา กลายเป็นชวนเธอสายไปอีกด้วย ส่วนภรรยาด้วยความดีใจได้เห็นหน้าสามี 5 นาทีใน 24 ชม. ก็ทนคุยเถลไถลไปทำงานสายเรื่อยๆ ... พักหลังๆ ภรรยาก็บ่นเรื่องเขากลับดึก เธอไม่ขอนอนคอย แต่จะรักษาสุขภาพ โดยขอไปนอนให้ห้องนอนให้เป็นที่เป็นทางเรียบร้อย กลับพบว่าสามีแยกห้องไปนอนในห้องทำงานของตัวเอง ไปจัดเอง โดยไม่ยอมเข้าห้องนอนภรรยาและกลับดึกต่อไป เป็นปกติ รวมทั้งหมด เป็นอย่างนี้อยู่เกือบ 8 ปี ก่อนที่ภรรยาเริ่มเอะใจ (ใจเย็นมาก) และ ตัดใจจากความเอาใจใส่จากสามี แปลกที่สามีเธอก็ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเธอเลย จนวันหนึ่งเธอชวนเขา แต่เขาบอกว่า เขาไม่สามารถมีเซ็กส์กับเธอได้ (ไม่ทราบสาเหตุ) ภรรยาพยักหน้าเข้าใจ และหยุดการเว้าวอน ไม่เคยมองหาอีกเลย....ผ่านไปอีก 7 ปี รวมทั้งสิ้น 14 ปี ในระยะ 7 ปีให้หลัง...ภรรยาเธอไม่ค่อยกลับบ้าน เน้นไปทำงาน มุ่งหน้าทำงานอย่างหนักและใช้ชีวิตแบบสาวโสด เครียดและวีนแตกเก่งมาก ไม่แคร์ไม่มองหาสามีและไม่ถามไถ่ ไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเงิน แต่เขามีบ้านด้วยกัน ด้วยแรกๆ ภรรยามีรายได้สูงแต่ก็เอามาทุ่มแทกับบ้านหลังใหญ่ รถคันใหญ่และการตกแต่งดูแลบ้าน บริวารคนใช้ในบ้านให้เฝ้าบ้าน เธอทำงานแบบคนหัวใจสลายน่ะค่ะ ...ไม่ใช่ว่า รักผู้ชายคนนั้น แต่เธอบอกว่า เธอไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรผิด... เขาจึงทำแบบนี้และ เขาเป็นอะไร มีปัญหาอะไร ... เธอถามเขา ... คำตอบคือ "ก้อคุณน่ะอ้วน" ?????

คณว่า ชายคนนี้ กำลังทำอะไร ดิฉันเคยบอกเธอแล้วหละค่ะ แต่เธอค่อนข้างให้เกียรติเขา .... จึงไม่ค่อยเชื่อ !!

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
ตายๆๆๆๆ ยิ่งอ่านแล้วยิ่งปวดหัว ตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้ว
กลัวจริงๆ กลัวว่าทุกอย่างจะสายเกินแก้

ในมุมมองของเรา  ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาแก้แค้นเอาคืนแล้ว  มันเลยช่วงนั้นมานานล่ะ
เรื่องตั้งเป็น 10ปี สภาพจิตใจเพื่อนคุณมันบอบช้ำมาก ถึงแม้ที่ผ่านมาจะทำเป็นเฉย แต่การเฉยไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บ
สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ คือ "รักตัวเองค่ะ"  รีบกลับมารักษาจิตใจตัวเอง ศึกษาธรรมะ ปรึกษาจิตแพทย์ด่วน
(ขอโทษนะคะ พื้นฐานครอบครัวเดิมของเพื่อนคุณไม่ค่อยจะอบอุ่นหรือเปล่าค่ะ...เราอ่านแล้วคิดว่าตอนนี้เพื่อนคุณน่าจะอยู่ในภาวะซึมเศร้า)

กับผู้ชายชั่วๆแบบนี้ ยิ่งยื้อยิ่งแพ้ ยิ่งแก้แค้นยิ่งเข้าตัว แนะนำให้ตัดจบยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ดูจากวิธีการตัดสินใจของเพื่อนคุณ แต่ละอย่างที่ทำ ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวเองเลย
(ตย. บ้านหลังเล็กที่ปล่อยให้โดนยึด ตอนแรกก็เป็นชื่อผญ กกะ แม่ดีๆอยู่ล่ะ ทำไปทำมาวุ่นวายไปใหญ่)
คิดแต่ว่า ชั้นไม่ได้แกก็ต้องไม่ได้   อยากให้เปลี่ยนความคิดใหม่ค่ะ เปลี่ยนเป็น "ชั้นได้ แกต้องไม่ได้"
คำว่าชั้นได้ คือ ได้ความสุข ได้ชีวิตกลับคืนค่ะ

ให้เพื่อนคุณหยุดทุกอย่าง นิ่ง แล้วปรึกษาทนายที่เก่งๆ เสียเท่าไหร่เป็นเสีย
เราต้องดึงความภาคภูมิใจกลับมาให้เพื่อนคุณให้ได้ ทำยังงัยก็ได้ให้เราเป็นฝ่ายชนะ
เสียเงินให้ทนาย ดีกว่าเสียเงินให้ผู้ชายชั่ว  เรียกค่าเลี้ยงดูด้วย ถ้าไม่ได้เพราะไม่มีลูก
ลองถามทนายว่าเราเรียกเป็นค่าจิตแพทย์ได้หรือไม่ เราไม่รู้ข้อกฎหมาย

ทรัพยสินมีค่าอะไร โยกได้ให้แอบโยกออกมาอย่าให้มันรู้  ชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็อย่าให้เหลือนะคะ
ส่วนชิ้นใหญ่ ปรึกษาทนายเลยว่าทำยังงัยเราถึงจะได้เปรียบที่สุด

เป็นห่วงเพื่อนคุณมาก ตอนนี้ต่อให้เพื่อนคุณเอามีดไปแทงผู้ชายตาย
หรือผชสำนึกผิดมากราบเท้า ใจเพื่อนคุณก็ไม่หายเจ็บ  

เพื่อนคุณจะชนะก็ต่อเมื่อ เพื่อนคุณอยู่ได้อย่างมีความสุข สุขภาพกายใจแข็งแรงนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่