รายงานการชุมนุมปี 53 กสม.ตรวจสอบ "เสื้อแดง" ฝ่ายเดียว!
ศาตราจารย์อมรา (ถ้าเรียกย่อๆ ว่า ป้าอมฯ ได้ปะ ไม่อยากพิมพ์ยาว)
นักสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกต57'รายงานการชุมนุมปี 53 ของคณะกรรมการสิทธิฯ ว่ามุ่งตรวจสอบผู้ชุมนุมเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียว พร้อมให้การรับรองสิทธิรัฐบาลในขณะนั้น สามารถออกกฎหมายพิเศษใช้กำลังปราบปรามประชาชนได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับรายงานทุกฉบับของคณะกรรมการสิทธิฯ เกิดมาจากโครงสร้างของคณะกรรมการ ที่ไม่ได้มีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม
รายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีเหตุชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สร้างกระแสต่อต้านคณะกรรมการชุดนี้ในโลกออนไลน์มากขึ้น หลังจากเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบผ่านทางเว็ปไซต์แบบเงียบๆ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา
การวิจารณ์ที่เกิดขึ้น พุ่งเป้าไปที่ ศาตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการ ทั้งเรื่องความไม่กลางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีอคติทางการเมือง รวมถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน จึงมองว่าไม่คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนที่เสียไปในแต่ละปี
สอดคล้องกับนักสิทธิมนุษยชนท่านนี้ ที่บอกว่า รากฐานปัญหาของรายงานทุกฉบับ เกิดมาจากโครงสร้างของคณะกรรมการสิทธิฯ เอง ที่ไม่มีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ไม่กล้าให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่งผลให้รายงานไม่สมบูรณ์ และขาดความน่าเชื่อถือ
จากการอ่านรายงานฉบับนี้ ที่มีความหนากว่า 90 หน้ากระดาษ A4 และได้มีโอกาสฟังคำชี้แจงจากประธานคณะกรรมการสิทธิฯ นางสาวขวัญระวี มองว่า นี่เป็นรายงานที่มุ่งเป้าตรวจสอบผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียว และมีท่าทีรับรองอำนาจของรัฐบาลในการใช้กำลังปราบปรามประชาชน ทั้งที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ควรตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลในขณะนั้นมากกว่า
ในฐานะนักสิทธิมนุษยชน และคณะทำงานของศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค. 53 หรือ ศปช. ที่ต้องการเห็นคนในสังคมไทย ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกัน เธอเสนอให้มีการแก้ไขกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น รวมทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีความขัดแย้งทางการเมือง จะต้องค้นหาข้อมูลรอบด้าน ลึก และน่าเชื่อถือ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนสากลเป็นสิ่งสำคัญ
by Weeranan
10 สิงหาคม 2556 เวลา 16:38 น.
http://news.voicetv.co.th/thailand/78392
รายงานการชุมนุมปี53 กสม.ตรวจสอบ"เสื้อแดง"ฝ่ายเดียว! การวิจารณ์ที่เกิดขึ้น พุ่งเป้าไปที่ ศจ.อมรา พงศาพิชญ์ ประธ
ศาตราจารย์อมรา (ถ้าเรียกย่อๆ ว่า ป้าอมฯ ได้ปะ ไม่อยากพิมพ์ยาว)
นักสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกต57'รายงานการชุมนุมปี 53 ของคณะกรรมการสิทธิฯ ว่ามุ่งตรวจสอบผู้ชุมนุมเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียว พร้อมให้การรับรองสิทธิรัฐบาลในขณะนั้น สามารถออกกฎหมายพิเศษใช้กำลังปราบปรามประชาชนได้ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นกับรายงานทุกฉบับของคณะกรรมการสิทธิฯ เกิดมาจากโครงสร้างของคณะกรรมการ ที่ไม่ได้มีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม
รายงานตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน กรณีเหตุชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สร้างกระแสต่อต้านคณะกรรมการชุดนี้ในโลกออนไลน์มากขึ้น หลังจากเผยแพร่รายงานผลการตรวจสอบผ่านทางเว็ปไซต์แบบเงียบๆ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา
การวิจารณ์ที่เกิดขึ้น พุ่งเป้าไปที่ ศาตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการ ทั้งเรื่องความไม่กลางในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะมีอคติทางการเมือง รวมถึงความไม่เป็นมืออาชีพในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชน จึงมองว่าไม่คุ้มค่ากับภาษีของประชาชนที่เสียไปในแต่ละปี
สอดคล้องกับนักสิทธิมนุษยชนท่านนี้ ที่บอกว่า รากฐานปัญหาของรายงานทุกฉบับ เกิดมาจากโครงสร้างของคณะกรรมการสิทธิฯ เอง ที่ไม่มีภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ไม่กล้าให้ข้อมูลที่แท้จริง ส่งผลให้รายงานไม่สมบูรณ์ และขาดความน่าเชื่อถือ
จากการอ่านรายงานฉบับนี้ ที่มีความหนากว่า 90 หน้ากระดาษ A4 และได้มีโอกาสฟังคำชี้แจงจากประธานคณะกรรมการสิทธิฯ นางสาวขวัญระวี มองว่า นี่เป็นรายงานที่มุ่งเป้าตรวจสอบผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเพียงฝ่ายเดียว และมีท่าทีรับรองอำนาจของรัฐบาลในการใช้กำลังปราบปรามประชาชน ทั้งที่ตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล ควรตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐบาลในขณะนั้นมากกว่า
ในฐานะนักสิทธิมนุษยชน และคณะทำงานของศูนย์ข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบเหตุสลายชุมนุมเม.ย.-พ.ค. 53 หรือ ศปช. ที่ต้องการเห็นคนในสังคมไทย ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอย่างเท่าเทียมกัน เธอเสนอให้มีการแก้ไขกระบวนการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยให้ภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น รวมทั้งการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีความขัดแย้งทางการเมือง จะต้องค้นหาข้อมูลรอบด้าน ลึก และน่าเชื่อถือ โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนสากลเป็นสิ่งสำคัญ
by Weeranan
10 สิงหาคม 2556 เวลา 16:38 น.
http://news.voicetv.co.th/thailand/78392