นิรโทษกรรมให้คนทำผิดที่ไม่สำนึกผิด เท่ากับส่งเสริมให้เผาบ้านเผาเมืองในอนาคต
การให้อภัย ไม่ถือโทษ ไม่อาฆาตพยาบาท ไม่จองเวรต่อกันเป็นเรื่องประเสริฐที่คนซึ่งจิตใจต่ำไม่สามารถทำได้ แต่ในมุมเดียวกัน คนที่ทำผิดแล้วสำนึกได้ ยอมรับผิด และสัญญาว่าจะไม่ทำผิดอีกต่อไป ก็สมควรได้รับการอภัย ประเด็นดังกล่าวนี้คือเรื่องพื้นๆ ที่มนุษยชาติสามารถเข้าใจได้ดี
แต่เรื่องพื้นๆ เช่นนี้กลับกลายเป็นชนวนแห่งการวิวาทบาดหมางระดับชาติในสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ทั้งๆ ที่แต่ก่อนแต่ไรนั้น สังคมไทยก็เห็นชอบและชื่นชมกับการนิรโทษกรรมเสมอมา เพราะเชื่อว่าเมื่อนิรโทษกรรมแล้วจะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติ
แน่นอนว่าการนิรโทษกรรมในยุค 14 ตุลาฯ และ 6 ตุลาฯอาจจะไม่เป็นที่พออกพอใจของคนบางกลุ่ม แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ทำใจให้ยอมรับได้ เพราะเมื่อพิจารณาถึงพฤติเหตุและพฤติกรรมทั้งหมดทั้งปวงของเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว ก็ดูจะสมเหตุสมผลกับการนิรโทษกรรมอยู่มิใช่น้อยถึงแม้ความจริงทั้งหมดในเหตุการณ์เมื่อ 40 กว่าปีก่อนยังไม่ถูกทำให้กระจ่างก็ตาม แต่คนไทยก็พอจะทำใจยอมรับการนิรโทษกรรมให้กับผู้ก่อเหตุในครั้งนั้นได้
ถ้าคนไทยยอมรับการนิรโทษกรรมได้ แล้วเหตุใดการนิรโทษกรรมในยุคนี้จึงกลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ทำไมจึงกลายเป็นชนวนของความแตกแยกอย่างรุนแรงจนสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุค
คนไทยทุกคนคงไม่ปฏิเสธเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในเดือนพฤษภาฯ 2553 และคงไม่มีใครตอบว่าเผาแล้วก็แล้วกันไป สร้างใหม่ก็ได้ แล้วคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการชุมนุมทางการเมืองที่ผิดกฎหมายโดยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งสนับสนุนทักษิณ ชินวัตร คือปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคบนแผ่นดินนี้
เมื่อพูดเช่นนี้ก็ต้องย้อนกลับไปที่เหตุรัฐประหาร 19 กันยาฯ 2549 แล้วก็ต้องวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่า ทำไมจึงเกิดการรัฐประหารขึ้นในวันนั้น รัฐบาลทักษิณในยุคนั้นประพฤติตนเคร่งครัดตามหลักนิติรัฐ-นิติธรรมหรือไม่ ใช้อำนาจรัฐกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องหรือไม่จงใจละเมิดลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนหรือเปล่า ผู้มีอำนาจรัฐใช้อำนาจโดยชอบธรรมหรือไม่ หรือว่าใช้อำนาจรัฐคุกคามข่มขู่ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลทุกองค์กรโดยไม่เคารพความรู้สึกของประชาชนแม้แต่น้อย
ปมประเด็นเหล่านี้ ประชาชนที่ไม่โง่ บ้า ใบ้ ไร้ปัญญาสามารถตรวจค้นได้โดยไม่ยากเย็น
หากรัฐบาลมีความชอบธรรม ปกครองประเทศโดยยึดหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว ประชาชนต้องไม่มีวันยินยอมให้ใครหน้าไหนทำรัฐประหารต่อรัฐบาลนั้นได้เป็นอันขาด
บางคนอ้างว่าไม่นิยมรัฐประหาร แต่กลับมองข้ามเรื่องที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลอย่างโจ่งแจ้ง แล้วอ้างแบบไร้สติว่า รัฐบาลไหนๆ ก็โกงกินด้วยกันทั้งนั้น แต่รัฐบาลนี้โกงแล้วแบ่งให้ประชาชน ดังนั้นก็ไม่สมควรถูกทำรัฐประหาร
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีฝ่ายสนับสนุนทักษิณเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ยินยอม โดยให้เหตุผลว่าการนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษเสียก่อน และต้องสำนึกผิดในความผิดที่ตนได้ก่อขึ้นด้วย
ขอย้ำว่า หลักการนิรโทษกรรมนั้น มิใช่แค่เพียงหลับหูหลับตายกโทษให้กับผู้กระทำผิด แล้วหลงคิดว่าทุกอย่างจะจบสิ้นลงในบัดดล ผู้คนในสังคมจะหันกลับมาสมัครสมานปรองดองกันเหมือนดังเดิม
การนิรโทษกรรมแบบไร้หลักการคือต้นตอของความไม่สงบของสังคม และมันยังจะเป็นเชื้อไฟที่รอวันลุกโชนโหมไหม้ขึ้นมาอีกครั้งในอนาคต
ทำไมเราจึงไม่ใช้กลไกกระบวนการยุติธรรมในการทำความจริงให้ปรากฏ ทำไมเราไม่พิสูจน์ให้ชัดว่ารัฐบาลทักษิณกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไรไว้บ้าง โกงบ้านกินเมืองจริงหรือไม่มากน้อยแค่ไหน แกนนำกลุ่มเสื้อแดงคนไหนที่ปลุกระดมยั่วยุให้เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ผู้ชุมนุมรายใดที่จงใจทำผิดกฎหมายและจงใจเผาบ้านเผาเมือง แล้วใช้กำลังประทุษร้ายต่อทหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย รวมถึงแย่งชิงปืนและอาวุธสงครามไปจากทหาร ใครยิงเสธ.แดง ขัตติยะ สวัสดิผล แล้วเสธ.แดงมีส่วนพัวพันหรือไม่กับการเกิดเหตุระเบิดตามที่ต่างๆ ในช่วงเวลานั้น ใครคือชายชุดดำชายชุดดำได้รับคำบงการจากใคร ทหารคนไหนจงใจฆ่าประชาชนใครสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน ฯลฯ
เรื่องเหล่านี้คือเรื่องสำคัญที่คนไทยต้องรับรู้ แต่ทำไมจึงไม่มีโอกาสได้รับรู้ ทำไมความจริงจึงหาได้ยากเย็นเสียเหลือเกินบนแผ่นดินไทย ใครคือคนสั่งห้ามเผยแพร่ความจริง แล้วทำไมคนไทยจึงยอมอยู่เฉยทั้งๆ ที่ถูกปิดหูปิดตา
คนไทยยินยอมที่จะแสร้งทำเป็นลืมเหตุการณ์จริงเหล่านี้หรือหรือว่าคนไทยกลัวความจริง จนไม่พยายามแสวงหา
คนไทยพยายามเรียกร้องหาความยุติธรรม แต่ก็กลับยินยอมให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาฟากฝั่งเดียวกับรัฐบาลปิดหูปิดตาด้วยการออกกฎหมายล้างผิดให้กับผู้กระทำผิด หากรัฐบาลและสส.รัฐบาลเลือกใช้กลอุบายการเมืองเพราะทระนงว่า
ตนเองมีเสียงข้างมาในสภาแล้ว ก็จงอย่าหวังเลยว่าบ้านเมืองจะสงบสุขอย่างยั่งยืน เพราะในไม่ช้าความรุนแรงก็จะบังเกิดขึ้น
ขอถามอีกครั้งว่า สังคมไทยจะปฏิเสธความจริงและความยุติธรรมใช่หรือไม่ เราเชื่อจริงๆ หรือว่าการนิรโทษกรรมให้คนจงใจทำผิดแล้วไม่สำนึกผิดจะทำให้เกิดความปรองดอง และทำให้แผ่นดินนี้มีสันติภาพ การนิรโทษกรรมแบบไร้ตรรกะเช่นนี้ไม่ต่างไปจากการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้คนจงใจกระทำผิดกฎหมายมากยิ่งขึ้น
การนิรโทษกรรมตามหลักสากลนั้นมิใช่การฟอกความผิดหรือล้างสีให้กับผู้จงใจกระทำผิด แต่มันคือการพิจารณาโดยรอบคอบว่ามันถูกต้องและสอดคล้องกับหลักนิติรัฐหรือไม่อย่าลืมว่านานาอารยประเทศไม่เคยนิรโทษกรรมให้กับผู้จงใจกระทำละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และผู้ที่ถูกกระทำละเมิดยังมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ระงับหรือเพิกถอนการนิรโทษกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายได้ตลอดเวลา
ขอทิ้งท้ายว่า ความจริงยังมีอยู่ในสังคมไทย และความจริงก็ไม่เคยถูกทำให้ลบเลือนหายไปได้ ไม่ว่าผู้จงใจลบล้างความจริงจะมีอำนาจรัฐมากมายสักเพียงใด คนไทยต้องช่วยกันค้นหาความจริง และต้องรับความจริงให้ได้ ไม่ว่าความจริงนั้นจะสร้างความเจ็บปวดมากมายสักเพียงใดก็ตาม หากเราเลือกใช้การนิรโทษกรรมแบบไร้ปัญญาเช่นนี้ ก็จงรับรู้ไว้ด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้บ้านเมืองของเราจะตกอยู่ท่ามกลางกองเพลิงโดยไม่มีทางเลี่ยง
http://www.naewna.com/politic/columnist/8062
คนเลวคนนี้ทําได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนแม้ว่าประเทศจะชิหายมากแค่ไหนก็ตาม
นิรโทษกรรมให้คนทำผิดที่ไม่สำนึกผิด เท่ากับส่งเสริมให้เผาบ้านเผาเมืองในอนาคต
การให้อภัย ไม่ถือโทษ ไม่อาฆาตพยาบาท ไม่จองเวรต่อกันเป็นเรื่องประเสริฐที่คนซึ่งจิตใจต่ำไม่สามารถทำได้ แต่ในมุมเดียวกัน คนที่ทำผิดแล้วสำนึกได้ ยอมรับผิด และสัญญาว่าจะไม่ทำผิดอีกต่อไป ก็สมควรได้รับการอภัย ประเด็นดังกล่าวนี้คือเรื่องพื้นๆ ที่มนุษยชาติสามารถเข้าใจได้ดี
แต่เรื่องพื้นๆ เช่นนี้กลับกลายเป็นชนวนแห่งการวิวาทบาดหมางระดับชาติในสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ทั้งๆ ที่แต่ก่อนแต่ไรนั้น สังคมไทยก็เห็นชอบและชื่นชมกับการนิรโทษกรรมเสมอมา เพราะเชื่อว่าเมื่อนิรโทษกรรมแล้วจะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติ
แน่นอนว่าการนิรโทษกรรมในยุค 14 ตุลาฯ และ 6 ตุลาฯอาจจะไม่เป็นที่พออกพอใจของคนบางกลุ่ม แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่ทำใจให้ยอมรับได้ เพราะเมื่อพิจารณาถึงพฤติเหตุและพฤติกรรมทั้งหมดทั้งปวงของเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว ก็ดูจะสมเหตุสมผลกับการนิรโทษกรรมอยู่มิใช่น้อยถึงแม้ความจริงทั้งหมดในเหตุการณ์เมื่อ 40 กว่าปีก่อนยังไม่ถูกทำให้กระจ่างก็ตาม แต่คนไทยก็พอจะทำใจยอมรับการนิรโทษกรรมให้กับผู้ก่อเหตุในครั้งนั้นได้
ถ้าคนไทยยอมรับการนิรโทษกรรมได้ แล้วเหตุใดการนิรโทษกรรมในยุคนี้จึงกลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทย ทำไมจึงกลายเป็นชนวนของความแตกแยกอย่างรุนแรงจนสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุมิคสัญญีกลียุค
คนไทยทุกคนคงไม่ปฏิเสธเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในเดือนพฤษภาฯ 2553 และคงไม่มีใครตอบว่าเผาแล้วก็แล้วกันไป สร้างใหม่ก็ได้ แล้วคงไม่มีใครปฏิเสธว่าการชุมนุมทางการเมืองที่ผิดกฎหมายโดยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งสนับสนุนทักษิณ ชินวัตร คือปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เกิดเหตุมิคสัญญีกลียุคบนแผ่นดินนี้
เมื่อพูดเช่นนี้ก็ต้องย้อนกลับไปที่เหตุรัฐประหาร 19 กันยาฯ 2549 แล้วก็ต้องวิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่า ทำไมจึงเกิดการรัฐประหารขึ้นในวันนั้น รัฐบาลทักษิณในยุคนั้นประพฤติตนเคร่งครัดตามหลักนิติรัฐ-นิติธรรมหรือไม่ ใช้อำนาจรัฐกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้องหรือไม่จงใจละเมิดลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชนหรือเปล่า ผู้มีอำนาจรัฐใช้อำนาจโดยชอบธรรมหรือไม่ หรือว่าใช้อำนาจรัฐคุกคามข่มขู่ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาลทุกองค์กรโดยไม่เคารพความรู้สึกของประชาชนแม้แต่น้อย
ปมประเด็นเหล่านี้ ประชาชนที่ไม่โง่ บ้า ใบ้ ไร้ปัญญาสามารถตรวจค้นได้โดยไม่ยากเย็น
หากรัฐบาลมีความชอบธรรม ปกครองประเทศโดยยึดหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัดแล้ว ประชาชนต้องไม่มีวันยินยอมให้ใครหน้าไหนทำรัฐประหารต่อรัฐบาลนั้นได้เป็นอันขาด
บางคนอ้างว่าไม่นิยมรัฐประหาร แต่กลับมองข้ามเรื่องที่รัฐบาลทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อฉลอย่างโจ่งแจ้ง แล้วอ้างแบบไร้สติว่า รัฐบาลไหนๆ ก็โกงกินด้วยกันทั้งนั้น แต่รัฐบาลนี้โกงแล้วแบ่งให้ประชาชน ดังนั้นก็ไม่สมควรถูกทำรัฐประหาร
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีฝ่ายสนับสนุนทักษิณเรียกร้องให้นิรโทษกรรมให้ทักษิณ แต่ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ยินยอม โดยให้เหตุผลว่าการนิรโทษกรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้กระทำผิดต้องได้รับโทษเสียก่อน และต้องสำนึกผิดในความผิดที่ตนได้ก่อขึ้นด้วย
ขอย้ำว่า หลักการนิรโทษกรรมนั้น มิใช่แค่เพียงหลับหูหลับตายกโทษให้กับผู้กระทำผิด แล้วหลงคิดว่าทุกอย่างจะจบสิ้นลงในบัดดล ผู้คนในสังคมจะหันกลับมาสมัครสมานปรองดองกันเหมือนดังเดิม
การนิรโทษกรรมแบบไร้หลักการคือต้นตอของความไม่สงบของสังคม และมันยังจะเป็นเชื้อไฟที่รอวันลุกโชนโหมไหม้ขึ้นมาอีกครั้งในอนาคต
ทำไมเราจึงไม่ใช้กลไกกระบวนการยุติธรรมในการทำความจริงให้ปรากฏ ทำไมเราไม่พิสูจน์ให้ชัดว่ารัฐบาลทักษิณกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไรไว้บ้าง โกงบ้านกินเมืองจริงหรือไม่มากน้อยแค่ไหน แกนนำกลุ่มเสื้อแดงคนไหนที่ปลุกระดมยั่วยุให้เกิดการเผาบ้านเผาเมือง ผู้ชุมนุมรายใดที่จงใจทำผิดกฎหมายและจงใจเผาบ้านเผาเมือง แล้วใช้กำลังประทุษร้ายต่อทหารจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงแก่ความตาย รวมถึงแย่งชิงปืนและอาวุธสงครามไปจากทหาร ใครยิงเสธ.แดง ขัตติยะ สวัสดิผล แล้วเสธ.แดงมีส่วนพัวพันหรือไม่กับการเกิดเหตุระเบิดตามที่ต่างๆ ในช่วงเวลานั้น ใครคือชายชุดดำชายชุดดำได้รับคำบงการจากใคร ทหารคนไหนจงใจฆ่าประชาชนใครสั่งให้ทหารฆ่าประชาชน ฯลฯ
เรื่องเหล่านี้คือเรื่องสำคัญที่คนไทยต้องรับรู้ แต่ทำไมจึงไม่มีโอกาสได้รับรู้ ทำไมความจริงจึงหาได้ยากเย็นเสียเหลือเกินบนแผ่นดินไทย ใครคือคนสั่งห้ามเผยแพร่ความจริง แล้วทำไมคนไทยจึงยอมอยู่เฉยทั้งๆ ที่ถูกปิดหูปิดตา
คนไทยยินยอมที่จะแสร้งทำเป็นลืมเหตุการณ์จริงเหล่านี้หรือหรือว่าคนไทยกลัวความจริง จนไม่พยายามแสวงหา
คนไทยพยายามเรียกร้องหาความยุติธรรม แต่ก็กลับยินยอมให้รัฐบาลและสมาชิกรัฐสภาฟากฝั่งเดียวกับรัฐบาลปิดหูปิดตาด้วยการออกกฎหมายล้างผิดให้กับผู้กระทำผิด หากรัฐบาลและสส.รัฐบาลเลือกใช้กลอุบายการเมืองเพราะทระนงว่า
ตนเองมีเสียงข้างมาในสภาแล้ว ก็จงอย่าหวังเลยว่าบ้านเมืองจะสงบสุขอย่างยั่งยืน เพราะในไม่ช้าความรุนแรงก็จะบังเกิดขึ้น
ขอถามอีกครั้งว่า สังคมไทยจะปฏิเสธความจริงและความยุติธรรมใช่หรือไม่ เราเชื่อจริงๆ หรือว่าการนิรโทษกรรมให้คนจงใจทำผิดแล้วไม่สำนึกผิดจะทำให้เกิดความปรองดอง และทำให้แผ่นดินนี้มีสันติภาพ การนิรโทษกรรมแบบไร้ตรรกะเช่นนี้ไม่ต่างไปจากการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้คนจงใจกระทำผิดกฎหมายมากยิ่งขึ้น
การนิรโทษกรรมตามหลักสากลนั้นมิใช่การฟอกความผิดหรือล้างสีให้กับผู้จงใจกระทำผิด แต่มันคือการพิจารณาโดยรอบคอบว่ามันถูกต้องและสอดคล้องกับหลักนิติรัฐหรือไม่อย่าลืมว่านานาอารยประเทศไม่เคยนิรโทษกรรมให้กับผู้จงใจกระทำละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และผู้ที่ถูกกระทำละเมิดยังมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ระงับหรือเพิกถอนการนิรโทษกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายได้ตลอดเวลา
ขอทิ้งท้ายว่า ความจริงยังมีอยู่ในสังคมไทย และความจริงก็ไม่เคยถูกทำให้ลบเลือนหายไปได้ ไม่ว่าผู้จงใจลบล้างความจริงจะมีอำนาจรัฐมากมายสักเพียงใด คนไทยต้องช่วยกันค้นหาความจริง และต้องรับความจริงให้ได้ ไม่ว่าความจริงนั้นจะสร้างความเจ็บปวดมากมายสักเพียงใดก็ตาม หากเราเลือกใช้การนิรโทษกรรมแบบไร้ปัญญาเช่นนี้ ก็จงรับรู้ไว้ด้วยว่า ในอนาคตอันใกล้บ้านเมืองของเราจะตกอยู่ท่ามกลางกองเพลิงโดยไม่มีทางเลี่ยง
http://www.naewna.com/politic/columnist/8062
คนเลวคนนี้ทําได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่สนแม้ว่าประเทศจะชิหายมากแค่ไหนก็ตาม