จากชื้อกระทู้อาจจะงงๆ กันหน่อยนะครับ แต่ความจริงแล้วผมแค่อยากรู้ว่าท่านลูกค้าผู้มีพระคุณทุกท่านเค้าจะคิดยังไงกันบ้าง
มาติดตามกันครับ....
ขอเกริ่นก่อนนะครับ คือตัวผมเองเปิดกิจการเป็นร้านมินิมาร์ท ที่ต่างจังหวัดครับ ทำมานานแล้วครับตั้งแต่รุ่นยายเลย เป็นธุรกิจครอบครัวจนตกมาถึงรุ่นผม ซึ่งเป็นรุ่นหลานๆแล้ว ของในร้านค่อยข้างจะจับฉ่ายครับ เยอะแยะเกินไปด้วยซ้ำ มีของเกือบทุกชนิด ของไม่น่าจะมีก็ดันมีขาย
ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่จึงทำเค้าเตอร์จ่ายตังเป็นสองด้านตั้งตรงข้ามกันโดยมีทางเข้าออกร้านกั้นกลางครับ (พอจะนึกภาพออกตามนะครับ)
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ พอเวลาลูกค้าจะมาจ่ายตัง บางท่านเค้าจะเดินเอาของมาวางไว้ที่เค้าเตอร์ บางท่านก้อชิ้นสองชิ้น อันนี้พอไหว ซึ่งพื้นที่เค้าเตอร์มันก้อไม่ได้กว้างมากมาย แต่บางท่านสิครับเล่นหอบของมาวางไว้เยอะมาก (ขอบคุณนะครับที่ซื้อเยอะมาก) แต่หลังจากเอามาวางแล้วกลับเดินไปเลือกสินค้าอื่นๆต่อ อ้าว !! แล้วจะรีบเอามาวางทำไมล่ะคร้าบบบ ทั้งที่ผมมีตะกร้าให้ท่านได้ใช้ ท่านก้อไม่ยอมจะใช้กัน กลายเป็นว่าลูกค้าถัดไปที่จะมาจ่าย บางท่านต้องรอคิว บางท่านจะซื้อของต่อก็ไม่มีที่จะวางของ กลายเป็นว่าต้องมารอท่านคนเดียว
โดยที่ร้านผมใช้เป็นระบบบาร์โค้ดสแกนครับ เหมือนว่าถ้าขายแล้วต้องพยายามขายให้ลูกค้าจบเป็นรายๆ ไป แต่ความจริงมีระบบพักบิลนะครับแต่พักได้แค่ 1 บิลเท่านั้น มันช่วยได้บ้างคับแต่ไม่มาก เมื่อต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบว่า เรากำลังคิดตังลูกค้ารายนึงอยู่ กลับเดินมาแทรกแล้วมาบอกให้เราคิดให้ก่อน บอกว่ารีบ เออ...คุณลูกค้าที่น่ารักครับ จะรีบไป...ไหนครับ ทั้งๆ ที่คนอื่นเค้าก้อต่อแถวกันอยู่(บ้าง) แต่ส่วนมาจะเจอแบบที่ว่าเอาของมาวางแล้วเดินไปเลือกสินค้าต่อมากว่า จนบางครั้งมีคิดของสลับรายกันก้อยังมี เพราะไม่รู้ว่าเป็นของๆใคร
ทั้งนี้ผมเองในฐานะคนขายของ ก็อยากรู้นะครับว่า ลูกค้าแต่ละคนเค้าคิดกันยังไง
เพราะอยากจะแก้ปัญหาที่จุดนี้มาก ใครมีความคิดเห็นยังไงยินดีรับฟังคับ
ขอบคุณครับ
เจอลัดคิวเวลาซื้อของรู้สึกยังไง.... ในมุงมองของคนขายของ
มาติดตามกันครับ....
ขอเกริ่นก่อนนะครับ คือตัวผมเองเปิดกิจการเป็นร้านมินิมาร์ท ที่ต่างจังหวัดครับ ทำมานานแล้วครับตั้งแต่รุ่นยายเลย เป็นธุรกิจครอบครัวจนตกมาถึงรุ่นผม ซึ่งเป็นรุ่นหลานๆแล้ว ของในร้านค่อยข้างจะจับฉ่ายครับ เยอะแยะเกินไปด้วยซ้ำ มีของเกือบทุกชนิด ของไม่น่าจะมีก็ดันมีขาย
ด้วยข้อจำกัดของพื้นที่จึงทำเค้าเตอร์จ่ายตังเป็นสองด้านตั้งตรงข้ามกันโดยมีทางเข้าออกร้านกั้นกลางครับ (พอจะนึกภาพออกตามนะครับ)
ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละครับ พอเวลาลูกค้าจะมาจ่ายตัง บางท่านเค้าจะเดินเอาของมาวางไว้ที่เค้าเตอร์ บางท่านก้อชิ้นสองชิ้น อันนี้พอไหว ซึ่งพื้นที่เค้าเตอร์มันก้อไม่ได้กว้างมากมาย แต่บางท่านสิครับเล่นหอบของมาวางไว้เยอะมาก (ขอบคุณนะครับที่ซื้อเยอะมาก) แต่หลังจากเอามาวางแล้วกลับเดินไปเลือกสินค้าอื่นๆต่อ อ้าว !! แล้วจะรีบเอามาวางทำไมล่ะคร้าบบบ ทั้งที่ผมมีตะกร้าให้ท่านได้ใช้ ท่านก้อไม่ยอมจะใช้กัน กลายเป็นว่าลูกค้าถัดไปที่จะมาจ่าย บางท่านต้องรอคิว บางท่านจะซื้อของต่อก็ไม่มีที่จะวางของ กลายเป็นว่าต้องมารอท่านคนเดียว
โดยที่ร้านผมใช้เป็นระบบบาร์โค้ดสแกนครับ เหมือนว่าถ้าขายแล้วต้องพยายามขายให้ลูกค้าจบเป็นรายๆ ไป แต่ความจริงมีระบบพักบิลนะครับแต่พักได้แค่ 1 บิลเท่านั้น มันช่วยได้บ้างคับแต่ไม่มาก เมื่อต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบว่า เรากำลังคิดตังลูกค้ารายนึงอยู่ กลับเดินมาแทรกแล้วมาบอกให้เราคิดให้ก่อน บอกว่ารีบ เออ...คุณลูกค้าที่น่ารักครับ จะรีบไป...ไหนครับ ทั้งๆ ที่คนอื่นเค้าก้อต่อแถวกันอยู่(บ้าง) แต่ส่วนมาจะเจอแบบที่ว่าเอาของมาวางแล้วเดินไปเลือกสินค้าต่อมากว่า จนบางครั้งมีคิดของสลับรายกันก้อยังมี เพราะไม่รู้ว่าเป็นของๆใคร
ทั้งนี้ผมเองในฐานะคนขายของ ก็อยากรู้นะครับว่า ลูกค้าแต่ละคนเค้าคิดกันยังไง
เพราะอยากจะแก้ปัญหาที่จุดนี้มาก ใครมีความคิดเห็นยังไงยินดีรับฟังคับ
ขอบคุณครับ