ผมได้มีโอกาสไปใช้โรงพยาบาลประกันสังคมแห่งหนึ่ง อยู่ในตอนเหนือของ กทม มีหลายสาขา
เนื่องจากเป็นแผลและผมมาแบบรีบเนื่องจากล้มแล้วมาเลย
ผมเลยได้เข้าห้องฉุบเฉินครับ
ปัญหา คือ หลังจากนั้น ผมต้องไปทำแผลทุกวันเป็นเวลาเกือบๆ 3 อาทิตย์
สิ่งที่ผมเจอ คือ ผมรู้สึกว่า เขาจะมีปัญหาระหว่างภายใน ได้ยิน เขาบอกว่า ถ้าไปเลยเวลา....ไปแล้ว ต้องมาทำแผลที่ห้องฉุบเฉิน
ซึ่งสิ่งที่ผมพบ คือ รอนานมาก ประมาณ ครึ่งชม ถึงจะได้ทำแผล ทั้งที่ไม่มีคนฉุบเฉินมาเลย เห็นคนนั่งกันในห้องเยอะมากและคุยกัน
และเหมือนการทำแผล เขาจะทำแบบไม่สนใจ เหมือนทำให้มันเสร็จๆ ไป ผมเจอเขาทำแผลโดยใช้ เบตาดีนทา แต่ก็ไม่หายสักที
ตอนหลังๆ ยิ่งแย่ คือ ผมเจอ น่าจะเป็นผู้ช่วยพยาบาล ที่เป็นคนเข็นเตียงมาทำให้ มาทำแผลแบบ แย่มาก เหมือนคนทำไม่เป็น ใช้ที่ทำแผลใหญ่มากๆ ปิด ทำให้แผลไม่มีการระบายอากาศที่ดี และการทาแผลก็
จนสุดท้าย ผมต้องไปทำแผลตอนเช้าให้เร็วที่สุด และผมก็กลับไปทำแผลที่แผนกประกันสังคม โดยเป็นพยาบาลของประกันสังคมเอง
ซึ่งทำแผลโดยใช้อย่างอื่นนอกจากเบตาดีน (ครีมสีขาว) ซึ่งทำให้แผลหายเร็วมากๆ
เดิมแผลของผมมันบุ่มลงไป พยาบาลท่านนี้บอกว่าต้องขัดให้มันเรียบ ซึ่งเจ็บพอสมควร แต่ทำให้ สามวันจากนั้น แผลที่เท้าผมดีขึ้น จนสามารถอยู่บ้าน ทำแผลเองได้ครับ
สรุป คือ โรงพยาบาล มีปัญหาที่ แผนกฉุบเฉิน ทะเลาะกับคนบริหารโรงพยาบาล หรือแผนกประกันสังคมไม่ทราบ เนื่องจาก แผนกประกันสังคมดูแลคนมาก ในช่วงเย็นๆ จึงให้แผนกฉุบเฉินดทำแผลคนไข้
ซึ่งการที่แผนกฉุบเฉิน เอาปัญหาภายในมาลงที่คนไข้ เป็นเรื่องที่แย่มากๆ ทั้งการบริการที่ไม่ดี รอนาน ทำแผลแบบไม่สนใจ ไม่ดูว่าเพราะอะไรแผลจึงไม่หาย (ซึ่งผมก็ถามตลอด ว่าทำไมแผลมันบุ๋มลงไป แต่ก็ไม่พยายามแก้ไข)
ผมพูดมาก็อยากเล่า(ระบายความอัดอั้นใจ และค่าเสียเวลาที่ผมต้องขับรถไปทุกวัน และไม่หายสักที) แต่ก็จะบอกว่า คนดีๆ ก็มีครับ เพราะที่ผมไปเจอมันคือส่วนนึง ที่แผนกประกันสังคมที่นี่เหมือนจะไม่ดี แต่ผมก็ไปใช้บริการมาบ่อยครั้ง รักษาได้ดี ผมเคยเป็นทั้งไข้เลือกออก ก็รักษาได้ดี และที่แผลหายก็ต้องขอบคุณพยาบาลคนนั้น (เป็นพยาบาลที่มีอายุแล้ว เทียบกับแผนกฉุบเฉินจะเป็น ผู้ช่วยพยาบาลหรือพยาบาลใหม่เป็นส่วนใหญ่) ที่ใส่ใจหาสาเหตุที่แผลมันไม่แห้งครับ
หน่วยงานในโรงพยาบาลประกันสังคม (ใน กทม. แห่งหนึ่ง) ทะเลาะกัน กรุณาอย่าเอาคนไข้มาเป็นตัวประกันครับ
เนื่องจากเป็นแผลและผมมาแบบรีบเนื่องจากล้มแล้วมาเลย
ผมเลยได้เข้าห้องฉุบเฉินครับ
ปัญหา คือ หลังจากนั้น ผมต้องไปทำแผลทุกวันเป็นเวลาเกือบๆ 3 อาทิตย์
สิ่งที่ผมเจอ คือ ผมรู้สึกว่า เขาจะมีปัญหาระหว่างภายใน ได้ยิน เขาบอกว่า ถ้าไปเลยเวลา....ไปแล้ว ต้องมาทำแผลที่ห้องฉุบเฉิน
ซึ่งสิ่งที่ผมพบ คือ รอนานมาก ประมาณ ครึ่งชม ถึงจะได้ทำแผล ทั้งที่ไม่มีคนฉุบเฉินมาเลย เห็นคนนั่งกันในห้องเยอะมากและคุยกัน
และเหมือนการทำแผล เขาจะทำแบบไม่สนใจ เหมือนทำให้มันเสร็จๆ ไป ผมเจอเขาทำแผลโดยใช้ เบตาดีนทา แต่ก็ไม่หายสักที
ตอนหลังๆ ยิ่งแย่ คือ ผมเจอ น่าจะเป็นผู้ช่วยพยาบาล ที่เป็นคนเข็นเตียงมาทำให้ มาทำแผลแบบ แย่มาก เหมือนคนทำไม่เป็น ใช้ที่ทำแผลใหญ่มากๆ ปิด ทำให้แผลไม่มีการระบายอากาศที่ดี และการทาแผลก็
จนสุดท้าย ผมต้องไปทำแผลตอนเช้าให้เร็วที่สุด และผมก็กลับไปทำแผลที่แผนกประกันสังคม โดยเป็นพยาบาลของประกันสังคมเอง
ซึ่งทำแผลโดยใช้อย่างอื่นนอกจากเบตาดีน (ครีมสีขาว) ซึ่งทำให้แผลหายเร็วมากๆ
เดิมแผลของผมมันบุ่มลงไป พยาบาลท่านนี้บอกว่าต้องขัดให้มันเรียบ ซึ่งเจ็บพอสมควร แต่ทำให้ สามวันจากนั้น แผลที่เท้าผมดีขึ้น จนสามารถอยู่บ้าน ทำแผลเองได้ครับ
สรุป คือ โรงพยาบาล มีปัญหาที่ แผนกฉุบเฉิน ทะเลาะกับคนบริหารโรงพยาบาล หรือแผนกประกันสังคมไม่ทราบ เนื่องจาก แผนกประกันสังคมดูแลคนมาก ในช่วงเย็นๆ จึงให้แผนกฉุบเฉินดทำแผลคนไข้
ซึ่งการที่แผนกฉุบเฉิน เอาปัญหาภายในมาลงที่คนไข้ เป็นเรื่องที่แย่มากๆ ทั้งการบริการที่ไม่ดี รอนาน ทำแผลแบบไม่สนใจ ไม่ดูว่าเพราะอะไรแผลจึงไม่หาย (ซึ่งผมก็ถามตลอด ว่าทำไมแผลมันบุ๋มลงไป แต่ก็ไม่พยายามแก้ไข)
ผมพูดมาก็อยากเล่า(ระบายความอัดอั้นใจ และค่าเสียเวลาที่ผมต้องขับรถไปทุกวัน และไม่หายสักที) แต่ก็จะบอกว่า คนดีๆ ก็มีครับ เพราะที่ผมไปเจอมันคือส่วนนึง ที่แผนกประกันสังคมที่นี่เหมือนจะไม่ดี แต่ผมก็ไปใช้บริการมาบ่อยครั้ง รักษาได้ดี ผมเคยเป็นทั้งไข้เลือกออก ก็รักษาได้ดี และที่แผลหายก็ต้องขอบคุณพยาบาลคนนั้น (เป็นพยาบาลที่มีอายุแล้ว เทียบกับแผนกฉุบเฉินจะเป็น ผู้ช่วยพยาบาลหรือพยาบาลใหม่เป็นส่วนใหญ่) ที่ใส่ใจหาสาเหตุที่แผลมันไม่แห้งครับ