ตามเรื่องนี้อยู่หลายวัน เม้นท์บ้างเล็กน้อย แต่ตอนนี้ คือ ...
ไม่เข้าใจกับหลายๆท่านที่เอาประโยคของผู้ชายมายึดว่า เลิกกันมา 10 กว่าปีแล้ว ความรักครั้งนี้ เป็นความรักที่ชอบธรรม แล้วเริ่มมีการโจมตี ผู้ที่ไม่เห็นด้วยที่จะแสดงความยินดีกับข่าวเมื่อวานนี้
สำหรับตัวเองแล้ว ติดตามข่าวของคุณนันทิดามาตลอดค่ะ เพราะความชื่นชมส่วนตัว ไม่ว่าจะเรื่องงานเพลง การแสดง หรือ เป็นเพราะเห็นกันมานาน ติดตามคุณนันทิดามานาน อีกทั้งเธอยังเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของการร้องเพลงอีกด้วย ความสนใจต่อข่าวของเธอ และ ความรู้สึกร่วม จนถึงขั้นมโนเอาว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร อาจจะมากตามไปด้วย
จึงอยากจะเสนอข้อมูลจากข่าวเหล่านี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมจึงไม่เชื่อสิ่งที่คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม พูดเมื่อวานนี้
ข่าวนี้ ในปี 2550 (6 ปีก่อน)
http://entertainment.goosiam.com/news/html/0003635.html
ส่วนหนึ่งของข่าว
ตู่-นันทิดา กล่าวว่า วันนี้ต้องออกตัวก่อนว่าจะพูดอะไรมากไม่ได้เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมในคอนเสิร์ตที่นี่ ยังเกร็งๆ อยู่และเพลงก็ค่อนข้างจะยาก ผู้สื่อข่าวชิงถามเข้าประเด็นถึงเรื่องราวที่เกิด นักร้องสาวกล่าวว่า ก็อย่างที่รู้กันว่า พี่เอ๋(ชนม์สวัสดิ์) เป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ และก็ทำงานเยอะ แต่เวลาที่ไปไหนมาไหนก็จะโทร.บอกตลอด ซึ่งตนก็ไม่ได้ที่จะโทร.ตามว่าอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร เพราะเราเข้าใจกัน ตอนที่รู้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นกำลังอยู่ในห้องอัดเพื่ออัดเพลงประกอบละครเรื่อง "กรุงเทพราตรี" ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นสำหรับตนแล้วถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และก็เข้าใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นดี
" ตู่รักครอบครัว พี่เอ๋ก็รักครอบครัวด้วยเช่นกัน วันนั้นก็ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่เอ๋ก็บอกว่า ออกไปกินโจ๊กกับเพื่อนๆ แล้วก็ไปเจอกันกับน้องเขา พี่เอ๋ยังบอกเลยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้น ตู่กับลูกก็ได้ให้กำลังใจ และบอกว่า "พ่อ...ลูกนะ"
--------------------------------------------
หลายๆคนบอกว่าที่ไม่ประกาศเลิกเพราะเห็นแก่หน้าผู้หญิง สงสาร ถึงกับพาลว่าคุณตู่พูดไปเองว่าครอบครัวยังอยู่ดี
จริงเหรอคะ เพราะมองไม่เห็นว่า การที่บอกว่าเลิกกัน คุณตู่จะเสียหายตรงไหน ทั้งที่ตอนมีเรื่องคนก่อนหน้านี้ คุณตู่จะออกมาแถลงข่าวหย่าด้วยซ้ำ (ขออนุญาตไม่แปะลิ๊งค์นะคะ เพราะเป็นเนื้อข่าวจาก นสพ.เล่มนึงที่มีข่าวของนักแสดงคนอื่นด้วยค่ะ แต่ยกบางประโยคไปเสิร์ชหาก็น่าจะเจอ)
ข่าวนี้เมื่อ ปลายปี 2551
" นอกจากนี้ ได้มีกระแสข่าวว่าในเย็นวันที่ 21 ธ.ค. 2551 เช่นกัน นักร้องรุ่นใหญ่ ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย เตรียม แถลงที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน เรื่องปิดฉากชีวิตคู่ 14 ปี กับสามีนักการเมือง เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ด้วยการหย่าร้างอย่างเป็นทางการ หลังปล่อยให้สามีและพ่อของลูก ไปมีข่าวและภาพทำตัวสนิทสนมถึงขั้นเรียกว่าลึกซึ้งกับดารานางแบบ......... โดยนางแบบสาวก็ยังยอมรับว่าคบหาดูใจกันจริง จนเป็นข่าวดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองมากว่าปี เมื่อผู้สื่อข่าวพยายาม ติดต่อสอบถามไปยัง ตู่-นันทิดา และผู้เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าก็ได้รับการเปิดเผยจากนายนำพล คารมปราชญ์ ที่ปรึกษาและคนสนิทของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เกี่ยวกับเรื่องแถลงข่าวว่า ไม่ทราบถึงเรื่องนี้มาก่อน และรับปากจะสอบถามเรื่องนี้กับนายชนม์สวัสดิ์ให้ ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 10 นาที นายนำพลได้โทรศัพท์แจ้งกลับมาว่านายชนม์สวัสดิ์ ยืนยันผ่านตนคำเดียวสั้นๆว่า ไม่มีการแถลงข่าวใดๆทั้งสิ้น "
---------------------------------------
แยกกันอยู่มาเป็น 10 ปีแล้ว
นาทีที่ 8:25 เป็นต้นไป คุณเอ๋มีกี่บ้าน
ทำไมคุณตู่กับน้องเพลงถึงต้องอยู่บ้านพี่ตู่ เพราะ โรงเรียนน้องเพลงอยู่ใกล้บ้าน เดินทาง 15 นาที
ทำไมคุณเอ๋ต้องอยู่บ้านสมุทรปราการ เพราะต้องลงพื้นที่ ต้องยึดตรงนั้นเป็นบ้านหลัก เพราะเวลามีเหตุ ... ไม่ทัน ต้องอยู่ในพื้นที่
น้องเพลงเข้าใจ ว่าทำไมถึงไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน

----------------------------------------
เลิกกันมา 10 กว่าปีแล้ว ...
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2554 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สมุทรปราการ ควง นางนันทิดา อัศวเหม ภรรยานักร้องชื่อดัง ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนภายในหมู่บ้านภูมิใจนิเวศน์ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ หลัง กกต.มีหนังสือประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.
30 กรกฎาคม 2554
เริ่มพูดถึงคุณเอ๋ นาทีที่ 23:00 ค่ะ ก่อนหน้านั้น เป็นการชื่นชมดาราสาวที่จดทะเบียนสมรสกับสามีของเธอเมื่อวาน

----------------------------------------
ส่วนตัวแล้ว คุณนันทิดา จะจดทะเบียน หรือ ไม่จดทะเบียน ไม่สำคัญค่ะ การแต่งงานของเธอเป็นที่รับรู้ และ ยอมรับของสังคม ตั้งแต่วันนั้น จนถึง เมื่อวานนี้
การอยู่บ้านคนละหลัง ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาเป็นเหตุผลในการ " เสียบ "
เพราะ รอบตัวของดิฉัน มีคู่สมรสที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันมากมาย เพราะเหตุผลเรื่อง งานและลูก
พี่สาวของดิฉันเอง แต่งงาน มีลูกสาวที่น่ารัก 2 คน ก้ไม่เคยคิดจะจดทะเบียนสมรส ก่อนหน้านี้ เธอและสามีอยู่ที่กรุงเทพ พบรักและใช้ชีวิตคู่ในช่วงเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ก่อนที่พี่เขยจะย้ายกลับต่างจังหวัดพร้อมลูกสาวคนโต เพราะต้องกลับไปดูแลธุรกิจที่บ้าน เจอกันเดือนละ ครั้ง หรือ 2 ครั้ง
เค้าไม่ได้จดทะเบียน เค้าแยกบ้านกันอยู่ แต่เค้ายังคงเป็นครอบครัวนะคะ ตราบใดที่เค้าทั้ง 2 ยังไม่ประกาศให้สังคมรับรู้ว่า แยกทาง
ถามว่า ... ระหว่างคุณนันทิดา กับ คุณชนม์สวัสดิ์ ใครที่ไม่อยากประกาศให้สังคมรู้
คุณนันทิดาขายฝีมือ ขายเสียง ขายความสามารถที่เธอมีค่ะ ทุกอย่างที่เป็นเธอล้วนมีค่า จะอยู่ในสถานะ โสด สมรส หย่าร้าง หรือ ม่าย ไม่ได้กระทบกระเทือนต่อชีวิตของเธอหรอกค่ะ
กลับกันด้วยซ้ำ หากประกาศออกไป เจ้าสัวทั้งหลาย ทั้งในและนอกประเทศ มีหรือ จะไม่อยากได้เธอเป็นคู่ชีวิต
" เธอเป็น เพชร ที่ยอมฝังตัวเองอยู่ในโคลนตม "
เพื่อผู้ชายคนนึงที่เธอพูดเสมอว่า " พี่รักสามีพี่ "
ในขณะที่ อีกฝ่ายหนึ่ง ต้องขายหน้าตา และ ความน่าเชื่อถือ เพื่อตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่น เพราะลำพังตัวเอง มีแต่ข่าวที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อหน้าที่การงาน และ พ่อรวย และเคยมีอำนาจ บารมี
ใครกันนะที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ (รู้สึกเล็กๆกับภาพข่าวคุณนันทิดาช่วยหาเสียง)
ก่อนที่จะถามว่า แล้วดิฉันไปยุ่งอะไรกับเรื่องของเขา คุณนันทิดาเค้ายังไม่เห็นจะทำอะไรเลย
ดิฉันเองยังรู้สึกว่า ที่ทำอยู่นี้ ไม่เรียกว่า ยุ่งเรื่องชาวบ้านนะคะ เรียกว่า คุยข่าว อยากหาความจริงในการเสพสื่อ ตามกฎของการ " อย่าเชื่อ " 55555 จะเรียกว่า เม้าท์มอย นินทา เผือก หรืออะไรก็ตามค่ะ ยินดี ถ้ายุ่งเรื่องชาวบ้าน ดิฉันคงไปถึงบ้านงานเมื่อวานล่ะค่ะ ถึงจะเรียกตัวเองว่ายุ่ง
ก็คงเหมือนๆกับที่ดาราสาวที่จดทะเบียนเมื่อวานไม่ได้รู้สึกว่าแย่งสามีชาวบ้าน หรือ เป็นมือที่ 3 หรือ ดาราแอ๊บแบ๊วจอมฉกอะไรประมาณนั้นเช่นกัน
อ้อ ... แล้วก็ไม่ใช่พวกมีปม หรือ อิจฉา หรือ โสดไม่มีใครเอา อยากได้สามีรวยแล้วไม่ได้นะคะ
ก้อแค่คนๆนึง เหมือนกับทุกๆคนมียังมีประสาทสัมผัส ตายังเห็น หูยังได้ยิน ปากยังพูดได้ มือยังเขียนและพิมพ์ไหว
เห็นขี้ยังบอกได้ว่านี่คือขี้ ยังได้กลิ่นเหม็นและก็อยากที่จะพูดว่า เหม็นขี้ น่ะค่ะ โดยไม่ได้คำนึงว่า ขี้ของใคร หรือ ขี้ที่ไหน
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่อดทน อดกลั้นได้ เพราะไม่ใช่ขี้ฉัน และมีมารยาทพอที่จะไม่พูดอะไร ก็เฉยๆไปไม่ได้แสดงออก
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว ปิดจมูก ทำหน้าเบ้ เบะปาก เดินหนี ไม่มองเสีย
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่บังเอิญเป็นขี้ลูกตัวเอง ก็ปล่อยได้ รับได้
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่บังเอิญเป็นขี้ลูกเจ้านาย ขี้ของน้องหมาแฟน ก็ต้องยิ้มไว้ ขี้ไม่เหม็นหรอกนะ ขี้ห๊อมมมมม หอมมมม
ก็เป็นแค่อีก 1 คนที่ (เผือก) อยากบอกให้ (ใครก็ไม่รู้) ทราบน่ะค่ะ
เป็นประโยคเผือกเล่า ... เท่านั้นเอง
ขอบพระคุณมากค่ะ
เพิ่มเติมค่ะ .... ก่อนจะถูกถาม
ถ้าจะถามว่า แล้วเค้าต้องทำยังไงถึงจะไม่โดนต่อว่า สักแต่ว่าว่าเค้า คิดได้ดีกว่าเค้ามั๊ย ถ้าเป็นตัวเองทำได้อย่างเค้ารึเปล่า
- ถ้าดิฉันเป็นคนใกล้ตัวของ 2 คนนั้น ดิฉันจะบอกเค้าว่า คุยกับคุณนันทิดา และ ลูกให้เรียบร้อยก่อนค่ะ ให้ถึงขนาดที่ นักข่าวสัมภาษณ์ก็สามารถที่จะตอบได้ว่า อ๋อค่ะ พี่ทราบเรื่องนี้แล้ว และก็ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ เหมือนกับที่ คุณนัท คุณนิโคล คุณมาช่า และหลายๆคนสามารถที่จะตอบได้ แล้วค่อยจดทะเบียนสมรสกัน ก็ไม่น่าที่จะรอไม่ไหว หรือ มีอะไรที่ทำให้รอไม่ได้ ... ???
ดิฉันไม่คิดว่าคุณนันทิดาอยากจะพูดหรือทำทุกอย่างเพื่อรักษาหน้าตัวเองหรอกค่ะ เพราะการที่สามีมีข่าวกับผู้หญิงคนอื่นมันน่าอายกว่าเยอะเลย
ปล. และต่อให้หย่ากันนานแล้วจริง แต่สถานภาพในสังคมยังคงเป็น สามี - ภรรยา ดิฉันก็ยังถือว่า ไม่ควรจะมีใครไปแทรกด้วยการกระทำแบบนี้อยู่ดีค่ะ
แก้ไขลิ๊งค์ค่ะ
ขอครั้งเดียวกับเรื่องเมื่อวานนี้ กรณีคุณนันทิดาค่ะ
ไม่เข้าใจกับหลายๆท่านที่เอาประโยคของผู้ชายมายึดว่า เลิกกันมา 10 กว่าปีแล้ว ความรักครั้งนี้ เป็นความรักที่ชอบธรรม แล้วเริ่มมีการโจมตี ผู้ที่ไม่เห็นด้วยที่จะแสดงความยินดีกับข่าวเมื่อวานนี้
สำหรับตัวเองแล้ว ติดตามข่าวของคุณนันทิดามาตลอดค่ะ เพราะความชื่นชมส่วนตัว ไม่ว่าจะเรื่องงานเพลง การแสดง หรือ เป็นเพราะเห็นกันมานาน ติดตามคุณนันทิดามานาน อีกทั้งเธอยังเป็นแรงบันดาลใจในเรื่องของการร้องเพลงอีกด้วย ความสนใจต่อข่าวของเธอ และ ความรู้สึกร่วม จนถึงขั้นมโนเอาว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร อาจจะมากตามไปด้วย
จึงอยากจะเสนอข้อมูลจากข่าวเหล่านี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ว่า ทำไมจึงไม่เชื่อสิ่งที่คุณชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม พูดเมื่อวานนี้
ข่าวนี้ ในปี 2550 (6 ปีก่อน)
http://entertainment.goosiam.com/news/html/0003635.html
ส่วนหนึ่งของข่าว
ตู่-นันทิดา กล่าวว่า วันนี้ต้องออกตัวก่อนว่าจะพูดอะไรมากไม่ได้เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมในคอนเสิร์ตที่นี่ ยังเกร็งๆ อยู่และเพลงก็ค่อนข้างจะยาก ผู้สื่อข่าวชิงถามเข้าประเด็นถึงเรื่องราวที่เกิด นักร้องสาวกล่าวว่า ก็อย่างที่รู้กันว่า พี่เอ๋(ชนม์สวัสดิ์) เป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ และก็ทำงานเยอะ แต่เวลาที่ไปไหนมาไหนก็จะโทร.บอกตลอด ซึ่งตนก็ไม่ได้ที่จะโทร.ตามว่าอยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร เพราะเราเข้าใจกัน ตอนที่รู้ข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นกำลังอยู่ในห้องอัดเพื่ออัดเพลงประกอบละครเรื่อง "กรุงเทพราตรี" ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นสำหรับตนแล้วถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และก็เข้าใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นดี
" ตู่รักครอบครัว พี่เอ๋ก็รักครอบครัวด้วยเช่นกัน วันนั้นก็ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น พี่เอ๋ก็บอกว่า ออกไปกินโจ๊กกับเพื่อนๆ แล้วก็ไปเจอกันกับน้องเขา พี่เอ๋ยังบอกเลยว่า ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้น ตู่กับลูกก็ได้ให้กำลังใจ และบอกว่า "พ่อ...ลูกนะ"
--------------------------------------------
หลายๆคนบอกว่าที่ไม่ประกาศเลิกเพราะเห็นแก่หน้าผู้หญิง สงสาร ถึงกับพาลว่าคุณตู่พูดไปเองว่าครอบครัวยังอยู่ดี
จริงเหรอคะ เพราะมองไม่เห็นว่า การที่บอกว่าเลิกกัน คุณตู่จะเสียหายตรงไหน ทั้งที่ตอนมีเรื่องคนก่อนหน้านี้ คุณตู่จะออกมาแถลงข่าวหย่าด้วยซ้ำ (ขออนุญาตไม่แปะลิ๊งค์นะคะ เพราะเป็นเนื้อข่าวจาก นสพ.เล่มนึงที่มีข่าวของนักแสดงคนอื่นด้วยค่ะ แต่ยกบางประโยคไปเสิร์ชหาก็น่าจะเจอ)
ข่าวนี้เมื่อ ปลายปี 2551
" นอกจากนี้ ได้มีกระแสข่าวว่าในเย็นวันที่ 21 ธ.ค. 2551 เช่นกัน นักร้องรุ่นใหญ่ ตู่-นันทิดา แก้วบัวสาย เตรียม แถลงที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน เรื่องปิดฉากชีวิตคู่ 14 ปี กับสามีนักการเมือง เอ๋-ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ด้วยการหย่าร้างอย่างเป็นทางการ หลังปล่อยให้สามีและพ่อของลูก ไปมีข่าวและภาพทำตัวสนิทสนมถึงขั้นเรียกว่าลึกซึ้งกับดารานางแบบ......... โดยนางแบบสาวก็ยังยอมรับว่าคบหาดูใจกันจริง จนเป็นข่าวดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองมากว่าปี เมื่อผู้สื่อข่าวพยายาม ติดต่อสอบถามไปยัง ตู่-นันทิดา และผู้เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าก็ได้รับการเปิดเผยจากนายนำพล คารมปราชญ์ ที่ปรึกษาและคนสนิทของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เกี่ยวกับเรื่องแถลงข่าวว่า ไม่ทราบถึงเรื่องนี้มาก่อน และรับปากจะสอบถามเรื่องนี้กับนายชนม์สวัสดิ์ให้ ซึ่งหลังจากนั้นประมาณ 10 นาที นายนำพลได้โทรศัพท์แจ้งกลับมาว่านายชนม์สวัสดิ์ ยืนยันผ่านตนคำเดียวสั้นๆว่า ไม่มีการแถลงข่าวใดๆทั้งสิ้น "
---------------------------------------
แยกกันอยู่มาเป็น 10 ปีแล้ว
นาทีที่ 8:25 เป็นต้นไป คุณเอ๋มีกี่บ้าน
ทำไมคุณตู่กับน้องเพลงถึงต้องอยู่บ้านพี่ตู่ เพราะ โรงเรียนน้องเพลงอยู่ใกล้บ้าน เดินทาง 15 นาที
ทำไมคุณเอ๋ต้องอยู่บ้านสมุทรปราการ เพราะต้องลงพื้นที่ ต้องยึดตรงนั้นเป็นบ้านหลัก เพราะเวลามีเหตุ ... ไม่ทัน ต้องอยู่ในพื้นที่
น้องเพลงเข้าใจ ว่าทำไมถึงไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน
----------------------------------------
เลิกกันมา 10 กว่าปีแล้ว ...
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2554 นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สมุทรปราการ ควง นางนันทิดา อัศวเหม ภรรยานักร้องชื่อดัง ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนภายในหมู่บ้านภูมิใจนิเวศน์ ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ หลัง กกต.มีหนังสือประกาศรับรองผลการเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.
30 กรกฎาคม 2554
เริ่มพูดถึงคุณเอ๋ นาทีที่ 23:00 ค่ะ ก่อนหน้านั้น เป็นการชื่นชมดาราสาวที่จดทะเบียนสมรสกับสามีของเธอเมื่อวาน
----------------------------------------
ส่วนตัวแล้ว คุณนันทิดา จะจดทะเบียน หรือ ไม่จดทะเบียน ไม่สำคัญค่ะ การแต่งงานของเธอเป็นที่รับรู้ และ ยอมรับของสังคม ตั้งแต่วันนั้น จนถึง เมื่อวานนี้
การอยู่บ้านคนละหลัง ไม่ใช่ประเด็นที่จะเอามาเป็นเหตุผลในการ " เสียบ "
เพราะ รอบตัวของดิฉัน มีคู่สมรสที่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกันมากมาย เพราะเหตุผลเรื่อง งานและลูก
พี่สาวของดิฉันเอง แต่งงาน มีลูกสาวที่น่ารัก 2 คน ก้ไม่เคยคิดจะจดทะเบียนสมรส ก่อนหน้านี้ เธอและสามีอยู่ที่กรุงเทพ พบรักและใช้ชีวิตคู่ในช่วงเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ ก่อนที่พี่เขยจะย้ายกลับต่างจังหวัดพร้อมลูกสาวคนโต เพราะต้องกลับไปดูแลธุรกิจที่บ้าน เจอกันเดือนละ ครั้ง หรือ 2 ครั้ง
เค้าไม่ได้จดทะเบียน เค้าแยกบ้านกันอยู่ แต่เค้ายังคงเป็นครอบครัวนะคะ ตราบใดที่เค้าทั้ง 2 ยังไม่ประกาศให้สังคมรับรู้ว่า แยกทาง
ถามว่า ... ระหว่างคุณนันทิดา กับ คุณชนม์สวัสดิ์ ใครที่ไม่อยากประกาศให้สังคมรู้
คุณนันทิดาขายฝีมือ ขายเสียง ขายความสามารถที่เธอมีค่ะ ทุกอย่างที่เป็นเธอล้วนมีค่า จะอยู่ในสถานะ โสด สมรส หย่าร้าง หรือ ม่าย ไม่ได้กระทบกระเทือนต่อชีวิตของเธอหรอกค่ะ
กลับกันด้วยซ้ำ หากประกาศออกไป เจ้าสัวทั้งหลาย ทั้งในและนอกประเทศ มีหรือ จะไม่อยากได้เธอเป็นคู่ชีวิต
" เธอเป็น เพชร ที่ยอมฝังตัวเองอยู่ในโคลนตม "
เพื่อผู้ชายคนนึงที่เธอพูดเสมอว่า " พี่รักสามีพี่ "
ในขณะที่ อีกฝ่ายหนึ่ง ต้องขายหน้าตา และ ความน่าเชื่อถือ เพื่อตำแหน่งทางการเมืองระดับท้องถิ่น เพราะลำพังตัวเอง มีแต่ข่าวที่ไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อหน้าที่การงาน และ พ่อรวย และเคยมีอำนาจ บารมี
ใครกันนะที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ (รู้สึกเล็กๆกับภาพข่าวคุณนันทิดาช่วยหาเสียง)
ก่อนที่จะถามว่า แล้วดิฉันไปยุ่งอะไรกับเรื่องของเขา คุณนันทิดาเค้ายังไม่เห็นจะทำอะไรเลย
ดิฉันเองยังรู้สึกว่า ที่ทำอยู่นี้ ไม่เรียกว่า ยุ่งเรื่องชาวบ้านนะคะ เรียกว่า คุยข่าว อยากหาความจริงในการเสพสื่อ ตามกฎของการ " อย่าเชื่อ " 55555 จะเรียกว่า เม้าท์มอย นินทา เผือก หรืออะไรก็ตามค่ะ ยินดี ถ้ายุ่งเรื่องชาวบ้าน ดิฉันคงไปถึงบ้านงานเมื่อวานล่ะค่ะ ถึงจะเรียกตัวเองว่ายุ่ง
ก็คงเหมือนๆกับที่ดาราสาวที่จดทะเบียนเมื่อวานไม่ได้รู้สึกว่าแย่งสามีชาวบ้าน หรือ เป็นมือที่ 3 หรือ ดาราแอ๊บแบ๊วจอมฉกอะไรประมาณนั้นเช่นกัน
อ้อ ... แล้วก็ไม่ใช่พวกมีปม หรือ อิจฉา หรือ โสดไม่มีใครเอา อยากได้สามีรวยแล้วไม่ได้นะคะ
ก้อแค่คนๆนึง เหมือนกับทุกๆคนมียังมีประสาทสัมผัส ตายังเห็น หูยังได้ยิน ปากยังพูดได้ มือยังเขียนและพิมพ์ไหว
เห็นขี้ยังบอกได้ว่านี่คือขี้ ยังได้กลิ่นเหม็นและก็อยากที่จะพูดว่า เหม็นขี้ น่ะค่ะ โดยไม่ได้คำนึงว่า ขี้ของใคร หรือ ขี้ที่ไหน
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่อดทน อดกลั้นได้ เพราะไม่ใช่ขี้ฉัน และมีมารยาทพอที่จะไม่พูดอะไร ก็เฉยๆไปไม่ได้แสดงออก
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว ปิดจมูก ทำหน้าเบ้ เบะปาก เดินหนี ไม่มองเสีย
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่บังเอิญเป็นขี้ลูกตัวเอง ก็ปล่อยได้ รับได้
บางคนเห็นแล้ว เหม็นแล้ว แต่บังเอิญเป็นขี้ลูกเจ้านาย ขี้ของน้องหมาแฟน ก็ต้องยิ้มไว้ ขี้ไม่เหม็นหรอกนะ ขี้ห๊อมมมมม หอมมมม
ก็เป็นแค่อีก 1 คนที่ (เผือก) อยากบอกให้ (ใครก็ไม่รู้) ทราบน่ะค่ะ
เป็นประโยคเผือกเล่า ... เท่านั้นเอง
ขอบพระคุณมากค่ะ
เพิ่มเติมค่ะ .... ก่อนจะถูกถาม
ถ้าจะถามว่า แล้วเค้าต้องทำยังไงถึงจะไม่โดนต่อว่า สักแต่ว่าว่าเค้า คิดได้ดีกว่าเค้ามั๊ย ถ้าเป็นตัวเองทำได้อย่างเค้ารึเปล่า
- ถ้าดิฉันเป็นคนใกล้ตัวของ 2 คนนั้น ดิฉันจะบอกเค้าว่า คุยกับคุณนันทิดา และ ลูกให้เรียบร้อยก่อนค่ะ ให้ถึงขนาดที่ นักข่าวสัมภาษณ์ก็สามารถที่จะตอบได้ว่า อ๋อค่ะ พี่ทราบเรื่องนี้แล้ว และก็ยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ เหมือนกับที่ คุณนัท คุณนิโคล คุณมาช่า และหลายๆคนสามารถที่จะตอบได้ แล้วค่อยจดทะเบียนสมรสกัน ก็ไม่น่าที่จะรอไม่ไหว หรือ มีอะไรที่ทำให้รอไม่ได้ ... ???
ดิฉันไม่คิดว่าคุณนันทิดาอยากจะพูดหรือทำทุกอย่างเพื่อรักษาหน้าตัวเองหรอกค่ะ เพราะการที่สามีมีข่าวกับผู้หญิงคนอื่นมันน่าอายกว่าเยอะเลย
ปล. และต่อให้หย่ากันนานแล้วจริง แต่สถานภาพในสังคมยังคงเป็น สามี - ภรรยา ดิฉันก็ยังถือว่า ไม่ควรจะมีใครไปแทรกด้วยการกระทำแบบนี้อยู่ดีค่ะ
แก้ไขลิ๊งค์ค่ะ