'ปู' ยิ้ม! 'โคฟี่'-แบลร์' ตอบรับร่วมเวทีปรองดอง

กระทู้สนทนา



'นายกฯ'เผยดึงบุคคลสำคัญหาแนวทางแก้ขัดแย้งแย้ม'โคฟี่-แบลร์'ตอบรับ ขอบคุณ'ฝ่ายค้าน'หลังนิรโทษผ่านวาระแรก พร้อมหนุนเวทีการพูดคุยสันติภาพเดินต่อ

                 9 ส.ค.56 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึง แนวคิดในเวทีปฏิรูปการเมืองทางออกประเทศไทย ที่ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ ทาบทามบุคคลสำคัญในเวทีโลกที่มีบทบาทในเรื่องของประชาธิปไตยและความปรองดอง ผ่านโครงการ Uniting for the future : Learning from each other's experiences โดยมีรายงานว่านายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร นายโคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ และตัวแทนจากสำนักข่าวอัลจาซีราห์ ได้ตอบรับคำเชิญแล้ว ว่า เป็นส่วนหนึ่งที่อยากเห็นทิศทางของทางออกประเทศ ในอนาคตข้างหน้า ซึ่งรัฐบาลนอกจากที่จะรวบรวมความเห็นของประชาชนจากการทำประชาเสวนาแล้ว หนึ่งในส่วนนั้นคือ การเปิดเวทีที่จะพูดคุยเพื่อหาทางออกของประเทศซึ่งรัฐบาลได้มีการกล่าวเรียนเชิญไว้ กับผู้ที่เกี่ยวข้องและอีกส่วนหนึ่งคือ เวทีที่จะเชิญผู้นำหรืออดีตผู้นำ ซึ่งเรียกว่ามีประสบการณ์เพื่อมาแลกเปลี่ยนในการให้ความรู้ โดยจะเน้นการนำเอาประสบการณ์จากประเทศที่ประสบความสำเร็จแล้ว หรือมีการปฏิบัติแล้ว เพื่อให้คนไทยได้รับทราบ ซึ่งจะเป็นกรณีของต่างประเทศล้วน ๆ ไม่ได้พูดถึงส่วนของประเทศไทย เพื่ออย่างน้อยจะรู้ว่าในอนาคต อยากจะเห็นความสำเร็จก็จะมีกรณีตัวอย่างในหลายแบบ ซึ่งอยู่ที่จะมีการประยุกต์ใช้อย่างไร อย่างน้อยเพื่อเป็นกรณีศึกษา ซึ่งรัฐบาลจะเรียนเชิญผู้นำในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการทาบทาม ต้องรอกระทรวงการต่างประเทศยืนยันอีกครั้งหนึ่ง แต่เบื้องต้นได้มีการตอบรับมาแล้ว โดยระยะเวลาในการจัดต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้นำต่างประเทศด้วย

               นายกฯ กล่าวต่อว่า รัฐบาลต้องการเปิดมุมมองใหม่ที่มีความเป็นสากล ซึ่งมีการปฏิบัติจากนานาประเทศแล้ว เพื่อเป็นประโยชน์ต่อไทยได้บ้าง เรื่องดังกล่าวเป็นการเชิญผู้นำต่างประเทศมาพูดให้คนไทยฟัง โดยเวทีนี้เปิดกว้างเป็นมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง ส่วนการที่จะนำมาใช้หรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสม แต่อย่างน้อยเชื่อว่ามุมมองต่าง ๆ น่าจะมีกระบวนการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาใช้ ทั้งนี้รัฐบาลอยากเห็นบรรยากาศที่ดีขึ้น มีการเดินไปข้างหน้าเพื่อความปรองดอง

               “อย่าเรียกว่าเป็นเวทีเลย เป็นการพูดคุยกันว่าเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่บรรยากาศ อยู่ที่พวกเราทุกคน ในการที่จะเปิดมุมมองต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อประเทศ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เรียนว่าเราเองได้เชิญทุกหน่วยงานทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ทุกกลุ่มที่มีความเห็นทั้งเห็นด้วยและเห็นต่างมาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน และมุมมองตรงนี้ จะพัฒนาไปอย่างไร ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกัน" นายกฯ กล่าว

               เมื่อถามว่า นอกจากนายโคฟี่ และนายโทนี่ แล้วมีใครตอบรับเข้ามาบ้าง นายกฯ กล่าวว่า จะแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทั้งสองท่านได้มีการตอบรับแล้ว แต่ยังไม่เป็นทางการ ต้องรอกระทรวงการต่างประเทศยืนยัน รัฐบาลคาดหวังว่าจะเชิญมา 2-3 ท่าน และมีการพูดคุยกันเดือน หรือ 2 เดือนต่อครั้ง ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจภารกิจของผู้นำเหล่านี้ด้วย เพราะอาจไม่สามารถมาพร้อมกันได้ ต้องดูทั้งความสะดวก และจังหวะเวลา

               ผู้สื่อข่าวถามว่า ในประเทศเองพรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรได้ปฏิเสธอย่างชัดเจนว่า จะไม่ร่วมเวทีหาทางออกประเทศ นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเปิดเวทีหลาย ๆ เวที และการให้ความรู้เราก็จะทำควบคู่กันไป หวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้ร่วมเวทีกัน
               


ขอบคุณผู้นำฝ่ายค้านหลังนิรโทษผ่านวาระแรกหวังร่วมหาทางออกในอนาคต

               น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวกรณีที่ประชุมสภาผ่านการพิจารณาร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ในวาระแรก ว่า ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่าน โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านที่ร่วมพิจารณา พูดคุย อภิปรายในสภาที่ทุกอย่างสามารถผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย และหวังว่าเวทีนี้จะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่จะใช้พูดคุยกันในชั้นกรรมาธิการที่จะหารือแนวทางออกของปัจจุบันในการแก้ปัญหาและเชื่อว่า เวทีนี้จะเป็นบรรทัดฐานเชื่อมโยงต่อไปยังเวทีที่รัฐบาลจะมีโอกาสได้เรียนเชิญเพื่อหาทางออกสำหรับอนาคตต่อไป

                เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคปชป.จะคัดค้านไม่ให้มีการผ่านวาระสามไปได้ นายกฯ กล่าวว่า คงต้องอยู่ที่เวทีที่จะพูดคุยกัน เชื่อว่าคนไทยด้วยกันที่เข้าอกเข้าใจกัน การมองไปข้างหน้าเราก็จะมองอนาคต เชื่อว่าความเสียสละ การให้อภัยกัน การที่เห็นอนาคตและลูกหลานของเรา เชื่อว่าจะมีการผลักดันและได้รับความร่วมมือ

               
หนุนเวทีการพูดคุยสันติภาพเดินต่อ

                น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังมีกระแสข่าวนายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้ประกาศยกเลิกการพูดคุยสันติภาพ ว่า เป็นเพียงตัวแทนที่พูดผ่านยูทูป แต่การทำงานของ สมช.และคณะที่ไปพูดคุยต้องยึดตามการประสานงานของมาเลเซียก่อน ส่วนกรณีที่ฝ่ายบีอาร์เอ็นกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายทำผิดหลักการ เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งตรงนี้จะต้องมีการประสานกับผู้อำนวยความสะดวกก่อน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าควรใช้เวทีเดิมในการพูดคุยเพื่อความต่อเนื่อง

http://www.komchadluek.net/detail/20130809/165467/%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B8%A2%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A1!%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%9F%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87.html#.UgSxZdLwb3U


====================================

เสียใจด้วยนะ พรรคแมลงสาบ
ตราบใดที่ยังมีมาร์ค เป็นหัวหน้า
ไร้สมอง ไร้ฝีมือ มีแต่อคติจิต
นายกยิ่งลักษ์เธอมองกาลไกล
มีวิสัยทัศน์เชิญบุคคลระดับโลก
เข้าร่วมเวทีปรองดองของไทย
โคฟี่ อันนัน อดีตเลขาธิการ UN
โทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
ไอ้มาร์คมั่วแต่โมหจริตจึงตกรถไฟความเร็วสูงไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่