มุมที่แตกต่าง

ด่า

    เหลืองเหลืองปลิวไป
     ฉิวหวิวไหวไหว
     สงฆ์ขี่มอเตอร์ไซด์ซ้อนสอง
    ฉิวฉิวปลิวผ่านหน้า
     ขรมเสียงด่าว่า
     ไล่หลังสงฆ์สิงห์มอเตอร์ไซด์
    เรือนน้อยกลางทุ่งเถื่อนไกล
     โยมพ่อน้อมไหว้
     โยมแม่จะขาดใจแล้วนะพระเอย
    สงฆ์หนุ่มมิอาจข่มสะท้านใจ
     กอดแม่ร่ำไห้
     สงฆ์เกลือกหน้ากลิ้ง
     เกลือกอกโยมหญิงแม่เอย
     เพื่อนสงฆ์เอื้อนเอ่ยปลอบใจ...
    ฉิวฉิวเมื่อกี้ผ่านหน้า
     สงฆ์สมัยนี้ซ่า
     อ่ายห่าควบมอเตอร์ไซด์
     เฆี่ยนฉิวยังกะสายฟ้า    
    โครตแม่มันตายห่ารึยังไง
(ศักดิ์สิริ มีสมสืบ, 2535 “มือนั้นสีขาว”)


จากกลอนนี้อยากจะบอกว่า คนทุกคนย่อมมีเหตุผลส่วนตัวในการกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราเป็นคนภายนอกเห็นด้วยตา
ปากอย่าไป อย่าไปตัดสินใครด้วยบรรทัดฐานจากสังคม บางทีการวิพากษ์วิจารณ์ อาจเป็นเรื่องสนุกปาก ยากที่จะห้าม
แต่เชื่อเถอะว่าการทำให้ผู้อื่นทุกข์ใจ ไม่ใช่เรื่องดีหรอก
อย่าตัดสินคนเพียงผิวเผิน คนหนึ่งคนสร้างสิ่งดีไว้มากมายกลับโดนกลบด้วยเรื่องร้ายเพียงเรื่องเดียว
อย่าซ้ำเติมกันเลยเพื่อสังคมจะได้น่าอยู่ขึ้นบ้าง
ลองพิจารณาดูตัวเองก่อนว่าดีพอที่ไปว่าคนอื่นเเล้วหรือยัง
ในความคิดเีราคนที่ดีพอคงไม่ทำให้ตนเองเเละคนอื่นเดือดร้อน ไม่ว่าทางกาย วาจา หรือใจ
อยากให้เด็กที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เรียนรู้ความผิดพลาดของผู้อื่น
เพื่อมาปรับปรุงตนเอง ไม่ใช่เพื่อซ้ำเติมหรือเหยียบย่ำผู้อื่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ต้องเข้าใจนะครับ คนที่ซ้ำเติมคนอื่น ก็คือคนที่ไม่มีน้ำใจ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ
ชอบเห็นคนอื่นโดนด่า โดนประนาม อาการแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าชาตินี้จะรักษาหายไหม แทนที่จะหาอย่างอื่นที่มันเป็นสาระ
ไม่ ! ว่างเกิน ชีวิตหลักคือเผือกเรื่องดาราฉาว เบื่อ ทำไปเพื่อ?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่