เจ้าพ่อนครปฐม บทนำ

เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องแต่งขึ้น อาจมีอ้างถึงสถานที่ ที่มีอยุ่จริงบ้างหรือมีชือคนที่มีตัวตนอยู่จริงบ้าง แต่เหตุการณ์ต่างๆในเรื่องนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจริงในสถานที่นั้นๆ หรือ เกิดขึ้นจริงกับบุคคลที่อ้างถึงเลย

.......................................................................................................................................................................................

ก่อนที่ผมจะเข้ามาทำมาหากินบนหลังของสุจริตชนอย่างเต็มตัว หรือเรียกกันเท่ๆว่าวงการนักเลงหรือพวกเก็บค่าคุ้มครองหรืออะไรก็แล้วแต่นั่นล่ะ ผมก็เป็นคนธรรมดาสามัญ พ่อแม่ผมก็ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป โดยพ่อมีอาชีพเป็นทนายความของธนาคาร ธกส ของจังหวัดพิษณุโลก ส่วนแม่เป็นข้าราชการครูซึ่งตอนอายุสัก 40 แม่ก็ได้เออรี่ออกมาเป็นข้าราชการบำนาญอยุ่ที่บ้าน เลยมีพ่อเป็นกำลังหลักหาเงินเข้าบ้านอยู่คนเดียว ครอบครัวผมไม่มีปัญหาด้านการเงินเป็นครอบครัวฐานะปานกลางมีบ้านมีรถมีกินมีใช้ ผมเป็นลูกคนเดียวในวัยเด็กเลยมักจะได้ในสิ่งที่ต้องการเสมอทั้งเครื่องเกมส์ ของเล่น คอมพิวเตอร์ มักจะมีมากกว่าเพื่อนๆเสมอ เลยกลายเป็นว่าบ้านผมจะเป็นศูนย์รวมของเด็กๆแถวบ้านอยู่ตลอด เพราะมักจะมาเล่นเกมส์ เล่นของเล่น หรือถ้าจะรวมตัวกันไปเตะบอลหรือไปใหน ก็มักจะนัดกันมารวมที่บ้านผมก่อนตลอด
    ตอนเรียน ม.ต้น ม.ปลาย ผมก็สอบเข้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดของจังหวัดที่ผมอยู่ได้(พิษณุโลก)          ก็ได้อยู่ห้องคิงสายวิทย์แต่ตอนนั้นก็ไม่คิดจะตั้งใจเรียนไรมานักหรอก ก็เรียนอยู่ระดับกลางๆค่อนไปทางท้ายอยู่เป็นประจำ มาสนใจเรียนเพิ่มขึ้นมาหน่อยก็ตอนจะเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่ได้อะไรมาก อาทิตนึงมีวันอ่านหนังสือสักวันนึง(จากไม่เคยอ่านเลย)  ก็เท่านั้นนอกนั้นก็เที่ยวเล่นตลอดเที่ยวเล่นที่ว่าไม่ไช่กินเหล้า สูบหรี่นะครับ แต่หมายถึงว่าโดดเรียนไปเตะบอลบ้าง บางวันไปดูหนังบ้าง ไม่มีอบายมุขร้ายแรงเลย ที่ร้างแรงที่สุดเห็นจะเป็นหนังโป๊ กับแทงบอล แต่แค่ติดปลายนวมแทงไม่ทุกอาทิตย์ด้วยซ้ำไป  โดยแทงครั้งล่ะ 50 บาทบ้าง 100 บาทบ้างแล้วแต่ว่าทีมอะไรแข่ง ก็ทำตัวแบบนี้ไปจนสุดท้ายก็เอนทรานซ์ติด คณะวิศวะของ  มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ที่ นครปฐม เลยทำให้ผมต้องย้ายมาอยู่หอพักที่มหาวิทลัย ซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันกับพ่อแม่ ซึ่งหมายความว่าต้องดูแลตัวเอง เป็นอิสระจากการควบคุมดูแลจากผู้ปกครองเกือบจะโดยสิ้นเชิง เลยทำให้ผมเที่ยวเล่นเกินพอดีไปหน่อย ประกอบกับใจจริงไม่ได้อยากเรียนที่ มหาวิทยาลัยนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว(เพราะอยากอยู่ใน กทม) เลยตัดสินใจลาออกตอนอยู่เทอมสอง แล้วไปสอบใหม่ซึ่งช่างโชคดีเสียนี่กระไร(ประชด) รัฐบาลได้มีการปฏิรูปการศึกษายกเลิกการเอ็นทรานซ์ มาใช้ระบบแอดมิชชั่น เลยทำให้คะแนนที่ผมสอบใว้ในปีที่แล้วหายหมด(ทำไว้ดีพอควร) ต้องอ่านใหม่หมดเลยกลายเป็นว่าไปใหนไม่รอดต้องกลับมาเข้าปี 1 ที่มหาลัยเดิมอีกครั้งพูดง่ายๆว่ากลายเป็นเด็กซิ่ว
แต่ไอ้การเป็นเด็กซิ่วนี่ก็ดีไปอย่างเพราะเพื่อนร่วมรุ่นเกรงใจมากๆ(เพื่อนร่วมรุ่นก็คือเด็กกว่าผม 1 ปี) ไม่รู้มหาลัยอื่นๆเป็นแบบไหนนะแต่ที่นี่ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องค่อนข้างแรง รุ่นน้องจะนับถือรุ่นพี่มากพอสมควร ประกอบกับผมได้เงินจากทางบ้านข้อนข้างเยอะกว่าชาวบ้าน เลยมักจะเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้งกันอยู่เป็นประจำ เลยเป็นคนที่รุ่นน้องจะนับถือและเกรงใจกว่าปกติ(ก็เฉพาะกลุ่มพวกกินเหล้านะครับ พวกเด็กที่มาตั้งใจเรียนมันก็ไม่สนอยู่แล้วเรื่องพวกนี้) ส่วนเรื่องเรียนเกรดผมก็ได้กลางๆ แต่มักจะได้รับคำชมว่าเรียนเก่งเพราะ แทบไม่เคยเข้าเรียน ไม่เคยสนใจจะทำงาน แต่เวลาคะแนนออกมามักจะได้ดีพอสมควร ส่วนเรื่องผู้หญิงก็มีคบๆเลิกๆ ตามประสา หน้าตาผมก็พอไปวัดไปวาได้ก็เลยพอมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้ไม่น้อยไปกว่าคนอื่นๆ  ส่วนเรื่องชกต่อยตีรันฟันแทง ก็ไม่ค่อยมีแล้วเพราะการเข้ามาอยู่มหาวิทยาลัยก็เป็นการคัดพวกชอบยกพวกตีกันหรือพวก มองหน้าไม่ได้เลยต้องมีเรื่องออกไปพอสมควรเพราะพวกนี้ถ้าไม่กลับตัวมาสนใจเรียนบ้างส่วนมากก็ไม่มีปัญญาเอ็นติดเข้ามาหลอก  ก็เห็นจะมีก็แต่เรื่องผู้หญิงนี่ล่ะที่ไม่ว่าคนดีคนเลว คนชั้นสูงหรือกรรมกร ส่วนมากจะยอมกันไม่ค่อยได้มักจะมีเรื่องกันตลอด แต่ส่วนมากที่ผมอยู่จะไม่รุนแรงนักส่วนมากจะเคลียร์กันแป๊ปเดียวจบ ซึ่งหน้าที่การไปเคลียร์เนี่ย ส่วนมากในกลุ่ม ก็จะเป็นหน้าที่ผมนี่ล่ะ อาจเพราะผมเป็นรุ่นพี่หรืออาจเพราะผมตัวใหญ่ (สูง 185)
    ดูจากเรื่องที่เล่ามานั้นชีวิตก็เหมือนกับเด็ก ที่หัวใช้ได้ ชอบเที่ยว ไม่ค่อยสนใจเรียนธรรมดาๆคนนึงใช่หรือไม่ครับ ?  เรื่องที่จะออกนอกกรอบชีวิตธรรมดาๆเริ่มตั้งแต่ผมได้สนิทกับเพื่อนร่วมรุ่นคนนึงซึ่งชื่อว่า เกมส์ ตอนผมอยู่ปี 3 เทอม 2
จริงๆแล้วผมรู้จักกับเกมส์มานานแล้วอยู่กลุ่มกินเหล้าวงเดียวกัน กินกันค่อนข้างบ่อย จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจเป็น         รูมเมทกันเพราะรูมเมทคนปัจจุบันของผมกำลังจะจบออกไปในปีนี้
    เกมส์คนนี้เป็นคนตัวค่อนข้างเล็กผอมหน้าตอบผิวคล้ำสูงประมาณ 165 เห็นจะได้คิ้วเข้มมักจะไว้ผมยาวอยู่เสมอ เป็นคน กทม จบมาจากโรงเรียนชื่อดังใน กทม แต่เนื่องจากชอบเที่ยวชอบกินเหล้าไม่ค่อยสนใจเรียนเลยได้เกรดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดนรีไทร์อยู่ตลอดเกือบทุกเทอม ส่วนผมผิวค่อนข้างคล้ำแต่จะขาวกว่าเกมส์อยู่หน่อยสูง 185 ก็ไว้ผมทรงเด็กมหาลัยทั่วไป ก่อนจะมาเป็นเมทกันผมก็พอจะรู้ตื้นลึกหนาบางของเกมส์อยู่บ้างว่ามีเสพยาบ้างในบางครั้ง ซึ่งก่อนจะเข้ามาอยู่ด้วยกันผมก็ไม่รู้หลอกว่ายาอะไร หรือเสพหนักแค่ใหนจนได้มาอยู่ด้วยกันนี่ล่ะ ถึงได้รู้ว่าเกมส์เสพยาบ้ามาตั้งแต่เรียน แต่เสพไม่เยอะ ถ้ามีก็เสพ ไม่มีก็ไม่ออกไปหา แล้วแต่ถ้าเพื่อนชวนก็เสพไม่มีใครชวนก็อยู่เฉยๆได้   อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ก็ได้ที่ผมเห็นเกมส์ เสพยาแล้วไม่เห็นจะเป็นอะไร บวกกับอยากรู้ว่ามันรู้สึกอย่างไรจึงได้ทดลองเสพดู นี่ล่ะคือเรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ เรื่องที่เปลี่ยนชีวิตผมไปมากขนาดที่ว่า จากนิสิตปีสามรอวันเรียนจบไปทำงานเป็นวิศวกร กลายต้องมาพัวพันอยู่ในวงการใต้ดิน จนถอนตัวไม่ขึ้น จนสุดท้ายก็ก้าวขึ้นมามีอิทธิพลในวงการนักเลงในท้ายที่สุด เริ่มจากยาสีเลือดหมูเม็ดเล็กๆนี่ล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่