ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เกิดข่าวใหญ่แบบไม่มีใครตั้งตัวทันกับการที่ มาริโอ เกิทเซ่ เพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งวงการลูกหนังเมืองเบียร์ ถูก บาเยิร์น มิวนิค ดูดตัวจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วยวงเงินก้อนโตถึง 37 ล้านยูโร (ประมาณ 1,480 ล้านบาท) ซึ่งนั่นสร้างความฮือฮาให้กับตลาดนักเตะไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะมันมีการประกาศคอนเฟิร์มกันตั้งแต่ซีซั่น 2012-13 ยังไม่ปิดฉาก แถมยังเกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งสองทีมกำลังจะต้องฟาดแข้งกันเองในนัดชิงฯ ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
ถึงตอนนี้รู้กันแล้วว่า บาเยิร์น มิวนิค คือทีมที่ประสบความสำเร็จแบบสุดขีดจากซีซั่นดังกล่าว ด้วยตำแหน่ง "ทริปเปิ้ลแชมป์" ขณะที่ เกิทเซ่ ปิดฉากซีซั่นก่อนกับ "เสือเหลือง" แบบมือเปล่า แถมยังมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวนอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากำลังจะสร้างตำนานบทใหม่กับ "เสือใต้" ภายใต้การนำทัพของยอดกุนซือป้ายแดงอย่าง โจเซป กวาร์ดิโอล่า และการรายงานตัวเป็นนักเตะ บาเยิร์น มิวนิค อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวได้ถือโอกาสให้สัมภาษณ์เปิดใจผ่าน 10 คำถามข้างล่างนี้กับทางเว็บไซต์ประจำสโมสร (fcbayern.telekom.de) เรียบร้อย
Q : คุณ มาริโอ, ขอต้อนรับสู่ เอฟซี บาเยิร์น! คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมาถึงสำนักงานใหญ่ของสโมสรในฐานะนักเตะ บาเยิร์น?
MG : รู้สึกดีมากๆ เลย แต่ผมเพิ่งมาถึงที่นี่แค่ 2 วันเท่านั้นเอง และยังลงซ้อมไม่ได้ด้วย ซึ่งผมก็กำลังตั้งตารอที่จะได้เริ่มต้นกับทีมแบบจริงๆ จังๆ
Q : รู้สึกประหม่าบ้างหรือเปล่า กับการได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องแต่งตัวของสโมสรเป็นครั้งแรก?
MG : ประหม่าหรอ ผมว่า คุณใช้คำพูดไม่ถูกนะ มันเป็นความรู้สึกเหมือนเครียดๆ มากกว่า เพราะคุณไม่รู้หรอกว่า ในอนาคตมันมีอะไรเฝ้ารอคุณอยู่บ้าง แน่นอนว่า คุณต้องพยายามเป็นตัวของตัวเอง และพยายามคิดแต่สิ่งดีๆ เอาไว้ แต่ผมมั่นใจว่า ผมใช้เวลาปรับตัวไม่นานหรอก เพราะมันโชคดีสำหรับผมที่ผมรู้จักนักเตะที่นี่ร่วมครึ่งทีมแล้ว จากการที่ได้ร่วมงานกันยามรับใช้ทีมชาติเยอรมนี
Q : โชคร้ายจริงๆ ที่คุณยังลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ไม่ได้ สภาพร่างกายของคุณตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
MG : ใช่เลย มันเป็นอะไรที่กวนใจผมมาก สำหรับตอนนี้อาการก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่า ผมยังฟิตไม่พอที่จะลงวิ่ง
Q : แผนการฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณมีอะไรบ้าง?
MG: มันไม่มีการวางแผนหรือเดดไลน์อะไรทั้งนั้น เราจะรอดูแบบวันต่อวัน และค่อยตัดสินอีกทีว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง สำหรับตอนนี้ผมเน้นทำในเรื่องบริหารกล้ามเนื้อ และในเร็วๆ นี้ผมก็จะเข้าไปเช็คอาการและเข้ารับการสแกนเอ็มอาร์ไอ (สแกนด้วยคลื่นแม่เหล็ก) ซึ่งนั่นจะทำให้เราได้รู้รายละเอียดมากขึ้น แต่ผมมั่นใจว่า ผมจะกลับมาวิ่งได้ภายใน 14 วัน หรือราวๆ นั้น ผมน่าจะเข้าร่วมซ้อมกับทีมตามโปรแกรมได้ภายใน 3 หรือ 4 สัปดาห์
Q : มองย้อนกลับไปราว 2 เดือนก่อน กับการกำลังจะอำลา ดอร์ทมุนด์ มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดหรือเปล่า?
MG : แน่นอน มันเจ็บปวด เพราะผมเติบโตที่นั่น และใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตกับทีม เบเฟาเบ (ดอร์ทมุนด์) ผมต้องทิ้งเพื่อนๆ และครอบครัวไว้เบื้องหลัง แต่ผมเองก็กำลังตั้งตารอที่จะได้พบเจอกับความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมต้องการก้าวขึ้นไปอีกขั้นกับ บาเยิร์น นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ และตอนนี้ผมก็พร้อมแล้ว
Q : อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดใจคุณให้ย้ายมา บาเยิร์น?
MG : ทุกอย่างรวมๆ กัน ทั้งสโมสร, ทีม, โค้ช, ปรัชญาการทำทีม และทัศนคติของทีม ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผม ผมได้ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก นั่นคือความท้าทาย และก็แน่นอนว่า มิวนิค เป็นเมืองที่งดงามมากๆ เช่นกัน
Q : โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่คุณเกิดในเมืองเมมมิงเก้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย...
MG : ถูกต้องเลย ปู่ย่าตายายของผมก็ยังอยู่ที่นั่น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ขณะที่พี่ชายของผม (ฟาเบียน) ก็เล่นให้กับทีม อุนเตอร์ฮัคคิงก์ (ทีมระดับดิวิชั่น 3 ซึ่งอยู่ชานเมืองมิวนิค) ซึ่งอย่างน้อยกับที่นี่ผมก็ได้อยู่ใกล้ๆ กับครอบครัว
Q : ความประทับใจแรกของคุณที่มีต่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คืออะไร?
MG : สุดยอดอ่ะ เขานำสิ่งดีๆ เข้ามาที่นี่เยอะเลย และเขาก็พูดเกี่ยวกับปรัชญาการทำทีมแล้ว ซึ่งผมคิดว่า ผมสามารถเข้ากับมันได้สบายๆ เลย เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ และปฎิบัติกับนักเตะเหมือนเป็นเพื่อนของเขาคนหนึ่ง เขาจะพาเราไปได้ไกลแน่ เราทุกคนจะได้รับประโยชน์จากเขาแน่นอน
Q : คุณสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก ซึ่งรวมถึงระบบที่กำลังฮิตอย่าง ฟอลส์ ไนน์ (False 9 ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ใช้หัวหอกตัวเป้าอาชีพ) ด้วย...
MG : ผมเคยเล่นแบบนั้นให้ทีมชาติเยอรมนีมาแล้ว และเคยเล่นแบบนั้นบ่อยๆ ในทีมเยาวชน แน่นอน นั่นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผม แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากคิดอะไรไปไกล เพราะก่อนอื่นผมต้องฟิตร่างกายก่อน และร่วมลงซ้อมกับเพื่อนๆ ให้ได้ สำหรับอนาคตนั้น โค้ชจะเป็นคนตัดสินใจเอง
Q : อะไรคือสิ่งที่แฟนๆ สามารถคาดหวังจาก มาริโอ เกิทเซ่ และ บาเยิร์น ในฤดูกาลใหม่นี้ได้?
MG : ผมคิดว่า พวกเขากำลังจะได้เห็น เอฟซี บาเยิร์น ในรูปแบบใหม่ และผมเองก็จะพยายามช่วยทีมอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จให้ได้
credit : www.siamsport.co.th คอลัมน์ : เจาะข่าวฮอต โดย.. Subinh
[บทความบอลเยอรมัน 2013-08-06] เกิทเซ่ : โชคดีที่ผมรู้จักนักเตะ บาเยิร์น หลายคนก่อนแล้ว
ถึงตอนนี้รู้กันแล้วว่า บาเยิร์น มิวนิค คือทีมที่ประสบความสำเร็จแบบสุดขีดจากซีซั่นดังกล่าว ด้วยตำแหน่ง "ทริปเปิ้ลแชมป์" ขณะที่ เกิทเซ่ ปิดฉากซีซั่นก่อนกับ "เสือเหลือง" แบบมือเปล่า แถมยังมีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวนอีกด้วย แต่ตอนนี้เขากำลังจะสร้างตำนานบทใหม่กับ "เสือใต้" ภายใต้การนำทัพของยอดกุนซือป้ายแดงอย่าง โจเซป กวาร์ดิโอล่า และการรายงานตัวเป็นนักเตะ บาเยิร์น มิวนิค อย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมานั้น เจ้าตัวได้ถือโอกาสให้สัมภาษณ์เปิดใจผ่าน 10 คำถามข้างล่างนี้กับทางเว็บไซต์ประจำสโมสร (fcbayern.telekom.de) เรียบร้อย
Q : คุณ มาริโอ, ขอต้อนรับสู่ เอฟซี บาเยิร์น! คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมาถึงสำนักงานใหญ่ของสโมสรในฐานะนักเตะ บาเยิร์น?
MG : รู้สึกดีมากๆ เลย แต่ผมเพิ่งมาถึงที่นี่แค่ 2 วันเท่านั้นเอง และยังลงซ้อมไม่ได้ด้วย ซึ่งผมก็กำลังตั้งตารอที่จะได้เริ่มต้นกับทีมแบบจริงๆ จังๆ
Q : รู้สึกประหม่าบ้างหรือเปล่า กับการได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องแต่งตัวของสโมสรเป็นครั้งแรก?
MG : ประหม่าหรอ ผมว่า คุณใช้คำพูดไม่ถูกนะ มันเป็นความรู้สึกเหมือนเครียดๆ มากกว่า เพราะคุณไม่รู้หรอกว่า ในอนาคตมันมีอะไรเฝ้ารอคุณอยู่บ้าง แน่นอนว่า คุณต้องพยายามเป็นตัวของตัวเอง และพยายามคิดแต่สิ่งดีๆ เอาไว้ แต่ผมมั่นใจว่า ผมใช้เวลาปรับตัวไม่นานหรอก เพราะมันโชคดีสำหรับผมที่ผมรู้จักนักเตะที่นี่ร่วมครึ่งทีมแล้ว จากการที่ได้ร่วมงานกันยามรับใช้ทีมชาติเยอรมนี
Q : โชคร้ายจริงๆ ที่คุณยังลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ไม่ได้ สภาพร่างกายของคุณตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
MG : ใช่เลย มันเป็นอะไรที่กวนใจผมมาก สำหรับตอนนี้อาการก็ดีขึ้นมากแล้ว แต่ผมรู้สึกว่า ผมยังฟิตไม่พอที่จะลงวิ่ง
Q : แผนการฟื้นฟูสภาพร่างกายของคุณมีอะไรบ้าง?
MG: มันไม่มีการวางแผนหรือเดดไลน์อะไรทั้งนั้น เราจะรอดูแบบวันต่อวัน และค่อยตัดสินอีกทีว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง สำหรับตอนนี้ผมเน้นทำในเรื่องบริหารกล้ามเนื้อ และในเร็วๆ นี้ผมก็จะเข้าไปเช็คอาการและเข้ารับการสแกนเอ็มอาร์ไอ (สแกนด้วยคลื่นแม่เหล็ก) ซึ่งนั่นจะทำให้เราได้รู้รายละเอียดมากขึ้น แต่ผมมั่นใจว่า ผมจะกลับมาวิ่งได้ภายใน 14 วัน หรือราวๆ นั้น ผมน่าจะเข้าร่วมซ้อมกับทีมตามโปรแกรมได้ภายใน 3 หรือ 4 สัปดาห์
Q : มองย้อนกลับไปราว 2 เดือนก่อน กับการกำลังจะอำลา ดอร์ทมุนด์ มันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดหรือเปล่า?
MG : แน่นอน มันเจ็บปวด เพราะผมเติบโตที่นั่น และใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตกับทีม เบเฟาเบ (ดอร์ทมุนด์) ผมต้องทิ้งเพื่อนๆ และครอบครัวไว้เบื้องหลัง แต่ผมเองก็กำลังตั้งตารอที่จะได้พบเจอกับความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องการ ผมต้องการก้าวขึ้นไปอีกขั้นกับ บาเยิร์น นั่นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ และตอนนี้ผมก็พร้อมแล้ว
Q : อะไรคือสิ่งที่ดึงดูดใจคุณให้ย้ายมา บาเยิร์น?
MG : ทุกอย่างรวมๆ กัน ทั้งสโมสร, ทีม, โค้ช, ปรัชญาการทำทีม และทัศนคติของทีม ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผม ผมได้ย้ายมาเล่นให้กับสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก นั่นคือความท้าทาย และก็แน่นอนว่า มิวนิค เป็นเมืองที่งดงามมากๆ เช่นกัน
Q : โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่คุณเกิดในเมืองเมมมิงเก้น ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่เลย...
MG : ถูกต้องเลย ปู่ย่าตายายของผมก็ยังอยู่ที่นั่น ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ขณะที่พี่ชายของผม (ฟาเบียน) ก็เล่นให้กับทีม อุนเตอร์ฮัคคิงก์ (ทีมระดับดิวิชั่น 3 ซึ่งอยู่ชานเมืองมิวนิค) ซึ่งอย่างน้อยกับที่นี่ผมก็ได้อยู่ใกล้ๆ กับครอบครัว
Q : ความประทับใจแรกของคุณที่มีต่อ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คืออะไร?
MG : สุดยอดอ่ะ เขานำสิ่งดีๆ เข้ามาที่นี่เยอะเลย และเขาก็พูดเกี่ยวกับปรัชญาการทำทีมแล้ว ซึ่งผมคิดว่า ผมสามารถเข้ากับมันได้สบายๆ เลย เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ และปฎิบัติกับนักเตะเหมือนเป็นเพื่อนของเขาคนหนึ่ง เขาจะพาเราไปได้ไกลแน่ เราทุกคนจะได้รับประโยชน์จากเขาแน่นอน
Q : คุณสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก ซึ่งรวมถึงระบบที่กำลังฮิตอย่าง ฟอลส์ ไนน์ (False 9 ซึ่งเป็นระบบที่ไม่ใช้หัวหอกตัวเป้าอาชีพ) ด้วย...
MG : ผมเคยเล่นแบบนั้นให้ทีมชาติเยอรมนีมาแล้ว และเคยเล่นแบบนั้นบ่อยๆ ในทีมเยาวชน แน่นอน นั่นถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผม แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากคิดอะไรไปไกล เพราะก่อนอื่นผมต้องฟิตร่างกายก่อน และร่วมลงซ้อมกับเพื่อนๆ ให้ได้ สำหรับอนาคตนั้น โค้ชจะเป็นคนตัดสินใจเอง
Q : อะไรคือสิ่งที่แฟนๆ สามารถคาดหวังจาก มาริโอ เกิทเซ่ และ บาเยิร์น ในฤดูกาลใหม่นี้ได้?
MG : ผมคิดว่า พวกเขากำลังจะได้เห็น เอฟซี บาเยิร์น ในรูปแบบใหม่ และผมเองก็จะพยายามช่วยทีมอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จให้ได้
credit : www.siamsport.co.th คอลัมน์ : เจาะข่าวฮอต โดย.. Subinh