หากใครยังจำกันได้ มีชาวไทยอยู่ 1 คนที่มีโอกาสลงแข่งขันในสีเสื้อเลือดหมูของเจ้าบุญทุ่ม ซึ่งเขาจะมาถ่ายถอดเรื่องราววันนั้นกับโกล ไทยแลนด์ ก่อนที่ จะมาเยือนแดนสยามในรอบ 11 ปี
ทวีศักดิ์ โมราศิลป์ คือชื่อนักฟุตบอลชาวไทยคนเดียวที่มีโอกาสได้ลงเล่นในทีมบาร์เซโลน่า เมื่อ 11 ปีที่แล้ว แม้จะเป็นเพียงการแข่งขันกระชับมิตรกับทีม ออลสตาร์ บีอีซี เทโรศาสน และการลงเล่นครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญสุดๆ แต่มันก็เป็นความทรงจำที่งดงามของนักเตะจากแดนสยามผู้นี้
ทวีศักดิ์ ในเวลานั้นค้าแข้งอยู่กับบีอีซี เทโรศาสน แต่เขาได้ใช้เวลา 40 นาทีร่วมกับนักเตะระดับโลกอย่างแพทริค ไคลเวิร์ต, ฮาเวียร์ ซาบิโอลา , ฟิลิป โคคู , แฟรงค์ เดอ บัวร์ , มิเชล ไรซีเกอร์ ในฐานะเพื่อนร่วมทีม ก่อนทีผลการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์ระหว่าง ออลสตาร์ บีอีซี เทโรศาสน กับ บาร์เซโลนา บนผืนแผ่นดินไทยครั้งแรกจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 และเป็น เจ้าบุญทุ่ม ที่เฉือนชนะจุดโทษ 4-3
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ ปตท.ระยอง ทีมระดับดิวิชั่น 1 ปัจจุบัน ได้มาเปิดใจกับ โกล ประเทศไทย ถึงเหตุการณ์ในวันที่ 29 พฤษภาคม ปี 2002 และเป็นที่มาของ ฉายา "โจ บาร์ซ่า" ว่า “ก่อนเกมการแข่งขันแมตช์นั้น ทีมบาร์เซโลนามีผู้เล่นเดินทางมา แค่ 15 คน และได้รับบาดเจ็บถึง 3 คน เหลือใช้งานเพียงแค่ 12 คน ทำให้ตัวสำรองไม่เพียงพอ ซึ่ง “หมอเมา” พิชัย ปิตุวงศ์ กุนซือใหญ่ของ บีอีซี เทโรศาสน และ “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า ผู้จัดการทีมในเวลานั้น ได้เดินมาบอกผมว่า ให้ไปเล่นฝั่งบาร์เซโลนา เพราะตอนนั้น ผมมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุด เอเชียนเกมส์ ประกอบกับกับผมพอพูดภาษาอังกฤษได้ เขาจึงส่งผมให้อยู่ฝั่งทีม บาร์เซโลนา อีกทั้งถ้าอยู่ฝั่ง บีอีซี เทโรฯ ออลสตาร์ ก็ไม่น่าจะได้ลงอยู่ดี ”
มันคือความทรงจำที่ประทับใจที่สุดในชีวิต" อดีตกองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่มาเลเซีย ปี 2001 เล่าต่อ "หลังจากที่ผมได้ไปอยู่ฝั่งทีม บาร์เซโลนา มันเป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมากๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมได้พบกับนักเตะอย่าง แพทริค ไคลเวิร์ต, ฮาเวียร์ ซาบิโอล่า , ฟิลิป โคคู , แฟรงค์ เดอ บัวร์ พวกมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก มันไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้ร่วมทีมกับนักเตะระดับนี้
"พอเกมเริ่ม ผมเป็นตัวสำรองของทีม ไม่มีความคิดอยู่ในหัวว่าจะได้เล่น แต่ในช่วงครึ่งหลัง โค้ชของทีมบาร์ซา (การ์เลส เรซัช เคยเป็น ผอ. ของสโมสร และเป็นผู้เซ็นสัญญาฉบับแรกกับลิโอเนล เมสซี) เดินมาบอกผมว่า ให้ผมลงไปวอร์มเพื่อลงสู่สนามแทน ดานี การ์เซีย ซึ่งผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะได้ลงสนามในสีเสื้อเลือดหมู และมันเป็น 40 นาทีที่มีค่ามาก"
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการลงเล่นในแมตช์อย่างเป็นทางการหรือเซ็นสัญญาเป็นนักเตะของทีมแบบเป็นเรื่องเป็นราวแต่การได้ใส่เสื้อแข่งขันของสโมสรที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก ยืนลงสนามเคียงข้างผู้เล่นระดับแนวหน้าของยุโรป ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นง่ายๆเลยกับนักเตะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่โอกาสนั้นเป็นของเขา ทวีศักดิ์ โมราศิลป์ หนึ่งเดียวจากไทยในทีมบาร์เซโลนา
"การกลับมาอีกครั้งของบาร์เซโลนา ผมเฝ้ารอมันมานานมากๆ เพราะเราเคยเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา มันน่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้เห็นทีมที่มีความยิ่งใหญ่มากๆ อีกครั้ง เหมือนกับภาพเมื่อ 10 กว่าปีที่ก่อน ที่เราได้สัมผัสมัน" โจ บาร์ซ่า ทิ้งท้าย
ที่มา
http://webboard.sport.sanook.com/forum/index.php?topic=3750137 
จำได้มั้ย นักเตะไทยในทีมบาเซโลน่า
ทวีศักดิ์ โมราศิลป์ คือชื่อนักฟุตบอลชาวไทยคนเดียวที่มีโอกาสได้ลงเล่นในทีมบาร์เซโลน่า เมื่อ 11 ปีที่แล้ว แม้จะเป็นเพียงการแข่งขันกระชับมิตรกับทีม ออลสตาร์ บีอีซี เทโรศาสน และการลงเล่นครั้งนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญสุดๆ แต่มันก็เป็นความทรงจำที่งดงามของนักเตะจากแดนสยามผู้นี้
ทวีศักดิ์ ในเวลานั้นค้าแข้งอยู่กับบีอีซี เทโรศาสน แต่เขาได้ใช้เวลา 40 นาทีร่วมกับนักเตะระดับโลกอย่างแพทริค ไคลเวิร์ต, ฮาเวียร์ ซาบิโอลา , ฟิลิป โคคู , แฟรงค์ เดอ บัวร์ , มิเชล ไรซีเกอร์ ในฐานะเพื่อนร่วมทีม ก่อนทีผลการแข่งขันนัดประวัติศาสตร์ระหว่าง ออลสตาร์ บีอีซี เทโรศาสน กับ บาร์เซโลนา บนผืนแผ่นดินไทยครั้งแรกจะจบลงด้วยสกอร์ 0-0 และเป็น เจ้าบุญทุ่ม ที่เฉือนชนะจุดโทษ 4-3
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนของ ปตท.ระยอง ทีมระดับดิวิชั่น 1 ปัจจุบัน ได้มาเปิดใจกับ โกล ประเทศไทย ถึงเหตุการณ์ในวันที่ 29 พฤษภาคม ปี 2002 และเป็นที่มาของ ฉายา "โจ บาร์ซ่า" ว่า “ก่อนเกมการแข่งขันแมตช์นั้น ทีมบาร์เซโลนามีผู้เล่นเดินทางมา แค่ 15 คน และได้รับบาดเจ็บถึง 3 คน เหลือใช้งานเพียงแค่ 12 คน ทำให้ตัวสำรองไม่เพียงพอ ซึ่ง “หมอเมา” พิชัย ปิตุวงศ์ กุนซือใหญ่ของ บีอีซี เทโรศาสน และ “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า ผู้จัดการทีมในเวลานั้น ได้เดินมาบอกผมว่า ให้ไปเล่นฝั่งบาร์เซโลนา เพราะตอนนั้น ผมมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุด เอเชียนเกมส์ ประกอบกับกับผมพอพูดภาษาอังกฤษได้ เขาจึงส่งผมให้อยู่ฝั่งทีม บาร์เซโลนา อีกทั้งถ้าอยู่ฝั่ง บีอีซี เทโรฯ ออลสตาร์ ก็ไม่น่าจะได้ลงอยู่ดี ”
มันคือความทรงจำที่ประทับใจที่สุดในชีวิต" อดีตกองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์ซีเกมส์ ที่มาเลเซีย ปี 2001 เล่าต่อ "หลังจากที่ผมได้ไปอยู่ฝั่งทีม บาร์เซโลนา มันเป็นความรู้สึกที่ตื่นเต้นมากๆ อย่างบอกไม่ถูก ผมได้พบกับนักเตะอย่าง แพทริค ไคลเวิร์ต, ฮาเวียร์ ซาบิโอล่า , ฟิลิป โคคู , แฟรงค์ เดอ บัวร์ พวกมีความเป็นมืออาชีพสูงมาก มันไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้ร่วมทีมกับนักเตะระดับนี้
"พอเกมเริ่ม ผมเป็นตัวสำรองของทีม ไม่มีความคิดอยู่ในหัวว่าจะได้เล่น แต่ในช่วงครึ่งหลัง โค้ชของทีมบาร์ซา (การ์เลส เรซัช เคยเป็น ผอ. ของสโมสร และเป็นผู้เซ็นสัญญาฉบับแรกกับลิโอเนล เมสซี) เดินมาบอกผมว่า ให้ผมลงไปวอร์มเพื่อลงสู่สนามแทน ดานี การ์เซีย ซึ่งผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จะได้ลงสนามในสีเสื้อเลือดหมู และมันเป็น 40 นาทีที่มีค่ามาก"
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นการลงเล่นในแมตช์อย่างเป็นทางการหรือเซ็นสัญญาเป็นนักเตะของทีมแบบเป็นเรื่องเป็นราวแต่การได้ใส่เสื้อแข่งขันของสโมสรที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลก ยืนลงสนามเคียงข้างผู้เล่นระดับแนวหน้าของยุโรป ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นง่ายๆเลยกับนักเตะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่โอกาสนั้นเป็นของเขา ทวีศักดิ์ โมราศิลป์ หนึ่งเดียวจากไทยในทีมบาร์เซโลนา
"การกลับมาอีกครั้งของบาร์เซโลนา ผมเฝ้ารอมันมานานมากๆ เพราะเราเคยเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา มันน่าตื่นเต้นมาก ที่จะได้เห็นทีมที่มีความยิ่งใหญ่มากๆ อีกครั้ง เหมือนกับภาพเมื่อ 10 กว่าปีที่ก่อน ที่เราได้สัมผัสมัน" โจ บาร์ซ่า ทิ้งท้าย
ที่มา http://webboard.sport.sanook.com/forum/index.php?topic=3750137