เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @ThaksinLive ทวีตข้อความต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จำนวน 18 ข้อความ โดยใจความเป็นการตำหนินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเป็นคนที่พูดจาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ยังติดอยู่กับรักโลภโกรธหลง ไม่เข้าใจคนหาเช้ากินค่ำ ดังนี้
"...วันนี้ขอเริ่มด้วยคำสอนท่านพระพุทธทาส ที่ว่า ′จิตวุ่นปัญญาหายจิตว่างปัญญามี′ จิตที่วุ่นมันมักจะเกิดจากความหมกมุ่นในกิเลสที่มาจากโลภ โกรธ หลง ผมพยายามทำความเข้าใจกับพฤติกรรมคุณอภิสิทธิ์ ว่าแกทำไมเหมือนคนไม่ปกติทั้งๆ ที่การศึกษาก็ดีเกิดและโตในประเทศที่มีประชาธิปไตยที่พัฒนาไปไกล ทำไม? ทำไม? คุณอภิสิทธิ์เป็นไปได้ขนาดนี้พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยกลับไปกลับมา แล้วแต่ตอนแกพูดแกอยากได้อะไรลิ้นแกบิดได้ตลอดไม่มีหลักการอุดมการณ์เลย
คำตอบมีอยู่ 2 ทาง คือทางธรรมและทางจิตวิทยา ทางธรรมคือแกยังปล่อยวางไม่ได้ชีวิตหมกมุ่นกับโลภโกรธหลง แกโกรธเพราะแกไม่สามารถชนะในกติกาได้ทั้งๆ ที่กติกาการเลือกตั้งที่คิดว่าได้เปรียบแล้ว และแกก็หลงที่เป็นนายกฯ และอยากกลับมาเป็นอีกทั้งๆ ที่ทำอะไรก็ไม่เป็น นอกจากพูด แถมไม่อยู่กับร่องกับรอยอีก นอกจากนั้นแกยังมีคู่หูที่เป็นคนที่หน้าด้านคอยยุแกก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ส่วนทางจิตวิทยานั้นยิ่งชัดเพราะแกถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเตรียมตัวเป็นนายกฯ ไปเกิด โต และเรียนที่อังกฤษไม่เข้าใจชีวิตของคนหาเช้ากินค่ำ แกเข้าใจแต่ความต้องการของตัวเองเท่านั้น ยิ่งตอนนี้ผมคือคนเดียวที่แกคิดว่าขัดขวางความต้องการของแก ก็เลยเกิดอาการติดหล่มทักษิณคือหลับตาก็เห็นแต่ผม ลืมตาก็เห็นแต่ผม หลอกหลอนแกตลอดเวลา ผมอยากฝากให้คุณพ่อช่วยอภิสิทธิ์อีกครั้ง ช่วยพาแกไปพบจิตแพทย์และคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างวัดพระธรรมกายตอนต้นๆ ได้พาอภิสิทธิ์ไปเอาธรรมไปนั่งสมาธิฝึกปล่อยวางให้ได้ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศครับ เพราะเรื่องของปัญหาทางจิตใช้อภิสิทธิ์แบบการหนีทหารไม่ได้ครับ
ส่วนคู่หูนั้นเป็นคนหน้าด้านแกอยากได้อะไรแกจะต้องเอาให้ได้แกไม่เคารพ ทั้งกฎหมายและศีลธรรมไม่เชื่อลองไปถามคุณพรเทพและคนแถวภูเก็ตดูซิครับ ที่ผมพูดมานี้ก็โทษด้วยนะอยากให้รู้ตัวเอง คนอื่นไม่กล้าพูดเพราะเป็นเด็กถูกตามใจมาทั้งชีวิต ผมยังจำได้แม่นที่ในปี 2537 ต่อ 2538 ผมเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลนายชวน ผู้ร่วมปั้นอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์เป็นโฆษกรัฐบาล ไม่รู้คุณชวนไปขัดใจอะไรแก แกเลยให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ว่าคุณชวนเป็นคนตัวสูงในหมู่คนเตี้ย (the tallest among the short) คุณชวนหมดโอกาสเป็นนายกฯอินเตอร์แล้ว คุณชวนเลยไล่ให้แกไปถามแม่แก คุณอภิสิทธิ์แกจะพูดเป็นพระเอกอยู่ตลอดเวลาเพราะแกมั่นใจในความมีอภิสิทธิ์ของแก
ผมอยากขอจบด้วยหลักของการเป็นคนพุทธครับ ที่เราจะรู้จักคำว่าเมตตาธรรมต่อเพื่อนมนุษย์โดยเฉพาะผู้ยากไร้และคำว่าให้อภัยต่อกันและผมก็พร้อมแม้จะเจ็บ"
ไปหาจิตแพทย์ยังไม่หายผมแนะนำให้ไปวัดครับ...
ทักษิณ" ทวีตอัด "มาร์ค" ไม่เข้าใจคนหาเช้ากินค่ำ แฉสมัยเป็นโฆษก รบ.ให้สัมภาษณ์เหน็บ "ชวน" มาก่อน
"...วันนี้ขอเริ่มด้วยคำสอนท่านพระพุทธทาส ที่ว่า ′จิตวุ่นปัญญาหายจิตว่างปัญญามี′ จิตที่วุ่นมันมักจะเกิดจากความหมกมุ่นในกิเลสที่มาจากโลภ โกรธ หลง ผมพยายามทำความเข้าใจกับพฤติกรรมคุณอภิสิทธิ์ ว่าแกทำไมเหมือนคนไม่ปกติทั้งๆ ที่การศึกษาก็ดีเกิดและโตในประเทศที่มีประชาธิปไตยที่พัฒนาไปไกล ทำไม? ทำไม? คุณอภิสิทธิ์เป็นไปได้ขนาดนี้พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอยกลับไปกลับมา แล้วแต่ตอนแกพูดแกอยากได้อะไรลิ้นแกบิดได้ตลอดไม่มีหลักการอุดมการณ์เลย
คำตอบมีอยู่ 2 ทาง คือทางธรรมและทางจิตวิทยา ทางธรรมคือแกยังปล่อยวางไม่ได้ชีวิตหมกมุ่นกับโลภโกรธหลง แกโกรธเพราะแกไม่สามารถชนะในกติกาได้ทั้งๆ ที่กติกาการเลือกตั้งที่คิดว่าได้เปรียบแล้ว และแกก็หลงที่เป็นนายกฯ และอยากกลับมาเป็นอีกทั้งๆ ที่ทำอะไรก็ไม่เป็น นอกจากพูด แถมไม่อยู่กับร่องกับรอยอีก นอกจากนั้นแกยังมีคู่หูที่เป็นคนที่หน้าด้านคอยยุแกก็เลยเป็นอย่างที่เห็น
ส่วนทางจิตวิทยานั้นยิ่งชัดเพราะแกถูกเลี้ยงดูมาเพื่อเตรียมตัวเป็นนายกฯ ไปเกิด โต และเรียนที่อังกฤษไม่เข้าใจชีวิตของคนหาเช้ากินค่ำ แกเข้าใจแต่ความต้องการของตัวเองเท่านั้น ยิ่งตอนนี้ผมคือคนเดียวที่แกคิดว่าขัดขวางความต้องการของแก ก็เลยเกิดอาการติดหล่มทักษิณคือหลับตาก็เห็นแต่ผม ลืมตาก็เห็นแต่ผม หลอกหลอนแกตลอดเวลา ผมอยากฝากให้คุณพ่อช่วยอภิสิทธิ์อีกครั้ง ช่วยพาแกไปพบจิตแพทย์และคุณแม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมสร้างวัดพระธรรมกายตอนต้นๆ ได้พาอภิสิทธิ์ไปเอาธรรมไปนั่งสมาธิฝึกปล่อยวางให้ได้ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศครับ เพราะเรื่องของปัญหาทางจิตใช้อภิสิทธิ์แบบการหนีทหารไม่ได้ครับ
ส่วนคู่หูนั้นเป็นคนหน้าด้านแกอยากได้อะไรแกจะต้องเอาให้ได้แกไม่เคารพ ทั้งกฎหมายและศีลธรรมไม่เชื่อลองไปถามคุณพรเทพและคนแถวภูเก็ตดูซิครับ ที่ผมพูดมานี้ก็โทษด้วยนะอยากให้รู้ตัวเอง คนอื่นไม่กล้าพูดเพราะเป็นเด็กถูกตามใจมาทั้งชีวิต ผมยังจำได้แม่นที่ในปี 2537 ต่อ 2538 ผมเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศรัฐบาลนายชวน ผู้ร่วมปั้นอภิสิทธิ์ คุณอภิสิทธิ์เป็นโฆษกรัฐบาล ไม่รู้คุณชวนไปขัดใจอะไรแก แกเลยให้สัมภาษณ์บางกอกโพสต์ว่าคุณชวนเป็นคนตัวสูงในหมู่คนเตี้ย (the tallest among the short) คุณชวนหมดโอกาสเป็นนายกฯอินเตอร์แล้ว คุณชวนเลยไล่ให้แกไปถามแม่แก คุณอภิสิทธิ์แกจะพูดเป็นพระเอกอยู่ตลอดเวลาเพราะแกมั่นใจในความมีอภิสิทธิ์ของแก
ผมอยากขอจบด้วยหลักของการเป็นคนพุทธครับ ที่เราจะรู้จักคำว่าเมตตาธรรมต่อเพื่อนมนุษย์โดยเฉพาะผู้ยากไร้และคำว่าให้อภัยต่อกันและผมก็พร้อมแม้จะเจ็บ"
ไปหาจิตแพทย์ยังไม่หายผมแนะนำให้ไปวัดครับ...