ขอสักกระทู้ให้น้องเหมย เผอิญไปอ่านเจอมา คิดว่าน่าทำให้คนที่ไม่ชอบน้องหันมาให้กำลังใจน้องบ้าง

===============
ทุกความพยายามอาจไม่นำพาซึ่งความสำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากความพยายาม หนึ่งตัวอย่างดีๆ ที่เกิดจากความเพียรของ ''เหมย'' พัชราภรณ์ สิทธิศาสตร์ หัวเสาตัวจิ๋วที่เตี้ยที่สุดในประเทศ...นี่คือ คำบอกเล่าของเธอ
ด้วยความพยายามตลอดเกือบ 10 ปี เธอทำเต็มที่ทุกครั้งที่ลงสนาม แม้ต้องเจอกับความกดดันมากขนาดไหน แต่เพราะความพยายามที่ไม่เคยสิ้นสุด ทำให้วันนี้เธอฟันฝ่าอุปสรรค
และผลลัพธ์ของความพยายามนั้น คือ ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันยุวชนทีมชาติไทย นำทัพเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิง รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ชิงแชมป์โลก 2013
ความสำเร็จอีกขั้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นข้ามวัน แต่เธอต้องสะสมมันเป็นเวลากว่า 9 ปี
อย่างไรก็ดี...กว่า ''เหมย-พัชราภรณ์'' จะประสบความสำเร็จ หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เส้นทางของเธอเมื่อ 5 ปีก่อน จะเป็นอย่างไร เราไปรู้จักเธอพร้อมๆ กัน
''เหมย'' เป็นใครมาจากไหน.....?
หนูเป็นเด็กกาฬสินธุ์ เริ่มเล่นกีฬาวอลเลย์บอลตั้งแต่ ป.2 ตอนนั้นวิ่งเก็บบอลเหมือนเด็กบ้านนอกธรรมดา จน ป.3 สมัยก่อนเป็นตัวตั้งเพราะยังเซตไม่เป็น เป็นอยู่ประมาณ 2 ปี กระทั่ง ป.5 เริ่มมาเป็นตัวตี และพอเรียนจบ ป.6 ก็เข้ามาเรียนต่อที่ บดินทรเดชา ตอนนี้เรียนอยู่ ม.5 เล่นในตำแหน่งหัวเสา
เรื่องจดจำในอดีตอะไรได้บ้าง.....?
รอบชิงชนะเลิศวิทยุการบิน ตอนประถมฯ เล่นแพ้ไปร้องไห้อยู่ข้างโรงยิม คือความรู้สึกเราตอนนั้นพยายามเต็มที่แล้ว และก็ยังเด็กๆ เสียใจร้องให้ พยายามเล่นแล้ว ร้องไห้ทุกแมตช์ที่แพ้ แต่ก็คิดว่าเรายังไม่เก่งพอ ฝีมือยังไม่ถึงก็กลับมาซ้อมใหม่ พอจบแมตช์นั้นโดนดึงตัวมาเล่นให้กับโรงเรียน โนนรังเก่าน้อย ที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ถามว่าท้อไหม ไม่ท้อนะคะ คิดว่ายังอยากเล่น และยังเล่นได้อย่างน้อยก็เหลือเวลาให้เล่นอีกตั้งปีก่อนจบประถมฯ
ส่วนที่ได้มาเล่นหัวเสาเพราะตอนหนูขึ้น ป.5 รุ่นพี่เขาจบออกไปหมด เหลือหนูอายุเยอะสุดในทีม แล้วตอนนั้นทั้งทีมหนูตัวโตกว่าคนอื่น เลยได้มาเล่นหัวเสา
เรียนบดินทรเดชาเหมือนนับหนึ่งใหม่มั้ย....?
คือตอนแรกยอมรับว่ากดดัน เพราะเป็นเด็กบ้านนอก และตอนอยู่โรงเรียนประถมฯ หนูซ้อมแค่ตอนเย็นและวันเสาร์-อาทิตย์ ที่มาซ้อมกลางวัน แต่พอมาอยู่บดินทรฯ ตื่นซ้อมตีห้าหรือตีห้าครึ่ง อาบน้ำไปโรงเรียน เรียนเสร็จซ้อมเย็นอีก กดดัน
มาใหม่ๆ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอะไรยังไง ก็มองพี่เขาว่าทำอะไรบ้าง หนูก็ทำตามพี่ และพยายามปฏิบัติในกฎระเบียบ ค่อยๆ ปรับตัว
หลังจากมาเรียนบดินทรฯ แมตช์แรกที่ได้ลงแข่งขันคือ วอลเลย์บอล สพฐ.-สุพรีม รุ่นอายุ 14 ปี และเป็นแชมป์ครั้งแรก ดีใจมาก
เตี้ยแต่ทำไมได้เล่นหัวเสา.....?
โค้ชเคยบอกว่าเพราะหนูกระโดดได้สูง ถึงจะไม่สูงมากแต่ก็พอเล่นตำแหน่งหัวเสาได้ แต่หนูก็เป็นหัวเสาที่เตี้ยที่สุดในประเทศเลยมั้งค่ะ เพราะหนูเตี้ยด้วยเลยต้องพยายามหนักกว่าคนอื่นก็เป็นได้ ต้องใช้ความพยายาม ความอดทนมาก ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว ต้องอยู่ในระเบียบของโรงเรียน เรียนเสร็จซ้อม ซ้อมเสร็จเรียน
ก่อนหน้านี้เป็นลิเบอโร่แต่เป็นแค่แมตช์เดียวคือเยาวชนแห่งชาติ ที่อุตรดิตถ์ ครั้งแรกในชีวิตเลย ตอนนั้นรับบอลไม่ได้ บอลมาหาหนูรับไม่ได้เลย เพราะหนูเป็นคนรับบอลไม่แน่นอน แต่พอจบแมตช์นั้น หนูคิดว่าทำไมตอนเป็นลิเบอโร่ยังรับได้ แต่มาเล่นตัวตีทำไมถึงจะรับไม่ได้
ที่ได้เป็นลิเบอโร่เพราะตอนนั้นตัวโค้งเยอะ แต่ทีมไม่มีลิเบอโร่ คือมีแต่สภาพจิตใจไม่นิ่ง โค้ชคิดว่าหนูประสบการณ์เยอะ ถึงจะไม่เป็น เขาบอกว่าฝึกได้ตอนลงสนามหนูโดนจี้อยู่คนเดียว
แล้วเรื่องเรียนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง....?
เรื่องการเรียนช่วง ม.4 หนูได้เรียนแค่ 2-3 เดือน เพราะติดแข่งขันและซ้อม ตอนนี้ขึ้น ม.5 แต่ยังไม่ได้เรียนเลย หนูเรียนไม่เก่ง หนูก็คิดนะว่าหนูจะเรียนได้หรือเปล่า คือ เรื่องเรียนหนูไม่ได้เลย ถ้าจะอธิบายให้หนูฟังต้องช้าๆ ชัดๆ แต่ถ้าพูดเร็วๆ จะย้อนถามเพื่อนว่าเขาพูดอะไรว่ะ อธิบายหน่อย
การบ้านเสร็จยัง เสร็จแล้วเอามา ขอลอกกับเพื่อน 55555
หนูถนัดด้านกีฬา พระพุทธศาสนา สังคม พอไปได้ แต่พวกตัวเลขไม่จำ ถ้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยคงเรียนเกี่ยวกับกีฬา พลศึกษา แต่ไม่ว่าจะเรียนอะไรต้องพยายามเรียนให้จบ
กัปตันมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง.....?
หนูเคยเป็นกัปตันบ้าง แต่เป็นแค่แมตช์เล็กๆ แต่แมตช์ชิงแชมป์โลกมันใหญ่ มันกดดันไหนจะต้องคอยดูเพื่อน ถามว่าเก็บตัวนานมั้ย เก็บตัวนาน แต่ยังเข้าไม่ถึงเพื่อน เราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ถ้าตะคอกมากไปเพื่อนจะเป็นยัง ตอนแรกบอกตัวเองว่าเป็นกัปตันต้องแน่นอน เล่นอย่าเสียเยอะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็กดดันตัวเอง เลยหาจุดที่เหมาะสม คือต้องทำหน้าที่สองอย่าง หน้าที่กัปตันคือให้กำลังใจเพื่อน พยายามกระตุ้นเพื่อน และหน้าที่ที่สองคือเป็นผู้เล่นที่ดีให้ได้ กระตุ้นตัวเอง ค่อยๆ ปรับอารมณ์ ถึงแม้ตัวเองจะตีเสีย กดดัน แต่ถ้าเราสีหน้าไม่ดี เราเล่นไม่ได้ เพื่อนก็จะให้กำลังใจ เอาใหม่ๆ มันก็โอเคขึ้น
หนูคิดว่าหนูเปลี่ยนไปนะหลังได้รับหน้าที่นี้ จากทีแรกเวลาซ้อมหนูจะไม่พูด ไม่อะไรเลย หนูจะเดินลอยๆ ถึงคิวตัวเองก็เล่น พอออกจากสนามช่วยเก็บบอลเดินลอยๆ แต่พอมาเป็นกัปตันทีมถ้าหนูไม่พูดทุกคนก็จะไม่พูด ฉะนั้นมันทำให้เราเรียนรู้หลายอย่าง กล้าพูด กล้าทำ
วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเอง...?
เวลาที่หนูท้อ คนแรกที่โทร.หาคือแม่ แม่ก็จะปลอบ เขาจะบอกว่าวันนี้อาจยังไม่ดี แต่ทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยให้อดทนเพื่ออนาคต เพราะที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหมือนทำงานไปด้วย อย่าเพิ่งท้อ นอกจากแม่ หนูก็คิดถึงพี่กิ๊ฟ (วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์) เพราะพี่เขาไม่ได้ตัวสูงมาก แต่กระโดดสูง ตีแรง แน่นอนทุกอย่าง ชอบพี่เวลาเล่น คุมเพื่อนดี แต่หนูยังไม่ถึงพี่กิ๊ฟ
แล้วตอนที่เปิดคัดกีฬานักเรียนไทย หนูไปคัดก็ติด พอมาคัดที่ไปจีนเพื่อคัดเลือกมาแข่งขันยุวชนชิงแชมป์โลกก็ติดอีก ทำให้มีกำลัง
ทำความฝันสำเร็จแล้วหรือยัง....?
ตอนเด็กหนูคิดว่าอยากเห็นพี่ทีมชาติสักครั้งในชีวิต และอยากเล่นถึงทีมชาติ แต่พอมาอยู่บดินทรฯ ความฝันมันน้อยลง เพราะหนูตัวเตี้ย เข้ามาทุกคนสูงหมดเลย หนูเตี้ยสุดในรุ่น บอกตัวเองยังไงคงไม่ได้เล่นอาจารย์หน่อง, อาจารย์อั๋นและพี่บัว ให้กำลังใจ หัดให้ตีโค้ง หนูคิดว่าขนาดเราเตี้ยแต่ยังเล่นโค้งได้
หนูคิดว่าสิ่งที่ฝันหนูได้หมดแล้ว มาถึงขนาดนี้หนูทำดีแล้ว หนูคงไม่อยากได้อะไรมากกว่าพยายามที่จะเป็นตัวเอง พยายามเล่นเหมือนเดิม อยากขึ้นไปติดชุดใหญ่ แต่เปอร์เซ็นต์ที่เราจะขึ้นมันน้อย คิดว่าแค่นี้คงพอแล้ว เพราะอย่างน้อยหนูมีโอกาสที่จะได้เข้ามหาวิทยาลัยจากการเป็นนักกีฬา
อยากเล่นต่อมั้ย อยากติดต่อมั้ย อยากติด แต่หนูตัวเตี้ย และอายุมันเพิ่มขึ้น แต่ความสูงมันเท่าเดิม
เพราะความพยายามและความมุ่งมั่น ที่สำคัญเชื่อในตัวเอง ทำให้เธอยังมีพื้นที่ยืนอย่างยิ่งใหญ่ในสนามลูกยาง
เชื่อว่าคนเราหากไม่ทิ้งฝัน ความจริงก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ฉะนั้นจงฝันอยู่เสมอ เพราะความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข แต่ความสุขคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณรักสิ่งที่คุณกำลังทำ คุณจะประสบความสำเร็จ เหมือนเธอ....''เหมย'' พัชราภรณ์ สิทธิศาสตร์
ที่มา : http://www.siamsport.co.th
=============================
รู้จัก ''เหมย'' พัชราภรณ์ สิทธิศาสตร์ จากหัวเสาตัวจิ๋วสู่กัปตันทีมยุวชนโลก
===============
ทุกความพยายามอาจไม่นำพาซึ่งความสำเร็จ แต่ทุกความสำเร็จล้วนเกิดจากความพยายาม หนึ่งตัวอย่างดีๆ ที่เกิดจากความเพียรของ ''เหมย'' พัชราภรณ์ สิทธิศาสตร์ หัวเสาตัวจิ๋วที่เตี้ยที่สุดในประเทศ...นี่คือ คำบอกเล่าของเธอ
ด้วยความพยายามตลอดเกือบ 10 ปี เธอทำเต็มที่ทุกครั้งที่ลงสนาม แม้ต้องเจอกับความกดดันมากขนาดไหน แต่เพราะความพยายามที่ไม่เคยสิ้นสุด ทำให้วันนี้เธอฟันฝ่าอุปสรรค
และผลลัพธ์ของความพยายามนั้น คือ ก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันยุวชนทีมชาติไทย นำทัพเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลยุวชนหญิง รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ชิงแชมป์โลก 2013
ความสำเร็จอีกขั้นที่ไม่ได้เกิดขึ้นข้ามวัน แต่เธอต้องสะสมมันเป็นเวลากว่า 9 ปี
อย่างไรก็ดี...กว่า ''เหมย-พัชราภรณ์'' จะประสบความสำเร็จ หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เส้นทางของเธอเมื่อ 5 ปีก่อน จะเป็นอย่างไร เราไปรู้จักเธอพร้อมๆ กัน
''เหมย'' เป็นใครมาจากไหน.....?
หนูเป็นเด็กกาฬสินธุ์ เริ่มเล่นกีฬาวอลเลย์บอลตั้งแต่ ป.2 ตอนนั้นวิ่งเก็บบอลเหมือนเด็กบ้านนอกธรรมดา จน ป.3 สมัยก่อนเป็นตัวตั้งเพราะยังเซตไม่เป็น เป็นอยู่ประมาณ 2 ปี กระทั่ง ป.5 เริ่มมาเป็นตัวตี และพอเรียนจบ ป.6 ก็เข้ามาเรียนต่อที่ บดินทรเดชา ตอนนี้เรียนอยู่ ม.5 เล่นในตำแหน่งหัวเสา
เรื่องจดจำในอดีตอะไรได้บ้าง.....?
รอบชิงชนะเลิศวิทยุการบิน ตอนประถมฯ เล่นแพ้ไปร้องไห้อยู่ข้างโรงยิม คือความรู้สึกเราตอนนั้นพยายามเต็มที่แล้ว และก็ยังเด็กๆ เสียใจร้องให้ พยายามเล่นแล้ว ร้องไห้ทุกแมตช์ที่แพ้ แต่ก็คิดว่าเรายังไม่เก่งพอ ฝีมือยังไม่ถึงก็กลับมาซ้อมใหม่ พอจบแมตช์นั้นโดนดึงตัวมาเล่นให้กับโรงเรียน โนนรังเก่าน้อย ที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ถามว่าท้อไหม ไม่ท้อนะคะ คิดว่ายังอยากเล่น และยังเล่นได้อย่างน้อยก็เหลือเวลาให้เล่นอีกตั้งปีก่อนจบประถมฯ
ส่วนที่ได้มาเล่นหัวเสาเพราะตอนหนูขึ้น ป.5 รุ่นพี่เขาจบออกไปหมด เหลือหนูอายุเยอะสุดในทีม แล้วตอนนั้นทั้งทีมหนูตัวโตกว่าคนอื่น เลยได้มาเล่นหัวเสา
เรียนบดินทรเดชาเหมือนนับหนึ่งใหม่มั้ย....?
คือตอนแรกยอมรับว่ากดดัน เพราะเป็นเด็กบ้านนอก และตอนอยู่โรงเรียนประถมฯ หนูซ้อมแค่ตอนเย็นและวันเสาร์-อาทิตย์ ที่มาซ้อมกลางวัน แต่พอมาอยู่บดินทรฯ ตื่นซ้อมตีห้าหรือตีห้าครึ่ง อาบน้ำไปโรงเรียน เรียนเสร็จซ้อมเย็นอีก กดดัน
มาใหม่ๆ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอะไรยังไง ก็มองพี่เขาว่าทำอะไรบ้าง หนูก็ทำตามพี่ และพยายามปฏิบัติในกฎระเบียบ ค่อยๆ ปรับตัว
หลังจากมาเรียนบดินทรฯ แมตช์แรกที่ได้ลงแข่งขันคือ วอลเลย์บอล สพฐ.-สุพรีม รุ่นอายุ 14 ปี และเป็นแชมป์ครั้งแรก ดีใจมาก
เตี้ยแต่ทำไมได้เล่นหัวเสา.....?
โค้ชเคยบอกว่าเพราะหนูกระโดดได้สูง ถึงจะไม่สูงมากแต่ก็พอเล่นตำแหน่งหัวเสาได้ แต่หนูก็เป็นหัวเสาที่เตี้ยที่สุดในประเทศเลยมั้งค่ะ เพราะหนูเตี้ยด้วยเลยต้องพยายามหนักกว่าคนอื่นก็เป็นได้ ต้องใช้ความพยายาม ความอดทนมาก ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัว ต้องอยู่ในระเบียบของโรงเรียน เรียนเสร็จซ้อม ซ้อมเสร็จเรียน
ก่อนหน้านี้เป็นลิเบอโร่แต่เป็นแค่แมตช์เดียวคือเยาวชนแห่งชาติ ที่อุตรดิตถ์ ครั้งแรกในชีวิตเลย ตอนนั้นรับบอลไม่ได้ บอลมาหาหนูรับไม่ได้เลย เพราะหนูเป็นคนรับบอลไม่แน่นอน แต่พอจบแมตช์นั้น หนูคิดว่าทำไมตอนเป็นลิเบอโร่ยังรับได้ แต่มาเล่นตัวตีทำไมถึงจะรับไม่ได้
ที่ได้เป็นลิเบอโร่เพราะตอนนั้นตัวโค้งเยอะ แต่ทีมไม่มีลิเบอโร่ คือมีแต่สภาพจิตใจไม่นิ่ง โค้ชคิดว่าหนูประสบการณ์เยอะ ถึงจะไม่เป็น เขาบอกว่าฝึกได้ตอนลงสนามหนูโดนจี้อยู่คนเดียว
แล้วเรื่องเรียนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง....?
เรื่องการเรียนช่วง ม.4 หนูได้เรียนแค่ 2-3 เดือน เพราะติดแข่งขันและซ้อม ตอนนี้ขึ้น ม.5 แต่ยังไม่ได้เรียนเลย หนูเรียนไม่เก่ง หนูก็คิดนะว่าหนูจะเรียนได้หรือเปล่า คือ เรื่องเรียนหนูไม่ได้เลย ถ้าจะอธิบายให้หนูฟังต้องช้าๆ ชัดๆ แต่ถ้าพูดเร็วๆ จะย้อนถามเพื่อนว่าเขาพูดอะไรว่ะ อธิบายหน่อย
การบ้านเสร็จยัง เสร็จแล้วเอามา ขอลอกกับเพื่อน 55555
หนูถนัดด้านกีฬา พระพุทธศาสนา สังคม พอไปได้ แต่พวกตัวเลขไม่จำ ถ้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยคงเรียนเกี่ยวกับกีฬา พลศึกษา แต่ไม่ว่าจะเรียนอะไรต้องพยายามเรียนให้จบ
กัปตันมีหน้าที่ต้องทำอะไรบ้าง.....?
หนูเคยเป็นกัปตันบ้าง แต่เป็นแค่แมตช์เล็กๆ แต่แมตช์ชิงแชมป์โลกมันใหญ่ มันกดดันไหนจะต้องคอยดูเพื่อน ถามว่าเก็บตัวนานมั้ย เก็บตัวนาน แต่ยังเข้าไม่ถึงเพื่อน เราไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ถ้าตะคอกมากไปเพื่อนจะเป็นยัง ตอนแรกบอกตัวเองว่าเป็นกัปตันต้องแน่นอน เล่นอย่าเสียเยอะ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็กดดันตัวเอง เลยหาจุดที่เหมาะสม คือต้องทำหน้าที่สองอย่าง หน้าที่กัปตันคือให้กำลังใจเพื่อน พยายามกระตุ้นเพื่อน และหน้าที่ที่สองคือเป็นผู้เล่นที่ดีให้ได้ กระตุ้นตัวเอง ค่อยๆ ปรับอารมณ์ ถึงแม้ตัวเองจะตีเสีย กดดัน แต่ถ้าเราสีหน้าไม่ดี เราเล่นไม่ได้ เพื่อนก็จะให้กำลังใจ เอาใหม่ๆ มันก็โอเคขึ้น
หนูคิดว่าหนูเปลี่ยนไปนะหลังได้รับหน้าที่นี้ จากทีแรกเวลาซ้อมหนูจะไม่พูด ไม่อะไรเลย หนูจะเดินลอยๆ ถึงคิวตัวเองก็เล่น พอออกจากสนามช่วยเก็บบอลเดินลอยๆ แต่พอมาเป็นกัปตันทีมถ้าหนูไม่พูดทุกคนก็จะไม่พูด ฉะนั้นมันทำให้เราเรียนรู้หลายอย่าง กล้าพูด กล้าทำ
วิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเอง...?
เวลาที่หนูท้อ คนแรกที่โทร.หาคือแม่ แม่ก็จะปลอบ เขาจะบอกว่าวันนี้อาจยังไม่ดี แต่ทำไปเรื่อยๆ เหนื่อยให้อดทนเพื่ออนาคต เพราะที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหมือนทำงานไปด้วย อย่าเพิ่งท้อ นอกจากแม่ หนูก็คิดถึงพี่กิ๊ฟ (วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์) เพราะพี่เขาไม่ได้ตัวสูงมาก แต่กระโดดสูง ตีแรง แน่นอนทุกอย่าง ชอบพี่เวลาเล่น คุมเพื่อนดี แต่หนูยังไม่ถึงพี่กิ๊ฟ
แล้วตอนที่เปิดคัดกีฬานักเรียนไทย หนูไปคัดก็ติด พอมาคัดที่ไปจีนเพื่อคัดเลือกมาแข่งขันยุวชนชิงแชมป์โลกก็ติดอีก ทำให้มีกำลัง
ทำความฝันสำเร็จแล้วหรือยัง....?
ตอนเด็กหนูคิดว่าอยากเห็นพี่ทีมชาติสักครั้งในชีวิต และอยากเล่นถึงทีมชาติ แต่พอมาอยู่บดินทรฯ ความฝันมันน้อยลง เพราะหนูตัวเตี้ย เข้ามาทุกคนสูงหมดเลย หนูเตี้ยสุดในรุ่น บอกตัวเองยังไงคงไม่ได้เล่นอาจารย์หน่อง, อาจารย์อั๋นและพี่บัว ให้กำลังใจ หัดให้ตีโค้ง หนูคิดว่าขนาดเราเตี้ยแต่ยังเล่นโค้งได้
หนูคิดว่าสิ่งที่ฝันหนูได้หมดแล้ว มาถึงขนาดนี้หนูทำดีแล้ว หนูคงไม่อยากได้อะไรมากกว่าพยายามที่จะเป็นตัวเอง พยายามเล่นเหมือนเดิม อยากขึ้นไปติดชุดใหญ่ แต่เปอร์เซ็นต์ที่เราจะขึ้นมันน้อย คิดว่าแค่นี้คงพอแล้ว เพราะอย่างน้อยหนูมีโอกาสที่จะได้เข้ามหาวิทยาลัยจากการเป็นนักกีฬา
อยากเล่นต่อมั้ย อยากติดต่อมั้ย อยากติด แต่หนูตัวเตี้ย และอายุมันเพิ่มขึ้น แต่ความสูงมันเท่าเดิม
เพราะความพยายามและความมุ่งมั่น ที่สำคัญเชื่อในตัวเอง ทำให้เธอยังมีพื้นที่ยืนอย่างยิ่งใหญ่ในสนามลูกยาง
เชื่อว่าคนเราหากไม่ทิ้งฝัน ความจริงก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
ฉะนั้นจงฝันอยู่เสมอ เพราะความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข แต่ความสุขคือกุญแจสู่ความสำเร็จ ถ้าคุณรักสิ่งที่คุณกำลังทำ คุณจะประสบความสำเร็จ เหมือนเธอ....''เหมย'' พัชราภรณ์ สิทธิศาสตร์
ที่มา : http://www.siamsport.co.th
=============================