บางทีฝนตกหนักๆ การเปิดไฟฉุกเฉินก็ทำให้ขับรถง่ายขึ้นเหมือนกันนะครับ

คือเข้าใจมาตลอดครับ ว่าไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉิน นอกจากรถเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น และก็ทำมาโดยตลอด รวมถึงยังคอยแนะนำเพื่อนๆว่าอย่าเปิดพร่ำเพรื่อ  ยอมรับว่าเมื่อก่อนยังเคยเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อขับรถตรงผ่านแยก  แต่ก็เลิกและไม่เคยใช้มาเลย รวมทั้งไฟตัดหมอก  จนกระทั่งเมื่อวานได้ขับรถไปทางถนนพระราม2 ก่อนถึงแยกวังมะนาว ฝนตกหนักมากๆ และหนักขึ้นเรื่อยๆจนข้างหน้าขาวไปหมดขนาดปัดน้ำฝนความเร็วสูงสุดยังมองไม่ค่อยชัด  ผมเปิดไฟหน้าขับแทบจะมองรถคันข้างหน้าไม่เห็นนอกจากจะมีไฟเบรคขึ้นแต่คันที่เปิดไฟฉุกเฉินผมจะเห็นได้ชัด มีหลายคันเปิดไฟฉุกเฉินไว้ผมเองก็คิดว่าเราเปิดไฟหน้าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปิดฉุกเฉิน  และขับด้วยความเร็วประมาณ 40-50 ตลอด   อยากจะตัดสินใจจอดข้างทางแต่ก็มองไม่เห็นสภาพถนนข้างทางเลยว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งกลัวสิบล้อจะมาเสยเอาเลยว่าจะขับไปถึงปั๊มแล้วค่อยพัก ยังไม่ทันไรมีเสียง แกร้ก!!  สะเทือนมาที่ด้านหลัง รู้เลยว่าโดนชนท้ายและต้องลงมาคุยกับคู่กรณีกลางฝน   คู่กรณีเป็นชายกลางคนลงมายกมือไหว้ขอโทษผมก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร เพียงแค่เสียดาย T^T รถผมยังป้ายแดงอยู่เลย  ถามพี่เค้าว่าทำไมมองไม่เห็นเหรอ เค้าบอกว่ามองไม่เห็นจริงๆ คือตอนชนพี่เค้ายังไม่ได้แตะเบรคเลยด้วยซ้ำ  แต่ผมก็เข้าใจพี่เค้าเพราะทัศนวิสัยมันแย่จริงๆ และรถก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก รถผมเป็นกระบะยกสูง พี่เค้าขับ vios  ตอนขับกลับผมยังกลับมาคิดว่าถ้าตอนนั้นผมเปิดไฟฉุกเฉินไว้คงจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เลยคิดว่าบางทีเราก็คงต้องดูสถานการณ์เป็นหลักว่าอะไรควร อย่าไปยึดติดเรื่องถูกหรือผิดมากเกินไป  หากใครมีไอเดียดีๆเวลาเจอฝนตกลงมาเป็นห่าก็แนะนำกันได้นะครับ  ช่วงนี้หน้าฝนจะได้ใช้รถกันอย่างระมัดระวังครับ