ตอนนี้หนูประสบปัญหาเรื่องอารมณ์ของคุณแม่มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หนูไม่ทราบว่ามันคืออารมณ์ปรกติของคนวัยทองรึป่าวนะคะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงขอเล่าให้ฟังนะคะ
มันมีหลายเหตุการณ์มากและมันทำให้หนูเปลี่ยนนิสัยไปเลยค่ะ เมื่อก่อนหนูจะใจร้อนชอบเถียง และ เหวี่ยงมาก
แต่ตอนนี้ใจเย็นมากกกก แม่พูดหรือด่าอะไรหนูก็จะยิ้มเฉยๆ(แต่ในใจร้องไห้นะคะเพราะเสียใจมาก)
เริ่มเหตุการณ์แรก คือปรกติหนูจะช่วยแม่ทำงานบ้านเป็นประจำค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม่จะบอกว่า ดีมากช่วยแม่ได้เยอะเลย(ปัจจุบันตอนนี้แม่หนูอายุ56ค่ะ) แต่เดี๋ยวนี้ไม่พูดอย่างนั้นแล้ว ซึ่งหนูก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะหนูไม่ได้ช่วยแม่เพื่อคำชม แต่มันน้อยใจมากเวลาทำอะไรพลาดแค่นิดเดียวเช่น เวลาล้างจานปกติจำเทเศษอาหารออกให้หมดก่อน แต่วันนั้นจานมันซ้อนกันหนูเลยไม่เห็นว่ามีเศษอาหารหนูก็เปิดน้ำล้างตามปกติ พอแม่มาเห็นเท่านั้นแหละดุหนูเหมือนหนูเป็นลูกอกตัญญู พูดประมาณว่าทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเวลาจะทำอะไร แม่ต้องคอยเป็นคนใช้เก็บกวาดสิ่งที่ลูกทำไว้ตลอดเลยใช่มั้ย? อ๋อ!ลืมไปลูกมันเป็นพระเจ้า พอหนูพูดไปว่า หนูลืมดู แค่นี้แม่ก็โมโหแล้วบอกว่า พูดอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลยนะ เถียงคำไม่ตกฟาก ต่อไปจะไม่ยุ่งอะไรแล้วจะไม่พูดไม่บ่นแล้วพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ แล้วก็เดินออกไป
(กระทู้ยาวหน่อยนะคะ ขอโทษด้วย)
เหตุการณ์ต่อมาคือวันนั้นหนูตื่นสายค่ะ ปกติหนูจะตื่น6โมง ไม่เกิน6.15 แต่วันนั้นตื่นประมาณ7โมงกว่าๆ พอเดินลงมาหาเเม่ที่ในครัวเพื่อจะมาช่วยทำกับข้าวแม่ก็ไม่ยอมคุยกับหนูอถามอะไรก็ไม่ตอบ หนูก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวจะโดนดุอีกก็เลยนั่งรอเผื่อแม่มีอะไรให้ช่วย พอผ่านไปสักพักแม่ก็พูดลอยๆขึ้นมาว่า บ้านนี้มีแต่คนเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ไม่เคยมีใครมาช่วยชั้นเลย!! แล้วก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้านไป โทรไปก็ไม่รับ คือแม่ไปอยู่บ้านคุณยายค่ะ พอหนูโทรเข้าบ้านคุณยายแม่ก็ไม่ยอมมาคุยด้วยหนูก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะวันนั้นหนูต้องกลับไปอยู่หอพักแล้ว กว่าจะได้กลับบ้านอีกทีก็วันศุกร์เลยแต่แม่ไม่ยอมคุยกับหนู ไม่ไปส่งหนูที่หอพัก มันทำให้หนูไม่มีกำลังใจในการเรียนเพราะต้องคอยมากังวลว่าแม่จะหายโกรธรึยัง จะพูดตรงๆกับแม่ก็ไม่ได้เดี๋ยวงอนอีก(เคยพูดเรื่องวัยทองกับแม่แล้วค่ะ แต่แม่ไม่ยอมรับเลยทำให้หนูไม่แน่ใจว่าแม่อยู่ในวัยทองรึป่าว) แล้วก็ชอบพูดว่าถ้าแม่ตายไปคงจะดีสินะ ตลอดเลยค่ะ
หนูเลยอยากถามผู้รู้ดังนี้
1. อาการแบบนี้แม่อยู่ในวัยทองรึป่าวคะ? (คือหงุดหงิดง่ายมากค่ะ แต่ไม่มีอาการอื่นๆรวมนะคะเช่นครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนวูบวาบฯ)
2. หนูควรจะทำยังไงกับอารมณ์ของแม่ดีคะ? ถ้าหนูทนเก็บเอาไว้นานๆหนูคิดว่าตัวเองมีสิทธิเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เพราะปัจจุบันนั่งอยู่เฉยๆก็ร้องไห้แล้ว
3. อาการวัยทองจะมีโอกาสหายมั้ยคะ?? แล้วเมื่อไร??
4. ถ้านี่ไม่ใช่อาการของคนวัยทอง แต่เป็นเพราะอารมณ์ของแม่เองหนูควรจะทำยังไงคะ? (พาไปทำบุญบ่อยมาก แต่ก็ยังเป็นอยู่เลย ไม่กล้าบอกว่าจะพาไปหาหมอเดี๋ยวแม่โกรธอีก)
****ตอนนี้เวลาแม่โมโหหรือโกรธใครมาจะมาลงที่หนูตลอด หนูก็พยายามไม่พูดโต้ตอบเพราะรู้ว่าจะยิ่งทำให้แม่โมโห แต่จะพูดเรื่องตลกๆให้แม่ขำแทนจะได้ไม่เครียด อีกอย่างถึงหน้าหนูจะยิ้มให้แม่ แต่หนูแอบไปนั่งร้องไห้บ่อยมาก ทั้งๆที่ทำทุกอย่างเพื่อแม่ แต่แม่ยังหาว่าหนูเห็นแก่ตัวตลอดเลยค่ะ หนูเสียใจมากไม่รู้จะทำยังไง ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ****
ผู้รู้เรื่องวัยทองขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
หนูไม่ทราบว่ามันคืออารมณ์ปรกติของคนวัยทองรึป่าวนะคะ ไม่รู้จะอธิบายยังไงขอเล่าให้ฟังนะคะ
มันมีหลายเหตุการณ์มากและมันทำให้หนูเปลี่ยนนิสัยไปเลยค่ะ เมื่อก่อนหนูจะใจร้อนชอบเถียง และ เหวี่ยงมาก
แต่ตอนนี้ใจเย็นมากกกก แม่พูดหรือด่าอะไรหนูก็จะยิ้มเฉยๆ(แต่ในใจร้องไห้นะคะเพราะเสียใจมาก)
เริ่มเหตุการณ์แรก คือปรกติหนูจะช่วยแม่ทำงานบ้านเป็นประจำค่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม่จะบอกว่า ดีมากช่วยแม่ได้เยอะเลย(ปัจจุบันตอนนี้แม่หนูอายุ56ค่ะ) แต่เดี๋ยวนี้ไม่พูดอย่างนั้นแล้ว ซึ่งหนูก็ไม่ได้ติดใจอะไรเพราะหนูไม่ได้ช่วยแม่เพื่อคำชม แต่มันน้อยใจมากเวลาทำอะไรพลาดแค่นิดเดียวเช่น เวลาล้างจานปกติจำเทเศษอาหารออกให้หมดก่อน แต่วันนั้นจานมันซ้อนกันหนูเลยไม่เห็นว่ามีเศษอาหารหนูก็เปิดน้ำล้างตามปกติ พอแม่มาเห็นเท่านั้นแหละดุหนูเหมือนหนูเป็นลูกอกตัญญู พูดประมาณว่าทำไมไม่ดูให้ดีก่อนเวลาจะทำอะไร แม่ต้องคอยเป็นคนใช้เก็บกวาดสิ่งที่ลูกทำไว้ตลอดเลยใช่มั้ย? อ๋อ!ลืมไปลูกมันเป็นพระเจ้า พอหนูพูดไปว่า หนูลืมดู แค่นี้แม่ก็โมโหแล้วบอกว่า พูดอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลยนะ เถียงคำไม่ตกฟาก ต่อไปจะไม่ยุ่งอะไรแล้วจะไม่พูดไม่บ่นแล้วพูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ แล้วก็เดินออกไป
(กระทู้ยาวหน่อยนะคะ ขอโทษด้วย)
เหตุการณ์ต่อมาคือวันนั้นหนูตื่นสายค่ะ ปกติหนูจะตื่น6โมง ไม่เกิน6.15 แต่วันนั้นตื่นประมาณ7โมงกว่าๆ พอเดินลงมาหาเเม่ที่ในครัวเพื่อจะมาช่วยทำกับข้าวแม่ก็ไม่ยอมคุยกับหนูอถามอะไรก็ไม่ตอบ หนูก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวจะโดนดุอีกก็เลยนั่งรอเผื่อแม่มีอะไรให้ช่วย พอผ่านไปสักพักแม่ก็พูดลอยๆขึ้นมาว่า บ้านนี้มีแต่คนเห็นแก่ตัวทั้งนั้น ไม่เคยมีใครมาช่วยชั้นเลย!! แล้วก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าออกจากบ้านไป โทรไปก็ไม่รับ คือแม่ไปอยู่บ้านคุณยายค่ะ พอหนูโทรเข้าบ้านคุณยายแม่ก็ไม่ยอมมาคุยด้วยหนูก็ไม่รู้จะทำยังไงเพราะวันนั้นหนูต้องกลับไปอยู่หอพักแล้ว กว่าจะได้กลับบ้านอีกทีก็วันศุกร์เลยแต่แม่ไม่ยอมคุยกับหนู ไม่ไปส่งหนูที่หอพัก มันทำให้หนูไม่มีกำลังใจในการเรียนเพราะต้องคอยมากังวลว่าแม่จะหายโกรธรึยัง จะพูดตรงๆกับแม่ก็ไม่ได้เดี๋ยวงอนอีก(เคยพูดเรื่องวัยทองกับแม่แล้วค่ะ แต่แม่ไม่ยอมรับเลยทำให้หนูไม่แน่ใจว่าแม่อยู่ในวัยทองรึป่าว) แล้วก็ชอบพูดว่าถ้าแม่ตายไปคงจะดีสินะ ตลอดเลยค่ะ
หนูเลยอยากถามผู้รู้ดังนี้
1. อาการแบบนี้แม่อยู่ในวัยทองรึป่าวคะ? (คือหงุดหงิดง่ายมากค่ะ แต่ไม่มีอาการอื่นๆรวมนะคะเช่นครั่นเนื้อครั่นตัว ร้อนวูบวาบฯ)
2. หนูควรจะทำยังไงกับอารมณ์ของแม่ดีคะ? ถ้าหนูทนเก็บเอาไว้นานๆหนูคิดว่าตัวเองมีสิทธิเป็นโรคซึมเศร้าค่ะ เพราะปัจจุบันนั่งอยู่เฉยๆก็ร้องไห้แล้ว
3. อาการวัยทองจะมีโอกาสหายมั้ยคะ?? แล้วเมื่อไร??
4. ถ้านี่ไม่ใช่อาการของคนวัยทอง แต่เป็นเพราะอารมณ์ของแม่เองหนูควรจะทำยังไงคะ? (พาไปทำบุญบ่อยมาก แต่ก็ยังเป็นอยู่เลย ไม่กล้าบอกว่าจะพาไปหาหมอเดี๋ยวแม่โกรธอีก)
****ตอนนี้เวลาแม่โมโหหรือโกรธใครมาจะมาลงที่หนูตลอด หนูก็พยายามไม่พูดโต้ตอบเพราะรู้ว่าจะยิ่งทำให้แม่โมโห แต่จะพูดเรื่องตลกๆให้แม่ขำแทนจะได้ไม่เครียด อีกอย่างถึงหน้าหนูจะยิ้มให้แม่ แต่หนูแอบไปนั่งร้องไห้บ่อยมาก ทั้งๆที่ทำทุกอย่างเพื่อแม่ แต่แม่ยังหาว่าหนูเห็นแก่ตัวตลอดเลยค่ะ หนูเสียใจมากไม่รู้จะทำยังไง ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ****