การเมือง : ข่าวทั่วไป
วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2556
ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภาสัญญาณชัด!โต๊ะเจรจาใต้ล่ม
ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภา สัญญาณชัด!โต๊ะเจรจาใต้ล่ม : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน
แม้กลุ่มบีอาร์เอ็นจะมีแถลงการณ์ผ่านผู้อำนวยความสะดวก คือ ประเทศมาเลเซีย เพื่อลดเหตุรุนแรงรายวันในช่วง 40 วันของเดือนรอมฎอน แต่จากเหตุซุ่มยิงลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ และการเผาทำลายทรัพย์สินของเอกชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ข้อตกลงไม่สามารถปฏิบัติได้จริง
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระดับสูงวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ข้อตกลงหยุดยิง หรือลดเหตุรุนแรงที่ผ่านมาไม่สามารถปฏิบัติได้จริงแม้แต่ครั้งเดียว เกิดจากกลุ่มขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ไม่ได้มีแค่บีอาร์เอ็นเพียงกลุ่มเดียว แต่มีกลุ่มอื่นด้วย ทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวมานานหลายสิบปี และกลุ่มที่แยกตัวมาจากบีอาร์เอ็น เพราะไม่พอใจที่ไปเจรจากับรัฐบาลไทย
สำหรับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ขณะนี้มี 5 กลุ่ม 1.กลุ่มบีอาร์เอ็น (โคออดิเนต) 2.กลุ่ม GMIP (มูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี) 3.กลุ่ม Jihad patani army (ทหารนักรบญิฮาดปัตตานี) 4.กลุ่มพูโล และ 5.กลุ่มอัล-ไกดา (ที่ให้การสนับสนุนผ่านกลุ่มเจไอ)
เขามองว่า จุดเริ่มต้นในการเจรจาสันติภาพไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น เพราะมีการ "บังคับ" ให้กลุ่มบีอาร์เอ็นเข้ามาเจรจา ไม่ใช่เกิดจากความสมัครใจ โดยหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินเกมประสานมาเลเซียให้ช่วยในการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ตำรวจสันติบาลมาเลเซีย และสันติบาลไทยก็มีการประสานงานกันเพื่อหาแกนนำบีอาร์เอ็นมาเจรจา
โดยสันติบาลมาเลย์เลือก นายฮัสซัน ตอยิบ เพราะเป็นแกนนำบีอาร์เอ็นที่มีสายสัมพันธ์กันอยู่ โดยนายฮัสซันมีตำแหน่งเป็น "ประธานสภา" ของบีอาร์เอ็น มีหน้าที่ในการประชุมกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ของกลุ่ม มี นายสะแปอิง บาซอ เป็น เลขาธิการบีอาร์เอ็น และมี นายมะแซ อุเซ็ง เป็น รมว.กลาโหม มีอำนาจควบคุมสั่งการกองกำลัง
"กลุ่มบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะนายสะแปอิง และนายมะแซ ไม่ได้เห็นด้วยในการเจรจาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เจรจากันมาไม่เคยปรากฏผลเป็นรูปธรรมเลยสักข้อ และตอนนี้นายฮัสซันก็ถูกปลดจากตำแหน่งประธานสภา ถือว่าหมดเครดิตไปแล้ว ขณะที่กลุ่มในพื้นที่ก็มีการก่อเหตุรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแสดงศักยภาพในการล้มโต๊ะเจรจา"
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงคนเดิมระบุว่า การเลือก "มาเลเซีย" มาเป็นคนกลางในการเจรจา และใช้แกนนำที่อาศัยอยู่ในมาเลเซียเป็นตัวแทนการเจรจานั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมาก เพราะแกนนำในมาเลเซียไม่เคยมีบทบาทในการสั่งการ "กองกำลัง" ในพื้นที่มาก่อน
"มาเลเซียเป็นเพียงแหล่งพักพิงของแกนนำเท่านั้น และพื้นที่บางส่วน มาเลย์เองก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ เปรียบไปก็คล้ายรัฐบาลไทยกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาแกนนำในมาเลเซียสั่งกองกำลังในพื้นที่ไม่ได้ เพราะมาเลย์ไม่ได้มีสายกำลังรบ แต่สายกำลังรบมาจากอีก 2 ชาติในอาเซียน"
เขาเตือนว่า ให้ระวังในช่วง 7-8 วันสุดท้ายของช่วงเดือนรอมฎอน เพราะทางกลุ่มกองกำลังในพื้นที่เตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ด้วย "คาร์บอมบ์" โดยมีเป้าหมายที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อทำลายเศรษฐกิจ และเป็นการก่อเหตุในเชิง "สัญลักษณ์" อีกด้วย
"รัฐปัตตานี" ในความหมายของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา รวมทั้ง 2 รัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย โดยมี "ปัตตานี" เป็น "เมืองหลวง" ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน มีการฟอร์มทีมนายกฯ และครม. ไว้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น การก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพในเชิงสัญลักษณ์ จึงต้องเลือกปัตตานีเป็นอันดับแรก แต่เขาไม่มั่นใจว่า ทางการจะสามารถป้องกันได้หรือไม่ เพราะการควบคุมสั่งการกองกำลังในพื้นที่ "ไม่เป็นเอกภาพ" และทหารก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่ผ่าน "กฎอัยการศึก" จึงไม่สามารถบล็อกพื้นที่ได้ จนทำให้เกิดการสูญเสียรายวัน
"ยกตัวอย่างการนำตำรวจและอส.ดูแลเขตเมือง ส่วนทหารดูแลเขตรอบนอก ทำให้มีช่องโหว่ เพราะการปฏิบัติของแต่ละหน่วยแตกต่างกัน ขณะที่ทหารไม่สามารถใช้กฎอัยการศึกและประกาศเคอร์ฟิวเพื่อบล็อกพื้นที่ได้ ฝ่ายนั้นจึงเข้าไปวางระเบิดตอนกลางคืนได้อย่างสบาย" ผู้เชี่ยวชาญคนเดิม กล่าว
เขายังชี้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างต่อเนื่องด้วยว่า เกิดจากกองกำลังแต่ละชุด แต่ละกองร้อย ไม่ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ ยกตัวอย่างเช่น เวลาชุดหนึ่งถูกโจมตี จะมีเพียงชุดติดตามเท่านั้นที่ทราบเหตุและออกติดตาม ขณะที่กองร้อยใกล้เคียงแทบจะไม่มีบทบาทในการช่วยบล็อกพื้นที่ทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้ตลอด
นอกจากนี้กองทัพยังไม่ได้ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อสแกนในพื้นที่ "ภูเขา" อย่างเต็มที่ เพราะทุกวันนี้แกนนำระดับสูงและกองกำลังระดับปฏิบัติการล้วนซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขาสูงทั้งสิ้น เช่น ยุทธการเขาตะเว จ.นราธิวาส ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ก็เจอกองกำลัง 10 กว่าคน และหากทุ่มเทกำลังกวาดล้างอย่างเต็มที่ เชื่อได้ว่าจะกวาดล้างได้อีกมาก
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้เหตุการณ์ภาคใต้ "จบ" ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองและรัฐบาลน้องสาว แต่ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่า ยิ่งทำยิ่งเกิดความรุนแรง เพราะใช้คนที่ไม่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง
ขณะที่กลุ่มบีอาร์เอ็นได้รับการ "ยกระดับ" ให้เป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ ทั้งที่แทบจะไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ของความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโดยสิ้นเชิง
...................................
(หมายเหตุ : ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภาสัญญาณชัด! โต๊ะเจรจาใต้ล่ม : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน)
คนอ่าน 1695 คน
ลิงค์ข่าว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.komchadluek.net/detail/20130804/165024/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%98.%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94!%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%8A%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1.html#.Uf3lfqyaNIs
ปลด'ฮัสซัน'พ้น ปธ.สภา สัญญาณชัด! โต๊ะเจรจาใต้ล่ม
วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม 2556
ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภาสัญญาณชัด!โต๊ะเจรจาใต้ล่ม
ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภา สัญญาณชัด!โต๊ะเจรจาใต้ล่ม : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน
แม้กลุ่มบีอาร์เอ็นจะมีแถลงการณ์ผ่านผู้อำนวยความสะดวก คือ ประเทศมาเลเซีย เพื่อลดเหตุรุนแรงรายวันในช่วง 40 วันของเดือนรอมฎอน แต่จากเหตุซุ่มยิงลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธิ์ และการเผาทำลายทรัพย์สินของเอกชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ในช่วงท้ายของเดือนรอมฎอนเป็นข้อพิสูจน์ว่า ข้อตกลงไม่สามารถปฏิบัติได้จริง
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระดับสูงวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ข้อตกลงหยุดยิง หรือลดเหตุรุนแรงที่ผ่านมาไม่สามารถปฏิบัติได้จริงแม้แต่ครั้งเดียว เกิดจากกลุ่มขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ไม่ได้มีแค่บีอาร์เอ็นเพียงกลุ่มเดียว แต่มีกลุ่มอื่นด้วย ทั้งกลุ่มที่เคลื่อนไหวมานานหลายสิบปี และกลุ่มที่แยกตัวมาจากบีอาร์เอ็น เพราะไม่พอใจที่ไปเจรจากับรัฐบาลไทย
สำหรับกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ขณะนี้มี 5 กลุ่ม 1.กลุ่มบีอาร์เอ็น (โคออดิเนต) 2.กลุ่ม GMIP (มูจาฮีดีนอิสลามปัตตานี) 3.กลุ่ม Jihad patani army (ทหารนักรบญิฮาดปัตตานี) 4.กลุ่มพูโล และ 5.กลุ่มอัล-ไกดา (ที่ให้การสนับสนุนผ่านกลุ่มเจไอ)
เขามองว่า จุดเริ่มต้นในการเจรจาสันติภาพไม่ถูกต้องมาตั้งแต่ต้น เพราะมีการ "บังคับ" ให้กลุ่มบีอาร์เอ็นเข้ามาเจรจา ไม่ใช่เกิดจากความสมัครใจ โดยหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินเกมประสานมาเลเซียให้ช่วยในการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ตำรวจสันติบาลมาเลเซีย และสันติบาลไทยก็มีการประสานงานกันเพื่อหาแกนนำบีอาร์เอ็นมาเจรจา
โดยสันติบาลมาเลย์เลือก นายฮัสซัน ตอยิบ เพราะเป็นแกนนำบีอาร์เอ็นที่มีสายสัมพันธ์กันอยู่ โดยนายฮัสซันมีตำแหน่งเป็น "ประธานสภา" ของบีอาร์เอ็น มีหน้าที่ในการประชุมกำหนดนโยบายยุทธศาสตร์ของกลุ่ม มี นายสะแปอิง บาซอ เป็น เลขาธิการบีอาร์เอ็น และมี นายมะแซ อุเซ็ง เป็น รมว.กลาโหม มีอำนาจควบคุมสั่งการกองกำลัง
"กลุ่มบีอาร์เอ็น โดยเฉพาะนายสะแปอิง และนายมะแซ ไม่ได้เห็นด้วยในการเจรจาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า ตั้งแต่เจรจากันมาไม่เคยปรากฏผลเป็นรูปธรรมเลยสักข้อ และตอนนี้นายฮัสซันก็ถูกปลดจากตำแหน่งประธานสภา ถือว่าหมดเครดิตไปแล้ว ขณะที่กลุ่มในพื้นที่ก็มีการก่อเหตุรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแสดงศักยภาพในการล้มโต๊ะเจรจา"
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงคนเดิมระบุว่า การเลือก "มาเลเซีย" มาเป็นคนกลางในการเจรจา และใช้แกนนำที่อาศัยอยู่ในมาเลเซียเป็นตัวแทนการเจรจานั้น ถือเป็นความผิดพลาดอย่างมาก เพราะแกนนำในมาเลเซียไม่เคยมีบทบาทในการสั่งการ "กองกำลัง" ในพื้นที่มาก่อน
"มาเลเซียเป็นเพียงแหล่งพักพิงของแกนนำเท่านั้น และพื้นที่บางส่วน มาเลย์เองก็ยังไม่สามารถควบคุมได้ เปรียบไปก็คล้ายรัฐบาลไทยกับจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งที่ผ่านมาแกนนำในมาเลเซียสั่งกองกำลังในพื้นที่ไม่ได้ เพราะมาเลย์ไม่ได้มีสายกำลังรบ แต่สายกำลังรบมาจากอีก 2 ชาติในอาเซียน"
เขาเตือนว่า ให้ระวังในช่วง 7-8 วันสุดท้ายของช่วงเดือนรอมฎอน เพราะทางกลุ่มกองกำลังในพื้นที่เตรียมก่อเหตุครั้งใหญ่ด้วย "คาร์บอมบ์" โดยมีเป้าหมายที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เพื่อทำลายเศรษฐกิจ และเป็นการก่อเหตุในเชิง "สัญลักษณ์" อีกด้วย
"รัฐปัตตานี" ในความหมายของกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน คือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา รวมทั้ง 2 รัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย โดยมี "ปัตตานี" เป็น "เมืองหลวง" ของขบวนการแบ่งแยกดินแดน มีการฟอร์มทีมนายกฯ และครม. ไว้เรียบร้อยแล้ว
ดังนั้น การก่อเหตุเพื่อแสดงศักยภาพในเชิงสัญลักษณ์ จึงต้องเลือกปัตตานีเป็นอันดับแรก แต่เขาไม่มั่นใจว่า ทางการจะสามารถป้องกันได้หรือไม่ เพราะการควบคุมสั่งการกองกำลังในพื้นที่ "ไม่เป็นเอกภาพ" และทหารก็ไม่สามารถใช้กำลังได้อย่างเต็มที่ผ่าน "กฎอัยการศึก" จึงไม่สามารถบล็อกพื้นที่ได้ จนทำให้เกิดการสูญเสียรายวัน
"ยกตัวอย่างการนำตำรวจและอส.ดูแลเขตเมือง ส่วนทหารดูแลเขตรอบนอก ทำให้มีช่องโหว่ เพราะการปฏิบัติของแต่ละหน่วยแตกต่างกัน ขณะที่ทหารไม่สามารถใช้กฎอัยการศึกและประกาศเคอร์ฟิวเพื่อบล็อกพื้นที่ได้ ฝ่ายนั้นจึงเข้าไปวางระเบิดตอนกลางคืนได้อย่างสบาย" ผู้เชี่ยวชาญคนเดิม กล่าว
เขายังชี้ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการสูญเสียอย่างต่อเนื่องด้วยว่า เกิดจากกองกำลังแต่ละชุด แต่ละกองร้อย ไม่ได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและเป็นระบบ ยกตัวอย่างเช่น เวลาชุดหนึ่งถูกโจมตี จะมีเพียงชุดติดตามเท่านั้นที่ทราบเหตุและออกติดตาม ขณะที่กองร้อยใกล้เคียงแทบจะไม่มีบทบาทในการช่วยบล็อกพื้นที่ทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้ตลอด
นอกจากนี้กองทัพยังไม่ได้ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อสแกนในพื้นที่ "ภูเขา" อย่างเต็มที่ เพราะทุกวันนี้แกนนำระดับสูงและกองกำลังระดับปฏิบัติการล้วนซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขาสูงทั้งสิ้น เช่น ยุทธการเขาตะเว จ.นราธิวาส ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ก็เจอกองกำลัง 10 กว่าคน และหากทุ่มเทกำลังกวาดล้างอย่างเต็มที่ เชื่อได้ว่าจะกวาดล้างได้อีกมาก
เขากล่าวทิ้งท้ายว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการให้เหตุการณ์ภาคใต้ "จบ" ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองและรัฐบาลน้องสาว แต่ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนว่า ยิ่งทำยิ่งเกิดความรุนแรง เพราะใช้คนที่ไม่เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง
ขณะที่กลุ่มบีอาร์เอ็นได้รับการ "ยกระดับ" ให้เป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ ทั้งที่แทบจะไม่เคยมีตัวตนมาก่อน ซึ่งถือเป็นบทพิสูจน์ของความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาโดยสิ้นเชิง
...................................
(หมายเหตุ : ปลด'ฮัสซัน'พ้นปธ.สภาสัญญาณชัด! โต๊ะเจรจาใต้ล่ม : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน)
คนอ่าน 1695 คน
ลิงค์ข่าว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้