ความยากจนครั้งสุดท้าย ตอนที่ 1

ปฐมบท

ในที่นี้ ใครเป็นมนุษย์เงินเดือนบ้าง  ผมจำได้เมื่อ สิบกว่าปีที่แล้ว
ชีวิตผมมีปัญหามาก รับราชการ แต่ เงินเดือนไม่พอใช้
รายได้ก็ไม่น้อยครับ ประมาณสองหมื่นต้นๆ แต่จนครับ
ผมเป็นเภสัชกร ทำงานที่โรงพยาบาลชุมชน แห่งหนึ่งในภาคอืสาน




สมัยนั้น ไม่มีเงิน ก็รูดบัตรเครดิต ออกมา ใช้ก่อน  ตอนนั้นหนี้ท่วมเลย
รายจ่ายมีเยอะไปหมด ข้าวก็ซื้อกิน รถเก่าๆ ก็ซ่อมแล้ว ซ่อมอีก
แต่ละเดือนเงิน ไม่พอใช้จ่าย ใครเป็น อย่างผมบ้าง ยกมือ ขึ้น
ผมเองตอนนี้ก็อายุ 41 ปีเต็มแล้ว รับราชการ มี ลูก 1 คน
ภรรยา 1 คน ก็รู้ๆ กันอยู่ ข้าราชการซื่อๆ ไม่มีนอกมีใน
ไม่มีทางร่ำรวย อะไรได้ แต่ผมนี่ก็ยัง มีปัญหาเงินอยู่บ้าง
พอสมควร ในตอนนี้ ไม่ถือว่ารวยอะไร



แต่ถ้าเทียบกับอดีต นับว่าผมเอง มีฐานะการเงินดีขึ้นมาก
ไม่ยากจนเหมือนสมัยก่อนที่ เงินไม่พอใช้ติดลบทุกเดือน
แต่ก่อนยากจนมาก ข้าราชการชักหน้า ไม่ถึงหลัง
และก่อหนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนข้าราชการคนอื่นๆ
ตอนนี้ ผมมีรถยนต์ 1 คัน บ้าน 1 หลัง
สวนยางพารา 40 ไร่ กับหนี้สิน อีก 300000 บาท
ไม่ถือว่ามากครับ ดี ขึ้นเยอะเลย แต่การเงิน
ก็ยังมีสะดุดขาดมือบ้างเป็นบางครั้งน่ะครับ

โดนหักเงินบัตรเครดิตร เกือบหมดตูด มีเหลือใช้
แค่เดือนละ 6000 บาท ไม่พอกินครับ พูดตามตรง
แต่ผมก็สู้มันจนได้ ไม่จนกรอบเหมือนแต่ก่อนอีกแล้วครับ





เมื่อ  6 ปีก่อน ผมปลดตัวเอง จากความยากจน ขนาดหนัก
มาสู่ความยากจนเล็กน้อย อย่างไร มาแชร์กันครับ
อย่าหาว่าผมโม้ หรือ โชว์เหนืออะไรเลยครับ
สิ่งที่ผมเขียน ออกมีประโยชน์ต่อมนุษย์เงินเดือน
คนอื่นๆ บ้างครับ ว่าผมลาออกจากความยากจนได้อย่างไร

เริ่มจาก 2 วิธีง่ายๆ ครับ คือ

1 หารายได่เสริม
2 ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลง

ผม หารายได้เสริม จากการทำเว็บไซต์ ตอนแรก ก็ไม่เป็นครับ
หาอ่านตาม หนังสือ ของคุณ อนุชา เป็นหลักครับ ผมสนใจ
เรื่อง Adsense เรื่อง SEO  wordpress และ Amazon
ศึกษา มันมาอยู่พอสมควร จนในที่สุด ก็ได้เงินจากเว็บ
Google Adsense รายได้มากโขครับ เรียกว่า ทยอยปลดหนี้
ได้เรื่อยๆ ต่อมาทำ SEO เป็นรายได้ก็เลยไปไกลขึ้นครับ


รายได้มากใช้เงินเปลืองมาก มีเอาเงินไปใช้หนี้บ้าง
ซื้อที่ดินบ้าง รายได้ที่ได้มาหลายบาทเลยไม่สูญเปล่าครับ
ยังไม่รวย พอมีเงินก้อน ก็ซื้อรถเก๋ง 1 คัน ไม่แพงครับ
600000 บาท ซื้อเงินสด ครับ ต้องประหยัด
เพราะหารายได้คนเดียว ให้แฟนมาทำสวนยาง
และเลี้ยงลูก รออีก 2 ปีกว่าก็ได้กรีดแล้ว

สรุปสิ่งที่ผมได้เรียบรู้จากการปลดหนี้ก็คือ

ผมลงมือ ทำอะไรสักอย่าง
บางสิ่งที่ตัวเอง ทำไม่เป็นเลย

คือการสร้างเว็บไซต์ ผมไม่ใช่
โปรแกรมเมอร์ ครับ แค่เภสัชกรธรรมดา
ใช้คอมพิวเตอร์ เป็น ตัดสินใจเลิกจนก็เลยลุย
ฝึกฝนตนเอง จนทำเว็บได้ ไม่เก่งอะไรมาก
แต่หาเงินได้ มีเงินเพิ่มขึ้นมากโขครับ

ลองอ่านดูครับ  google adsense คืออะไร
http://www.thaiadsense.info/adsense_01.htm

ความยากจน ครั้งสุดท้าย ลดรายจ่าย

อยากตอนที่แล้ว สรุปว่า ผมปลดหนี้โดย

1 หารายได้เสริม
2 ลดรายจ่าย

ในตอนแรก ๆ ผม ลดรายจ่ายโดยการทำงานมากๆ
เวลาพักน้อย ลดการดูภาพยนต์ ลดค่าหนังสือ
ลดการซื้อ VCD DVD ลงบางส่วน แต่ก็ ลดรายจ่าย
ไม่มาก แรกๆ ก็ ชักหน้าไม่ถึงหลัง เลยต้อง



เลิกซื้อกับข้าวถุง ทำกับข้าวกินเอง แบบประหยัด
ภาษีสังคม มีซองมาก็ใส่น้อยๆ
หากไม่มีเงินเลย ก็ไม่ไปเลย ไม่ใส่ซองเลย

เรียกว่าหักดิบ ไปหลายอย่าง แต่ก็มีเผลอๆ
อยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องกิน ขนมจุบจิบ
เจ้าพ่อ 7 Eleven เลยก็ว่าได้ ซื้อหนังสือ
เช่าหนัง ซื้อหนังมามากไป นานๆก็มีสังสรรค์
ดื่มสุรา บ้างแต่รายจ่ายก็ยังติดลบเป็นหมื่น


เห็นท่าไม่ไหวก็ เลย เน้นไปหาเงินทางเน็ต
เป็นหลีก โดย หารายได้จาก


.    Google AdSense


พอหาเงินได้มาก ก็ใช้เงินเปลืองเหมือนเดิม

ยกนี้ ผมเลยประหยัดไม่ออกเท่าไร 55 แพ้เลย


สรุปว่ายกแรก ของการลดรายจ่ายผมแพ้ราบคาบ

โชคดีที่หารายได้มาเยอะก็เลยรอดตัวไปครับ

และในที่สุดผมก็เลยคิดได้ ว่าประหยัดไม่ไหว

ขอให้หักเงินเดือนเพิ่มไปเลย

เอาไปฝากสหกรณ์ออมทรัพย์

จาก หักเดือนละ 1500  เป็น 4500 บาท




อาประหยัดเพิ่มได้ตั้ง 3000 บาท ไม่เลวครับ วิธีนี้ได้ผลน่ะ

ไม่งั้น มีเงินก็ใช้หมด ครับ เกลี้ยงเลย

ลิงก์ สหกรณ์ออมทรัพย์คือ  องค์การที่จัดตั้งขี้น
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ในหมู่สมาชิกโดยสมาชิกแต่ละคนออมรายได้
ฝากไว้กับสหกรณ์เป็นประจำสม่ำเสมอในลักษณะการถือหุ้นและฝากเงิน
ด้วย

http://www.meacoop.com/index.php/cooperative/thailand-cooperative-background.html

ความยากจน ครั้งสุดท้าย จ่ายเงินให้ฉลาด

ในตอนที่แล้ว ผมเอง ประหยัดไปไม่ถึงไหน เพราะว่า หาเงินได้เยอะจาก
อินเตอเนท กลายเป็นว่า พอมีเงินเยอะแล้ว
นิสัยเริ่มเสีย คือ ใช้เงินเยอะขึ้น ตามรายได้ที่เพิ่ม

1 เลี้ยงเหล้าเพื่อน
2 เพื่อนขายอะไรซื้อหมด
3 เลี้ยงข้าวคนอื่นๆ
4 ให้เงินคนอื่นยืมเงิน


            ลูกชายผมครับหล่อเหมือนพ่อ

กลายเป็นว่า หาเงินได้เยอะก็รายจ่ายเยอะ เห็นท่าไม่ดีแน่
ก็เลยไปซื้อที่ดิน 1 แปลง 450000 บาท 15 ไร่ถูกมากๆ
ใช้เวลาไม่ถึง ปี ก็เคลียร์หนี้ ค่าที่ดินหมด สบาย
หากตอนนั้น ไม่ซื้อที่ดิน รายได้มากมาย คงหมดไป
กับการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย  ได้ ใจเลย ทยอยซื้อที่ดิน อีก 2 แปลง
รวมเป็น มี 3 แปลง 50 ไร่พอดีๆ หมดไป ล้านกว่าบาท
ถูกกว่าเพื่อนเภสัชกร หลายคนที่ ซื้อบ้านหรูๆ ราคา 3 ล้านกว่า

บ้านตอนสร้าง 3 ปีก่อน

นอกจากนี้ ภรรยาก็อยากมีบ้านในสวน
ปกติจะนอนบ้านหลวงฟรีครับ ก็เลยจัดไป
ทยอยสร้างไปเรื่อยๆ ไม้ก็หาซื้อ หรือขอคนรู่จัก
ทำเอง คุมการก่อสร้างเอง 2 ปีก็สร้างเสร็จในงบ
ราวๆ สามแสนบาท  เรียกว่า การประหยัดหนนี้
ก็ไม่ได้ผลอีก แต่ได้บ้าน ได้ รถ และที่ดิน 50 ไร่
และปลดหนี้สหกรณ์ หมดไปเลย

การซื้อที่ดินต่างจากการซื้อบ้านอย่างไร
มีที่ดินแปลงหนึ่งผมซื้อมา 625000 บาท
ไม่ถึงปี ราคาไปที่ 1250000 บาท
ตอนนี้ ราคา 2000000 บาทแล้ว
หากซื้อบ้านราคาไม่ขึ้นเอาๆ แบบนี้
ตอนนี้ รอจัดการเอกสารสิทธิให้เรียบร้อย คาด
โพสต์ ขายทาง internet สี่ล้านบาทขึ้น
แน่นอนแปลงนี้  จาก 625000บาท
เป็น 4000000 บาท ใน  22 เดือน
ผลตอบแทนสูงกว่า่ซื้อหุ้นเยอะมากครับ

รถแก๊ส CNG ออฟตร้า

ผมพวกแกะดำไม่ซื้อ รถราคาแพง คันละเป็นล้าน
บ้านหรู ราคา 3 ล้านขึ้น เหมือนเพื่อนๆ เภสัช

แต่ผมซื้อที่ดิน 50 ไร่ รถพอได้ขับ
บ้านหลังเล็กๆ น่าอยู่  และทำสวนยางพารา
ไม่รู้ว่าผมคิดถูก หรือไม่ มาดูต่อครับ


ต้องเป็นคนประหยัดให้ได้ ความยากจนครั้งสุดท้าย

ผมเชื่อว่าคนหลายคน คงเกลียดตัวเองที่ไม่ยั้งคิด
ใช้เงินมากมาย ใช้จ่ายเกินตัว จนเกิดหนี้สินตามมา
มันถึงคราวแล้ว ที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงเสียที เราต้อง

Change ให้ได้ กูไม่อยากยากจนแล้วโว๊ย

ทบทวนสิ่งที่ต้องทำ เพื่อ ความสำเร็จคือ

1 ประหยัด ควบคุมค่าใช้จ่าย
2 หารายได้เสริมพิเศษ

ผมเลยเริ่มดำเนินการเลย จากแนวคิด
หนังสือเล่มนี้  30 นาทีก่อนนอนเปลี่ยนคนยอดแย่เป็นยอดเยี่ยม





กล่าวว่า มนุษย์้เป็นทาสของความเคยชิน
ก่อนนอนก็เลย ทำอะไรแบบนี้

1 ทำบัญชีรับจ่ายประจำวัน
2 จ้องจับถูกว่าตัวเองทำอะไรดีๆไปบ้าง

เขียนบันทึก 2 ข้อนี้ในไดอารี่ก่อนนอนทุกวัน

ทำให้เริ่มรู้แล้วว่า ตัวเองจ่ายไร้สาระแค่ไหน

ซื้อขนม ต่างๆ นานา วันละเฉลี่ย 200 บาท
ซื้อกับข้าวตลาด วันละ 250 บาท
ซื้อนิตยสารเดือนละประมาณ 1200 บาท


จำกัดการเข้า 7 eleven เหลือ 100 บาทต่อวัน
ทำกับข้าวกินเอง  ค่าอาหารต่อวันเหลือ แค่ 100 บาท
ลดลงบซื้อนิตยสาร เหลือ 500 บาท

แค่ทำ 3 อย่างนี้ ก็ประหยัดได้เดือนละ 5000 บาท
แล้ว เงิน 5000 บาท ที่ว่าเอาไปฝากออกทรัพย์พิเศษ
ธนาคาคออมสินเดือนละ 1500 บาท สกรณ์ 2500 บาท
1000 บาท แอบอุบอิบ อิๆๆๆ

ทำอย่างที่ว่าต่อเนื่องทุกวัน ครบ 1 เดือน
ก็เริ่มชินแล้ว อีกอย่าง
งดซื้อ DVD VCD ใช้พิมพ์คำว่า

ดูหนังออนไลน์ บน google เอา
ประหยัดได้อีกเดือนละ 800 บาท
หาเรื่องลดรายจ่ายแบบไม่ลำบากทำ
สนุกด้วย ประหยัดด้วยดัมากๆครับ

เรื่องดี ของการทำกับข้าวเองคือ
อยากกินอะไรก็เลือกได้ ตามใจ
จะเอารสชาดแบบไหนก็สั่งได้
ต่อมาไม่นาน ภรรยาก็ทำกับข้าวอร่อย
ผัดกระเพราะหมูภรรยาผมทำสุดยอดมาก




ผัดคะน้าหมูก็เยี่ยม
สุกี้หมู อร่อยระดับเทพ
ยำปลากระป๋องก็จัดจ้านสะใจ
มาม่าหมูสับก็อร่อยๆ ใส่หมูบดนิดนึง
ผมเองก็ทำผัดไทยเส้นบุกได้
ถูกใจมากๆ เช้นกัน 555

ความยากจน ครั้งสุดท้าย หารายได้เสริม

เริ่มหารายได้เสริม

ผมเอง กิอยา่กมีเงินเพิ่ม โดยคิดว่าในแต่ละเดือน
ผมควรมีเงินเพิ่ม เข้ามาสัก เดือนละ 12000 บาท
+เงินเดือนเดิม ชีวิตน่าจะไปรอด ผมจะทำอะไร
ดี อินเตอเนท คืออะไรที่ผมสนใจ มันเป็นเทร็น
ปี 2549 ผมก้าวเข้าู่โลก internet marketing
โดยศึกษา จากตำรา ของ คุณอนุชาเป็นหลัก
และซื้อหนังสืออ่านหลายเล่มทีเดียว

http://seodml.com/

หนังสือที่ผมอ่าน ของคุณโจ อนุชาได้แก่
Advances Google AdSense
Make Money by Google AdSense
WordPress สร้างบล็อกอัจฉริยะ ก้าวก่อนใครในโลกออนไลน์
รวยหลักล้านผ่าน Blog Marketing
เก่ง SEO ให้ครบสูตร




ปัญหาของมือใหม่ทุกวงการก็คือ
การไม่เริ่มลงมือทำ คือ plan แล้วนิ่ง ไม่ยอมทำอะไร

แต่ผมก็ กล้า บ้าลุย ลงมือทำไป
จำได้ เช่าโฮสครั้งแรก ตกใจมาก
โทรไปต่างประเทศ เจอฝรั่ง ผมตกกะใจ
โยนโทรศัพท์ทิ้งไป เลยครับ กล้วๆ





ทำมา ประมาณ 2 ปี ถึงเริ่มหาเงินได้
อาศัยลูกขยันนี่แหละครับ
จนมาช่วงหนึ่ง ผมรู้วิธีดีงคนเข้าเว็บ
จากเว็บบอร์ดดังๆ ในต่างประเทศ
ชีวิตผมก็รวยเลยทีนี้ ไปไกลมาก
รายได้ตอนนั้น ไหลมาเทมา
หากผมคุมการใช้จ่ายหน่อย คงมี
เงินเก็บมากเป็นล้านแน่นอน แต่ว่า

ใช้จ่ายเพลินเกินห้ามใจอ่ะ
จำได้ตอนแรกเรื่องการสร้างเว็บ
ไอ้นั้นก็ไม่รู้ ไอ้นี่ก็ทำไม่เป็น
ถ้าไม่คิดว่าหาเงินไม่ได้ลูกเมียลำบาก
ก็คงยอมแพ้ตั้งแต่ปีแรกแล้ว
เพราะทำเว็บอยู่ 2 ปีถึงเริ่มทำเงินได้

อยากจะฝากถึงคนหารายได้เสริมว่า

เราต้องเริ่มทำอะไรสักอย่าง
อย่าลงทุนเยอะ ลงทุนน้อยๆ
ใช้ความถึก ความขยัน
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ดีกว่า
ครับ เพราะเงินทองนั้นหายากอ่ะ


จบแล้วครับ

สรุปเนื้อหาทั้งหมด

ความยากจน แก้ได้โดย 2 วิธี

1 ประหยัด ควบคุมค่าใช้จ่าย
2 หารายได้เสริม รายได้พิเศษ

การประหยัดเริ่มจาก
1 ทำบัญชี รับจ่าย จดบันทึกตรวจสอบ
2 มองให้ออกว่า จะลดรายจ่ายตัวไหน
3 เขียน แนวทางการลดรายจ่ายออกมา
4 ตรวจสอบสิ่งที่คุณทำตาม แนวทางทุกคืน
5 มองให้เห็นข้อดี ความสนุก จากการประหยัด

หารายได้เสริม รายได้พิเศษ
1 ผมคิด และ ศึกษาก่อน
2 ลงมือทำมันจริงๆ ไม่ plan แล้วนิ่ง
3 เริ่มหาเงินจาก internet marketing :Adsense
4 เรียนรู้ทักษะเพิ่มเติม


ตอนที่ 2 ของ ความยากจนครั้งสุดท้าย
เป็นเรื่อง ประหยัด แต่ชีวิตก็มีความสุขได้มากมาย

            อ่านต่อที่ ความยากจนครั้งสุดท้าย ตอนที่ 2
        กระทู้ คลิก http://pantip.com/topic/30805834