เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
สวัสดีวันหยุดค่าทุกท่านน วันนี้กระจิดริดขอมานำเสนอ ขนม อร่อยๆ ให้ได้ชม ได้ชิมกัน กระจิดริดดัดแปลงสูตรนี้มาจากสูตร Red, White, and Blueberry Cheesecake Tart ของ คุณป้า Martha Stewart Blueberry Cheesecake Tart บลูเบอรี่ชีสเค้กทาร์ต อยากบอกว่า อร่อยมาก หมดเกลี้ยงในพริบตา และ รสชาติไม่หวานมาก ไปดูกันเลยดีกว่า ส่วนผสม ส่วนที่ 1 แครกเกอร์กรุลงพิม แครกเกอร์ 1 กล่อง (มี 250 กรัม กระจิดริดชอบยี้ห้อนี้เป็นพิเศษ ) เนยเค็ม ครึ่งก้อน น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง ส่วนที่ 2 ส่วนของชีสเค้ก ไข่ไกเบอร์ใหญ่ 1 ฟอง ครีมชีส 230 กรัม (กระจิดริดใช้ครีมชีสที่ทำเองทั้งหมด บวกกับ ที่ซื้อมาอีกนิหน่อย >> http://pantip.com/topic/30790263 ) น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง เกลือ 1/2 ชช โยเกิร์ต ครึ่ง ถ้วย วนิลา 1 ชช ส่วนที่ 3 หน้าบลูเบอรี่ บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง บลูเบอรี่สด (แล้วแต่ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ) มะนาว 1 ซีก เกลือ 1/2 ชช เข้าสู่วิธีการทำกับเลยค่าา เอาแครกเกอร์ของเรานำไปบด บี้ ขยี้ ขยำ ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่ กระจิดริดใช้ใส่ถุงซิปล็อกแล้ว ทุบๆ บดๆเอา ใครจะเอาใส่เครื่องป่นก็ได้นะคะ ได้ออกมาแล้ว เทใส่ชามผสม แล้วใส่น้ำตาลลงไป ผสมรวมกันกันแครกเกอร์ที่เราบดไว้ ใส่เนย ผสมเนยกับแครกเกอร์ให้เข้ากัน จากนั้น กรุลงพิมที่เตรียมไว้ เมื่อกรุครบจนหมด นำเข้าช่องแข่แข็ง 15 นาที จากนั้นเรามาทำส่วนผสมที่ 2 เราวอร์ม เตาอบไว้ก่อน 170 องศา นำชามผสมอาหารที่สะอาด ไม่คราบมัน มาเตรียมไว้ ใส่ครีมชีสลงไป ตามด้วยโยเกิร์ต ตามด้วยน้ำตาล ไข่ไก่ สุดท้ายวนิลา ใช้เครื่องผสมอาหาร เลือกเป็นหัวตะกร้อ ตีให้เข้ากัน จนมีลักษณะคล้ายแป้งเค้กตอนยังไม่อบ จากนั้น เอาพิมออกจากตู้เย็น แล้วนำชีสเค้กที่เราตีไว้ ตักใส่ พิมที่เรากรุไว้ จากนั้นนำเข้าเตาอบ ความร้อน 170 องศา 25 นาที พอเสร็จหน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ สีชีสเค้กที่สุกแล้วจะเข้มขึ้นดูได้จาก รูป ถ้วยใหญ่ยังไม่ได้อบ ถ้วยเล็กอบแล้ว จากนั้นเราก็วางพักไว้ให้เย็น มาที่ส่วนที่ 3 กันค่ะ ใคร จะใช้จากกระป๋องเลยก็ได้ แต่กระจิดริดว่า มันหวานไปหน่อยเลย เอาไปตั้งไฟ ใส่เกลือ มะนาว แค่นั้นแหละคะ จากนั้น ก็ราดลง ชีสเค้กทาร์ตของเราที่เย็นแล้ว ตามด้วยบลูเบอรี่สด เสร็จแล้ว แท้นแด้นนนนน กระจิดริดทำได้ทั้งหมด 9 ถ้วยเล็ก 2 ถ้วยใหญ่ มาชิมกันดีกว่าาา อร่อยฝุดๆ หยุดไม่ได้ขาดใจจจจจ ข้อความและรูปภาพ ด้านบน หวังแค่เพียงมาแบ่งปันประสบการณ์ แชร์ความรู้สึกนึกคิด ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ และหากทำให้ขัดใจผู้ใด ขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
[CR] >>แม่หญิง<< How to "Blueberry Cheesecake Tart"
สวัสดีวันหยุดค่าทุกท่านน
วันนี้กระจิดริดขอมานำเสนอ ขนม อร่อยๆ ให้ได้ชม ได้ชิมกัน
กระจิดริดดัดแปลงสูตรนี้มาจากสูตร Red, White, and Blueberry Cheesecake Tart ของ คุณป้า Martha Stewart
Blueberry Cheesecake Tart บลูเบอรี่ชีสเค้กทาร์ต อยากบอกว่า อร่อยมาก หมดเกลี้ยงในพริบตา และ รสชาติไม่หวานมาก
ไปดูกันเลยดีกว่า
ส่วนผสม
ส่วนที่ 1 แครกเกอร์กรุลงพิม
แครกเกอร์ 1 กล่อง (มี 250 กรัม กระจิดริดชอบยี้ห้อนี้เป็นพิเศษ )
เนยเค็ม ครึ่งก้อน
น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
ส่วนที่ 2 ส่วนของชีสเค้ก
ไข่ไกเบอร์ใหญ่ 1 ฟอง
ครีมชีส 230 กรัม (กระจิดริดใช้ครีมชีสที่ทำเองทั้งหมด บวกกับ ที่ซื้อมาอีกนิหน่อย >> http://pantip.com/topic/30790263 )
น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
เกลือ 1/2 ชช
โยเกิร์ต ครึ่ง ถ้วย
วนิลา 1 ชช
ส่วนที่ 3 หน้าบลูเบอรี่
บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง
บลูเบอรี่สด (แล้วแต่ไม่ใส่ก็ได้ค่ะ)
มะนาว 1 ซีก
เกลือ 1/2 ชช
เข้าสู่วิธีการทำกับเลยค่าา
เอาแครกเกอร์ของเรานำไปบด บี้ ขยี้ ขยำ ด้วยวิธีการใดก็แล้วแต่
กระจิดริดใช้ใส่ถุงซิปล็อกแล้ว ทุบๆ บดๆเอา ใครจะเอาใส่เครื่องป่นก็ได้นะคะ
ได้ออกมาแล้ว เทใส่ชามผสม แล้วใส่น้ำตาลลงไป ผสมรวมกันกันแครกเกอร์ที่เราบดไว้
ใส่เนย
ผสมเนยกับแครกเกอร์ให้เข้ากัน
จากนั้น กรุลงพิมที่เตรียมไว้
เมื่อกรุครบจนหมด นำเข้าช่องแข่แข็ง 15 นาที
จากนั้นเรามาทำส่วนผสมที่ 2
เราวอร์ม เตาอบไว้ก่อน 170 องศา
นำชามผสมอาหารที่สะอาด ไม่คราบมัน มาเตรียมไว้
ใส่ครีมชีสลงไป
ตามด้วยโยเกิร์ต
ตามด้วยน้ำตาล
ไข่ไก่
สุดท้ายวนิลา
ใช้เครื่องผสมอาหาร เลือกเป็นหัวตะกร้อ ตีให้เข้ากัน
จนมีลักษณะคล้ายแป้งเค้กตอนยังไม่อบ
จากนั้น เอาพิมออกจากตู้เย็น
แล้วนำชีสเค้กที่เราตีไว้ ตักใส่ พิมที่เรากรุไว้
จากนั้นนำเข้าเตาอบ ความร้อน 170 องศา 25 นาที
พอเสร็จหน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ สีชีสเค้กที่สุกแล้วจะเข้มขึ้นดูได้จาก รูป ถ้วยใหญ่ยังไม่ได้อบ ถ้วยเล็กอบแล้ว
จากนั้นเราก็วางพักไว้ให้เย็น
มาที่ส่วนที่ 3 กันค่ะ
ใคร จะใช้จากกระป๋องเลยก็ได้ แต่กระจิดริดว่า มันหวานไปหน่อยเลย เอาไปตั้งไฟ ใส่เกลือ มะนาว แค่นั้นแหละคะ
จากนั้น ก็ราดลง ชีสเค้กทาร์ตของเราที่เย็นแล้ว ตามด้วยบลูเบอรี่สด
เสร็จแล้ว แท้นแด้นนนนน
กระจิดริดทำได้ทั้งหมด 9 ถ้วยเล็ก 2 ถ้วยใหญ่
มาชิมกันดีกว่าาา อร่อยฝุดๆ หยุดไม่ได้ขาดใจจจจจ
ข้อความและรูปภาพ ด้านบน หวังแค่เพียงมาแบ่งปันประสบการณ์ แชร์ความรู้สึกนึกคิด
ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงใดๆ และหากทำให้ขัดใจผู้ใด ขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ