ข่าวนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เพราะช่วงหลังข่าวลือหลายสำนักต่างก็บอกกันว่าปี นี้จะยังไม่ได้เป็น iPad mini จอ Retina Display แต่ทว่าล่าสุดทางสำนักข่าว The Wall Street Journal ได้รับข้อมูลมาว่าทางผู้ผลิตเตรียมเร่งกำลังการผลิต iPad mini รุ่นถัดไป (หรือ iPad mini 2) ที่มีหน้าจอ Retina Display ในช่วงไตรมาส 4 ปลายปีนี้ โดยในรายงานระบุว่าทาง Apple กำลังพิจารณาอยู่ด้วยว่าจะทำฝาหลังหลายๆสีให้เลือกดีไหม (iPad mini รุ่นแรกมีแค่ 2 สีคือดำและขาว)
สำหรับ iPad mini 2 ทางผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ข้อมูลว่า Apple มีแผนจะเลือกใช้จอจากทาง Samsung, Sharp และ LG Display แหล่งข่าวบอกว่าตอนแรกทาง Apple ให้ทาง Sharp และ LG Display ผลิตหน้าจอให้เท่านั้นแต่ภายหลังได้ตัดสินใจให้ทาง แท็บเล็ต Samsung เข้ามาร่วมผลิตหน้าจอด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถผลิตได้มากเพียงพอต่อ ความต้องการ
(iPad mini รุ่นแรกใช้จอจาก LG Display และ AU Optronics)
แหล่ง ข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทาง Apple ได้มีการทดสอบเครื่องต้นแบบอยู่หลายรุ่น แต่ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าจะเลือกใช้หน้าจอ Retina Display กับ iPad mini รุ่นสองจนได้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ทาง Google เปิดตัว Nexus 7 (2013) ใหม่ที่มีหน้าจอความละเอียด Full HD 1920 x 1200 ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
จาก ข่าวนี้ที่น่าสนใจก็คือการที่ Apple ได้ให้ทาง Samsung ช่วยผลิตจอให้ แหล่งข่าวบอกว่าช่วงหลังทาง Apple พยายามที่จะลดการพึ่งพา Samsung ลง โดยข่าวล่าสุดที่ออกมาเมื่อไม่นานนี้คือทาง Apple ได้เซ็นสัญญากับ TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing ให้ทำการผลิตชิปแทนและเริ่มในปีหน้า 2014
เช่น เดียวกับหน้าจอ Apple ก็พยายามที่จะเลือกใช้บริษัทอื่นมากกว่า Samsung แต่ทว่าบริษัทที่สามารถผลิตจอได้มากเพียงพอต่อความต้องการนั้นหาได้ยาก นักวิเคราะห์จาก CIMB Group ในไต้หวันยังออกมาพูดว่าทาง Apple ไม่มีตัวเลือกมากนักมีแค่ แท็บเล็ต Samsung, LG Display และบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งเท่านั้น ขณะเดียวกันทาง AU Optronics ผู้ผลิตจอรุ่นแรกก็ออกมายอมรับว่าประสิทธิภาพในการผลิตทางบริษัทมีน้อยมาก และไม่สามารถทำกำไรจากการผลิตจอ iPad mini รุ่นแรกได้ สุดท้าย Apple ก็ต้องหันไปพึ่งทาง Samsung อยู่ดี
ปล. WSJ บอกว่าทางตัวแทนของ Apple, Samsung, Sharp, LG Display ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าข้อมูลนี้ยังไม่แน่ว่าจะถูกต้องรอดูกันต่อไปครับ
ที่มา: theverge -> wsj
กลับลำ WSJ บอก iPad mini 2 จะใช้จอ Retina Display (ให้ Samsung ช่วยผลิต)
ข่าวนี้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เพราะช่วงหลังข่าวลือหลายสำนักต่างก็บอกกันว่าปี นี้จะยังไม่ได้เป็น iPad mini จอ Retina Display แต่ทว่าล่าสุดทางสำนักข่าว The Wall Street Journal ได้รับข้อมูลมาว่าทางผู้ผลิตเตรียมเร่งกำลังการผลิต iPad mini รุ่นถัดไป (หรือ iPad mini 2) ที่มีหน้าจอ Retina Display ในช่วงไตรมาส 4 ปลายปีนี้ โดยในรายงานระบุว่าทาง Apple กำลังพิจารณาอยู่ด้วยว่าจะทำฝาหลังหลายๆสีให้เลือกดีไหม (iPad mini รุ่นแรกมีแค่ 2 สีคือดำและขาว)
สำหรับ iPad mini 2 ทางผู้ผลิตชิ้นส่วนให้ข้อมูลว่า Apple มีแผนจะเลือกใช้จอจากทาง Samsung, Sharp และ LG Display แหล่งข่าวบอกว่าตอนแรกทาง Apple ให้ทาง Sharp และ LG Display ผลิตหน้าจอให้เท่านั้นแต่ภายหลังได้ตัดสินใจให้ทาง แท็บเล็ต Samsung เข้ามาร่วมผลิตหน้าจอด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถผลิตได้มากเพียงพอต่อ ความต้องการ
(iPad mini รุ่นแรกใช้จอจาก LG Display และ AU Optronics)
แหล่ง ข่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าทาง Apple ได้มีการทดสอบเครื่องต้นแบบอยู่หลายรุ่น แต่ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าจะเลือกใช้หน้าจอ Retina Display กับ iPad mini รุ่นสองจนได้ ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่ทาง Google เปิดตัว Nexus 7 (2013) ใหม่ที่มีหน้าจอความละเอียด Full HD 1920 x 1200 ไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
จาก ข่าวนี้ที่น่าสนใจก็คือการที่ Apple ได้ให้ทาง Samsung ช่วยผลิตจอให้ แหล่งข่าวบอกว่าช่วงหลังทาง Apple พยายามที่จะลดการพึ่งพา Samsung ลง โดยข่าวล่าสุดที่ออกมาเมื่อไม่นานนี้คือทาง Apple ได้เซ็นสัญญากับ TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing ให้ทำการผลิตชิปแทนและเริ่มในปีหน้า 2014
เช่น เดียวกับหน้าจอ Apple ก็พยายามที่จะเลือกใช้บริษัทอื่นมากกว่า Samsung แต่ทว่าบริษัทที่สามารถผลิตจอได้มากเพียงพอต่อความต้องการนั้นหาได้ยาก นักวิเคราะห์จาก CIMB Group ในไต้หวันยังออกมาพูดว่าทาง Apple ไม่มีตัวเลือกมากนักมีแค่ แท็บเล็ต Samsung, LG Display และบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งเท่านั้น ขณะเดียวกันทาง AU Optronics ผู้ผลิตจอรุ่นแรกก็ออกมายอมรับว่าประสิทธิภาพในการผลิตทางบริษัทมีน้อยมาก และไม่สามารถทำกำไรจากการผลิตจอ iPad mini รุ่นแรกได้ สุดท้าย Apple ก็ต้องหันไปพึ่งทาง Samsung อยู่ดี
ปล. WSJ บอกว่าทางตัวแทนของ Apple, Samsung, Sharp, LG Display ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าข้อมูลนี้ยังไม่แน่ว่าจะถูกต้องรอดูกันต่อไปครับ
ที่มา: theverge -> wsj