ผมอยู่คณะเศรษฐศาสตร๋ ม.เกษตรครับ ปี 1 เองครับผม
ตอนที่แอดมิชชั่นเข้ามาก็ดีใจที่ติด เพราะตอนนั้นเราก็ติดว่าเราชอบเรื่องเศรษฐศาสตร์อยู่ไม่น้อย
ซึ่งพอมาเรียนจริงๆ วิชาแกนก็โอเคครับ เฉยๆ (ไม่ได้ชอบ) คือพวก ไมโครอีโคโนมิค และ แมคโครอีโคโนมิค
ผมสามารถเรียนได้ ถึงจะมีการคำนวณแต่เนื้อหาการคำนวณก็ยังอยู่เกี่ยวกับพวกเศรษฐศาสตร์ จึงไม่มีปัญหาครับ
แต่แคลลูลัสนี่สิครับ ผมไม่ไหวจะเคลียจริงๆ ผมพยายามแล้วก็แทบไม่ต่างจากเดิมเลย ดิฟ และ อินทริเกรต
ผมไม่ชอบคณิตศาสตร์ครับ ผมต้องการแค่ D เท่านั้น ดีไม่ดีก็ ลงซัมเมอร์ครับ ไม่เคยรู้เรื่องจริงๆจังๆเลยครับ
ตอน มปลายเกรดคณิตก็ ไม่เคยเกิน 2 เลย
ส่วนภาษาอังกฤษนี่ชอบและค่อนข้างถนัดเลยครับ GAT ผมได้ 80% ++ ครับ ( แต่ไม่ถึง 90% นะครับ )
ผมจะทำไงดีครับ
ที่บ้านผม ก็มีทัศนคติด้านมหาวิทยาลัยกันมากๆ ถึงกับไม่ให้เรียนเอกชนเลย ให้ไป รัฐ วิทยาเขตไกลๆก็ยอม
พ่อผมก็พระเกี้ยว พี่ผมก็โดม เค้าใช้ชอบพูดประมาณว่า
" มรัฐ ต้องสอบเข้า อย่างน้อยก็มีคนที่มีความรับผิดชอบเข้ามา เป็นพื้นฐานแล้ว แต่ มเอกชน ไม่ต้องสอบ เข้าเรียนได้เลย "
" อย่าเลย สังคมมันต่างกันอยู่นะ "
" คนส่วนใหญ่ที่เรียนเอกชน คือคนที่สอบ มรัฐไม่ได้แล้วมาเข้า "
พอผมบอกจะซิ่ว ที่บ้านก็พูดประมาณว่า
" ปัญญาอ่อนปะ "
" ห้ามเด็ดขาด เรียนๆไปให้จบๆลูก "
" แล้วเสียเงินไปล่ะ ไม่มีเงินให้แล้วนะ "
อะไรประมาณนี้ครับ จริงๆผมอยากเรียน ABAC นะ
เพราะได้ข่าวมาว่า ทักษะด้านภาษาของนักศึกษาที่สถาบันนี่มีคุณภาพมาก ซึ่งตัวผมก็ชอบภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมยู่แล้ว
แต่แค่ค่าเทอมของที่นี้ ก็แพงอยู่แล้วครับ แต่คงไม่มีปัญหา
แต่ปัญหาผมว่าคือสังคมของที่นั่น
ผมไม่มีรถ ขาไปขากลับบ้าน ก้รถเมล์ , วินมอไซค ผมเป้นคนติดดินด้วย
ผมคงอยู่ยากแน่เลยครับ ส่วนนี้ก็คิดหนักอยู่
นอกจากนี้ มเอกชนที่อื่นผมก็ไม่มีที่อยากเข้าอะครับ ยังไม่ได้คิดไว้ เพราะก็เล็งแต่ ABAC
ที่เดียวในกรณีที่ต้อง ซิ่วออกมา
ตอนนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ว่าจะยอมเสียเวลา 1 ปี
( ส่วนตัวผมว่าเวลา 1 ปีมีค่ามากๆ ลึกๆแล้วถ้าไม่เจออะไรแบบนี้ก็ไม่อยากซิ่วเลย )
หรือว่าจะ งัดข้อกับ Calculus I ,II , III ต่อไป ให้ผ่านๆไป
ผมรู้ครับ เรื่องนี้มันคือเรื่องของชีวิตผม สุดแล้วยังไงผมต้องตัดสินใจเอง
แต่ในโลกแห่งความจริง ผมเป้นคนไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัว
มีค่อยระบาย มีอะไรเป็นปัญหา อะไรเครียเหรือกังวลก็เก้บๆไว้กับตัวเองทั้งหมด
ที่พิมพมายาวยืดนี่ก็แค่อยากทราบความคิดเห็นของแต่ละคนครับ
// ขอบคุณที่เสียสละเวลากดเข้ามากระทู้ผมครับ
ผมไม่อยากเรียนแล้ว ผมไม่มีอนาคตแล้ว (เยอะ)
ตอนที่แอดมิชชั่นเข้ามาก็ดีใจที่ติด เพราะตอนนั้นเราก็ติดว่าเราชอบเรื่องเศรษฐศาสตร์อยู่ไม่น้อย
ซึ่งพอมาเรียนจริงๆ วิชาแกนก็โอเคครับ เฉยๆ (ไม่ได้ชอบ) คือพวก ไมโครอีโคโนมิค และ แมคโครอีโคโนมิค
ผมสามารถเรียนได้ ถึงจะมีการคำนวณแต่เนื้อหาการคำนวณก็ยังอยู่เกี่ยวกับพวกเศรษฐศาสตร์ จึงไม่มีปัญหาครับ
แต่แคลลูลัสนี่สิครับ ผมไม่ไหวจะเคลียจริงๆ ผมพยายามแล้วก็แทบไม่ต่างจากเดิมเลย ดิฟ และ อินทริเกรต
ผมไม่ชอบคณิตศาสตร์ครับ ผมต้องการแค่ D เท่านั้น ดีไม่ดีก็ ลงซัมเมอร์ครับ ไม่เคยรู้เรื่องจริงๆจังๆเลยครับ
ตอน มปลายเกรดคณิตก็ ไม่เคยเกิน 2 เลย
ส่วนภาษาอังกฤษนี่ชอบและค่อนข้างถนัดเลยครับ GAT ผมได้ 80% ++ ครับ ( แต่ไม่ถึง 90% นะครับ )
ผมจะทำไงดีครับ
ที่บ้านผม ก็มีทัศนคติด้านมหาวิทยาลัยกันมากๆ ถึงกับไม่ให้เรียนเอกชนเลย ให้ไป รัฐ วิทยาเขตไกลๆก็ยอม
พ่อผมก็พระเกี้ยว พี่ผมก็โดม เค้าใช้ชอบพูดประมาณว่า
" มรัฐ ต้องสอบเข้า อย่างน้อยก็มีคนที่มีความรับผิดชอบเข้ามา เป็นพื้นฐานแล้ว แต่ มเอกชน ไม่ต้องสอบ เข้าเรียนได้เลย "
" อย่าเลย สังคมมันต่างกันอยู่นะ "
" คนส่วนใหญ่ที่เรียนเอกชน คือคนที่สอบ มรัฐไม่ได้แล้วมาเข้า "
พอผมบอกจะซิ่ว ที่บ้านก็พูดประมาณว่า
" ปัญญาอ่อนปะ "
" ห้ามเด็ดขาด เรียนๆไปให้จบๆลูก "
" แล้วเสียเงินไปล่ะ ไม่มีเงินให้แล้วนะ "
อะไรประมาณนี้ครับ จริงๆผมอยากเรียน ABAC นะ
เพราะได้ข่าวมาว่า ทักษะด้านภาษาของนักศึกษาที่สถาบันนี่มีคุณภาพมาก ซึ่งตัวผมก็ชอบภาษาอังกฤษเป็นทุนเดิมยู่แล้ว
แต่แค่ค่าเทอมของที่นี้ ก็แพงอยู่แล้วครับ แต่คงไม่มีปัญหา
แต่ปัญหาผมว่าคือสังคมของที่นั่น
ผมไม่มีรถ ขาไปขากลับบ้าน ก้รถเมล์ , วินมอไซค ผมเป้นคนติดดินด้วย
ผมคงอยู่ยากแน่เลยครับ ส่วนนี้ก็คิดหนักอยู่
นอกจากนี้ มเอกชนที่อื่นผมก็ไม่มีที่อยากเข้าอะครับ ยังไม่ได้คิดไว้ เพราะก็เล็งแต่ ABAC
ที่เดียวในกรณีที่ต้อง ซิ่วออกมา
ตอนนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ว่าจะยอมเสียเวลา 1 ปี
( ส่วนตัวผมว่าเวลา 1 ปีมีค่ามากๆ ลึกๆแล้วถ้าไม่เจออะไรแบบนี้ก็ไม่อยากซิ่วเลย )
หรือว่าจะ งัดข้อกับ Calculus I ,II , III ต่อไป ให้ผ่านๆไป
ผมรู้ครับ เรื่องนี้มันคือเรื่องของชีวิตผม สุดแล้วยังไงผมต้องตัดสินใจเอง
แต่ในโลกแห่งความจริง ผมเป้นคนไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัว
มีค่อยระบาย มีอะไรเป็นปัญหา อะไรเครียเหรือกังวลก็เก้บๆไว้กับตัวเองทั้งหมด
ที่พิมพมายาวยืดนี่ก็แค่อยากทราบความคิดเห็นของแต่ละคนครับ
// ขอบคุณที่เสียสละเวลากดเข้ามากระทู้ผมครับ