รองเหลิมวิเคราะห์การเมืองช่วงม็อบ

กระทู้ข่าว
หน้าหลัก » การเมือง » วิเคราะห์การเมืองได้จังหวะตีกรรเชียงไปไกลถึงทวีปแอฟริกาตามภารกิจอย่างเป็นทางการ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังอยู่ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐโมซัมบิก สหสาธารณรัฐแทนซาเนีย และสาธารณรัฐยูกันดา ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม ถึง 2 สิงหาคมงานนี้ถ้าจะมีการงัดของแหลมของคมออกมาใช้กัน “ยิ่งลักษณ์” ออกตัวได้เลยว่า ไม่ได้อยู่ด้วย และตามคิวเป็นหน้าที่ของมวยลำดับ 3 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุดแทนตามแผน ก็เข้าเหลี่ยมพอดีถ้าจะมีการชิงงัดดาบ พ.ร.บ.มั่นคงฯ คุมสถานการณ์ม็อบต้านนิรโทษกรรมแต่เอาเข้าจริงก็ยังแค่ “หยั่งเชิง”โดยที่ประชุม ครม.ไม่มีการนำ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เพื่อควบคุมดูแลผู้ชุมนุมขึ้นมาพิจารณาแต่อย่างใดมีแค่เรื่องซีเรียสกับสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลที่เกาะเสม็ด จังหวัดระยองอย่างไรก็ตามโดยภาวการณ์เครียดๆที่สะท้อนผ่านข้อมูลร้อนๆของคนรัฐบาลเริ่มจากการยืนยันตัวเลขของ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยเลยว่า หน่วยข่าวของ สมช.ได้ประเมินจำนวนผู้ชุมนุมต้านกฎหมายนิรโทษกรรมหากมีการสมทบกับภาคการเมืองอาจจะถึงหลักหมื่นคนในขณะที่เซียนการเมืองเขี้ยวลากดินระดับ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เปิดฉากวิเคราะห์ข่าวกรองส่วนตัว จากการดูพรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีผ่าความจริง 2 สัปดาห์ติด มีความเข้มข้น เด็ดขาด ชัดเจน หลายคนที่อยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ตนเองรู้จักกันดีไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างนี้ ไม่ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังเปิดหน้าเล่น แตกเป็นแตก ตายเป็นตายเตือนเป็นแนวสอนเชิงฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลเลยว่า ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ขนจริงอย่าไปพูดระดับพันคน ระดับพันยิ้มวตัวทีเดียว เพราะลำพังนายสาทิตย์ไอแค่กเดียวก็เกิน 5 พันคนแล้วเอาแค่กรุงเทพฯ ส.ก. ส.ข.ของประชาธิปัตย์มีร้อยละ 70 ส่วน ส.ส.ร้อยละ 80 ขึ้น แถมผู้ว่าฯ กทม.ก็คนพรรคประชาธิปัตย์ จะเอาคนมาเท่าไรก็ได้“เฉลิม” ให้ราคาประชาธิปัตย์เต็มที่ในลีลาเหมือนขู่เขย่าขวัญทีมงานรัฐบาลด้วยกันเองแต่อีกเหลี่ยมหนึ่ง มันก็ยิ่งเป็นการบลัฟย้อนเกล็ด การโหมประโคมศักยภาพในการระดมม็อบเล่นเกมนอกสภาของพรรคประชาธิปัตย์ ก็เท่ากับย้อนคอหอยแทงใจดำ ตอกย้ำวาทกรรมที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศมาตลอดว่า ยึดมั่นในระบบรัฐสภา เป็นเพียงแค่ลมปากในอดีตขยายภาพเบื้องหลังม็อบโค่น “ทักษิณ” ที่ผ่านมา ประชาธิปัตย์เป็น “อีแอบ” อยู่เบื้องหลังกินแรงมวลชนในเกมโค่นคู่แข่งทางการเมืองตามท้องเรื่องก็อย่างที่ “เดอะเต้น” นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำเสื้อแดง นปช. รีบขอให้พรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวเป็นแกนนำในการชุมนุม เพราะที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยออกมาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง กินแรงประชาชนขอให้ประกาศเป็นมติพรรคไปเลยว่า หาก ส.ส.หรือสมาชิกพรรคคนใดต้องการออกมาร่วมเดินขบวนชุมนุม ก็ขอให้มีการอนุญาตเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่า ความขัดแย้งที่ผ่านมามีพรรคการเมืองใดอยู่เบื้องหลังเคลมหลักฐาน ได้ทีประจานกันดังๆในทางการเมือง เรื่องของหลักการ “มุกเกณฑ์ม็อบ” ทำประชาธิปัตย์เสียหายหลายแสนแต่แน่นอน ถ้าเทียบจากปรากฏการณ์ที่ผ่านมา กับภาพป่วนในสภาที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเกมอาละวาดถึงขั้นล้อมกรอบ กระชากลากประธานสภาลงจากบัลลังก์ เขวี้ยงแฟ้มปาหน้า ลากเก้าอี้หนียอมเสียภาพลักษณ์เพื่อสกัดหมากของ “ทักษิณ” ให้ได้เพื่อเป้าหมายขวางศัตรูหมายเลข 1 แล้ว ประชาธิปัตย์ยอมทุ่มทุนสร้างเต็มที่ก็ไม่แปลกกับเกมม็อบนอกสภา ลองถ้าประชาธิปัตย์ตัดสินใจทิ้งไพ่สำคัญ เดิมพันแตกหักก็คงไม่สนหลักการหรูๆอะไรทั้งนั้น.ทีมข่าวการเมืองโดย: ทีมข่าวการเมือง31 กรกฎาคม 2556, 05:03 น.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่