มาติดตามกันนะครับ

ของเดลินิวส์
“มาร์ค” นำปชป.ขึ้นบีทีเอส เปิดเวทีผ่าความจริง “นิพิฎฐ์”
วันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2556 เวลา 17:16 น.
“มาร์ค” นำปชป.ขึ้นบีทีเอส เปิดเวทีผ่าความจริง “นิพิฎฐ์” งัดรธน. มาตรา 63 ปลุกคนไทยสู้รัฐบาลทรยศ เหิมประกาศใช้กม.ความมั่นคง ลั่นเชื่อมั่นในระบบรัฐสภา แต่รธน.ใหญ่กว่าสภา
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำแกนนำและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี  นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น ขึ้นรถไฟฟ้าสถานีบีทีเอสอารีย์ เพื่อเดินทางไปยังเวทีประชาชน เดินหน้าผ่าความจริง หยุดกฎหมายล้างผิด คิดล้มรัฐธรรมนูญ เงินกู้ผลาญชาติ อำนาจฉ้อฉล ที่บริเวณสกายวอล์ค สถานีบีทีเอสช่องนนทรี (แยกสาทร – นราธิวาส) โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยอย่างคับคั่ง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล5 จำนวน 1กองร้อย คอยดูแลความปลอดภัย
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยว่า พฤติกรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เหมือนกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงน่าจะเข้าคุกเหมือนกัน มีคนบอกว่าคนอย่างพวกเราจุดไม่ติด รวมกันไม่ได้ แม้ว่าอาจจะจับกันยาก เพราะเราต้อนไม่ได้ เนื่องจากเราไม่ใช่ควาย แต่เรามีหัวใจเป็นเสรีชน รักสถาบัน ป้องชาติ แต่เราเชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญและระบบรัฐสภา ระหว่างระบบรัฐสภากับรัฐธรรมนูญ  รัฐธรรมนูญสูงกว่ารัฐสภา เพราะรัฐสภาถูกสร้างขึ้นโดยรัฐธรรมนูญ และเราเชื่อมั่นในรัฐธรรมนูญ เขาจะประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงในวันที่ 1 ส.ค. แต่กฎหมายความมั่นคงไม่ใหญ่ไปกว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 63 ที่ระบุว่าบุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุม ซึ่งประชาชนใช้รัฐธรรมนูญมาตรานี้สู้กับรัฐบาลทรยศได้ การต่อสู้ครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นแกนนำ แต่เป็นการทอดกฐินสามัคคี ที่ทุกคนมาด้วยใจว่าทำเพื่อชาติ



ของมติชน
เปิด 3 ม็อบรวมตัวหน้าสภา ครม.ย่อยเห็นชอบใช้ กม.ความมั่นคงฯคุมม็อบ 3 เขตของกทม.ช่วง 1-10 ส.ค.
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 15:00:14 น.
31 ก.ค.2556 พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดเล็กในวันนี้มีมติให้ประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฯ ในพื้นที่ 3 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในช่วงวันที่ 1-10 ส.ค.56
ทั้งนี้ มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.).เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ยับยั้งเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคง หลังจากฝ่ายความมั่นคงประเมินสถานการณ์เห็นว่ามีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากมีการประกาศว่าจะมีการชุมนุมของหลายกลุ่มเพื่อคัดค้านและประท้วงไม่เห็นด้วยกับการประชุมรัฐสภา มีแนวโน้มว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากและอาจยืดเยื้อ อาจลุกลามไปถึงขั้นยึดสถานที่ราชการ ซึ่งหวังผลทางการเมืองต้องการขัดขวางการทำหน้าที่ของรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่30 กรกฎาคม หน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้ารัฐสภา ว่า จะมีทั้งหมด 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มหน้ากากขาว ซึ่งมีจำนวนไม่มาก 2.องค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ราว 5-6 พันคน  และ 3.ม็อบจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)  ทั้งนี้ ถ้าหากปชป.ประกาศชุมนุมก็จะมีผู้ชุมนุมถึงหลักหมื่น โดยเกณฑ์คนมาจากกรุงเทพฯและจังหวัดทางภาคใต้ ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ยังลังเล และไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เนื่องจากแกนนำบางคนยังมีคดีติดอยู่ ซึ่งอาจจะผิดเงื่อนไขการประกันตัว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนปัจจัยที่จำเป็นต้องเสนอ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดเล็กพิจารณาในวันนี้ ( 31 กรกฎาคม ) เนื่องจากต้องป้องกันไว้ก่อน เพราะถ้าไม่ประกาศพื้นที่ป้องกันไว้และมีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาปักหลักชุมนุมในพื้นที่ที่จำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ก็อาจจะเกิดการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมแน่นอน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ที่ประชุมยังมีความเป็นห่วงเรื่องมือที่สามที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ โดยเฉพาะกลุ่มที่จ้องจับตาคือการด์ของกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งมีอาวุธอาจจะสร้างสถานการณ์ขึ้นได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องบันทึกภาพการป้องกันไว้ทุกขั้นตอนด้วย สำหรับพื้นที่ที่เสนอให้ประกาศหลักๆ คือ รัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล และสนามหลวง เป็นต้น ส่วนจะเป็นเขตใดบ้างครม.ชดเล็กจะเป็นผู้พิจารณา ซึ่งอาจจะปรับลดพื้นที่หรือเพิ่มพื้นที่ วัน เวลา ที่ใช้ประกาศก็ขึ้นอยู่ที่ครม.จะพิจารณา เนื่องจากช่วงที่ประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ   คาบเกี่ยวกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม ด้วย โดยที่ประชุมได้เสนอไว้หลายเวอร์ชั่นให้ครม.พิจารณา โดยการประชุมครม.ชุดเล็กจะประกอบด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งนี้หากครม.เห็นชอบก็จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการกอ.รมน.และสมช.เพื่อพิจารณาแผนและเสนอให้กอ.รมน.ลงนามคำสั่งเห็นชอบต่อไป

ดูแล้วเช็คความแตกต่างระหว่าง 2 สำนักพิมพ์หน่อยนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่