ผมไม่ได้ประจำบอร์ดนี้ แต่ไม่รู้จะไประบายหรือขอความเห็นที่ไหนดีครับ
บอกก่อนว่าผมเพิ่งขับรถยนต์ได้ไม่นาน ไม่เรียกตัวเองว่ามือใหม่หรอก แต่ก็ไม่ถึงขั้นใช้งานรถยนต์อย่างเป็นประจำเท่าใดนัก ปกติขับเกียร์กระปุกจะเป็นคนขับช้า เพราะขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ เลียคลัทไม่คล่อง ขัพเซฟดีมาก พอเปลี่ยนมาใช้เกียร์ออโต้ นิสัยการขับเปลี่ยนไป เพราะมันง่าย เลยขับเร็วขึ้น...
เมื่อวันก่อนตอนเช้าผมขับรถยนต์บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เชียงใหม่ ลองนึกภาพถนนแบ่งได้เป็นสามเลนใหญ่ๆนะครับ ตามมุมมองการขับ
เลนซ้ายสุดก็สำหรับมอไซค์+รถที่จะจอดหรือเพิ่งออกจากซอยขับเลียบริมทางไว้ก่อน
เลนกลาง ขับตามปกติ ช้าบ้างเร็วบ้าง
เลนขวา แน่นอน เลนคนด่วน สำหรับคนขับเร็ว ขับไว ขับแซง
ผมขับเลนกลางตามปกติ พอมาถึงช่วงนึง ที่เลนซ้ายมีรถยนต์จอดอยู่ คุณป้าขับมอเตอร์ไซค์เลยต้องเบี่ยงจากเลยซ้ายมาเลนกลาง แล้วแกขับช้าและขวางมาเกือบกลางเลน ด้วย"นิสัย" ที่ขับเร็วของผม ไม่ชอบชะลอเบรค เพราะตอนนั้นมันกระชั้นชิดป้าเค้าด้วย เลยตัดสินใจเบี่ยงไปเลนขวาแทน มีรถเก๋งอีกคันขับอยู่เลนนั้นอยู่แล้ว มาด้วยความเร็ว ต้องบอกว่าจังหวะที่ผมจะเบี่ยงไปปาดหน้าเค้า ก่อนหน้านั้นผมเห็นอยู่แล้วนะครับ แล้วคิดว่ามันไม่เสี่ยง+ด้วยนิสัยเสียของผมน่ะแหละ ถึงได้ทำไป ยอมคิดว่าเค้าอาจชะลอทันรึไม่ก็บีบแตรติเราบ้าง ซึ่งผมยอมรับว่า"ผิดเต็มๆ" แล้วเค้าก็บีบแตรไล่จริงๆ บีบเป็นจังหวะยาวๆ ลักษณะที่ผมพอเข้าใจได้ว่าอารมณ์คนขับเป็นวัยรุ่นที่กำลังบ่นว่ามืงปาดหน้ากูทำไม รีบเบี่ยงออกไปเลยนะมืง ผมยอมรับผิดนะครับ ขอโทษได้ก็คงทำไปแล้ว แต่พอเค้าผ่านจะแซงผมไปแล้ว ... กระจกฝั่งคนนั่งแถวหลังก็เลื่อนลงมา พร้อมผู้ชายหน้ายิ้ม และชู"นิ้วกลาง" ออกมาเลยครับ ในรถคงเป็นวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ซึ่งผมบอกเลย ผมโกรธมาก ถ้าจะมีทางไหนที่จะเรียกมาจอดข้างทางแล้วคุยกันผมทำไปแล้ว
เรื่องนี้ผมยอมรับว่าผิดเต็มๆ และได้บทเรียนแล้ว ดีที่มันไม่มีอุบัติเหตุ และถ้าขอโทษได้ ผมพร้อมจะทำ แต่ขอเถอะครับ ไอ้"ชูนิ้วกลาง" พร้อมหน้ากวนตีนๆเนี่ย อย่าได้มั้ย แค่นี้ก็รู้สึกผิดมากพอละ ยังจะมายุอีก เพราะถ้าไม่ใช่ผม แล้วเป็นคนที่ใจร้อนกว่าผมแล้วมีปืน เรื่องมันคงไม่จบแค่นั้นอ่ะครับ ผมถึงได้เข้าใจเลยว่าทำไมคนมันยิงกันตายด้วยเรื่องแบบนี้จริงๆ(ถ้าไม่มองว่าใครถูกใครผิดอ่ะนะ)
คงเป็นเพราะผมเป็นคนคิดมากสุดๆ ทั้งที่เรื่องมันผ่านมาเป็นวันละ แต่อยากมาเล่าให้ฟัง ผมรู้ว่าผิด ขอโทษได้ก็คงทำ แต่พอเจอแบบนี้แล้ว จังหวะนั้นอยากจะทำไงก็ได้ให้มันลงมาคุยกันดีๆจริงๆ คงเพราะรู้สึกว่าเป็นคนแพ้ทั้งเรื่องความถูกต้องทั้งเรื่องโดนยั่วยุ ทั้งที่ไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องเลยมั้ง พอนึกถึงหน้ามันทีไร ผมไม่สบายใจและคาใจทุกที อยากคุยมันให้รู้เรื่อง แต่ยังไงก็คงได้บทเรียนสำคัญละครับ จากขับรถแบบเนิบๆนาบๆ พอเจออะไรที่ง่ายกว่าหรือฝีมือการขับคล่องกว่าเดิม มันก็เปลี่ยนนิสัยการขับได้ละ
ทำผิดมาครับ แต่รู้สึกโกรธแทนที่จะรู้สึกผิด...
บอกก่อนว่าผมเพิ่งขับรถยนต์ได้ไม่นาน ไม่เรียกตัวเองว่ามือใหม่หรอก แต่ก็ไม่ถึงขั้นใช้งานรถยนต์อย่างเป็นประจำเท่าใดนัก ปกติขับเกียร์กระปุกจะเป็นคนขับช้า เพราะขี้เกียจเปลี่ยนเกียร์ เลียคลัทไม่คล่อง ขัพเซฟดีมาก พอเปลี่ยนมาใช้เกียร์ออโต้ นิสัยการขับเปลี่ยนไป เพราะมันง่าย เลยขับเร็วขึ้น...
เมื่อวันก่อนตอนเช้าผมขับรถยนต์บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เชียงใหม่ ลองนึกภาพถนนแบ่งได้เป็นสามเลนใหญ่ๆนะครับ ตามมุมมองการขับ
เลนซ้ายสุดก็สำหรับมอไซค์+รถที่จะจอดหรือเพิ่งออกจากซอยขับเลียบริมทางไว้ก่อน
เลนกลาง ขับตามปกติ ช้าบ้างเร็วบ้าง
เลนขวา แน่นอน เลนคนด่วน สำหรับคนขับเร็ว ขับไว ขับแซง
ผมขับเลนกลางตามปกติ พอมาถึงช่วงนึง ที่เลนซ้ายมีรถยนต์จอดอยู่ คุณป้าขับมอเตอร์ไซค์เลยต้องเบี่ยงจากเลยซ้ายมาเลนกลาง แล้วแกขับช้าและขวางมาเกือบกลางเลน ด้วย"นิสัย" ที่ขับเร็วของผม ไม่ชอบชะลอเบรค เพราะตอนนั้นมันกระชั้นชิดป้าเค้าด้วย เลยตัดสินใจเบี่ยงไปเลนขวาแทน มีรถเก๋งอีกคันขับอยู่เลนนั้นอยู่แล้ว มาด้วยความเร็ว ต้องบอกว่าจังหวะที่ผมจะเบี่ยงไปปาดหน้าเค้า ก่อนหน้านั้นผมเห็นอยู่แล้วนะครับ แล้วคิดว่ามันไม่เสี่ยง+ด้วยนิสัยเสียของผมน่ะแหละ ถึงได้ทำไป ยอมคิดว่าเค้าอาจชะลอทันรึไม่ก็บีบแตรติเราบ้าง ซึ่งผมยอมรับว่า"ผิดเต็มๆ" แล้วเค้าก็บีบแตรไล่จริงๆ บีบเป็นจังหวะยาวๆ ลักษณะที่ผมพอเข้าใจได้ว่าอารมณ์คนขับเป็นวัยรุ่นที่กำลังบ่นว่ามืงปาดหน้ากูทำไม รีบเบี่ยงออกไปเลยนะมืง ผมยอมรับผิดนะครับ ขอโทษได้ก็คงทำไปแล้ว แต่พอเค้าผ่านจะแซงผมไปแล้ว ... กระจกฝั่งคนนั่งแถวหลังก็เลื่อนลงมา พร้อมผู้ชายหน้ายิ้ม และชู"นิ้วกลาง" ออกมาเลยครับ ในรถคงเป็นวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 3-4 คน ซึ่งผมบอกเลย ผมโกรธมาก ถ้าจะมีทางไหนที่จะเรียกมาจอดข้างทางแล้วคุยกันผมทำไปแล้ว
เรื่องนี้ผมยอมรับว่าผิดเต็มๆ และได้บทเรียนแล้ว ดีที่มันไม่มีอุบัติเหตุ และถ้าขอโทษได้ ผมพร้อมจะทำ แต่ขอเถอะครับ ไอ้"ชูนิ้วกลาง" พร้อมหน้ากวนตีนๆเนี่ย อย่าได้มั้ย แค่นี้ก็รู้สึกผิดมากพอละ ยังจะมายุอีก เพราะถ้าไม่ใช่ผม แล้วเป็นคนที่ใจร้อนกว่าผมแล้วมีปืน เรื่องมันคงไม่จบแค่นั้นอ่ะครับ ผมถึงได้เข้าใจเลยว่าทำไมคนมันยิงกันตายด้วยเรื่องแบบนี้จริงๆ(ถ้าไม่มองว่าใครถูกใครผิดอ่ะนะ)
คงเป็นเพราะผมเป็นคนคิดมากสุดๆ ทั้งที่เรื่องมันผ่านมาเป็นวันละ แต่อยากมาเล่าให้ฟัง ผมรู้ว่าผิด ขอโทษได้ก็คงทำ แต่พอเจอแบบนี้แล้ว จังหวะนั้นอยากจะทำไงก็ได้ให้มันลงมาคุยกันดีๆจริงๆ คงเพราะรู้สึกว่าเป็นคนแพ้ทั้งเรื่องความถูกต้องทั้งเรื่องโดนยั่วยุ ทั้งที่ไม่ได้คุยกันให้รู้เรื่องเลยมั้ง พอนึกถึงหน้ามันทีไร ผมไม่สบายใจและคาใจทุกที อยากคุยมันให้รู้เรื่อง แต่ยังไงก็คงได้บทเรียนสำคัญละครับ จากขับรถแบบเนิบๆนาบๆ พอเจออะไรที่ง่ายกว่าหรือฝีมือการขับคล่องกว่าเดิม มันก็เปลี่ยนนิสัยการขับได้ละ