การปกครองที่ดีที่สุด คือทำให้ผู้ถูกปกครอง ไม่รู้สึกว่าตนกำลังถูกปกครองอยู่
นักรบผู้สุขุมลุ่มลึก เมื่อฝักใฝ่่ฝ่ายใด ย่อมไม่สำแดงให้ฝ่ายตรงข้ามรู้
ลับ ลวง พราง ลาง หลอก หลอน อ่อน นอก แข็ง ใน
พลิ้วไหวไปหลากหลายกระบวนท่า
อ่านหนังสือหมื่นเล่ม เดินทางหมื่นลี้ คนย่อมนับถือและซูฮกว่าเป็นยอดคน
หากผู้ไม่เดินทางไปหนไหน ไม่อ่านแม้หนังสือสักเล่ม ชีวิตย่อมสงบสุข
เมื่อดวงอาทิตย์ฉายแสง คนใช้ชีวิตไปตามปกติวิถี ไม่รู้สึกถึงแสงแดดแรงกล้า
เป็นเพราะแผ่นหลังและบ่าไหล่ ล้วนเคยชินต่อแสงแดด แม้ฝนตกฟ้าคะนองยังเฉยชา
ผู้ใดเป็นรัฐบาลย่อมไม่สำคัญกว่าความสุขสบายของตน
เอี่ยงจื๊อ ปราชญ์ผู้ไม่เอาไหน ร่วมยุคสมัยเดียวกับซุนวู จึงกล่าวว่า
แม้ขนเส้นหนึ่งยังประโยชน์แก่ผู้คนมหาศาล ย่อมไม่ยอมสละเพื่อความสุขของปวงประชาไซร้
หากได้รับลาภสักการะจากผู้ใด เอี่ยงจื๊อย่อมปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
กฤษณะรายกล่าวแก่อรชุนผู้ไม่มีความคิดเป็นของตนว่า
: ดูกร, ท่านอรชุน พิจารณาเถิด หากท่านรบ หากท่านพ่ายแพ้ สวรรค์ยังอ้าแขนรับท่าน
กาลต่อมา อรชุนได้ขึ้นสวรรค์จริงดังว่า ส่วนกฤษณะยังมีชีวิตห้อเกวียนม้าไปท่องเที่ยวทั่วแว่นแคว้นแดนอื่น
นักรบที่แท้ จิตใจย่อมเยือกเย็น ภูเขาน้ำแข็งที่ซ่อนตัวใต้มหาสมุทรยังไม่อาจแน่นิ่งเท่าจิตใจของเอกบุรุษ
แม้คราบน้ำมันดิบคมกริบดังเช่นสนิมเฉือนยังไม่อาจกัดกร่อนขุนเขาแห่งจิตใจทะนงนั้นได้
ทุกสงครามมีผู้สูญเสียและล้มตาย หากผู้ล้มตายก็หาใช่ผู้เสวยสุขจากสงคราม
แม้ผู้นำสงครามยังมีคราบน้ำตาไหลเปื้อนใบหน้า ผู้ใดจะหาความสุขจากสงครามครั้งไหนได้
จิ๋นซีฮ่องเต้ ออกศึกปราบปรามศัตรูทั่วแว่นแค้วนแผ่นดินจีน ยอมเหน็ดเหนื่อยเสี่ยงภัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่ง
แม้ผู้เคียดแค้นต่อจักพรรดิ์จิ๋นซี ยังต้องยอมวางดาบวางหอกเพื่อทำการสวามิภักดิ์ เมื่อมองเห็นถึงเจตนารมย์
เมื่อคานธีกล่าวว่า : หากพวกท่านรบกันเองเช่นนี้ จงมองดูเราตายเพราะอดอาหารเถิด
สองฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ทางศาสนา ถึงกับวางมีดวางไม้ ยอมคุกเข่าแก่มหาตมะคานธีแต่โดยดี
เมื่อเกิดสงครามขึ้น ผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือ ผู้ค้าอาวุธสงครามนั้นเอง.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การนิรโทษกรรมเท่านั้น
คัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง กล่าวไว้ว่า...
นักรบผู้สุขุมลุ่มลึก เมื่อฝักใฝ่่ฝ่ายใด ย่อมไม่สำแดงให้ฝ่ายตรงข้ามรู้
ลับ ลวง พราง ลาง หลอก หลอน อ่อน นอก แข็ง ใน
พลิ้วไหวไปหลากหลายกระบวนท่า
อ่านหนังสือหมื่นเล่ม เดินทางหมื่นลี้ คนย่อมนับถือและซูฮกว่าเป็นยอดคน
หากผู้ไม่เดินทางไปหนไหน ไม่อ่านแม้หนังสือสักเล่ม ชีวิตย่อมสงบสุข
เมื่อดวงอาทิตย์ฉายแสง คนใช้ชีวิตไปตามปกติวิถี ไม่รู้สึกถึงแสงแดดแรงกล้า
เป็นเพราะแผ่นหลังและบ่าไหล่ ล้วนเคยชินต่อแสงแดด แม้ฝนตกฟ้าคะนองยังเฉยชา
ผู้ใดเป็นรัฐบาลย่อมไม่สำคัญกว่าความสุขสบายของตน
เอี่ยงจื๊อ ปราชญ์ผู้ไม่เอาไหน ร่วมยุคสมัยเดียวกับซุนวู จึงกล่าวว่า
แม้ขนเส้นหนึ่งยังประโยชน์แก่ผู้คนมหาศาล ย่อมไม่ยอมสละเพื่อความสุขของปวงประชาไซร้
หากได้รับลาภสักการะจากผู้ใด เอี่ยงจื๊อย่อมปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
กฤษณะรายกล่าวแก่อรชุนผู้ไม่มีความคิดเป็นของตนว่า
: ดูกร, ท่านอรชุน พิจารณาเถิด หากท่านรบ หากท่านพ่ายแพ้ สวรรค์ยังอ้าแขนรับท่าน
กาลต่อมา อรชุนได้ขึ้นสวรรค์จริงดังว่า ส่วนกฤษณะยังมีชีวิตห้อเกวียนม้าไปท่องเที่ยวทั่วแว่นแคว้นแดนอื่น
นักรบที่แท้ จิตใจย่อมเยือกเย็น ภูเขาน้ำแข็งที่ซ่อนตัวใต้มหาสมุทรยังไม่อาจแน่นิ่งเท่าจิตใจของเอกบุรุษ
แม้คราบน้ำมันดิบคมกริบดังเช่นสนิมเฉือนยังไม่อาจกัดกร่อนขุนเขาแห่งจิตใจทะนงนั้นได้
ทุกสงครามมีผู้สูญเสียและล้มตาย หากผู้ล้มตายก็หาใช่ผู้เสวยสุขจากสงคราม
แม้ผู้นำสงครามยังมีคราบน้ำตาไหลเปื้อนใบหน้า ผู้ใดจะหาความสุขจากสงครามครั้งไหนได้
จิ๋นซีฮ่องเต้ ออกศึกปราบปรามศัตรูทั่วแว่นแค้วนแผ่นดินจีน ยอมเหน็ดเหนื่อยเสี่ยงภัยเพื่อรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นหนึ่ง
แม้ผู้เคียดแค้นต่อจักพรรดิ์จิ๋นซี ยังต้องยอมวางดาบวางหอกเพื่อทำการสวามิภักดิ์ เมื่อมองเห็นถึงเจตนารมย์
เมื่อคานธีกล่าวว่า : หากพวกท่านรบกันเองเช่นนี้ จงมองดูเราตายเพราะอดอาหารเถิด
สองฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ทางศาสนา ถึงกับวางมีดวางไม้ ยอมคุกเข่าแก่มหาตมะคานธีแต่โดยดี
เมื่อเกิดสงครามขึ้น ผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือ ผู้ค้าอาวุธสงครามนั้นเอง.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้