ลองคิดเล่นๆ กันดูครับ
+ + + + +
จั่วหัวไปให้น่าสนใจเพราะเพิ่งไปงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย รุ่น Ascend P6 มาหมาดๆ ซึ่งนอกจากรุ่นนี้แล้ว หัวเว่ยยังมีรุ่น Ascend Mate ที่จะวางขายอย่างเป็นทางการพร้อมๆ กันอีกด้วย สำหรับราคารุ่น P6 อยู่ที่ 13,990 บาท ส่วนรุ่น Mate ราคา 13,490 บาท ต่างกันอยู่ 500 บาท ที่สำคัญนี่คือรุ่นท็อปของหัวเว่ยที่นำเข้ามาท้าชนรุ่นท็อปของทุกแบรนด์สมาร์ทโฟน และช่วงปลายปี น่าจะได้เห็นรุ่น P7 และ Mate2 เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องด้วย
กลับมาที่คำถามว่า อะไรที่จะทำให้คนสนใจหัวเว่ย
อันดับแรก ชื่อหัวเว่ย ไม่ใช่ชื่อที่คนไทยไม่รู้จัก อยู่ในวงการโทรคมนาคมโดยอยู่ในส่วนของโครงข่ายโทรคมไทยมากกว่า 15 ปีแล้ว และน่าจะมีหลายคนเคยเห็นและเคยใช้ โทรศัพท์มือถือหัวเว่ย โมเด็มเราท์เตอร์หัวเว่ย และอุปกรณ์อื่นๆ พอสมควร แต่คราวนี้คือ สมาร์ทโฟน ซึ่งถือเป็นตลาดปราบเซียนไปแล้ว เพราะสมาร์ทโฟนไม่ใช่อุปกรณ์ไอที แต่เป็นอุปกรณ์แฟชั่น ที่บ่งบอกถึงหน้าตาเจ้าของ
นั่นทำให้กลุ่มคนเมืองจำนวนไม่น้อยนิยมใช้ iPhone เพราะมันเท่ เก๋ ประสิทธิภาพดี แม้จะราคาแพงไปมากก็ตาม (ผ่อนชำระได้)
เป้าหมายของหัวเว่ยคือ 3 ปีจากนี้ต้องมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบชื่อชั้นแบรนด์แล้ว ต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่หวังน้อยมากๆ ระดับหัวเว่ยน่าจะอยากได้มากกว่านั้น แต่ส่วนหนึ่งก็เข้าใจได้ เพราะชื่อแบรนด์ หัวเว่ย อาจติดอยู่ในหัวคนไทยว่าเป็นแบรนด์จีน เลยหวั่นๆ เรื่องคุณภาพอยู่บ้าง หรือมีการรับรู้ว่าเป็นแบรนด์ระดับกลาาง-ล่าง ดังนั้นภารกิจอันดับแรกของหัวเว่ยคือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับว่านี่คือ แบรนด์คุณภาพ
อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าที่เปิดราคาระดับ 13,000 บาท ต้องบอกว่า เป็นราคาที่ยังไม่ดีนัก ยากจะตัดสินใจซื้อ เพราะด้วยราคานี้ ถ้าเพิ่มเงินเป็น 18,000 บาท จะได้แบรนด์มือถือที่คุ้นเคยในตลาดเป็นอย่างดี ขณะที่ถ้าลดราคาลงไปเหลือ 8,000 บาท ก็มีตัวเลือกดีๆ อยู่ไม่น้อย ดังนั้นต้องบอกว่า ด้วยคุณสมบัติของเครื่องถือว่าดี แต่ราคายังไม่เร้าใจสำหรับการเปิดตลาดใหม่
หัวใจสำคัญคือ ต้องการให้คนได้ลองใช้งาน เพื่อจะได้รู้ว่า หัวเว่ย มีสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ นั่นคือ อาจต้องยอมลดกำไรลงอีกหน่อยเพื่อสร้างฐานลูกค้าก่อน เห็นว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะมีแฟล็กชิพสโตร์แถวๆ สยามพารากอนด้วย การเดินหมากตาแรกสำคัญสุดๆ
จากนี้คงต้องมาคอยดูว่า หัวเว่ย จะก้าวเข้ามาชิงพื้นที่ในตลาดสมาร์ทโฟนไทยได้แค่ไหน
+ + + + +
ที่มา
http://www.itspacebar.com/2013/07/huawei/
ถ้าสนใจ คลิกมาอ่านเรื่องอื่นๆ ได้ครับ
ถ้าหัวเว่ยบุกตลาดสมาร์ทโฟน อะไรจะทำให้คนสนใจซื้อ
+ + + + +
จั่วหัวไปให้น่าสนใจเพราะเพิ่งไปงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย รุ่น Ascend P6 มาหมาดๆ ซึ่งนอกจากรุ่นนี้แล้ว หัวเว่ยยังมีรุ่น Ascend Mate ที่จะวางขายอย่างเป็นทางการพร้อมๆ กันอีกด้วย สำหรับราคารุ่น P6 อยู่ที่ 13,990 บาท ส่วนรุ่น Mate ราคา 13,490 บาท ต่างกันอยู่ 500 บาท ที่สำคัญนี่คือรุ่นท็อปของหัวเว่ยที่นำเข้ามาท้าชนรุ่นท็อปของทุกแบรนด์สมาร์ทโฟน และช่วงปลายปี น่าจะได้เห็นรุ่น P7 และ Mate2 เข้ามาทำตลาดต่อเนื่องด้วย
กลับมาที่คำถามว่า อะไรที่จะทำให้คนสนใจหัวเว่ย
อันดับแรก ชื่อหัวเว่ย ไม่ใช่ชื่อที่คนไทยไม่รู้จัก อยู่ในวงการโทรคมนาคมโดยอยู่ในส่วนของโครงข่ายโทรคมไทยมากกว่า 15 ปีแล้ว และน่าจะมีหลายคนเคยเห็นและเคยใช้ โทรศัพท์มือถือหัวเว่ย โมเด็มเราท์เตอร์หัวเว่ย และอุปกรณ์อื่นๆ พอสมควร แต่คราวนี้คือ สมาร์ทโฟน ซึ่งถือเป็นตลาดปราบเซียนไปแล้ว เพราะสมาร์ทโฟนไม่ใช่อุปกรณ์ไอที แต่เป็นอุปกรณ์แฟชั่น ที่บ่งบอกถึงหน้าตาเจ้าของ
นั่นทำให้กลุ่มคนเมืองจำนวนไม่น้อยนิยมใช้ iPhone เพราะมันเท่ เก๋ ประสิทธิภาพดี แม้จะราคาแพงไปมากก็ตาม (ผ่อนชำระได้)
เป้าหมายของหัวเว่ยคือ 3 ปีจากนี้ต้องมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 5% เมื่อเทียบชื่อชั้นแบรนด์แล้ว ต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายที่หวังน้อยมากๆ ระดับหัวเว่ยน่าจะอยากได้มากกว่านั้น แต่ส่วนหนึ่งก็เข้าใจได้ เพราะชื่อแบรนด์ หัวเว่ย อาจติดอยู่ในหัวคนไทยว่าเป็นแบรนด์จีน เลยหวั่นๆ เรื่องคุณภาพอยู่บ้าง หรือมีการรับรู้ว่าเป็นแบรนด์ระดับกลาาง-ล่าง ดังนั้นภารกิจอันดับแรกของหัวเว่ยคือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่ยอมรับว่านี่คือ แบรนด์คุณภาพ
อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งทางการตลาดของสินค้าที่เปิดราคาระดับ 13,000 บาท ต้องบอกว่า เป็นราคาที่ยังไม่ดีนัก ยากจะตัดสินใจซื้อ เพราะด้วยราคานี้ ถ้าเพิ่มเงินเป็น 18,000 บาท จะได้แบรนด์มือถือที่คุ้นเคยในตลาดเป็นอย่างดี ขณะที่ถ้าลดราคาลงไปเหลือ 8,000 บาท ก็มีตัวเลือกดีๆ อยู่ไม่น้อย ดังนั้นต้องบอกว่า ด้วยคุณสมบัติของเครื่องถือว่าดี แต่ราคายังไม่เร้าใจสำหรับการเปิดตลาดใหม่
หัวใจสำคัญคือ ต้องการให้คนได้ลองใช้งาน เพื่อจะได้รู้ว่า หัวเว่ย มีสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ นั่นคือ อาจต้องยอมลดกำไรลงอีกหน่อยเพื่อสร้างฐานลูกค้าก่อน เห็นว่าไตรมาส 4 ปีนี้จะมีแฟล็กชิพสโตร์แถวๆ สยามพารากอนด้วย การเดินหมากตาแรกสำคัญสุดๆ
จากนี้คงต้องมาคอยดูว่า หัวเว่ย จะก้าวเข้ามาชิงพื้นที่ในตลาดสมาร์ทโฟนไทยได้แค่ไหน
+ + + + +
ที่มา http://www.itspacebar.com/2013/07/huawei/
ถ้าสนใจ คลิกมาอ่านเรื่องอื่นๆ ได้ครับ