คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ข้อ 1
ตัดเรื่องสายตาขี้เกียจที่บางคนด่วนสรุปกันไปก่อน
อ่านรายละเอียดเรื่อง "สายตาขี้เกียจ", "Lazy eye", "Amblyopia" http://www.eyebankthai.com/index.asp?contentID=10000004&title=%CA%D2%C2%B5%D2%A2%D5%E9%E0%A1%D5%C2%A8&getarticle=76&keyword=&catid=5
ข้อที่ 2
วัดสายตาแต่ละข้างให้ได้ค่าสายตาที่แท้จริง แนะนำวัดกับจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรศาสตร์ถ้าต้องการรู้ค่าสายตาที่แท้จริง ไม่ใช่ตัดแว่นเฉยๆ
ข้อที่ 3
ทดสอบความสามารถในการมองเห็น (visual acuity) โดยทดสอบทีละข้าง ถ้าแต่ละข้างสามาถอ่านได้ที่ระดับ 6/6 หรือใกล้เคียงเมื่อแก้ไขด้วยแว่นแล้ว หรืออ่านได้แตกต่างกันไม่เกิน 2 บรรทัดของแผ่นทดสอบสายตา ถือว่าไม่มีภาวะสายตาขี้เกียจ
ข้อที่ 4
เมื่อได้ค่าสายตาในแต่ละข้างแล้ว ต้องลองดูพร้อมกันสองตาอีกทีว่า "เมื่อใส่แว่นสายตาตามค่าที่วัดได้ เกิดอาการงง หรือเวียนศีรษะหรือไม่"
ถ้าไม่มีอาการ ถือว่าโชคดีมาก คุณสามารถใส่แว่นตามค่าสายตาที่วัดได้เลย โดยไม่ต้องไปสนว่าค่าสายตา 2 ข้างมันแตกต่างกันเท่าไหร่
แต่ถ้ามีอาการงง หรือเวียนศีรษะ ใส่แล้วไม่สบายตา ก็จะต้องค่อยๆลดค่าสายตาในข้างที่มีค่าสายตามากกว่าลงมาทีละเล็กน้อย จนกว่าจะได้ค่าที่ใส่แล้วสบายตาที่สุด ซึ่งในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่นอายุที่เริ่มใส่แว่น ค่าสายตาครั้งแรกที่เริ่มใส่แว่น กับแว่นที่ใส่ในตอนนั้น
เรื่องงงไม่งงนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสายตาขี้เกียจโดยสิ้นเชิง
เนื่องจากการตัดแว่น คอนแทคเลนส์ในบ้านเรา ยังไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมเป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้นเวลาคุณไปตัดแว่น หากเจอร้านที่พนักงานอบรมแบบผ่านๆ หรือร้านที่กะเอายอดขายอย่างเดียว คุณจะได้แว่นที่ "พอถูไถ" ไปเท่านั้นเอง
ตัดเรื่องสายตาขี้เกียจที่บางคนด่วนสรุปกันไปก่อน
อ่านรายละเอียดเรื่อง "สายตาขี้เกียจ", "Lazy eye", "Amblyopia" http://www.eyebankthai.com/index.asp?contentID=10000004&title=%CA%D2%C2%B5%D2%A2%D5%E9%E0%A1%D5%C2%A8&getarticle=76&keyword=&catid=5
ข้อที่ 2
วัดสายตาแต่ละข้างให้ได้ค่าสายตาที่แท้จริง แนะนำวัดกับจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรศาสตร์ถ้าต้องการรู้ค่าสายตาที่แท้จริง ไม่ใช่ตัดแว่นเฉยๆ
ข้อที่ 3
ทดสอบความสามารถในการมองเห็น (visual acuity) โดยทดสอบทีละข้าง ถ้าแต่ละข้างสามาถอ่านได้ที่ระดับ 6/6 หรือใกล้เคียงเมื่อแก้ไขด้วยแว่นแล้ว หรืออ่านได้แตกต่างกันไม่เกิน 2 บรรทัดของแผ่นทดสอบสายตา ถือว่าไม่มีภาวะสายตาขี้เกียจ
ข้อที่ 4
เมื่อได้ค่าสายตาในแต่ละข้างแล้ว ต้องลองดูพร้อมกันสองตาอีกทีว่า "เมื่อใส่แว่นสายตาตามค่าที่วัดได้ เกิดอาการงง หรือเวียนศีรษะหรือไม่"
ถ้าไม่มีอาการ ถือว่าโชคดีมาก คุณสามารถใส่แว่นตามค่าสายตาที่วัดได้เลย โดยไม่ต้องไปสนว่าค่าสายตา 2 ข้างมันแตกต่างกันเท่าไหร่
แต่ถ้ามีอาการงง หรือเวียนศีรษะ ใส่แล้วไม่สบายตา ก็จะต้องค่อยๆลดค่าสายตาในข้างที่มีค่าสายตามากกว่าลงมาทีละเล็กน้อย จนกว่าจะได้ค่าที่ใส่แล้วสบายตาที่สุด ซึ่งในแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นกับหลายปัจจัย เช่นอายุที่เริ่มใส่แว่น ค่าสายตาครั้งแรกที่เริ่มใส่แว่น กับแว่นที่ใส่ในตอนนั้น
เรื่องงงไม่งงนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องสายตาขี้เกียจโดยสิ้นเชิง
เนื่องจากการตัดแว่น คอนแทคเลนส์ในบ้านเรา ยังไม่มีกฎหมายออกมาควบคุมเป็นเรื่องเป็นราว ดังนั้นเวลาคุณไปตัดแว่น หากเจอร้านที่พนักงานอบรมแบบผ่านๆ หรือร้านที่กะเอายอดขายอย่างเดียว คุณจะได้แว่นที่ "พอถูไถ" ไปเท่านั้นเอง
แสดงความคิดเห็น
สายตาซ้ายขวาแตกต่างกันมาก ควรแก้ไขอย่างไรครับ
ผู้ที่วัดให้บอกว่า แว่นอันปัจจุบันของผมอยู่ที่ 400-750 เพราะไม่งั้นใส่แล้วมึนหัว แล้วเค้าก็บอกเพิ่มเติมว่า ควรจะตัดแว่นใหม่แล้วปรับให้เป็น 225-450 เพื่อจะได้ไม่ใส่เกินกว่าสายตาแล้วใช้ตาขวามองเป็นหลัก
สงสัยว่าเราควรจะตัดแว่นสายตาแบบไหน แล้วมีวิธีไหนที่ถูกต้องในการดูแลครับ
ขอบคุณมากครับ