คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 39
เป็นนักจุล
ขอตอบว่าตั้งแต่เรียนมา ตรี ยัน เอก
ไม่เคยเรียนเรื่องรสชาดที่เกิดจาก Normal flora ผิดปกติแต่อย่างใด
แต่ๆ เคยได้ยินจากเพื่อนเกย์ว่าน้ำอสุจิมีรสชาดตามอาหารที่ทานเข้าไปอ่ะ
ขอตอบว่าตั้งแต่เรียนมา ตรี ยัน เอก
ไม่เคยเรียนเรื่องรสชาดที่เกิดจาก Normal flora ผิดปกติแต่อย่างใด
แต่ๆ เคยได้ยินจากเพื่อนเกย์ว่าน้ำอสุจิมีรสชาดตามอาหารที่ทานเข้าไปอ่ะ
Mckov ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 923646 ซึ้ง, Master of Mercy ขำกลิ้ง, noomkrungkao ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 827266 ถูกใจ, accent3839 ทึ่ง, Tropical rain สยอง, บัวน้ำใส ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 797605 ถูกใจ, เทพธิดาปลากระป๋อง ถูกใจรวมถึงอีก 39 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
คุยกันแค่สองคนนะครับหมอ
1.กินผลไม้มา พักผ่อนเพียงพอ ล้างทำความสะอาดปกติ ช่องคลอดไม่มีความผิดปกติ แบบนี้ ยังไงก็รสเหมือนเดิม
2.ทุกอย่างปกติหมดเลย แต่ผุ้หญิงทาครีม ทาแป้ง มันก็จะกลายเป็นรสขมได้
3. ถ้าเราอมน้ำยาบ้วนปากยี่ห้อดังๆ ยี่ห้อนึงมา แล้วเราไปใช้งานเลย มันจะมีรสหวาน
4. แปรงฟันมา โดยใช้ยาสีฟันยี่ห้องนึง ไม่ถึง 30 นาทีแล้วมาทำ ก็จะกลายเป็นอีกรสนึง บางยี่ห้อทำให้มีรสชาติแปลก ๆ และกลิ่นแปลก ๆ
5. กินบ้วยเค็ม แล้วลองไปชิมใหม่ ก็จะมีอีกรสนึง
6. บางทีคนชิม ฟันผุ ฟันไม่แปรง ตื่นมาหิวเลย ชิมดูรสทั้งรสชาติและกลิ่นก็แปลกออกมา ซึ่งตัวเองปากเหม็น กลับไปโทษอีกฝ่ายนึงว่าสุขภาพไม่ดีก็มี
7. สูบบุหรี่มา กินเบียร์มา แล้วมาชิม ก็รสชาติไม่เหมือนเดิม
สรุป ปัญหาที่ผมคิดว่าน่าจะใช่คือ คนชิม เค้าใช้ผลิตภัณฑ์อะไรซักอย่างกับช่องปากเค้า หรือกินอะไรมา แล้วมาโทษคนให้ชิมก็เป็นได้ครับ
1.กินผลไม้มา พักผ่อนเพียงพอ ล้างทำความสะอาดปกติ ช่องคลอดไม่มีความผิดปกติ แบบนี้ ยังไงก็รสเหมือนเดิม
2.ทุกอย่างปกติหมดเลย แต่ผุ้หญิงทาครีม ทาแป้ง มันก็จะกลายเป็นรสขมได้
3. ถ้าเราอมน้ำยาบ้วนปากยี่ห้อดังๆ ยี่ห้อนึงมา แล้วเราไปใช้งานเลย มันจะมีรสหวาน
4. แปรงฟันมา โดยใช้ยาสีฟันยี่ห้องนึง ไม่ถึง 30 นาทีแล้วมาทำ ก็จะกลายเป็นอีกรสนึง บางยี่ห้อทำให้มีรสชาติแปลก ๆ และกลิ่นแปลก ๆ
5. กินบ้วยเค็ม แล้วลองไปชิมใหม่ ก็จะมีอีกรสนึง
6. บางทีคนชิม ฟันผุ ฟันไม่แปรง ตื่นมาหิวเลย ชิมดูรสทั้งรสชาติและกลิ่นก็แปลกออกมา ซึ่งตัวเองปากเหม็น กลับไปโทษอีกฝ่ายนึงว่าสุขภาพไม่ดีก็มี
7. สูบบุหรี่มา กินเบียร์มา แล้วมาชิม ก็รสชาติไม่เหมือนเดิม
สรุป ปัญหาที่ผมคิดว่าน่าจะใช่คือ คนชิม เค้าใช้ผลิตภัณฑ์อะไรซักอย่างกับช่องปากเค้า หรือกินอะไรมา แล้วมาโทษคนให้ชิมก็เป็นได้ครับ
ColdSnaP ขำกลิ้ง, Mckov ขำกลิ้ง, เตเต้ ขำกลิ้ง, HateMonday ขำกลิ้ง, รัมมณีย์ ถูกใจ, noomkrungkao ถูกใจ, กานดา ขาร็อค ทึ่ง, สมาชิกหมายเลข 827266 ขำกลิ้ง, ปลาที่ไม่ตายจะว่ายทวนน้ำ ขำกลิ้ง, BLACK_NOTE ทึ่งรวมถึงอีก 220 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 1
เว้นที่ตรงนี้ ไว้ให้เผื่อใครจะออกทะเล หรือ ใส่มุก ใครไปตอบตรงอื่น ขอให้ Loss of libido ตลอดชาติ
กุ้งเต้นชามะนาว ถูกใจ, WisZip ขำกลิ้ง, Mckov ขำกลิ้ง, เตเต้ ขำกลิ้ง, noomkrungkao ขำกลิ้ง, กานดา ขาร็อค ขำกลิ้ง, sunsis ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 797605 ถูกใจ, i am pum pum ขำกลิ้ง, ทำไมต้องล็อกอิน ถูกใจรวมถึงอีก 51 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 78
อายก็อาย อยากตอบก็อยากตอบ อยากแสดงความเห็นมั่งฮี่...
ประเด็นของคุณน้องสาวคือ ต้องการให้รส(ตรงนั้น)กลับมามีรสชาติถูกใจคุณพี่สาวช่ายป่ะ ^^
คำถามก่อนแนะนำนะ ....
1- รสชาติ(ตรงนั้น) เดิมเคยเป็นอย่างไรล่ะ เปรี้ยว หวาน มัน ขม ขื่น ฝาด หรือว่ากร่อย ?
2- เป็นคู่กันมานานแค่ไหน เกินปีรึเปล่า มีความสัมพันธ์กันมายาวนานแค่ไหน หรือเพิ่งมี ?
3- ช่วงที่แยกกันอยู่ มีพฤติกรรมอะไรไม่เหมือนเดิมบ้าง?
4- ได้เจอกันเดือนละไม่กี่วัน แปลว่า เวลาที่ (sensor) กันไม่มีบทนำเลยเหรอ?
พอก่อน เดี๋ยวยาวเกิน (แต่จริง ๆ อยากถามมากกง่านี้นะ)
สิ่งที่ถามจะนำมาซึ่งคำตอบที่หลากหลายนะ เราไม่ได้ทะลึ่ง(มั๊ง) แต่เรา เดา เอา เอง ^^
สมมติถึงร่างกายส่วนลับของอิสตรีนะ ... ถ้าหากตัดบทในเรื่องโรคติดเชื้อหรือการติดเชื้อออกแล้วละก็ ส่วนที่เราคิดได้คือ มันเป็น "เอกลักษณ์เฉพาะตัว" ของแต่ละคนเลยล่ะ ซึ่งมันอาจจะคล้ายกัน หรือต่างกันก็ได้
คำแนะนำหลังตอบคำถามในแต่ละข้อ และเหตุผลที่ถาม
1- รสชาติที่แตกต่างกัน ถ้าวิเคราะห์ง่าย ๆ ก็ You are What you eat นั่นล่ะ... กินน้ำมะพร้าวก็หวาน กินสะตอก็ฉุน กินยาซ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ก็ขม กินปลาร้าก็คาว ประมาณนี้ ถ้าหากทานโยเกิร์ต รสชาติตรงนั้นน่าจะติดเปรี้ยว (คือ ในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลัส ซึ่งเจ้านี่ก็มีในช่องคลอดง่ะ) ถ้าอยากให้รส(ตรงนั้น) ถูกใจคุณพี่สาว ก็ต้องลองปรุงแต่งกันหน่อย ด้วยการบำรุงนะ ไม่ใช่ป้าย ๆ ทา ๆ -_-"
2- ใกล้เคียงกับข้อแรกนะ อาหารตามฤดูกาลต่างกัน หรือ อาหารประจำถิ่นต่างกัน ... เช่น ช่วงฤดูฝนขอเน้นหน่อไม้ (กลิ่นตรงนั้นจะอับ ฉุน และขื่นนะจ๊ะ) ซึ่ง ปีนี้ กินอาหารเหมือนปีที่แล้วรึเปล่า ถิ่นที่อยู่แตกต่างจากเดิมมั้ย ช่วงนี้กินแกงส้มแทนแกงเลียง... แล้วยังชวนกันไปดินเนอร์อยู่มั้ย? อาหารที่เค้าชอบ อาหารที่คุณชอบ ขนมหวานที่คุณหามาให้เป็นพิเศษ เราว่ามันเกี่ยวข้องกันนะ
3- ช่วงที่แยกกัน รักกันตลอดมั้ย คิดถึงกันหรือเปล่า หรือโกรธ หึงหวง เครียด หรือ ยุ่งกับงาน มีผลกับฮอร์โมน และเมตาบอรึซึ่มของร่างกายนะ ลองปรับเปลี่ยนดูว่าช่วงอารมณ์แบบไหนที่จะผลิตรสชาติที่คุณพี่สาวชอบ ^^
4- อันนี้หมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ เพราะคิดเอาง่าย ๆ เลยนะ ระหว่างน้ำ... ที่หมักหมมระหว่างไม่เจอกัน กับน้ำ... ที่ผลิตสดใหม่สำหรับกิจกรรมอย่างว่า รสชาติต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าไม่เริ่มต้นดี ๆ (ไม่บรรยายนะ อีโรติคเกิน) แล้วหวังจะกินอย่างตะกละตะกลามเลย..... อย่าบ่น!!
เราว่าไม่ใช่เรื่องหน้าอาย แต่ขอโทษนะ..... เราประหลาดใจมาก ที่กล้าไปพบแพทย์!!
ยังไงก็ พยายามเข้านะ ความรักต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและเคมีที่ตรงกันใช่ป่ะล่ะ? ยาวแล้ว..... พอดีกว่า
ปล. อ้างอิงจากข้อสาม เพิ่งนึกได้เรื่องฮอร์โมน .... ลองทานยาคุมดูนะ ระดับฮอร์โมนเพศมีผลต่อเอกลักษณ์เฉพาะจริง ๆ อย่างน้อยก็แก้ปัญหาที่ปลายเหตุได้นิดหน่อยล่ะ
ประเด็นของคุณน้องสาวคือ ต้องการให้รส(ตรงนั้น)กลับมามีรสชาติถูกใจคุณพี่สาวช่ายป่ะ ^^
คำถามก่อนแนะนำนะ ....
1- รสชาติ(ตรงนั้น) เดิมเคยเป็นอย่างไรล่ะ เปรี้ยว หวาน มัน ขม ขื่น ฝาด หรือว่ากร่อย ?
2- เป็นคู่กันมานานแค่ไหน เกินปีรึเปล่า มีความสัมพันธ์กันมายาวนานแค่ไหน หรือเพิ่งมี ?
3- ช่วงที่แยกกันอยู่ มีพฤติกรรมอะไรไม่เหมือนเดิมบ้าง?
4- ได้เจอกันเดือนละไม่กี่วัน แปลว่า เวลาที่ (sensor) กันไม่มีบทนำเลยเหรอ?
พอก่อน เดี๋ยวยาวเกิน (แต่จริง ๆ อยากถามมากกง่านี้นะ)
สิ่งที่ถามจะนำมาซึ่งคำตอบที่หลากหลายนะ เราไม่ได้ทะลึ่ง(มั๊ง) แต่เรา เดา เอา เอง ^^
สมมติถึงร่างกายส่วนลับของอิสตรีนะ ... ถ้าหากตัดบทในเรื่องโรคติดเชื้อหรือการติดเชื้อออกแล้วละก็ ส่วนที่เราคิดได้คือ มันเป็น "เอกลักษณ์เฉพาะตัว" ของแต่ละคนเลยล่ะ ซึ่งมันอาจจะคล้ายกัน หรือต่างกันก็ได้
คำแนะนำหลังตอบคำถามในแต่ละข้อ และเหตุผลที่ถาม
1- รสชาติที่แตกต่างกัน ถ้าวิเคราะห์ง่าย ๆ ก็ You are What you eat นั่นล่ะ... กินน้ำมะพร้าวก็หวาน กินสะตอก็ฉุน กินยาซ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์ก็ขม กินปลาร้าก็คาว ประมาณนี้ ถ้าหากทานโยเกิร์ต รสชาติตรงนั้นน่าจะติดเปรี้ยว (คือ ในโยเกิร์ตมีแลคโตบาซิลัส ซึ่งเจ้านี่ก็มีในช่องคลอดง่ะ) ถ้าอยากให้รส(ตรงนั้น) ถูกใจคุณพี่สาว ก็ต้องลองปรุงแต่งกันหน่อย ด้วยการบำรุงนะ ไม่ใช่ป้าย ๆ ทา ๆ -_-"
2- ใกล้เคียงกับข้อแรกนะ อาหารตามฤดูกาลต่างกัน หรือ อาหารประจำถิ่นต่างกัน ... เช่น ช่วงฤดูฝนขอเน้นหน่อไม้ (กลิ่นตรงนั้นจะอับ ฉุน และขื่นนะจ๊ะ) ซึ่ง ปีนี้ กินอาหารเหมือนปีที่แล้วรึเปล่า ถิ่นที่อยู่แตกต่างจากเดิมมั้ย ช่วงนี้กินแกงส้มแทนแกงเลียง... แล้วยังชวนกันไปดินเนอร์อยู่มั้ย? อาหารที่เค้าชอบ อาหารที่คุณชอบ ขนมหวานที่คุณหามาให้เป็นพิเศษ เราว่ามันเกี่ยวข้องกันนะ
3- ช่วงที่แยกกัน รักกันตลอดมั้ย คิดถึงกันหรือเปล่า หรือโกรธ หึงหวง เครียด หรือ ยุ่งกับงาน มีผลกับฮอร์โมน และเมตาบอรึซึ่มของร่างกายนะ ลองปรับเปลี่ยนดูว่าช่วงอารมณ์แบบไหนที่จะผลิตรสชาติที่คุณพี่สาวชอบ ^^
4- อันนี้หมายถึงอย่างนั้นจริง ๆ เพราะคิดเอาง่าย ๆ เลยนะ ระหว่างน้ำ... ที่หมักหมมระหว่างไม่เจอกัน กับน้ำ... ที่ผลิตสดใหม่สำหรับกิจกรรมอย่างว่า รสชาติต้องไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ถ้าไม่เริ่มต้นดี ๆ (ไม่บรรยายนะ อีโรติคเกิน) แล้วหวังจะกินอย่างตะกละตะกลามเลย..... อย่าบ่น!!
เราว่าไม่ใช่เรื่องหน้าอาย แต่ขอโทษนะ..... เราประหลาดใจมาก ที่กล้าไปพบแพทย์!!
ยังไงก็ พยายามเข้านะ ความรักต้องอาศัยทั้งความเข้าใจและเคมีที่ตรงกันใช่ป่ะล่ะ? ยาวแล้ว..... พอดีกว่า
ปล. อ้างอิงจากข้อสาม เพิ่งนึกได้เรื่องฮอร์โมน .... ลองทานยาคุมดูนะ ระดับฮอร์โมนเพศมีผลต่อเอกลักษณ์เฉพาะจริง ๆ อย่างน้อยก็แก้ปัญหาที่ปลายเหตุได้นิดหน่อยล่ะ
เจน มิเล ถูกใจ, เตเต้ ถูกใจ, noomkrungkao ถูกใจ, เป็ดชบา ถูกใจ, loveleklek ถูกใจ, tawannatch ถูกใจ, Banoffie_Lolita ถูกใจ, Goongi ถูกใจ, ไม่มีใครเหมือนเรา ถูกใจ, Hernf@ ทึ่งรวมถึงอีก 7 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
(20+) โรคที่ไม่เป็นโรค (ดัน)เป็นโรค เมื่อโลกเปลี่ยนไป (เชิญ นักจุลชีวฯ หมอสูติฯ และ หญิงรักหญิง เป็นพิเศษ)
- มาตั้งคำถามในบอร์ดสาธารณะ เพราะ ถามหมอสูติฯแล้วยังไม่(กล้า)ตอบ และ ถามห้องพยาธิฯกับห้องโภชนาการแล้ว
โดน (ป้า) หัวหน้าด่ากลับมาเป็นชุด (ทั้ง 2 แผนกเลย T___T) และที่รพ.ไม่มี ญ.รัก ญ.ที่สนิทพอจะถามไถ่ได้
- ค้น Pubmed , Jounal และ Web.ใต้ดินแลั้ว ไม่เจอข้อมูลเพียงพอจะตอบได้
- หากเห็นว่าไม่เหมาะสมแจ้งลบกระทู้ได้เลย
1 สัปดาห์ก่อน - ผู้หญิงอายุ < 30ปี เดินมาพบแพทย์ที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอก
ผป.ญ. - หมอคะ ดิฉันมีตกขาว ผิดปกติ
หมอ - ผิดปกติ อย่างไรครับ (หันไปบอก ผช. เตรียมห้อง ตรวจภายใน)
ผป.ญ. - ดิฉันไม่ตรวจภายในนะหมอ ยังไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายเลย
หมอ - แล้วตกขาวคุณมีอะไรผิดปกติบ้างครับ สีอะไร คันไหม ฯลฯ
(ตรงนี้ ถามหลายอย่าง ขอสรุปเลยนะ)
ผป.ญ - ตกขาวสีขาวขุ่นเหมือนนม ไม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ไม่มีเลือดออก ไม่มีปัสสาวะผิดปกติ
ประจำเดือนมาตรงเวลา ครั้งละ3-5วัน ไม่ใช้น้ำยาล้างจุดซ่อนเร้น ไม่มีอุบัติเหตุใดๆ ไม่คัน ไม่รู้สึกว่ามีอะไรตรงนั้นผิดปกติ
หมอ - (ทำตาปริบๆ) แล้วคุณมาหาหมอเพราะตกขาวผิดปกติตรงไหน
ผป.ญ. - (อึ้งไป 3วิ) รสมันผิดปกติ
หมอ - ( สตั้นไปอีก 3 วิ) อะไรนะ
ผป.ญ. - (เม้มปาก) ดิฉันบอกว่า รสมันผิดปกติ
หมอ - คุณรู้ได้ยังไง (สงสัยจริงๆ ไม่ได้แกล้ง)
ผป.ญ. - (หน้าเริ่มไม่สบอารมณ์) แฟนบอก
หมอ - ( พยักหน้า หงึกๆ เข้าใจแล้ว ) แล้วจะให้หมอทำยังไง
ผป.ญ. - ก็ขอยาที่ทำให้ ตกขาว กลับมามีรสปกติ
(ขอความช่วยเหลือที่ 1 - ใครรู้บ้างครับ ว่ามียาตัวไหนรักษาเรื่องนี้ได้)
หมอ - เอ้า ยังงี้ คงต้องตรวจภายใน เพื่อเอาเชื้อในช่องคลอดไปตรวจ
(อธิบาย - เป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจกรณี ตกขาวผิดปกติ )
ผป.ญ. - ดิฉันไม่ตรวจภายใน บอกหมอไปแล้วนะ (เม้มปาก)
หมอไม่รู้เหรอว่าตกขาวมันควรมีรสชาติยังไง
( ขอความช่วยเหลือที่ 2 - ใครรู้คำตอบบ้างครับ กับคำถามนี้)
หมอ - (อึ้งไป 30วิ ตอบไม่ถูก บอกไม่ได้) หมอไม่ทราบจริงๆครับ
ผป.ญ. - งั้นให้แฟนหนูมาคุยกับหมอแล้วกัน
หมอ - ก็ได้ครับ (ไม่รู้จะตรวจต่อยังไงแล้ว พูดจริงๆ)
ผป.ญ. เดินออกไป พาผู้หญิงสาวสวย ผมยาว เข้ามาอีก 1คน
ผป.ญ. - เอ้าตัวบอกหมอเขาไปซิว่า มันเป็นยังไง
หมอ -(สตั้นไป 15 วิ) เอ้อ อ้อ หมอเข้าใจแล้ว เอาล่ะ ตกลงมันเป็นยังไงครับ
ญาติผป.ญ. - คือ หนูว่ารส(ตรงนั้น)ของเพื่อนหนูมันแปลกๆไป มันไม่เคยมีรสอย่าง3-4เดือนนี้
มัน เอ้อ แทบจะใช้...(sensor )... ไม่ได้เลย แล้วเพื่อนหนูก็บ่นหากไม่...(sensor xxx)...ให้เขา
คือ มันเป็นปัญหาครอบครัวนะหมอ เข้าใจไหม ( สาวสาย ผมยาว เริ่มดุดัน)
แล้วที่สำคัญ หนูเจอกันเดือนละไม่กี่วัน ไม่...(sensor)...แล้วจะตกลงเป็นแฟนกันทำไม
หมอ - (กุมขมับในความคิด) เอาล่ะ ๆ หมอเข้าใจแล้วนะครับ แต่ยังไงๆ หมอต้องขอตรวจภายใน
เพื่อเอาเชื้อไปย้อมดูก่อน
ผป.ญ. - ไม่เอา ไม่ตรวจภายใน
หมอ -งั้น เอายังงี้ คุณไปหาที่ตรวจทีมีหมอสูติฯ ผญ. ไปตรวจย้อมเชื้อ แล้วไปรักษากับเขา
(แนะนำ รพ.ที่มีหมอผญ.จะตรวจภายในให้เขาได้ )
ลากลับไป จบเรื่องในวันนั้น
วันนี้ เธอกลับมาอีกครั้ง
หมอ - เอ้า แล้วไปเจอหมอสูติฯมาหรือยัง
ผป.ญ. - ไปมาแล้ว เขาตรวจภายในย้อมเชื้อแล้ว ไม่เจอเชื้อผิดปกติอะไร
หมอ - เอ้า แล้วเขาให้ยาอะไรมาล่ะ (อยากรู้มากๆๆๆ)
ผป.ญ. - หมอสูติฯ เขาไม่ได้ให้ยาอะไร
( น่านนนไง จะให้ยาอะไรล่ะหว่า)
หมอ -แล้วมาหาหมอ?
ผป.ญ. - ก็มันไม่หาย เมื่อวานนี้ก็อีกแล้ว แฟนเขาบ่น
(สรุป ถามไปหลายอย่าง และได้คำตอบ ตามข้างล่างนี้)
กินYogurt แช่ด่างทับทิม ( (*-*) ) เหน็บยาฆ่าเชื้อ กินวิตะมิน ออกกำลัง เล่นโยคะ
ในช่วง 3เดือนก่อนมาหาหมอ
เอาล่ะ เขียนเหตุการณ์มายืดยาวเพราะจะพยายามให้ทุกคนเข้าใจเขาว่านี่ คือ ปัญหาครอบครัว ชนิดหนึ่ง (ในความเห็นผม)
และหากมองว่า นี่ คือ โรคๆหนึ่งที่ต้องหาวิธีการรักษา ความช่วยเหลือที่ผมเอามาถามทุกๆท่านที่เข้าอ่าน คือ
1. แพทย์สูติฯ - ใครเคยมีประสบการณ์เจอคนไข้อย่างนี้บ้างครับ แก้ปัญหากันอย่างไร (เมื่อย้อมเชื้อแล้วปกติ และไม่มีอาการอะไรเลย)
2. ญ.รัก ญ. หรือท่านชายที่มีประสบการณ์ - ถามจริงๆ หากรสชาติที่สัมผัสได้ตรงนั้น เปลี่ยนไปจากเดิม
คุณจะเดือดร้อน ขนาดไม่สามารถมีอะไรกันได้เลยไหม (กำลังสงสัยว่าเป็นเฉพาะคนหรือเปล่า)
3. เชื้อต่างๆที่เจริญได้ในช่องคลอด เคยมีการบันทึกไว้ไหมว่า เชื้อไหนเด่น จะมีรสชาติอะไรเปลี่ยน (หาไม่เจอจริงๆ )
ขอความกรุณา ท่านที่จะออกทะเล หรืออยากจะขำ (ไม่ว่ากันนะ เพราะมันเป็นเรื่อง พูดไม่ออก บอกไม่ถูก จริงๆ)
จะเปิดคำตอบที่ 1 ไว้ให้ กรุณาไปขับเรือ หรือ เล่นมุก กันในนั้นนะ คำตอบอื่นๆ ขอสาระเถอะ
ขอคำตอบจากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ทั้งหลาย เพื่อเป็นวิทยาทานไว้ ณ ที่นี้
Tag ปัญหาครอบครัว - สุขภาพกาย - แพทย์ เพราะ ประเด็นอยู่ในเรื่องพวกนี้
ชีววิทยา - ต้องการถามทางจุลชีวฯ เรื่อง เชื้อในช่องคลอด และการเกี่ยวพันทางรสชาติ