สวัสดีครับเพื่อนๆ เพิ่งกลับมาจาก"หลวงพระบางและวังเวียง"ประเทศลาวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากไปสนุกสนานและเหนื่อยล้ากันมาตั้งหนึ่งอาทิตย์ วันนี้มีโอกาสและเวลาก็เลยอยากนำภาพประทับใจในทริปนี้มาฝาก แต่ด้วยภาพความประทับใจมีมากมายเหลือเกินก็เลยแบ่งเป็นวันวันให้ง่ายแก่การติดตาม ข้อมูลต่างๆ ในการท่องเที่ยวก็นำมาจากเพื่อนๆ ที่เคยไปเที่ยวมาแล้วจากที่ พันทิป แห่งนี้ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณมาอย่างจริงใจ (และถ้าเพื่อนเพื่อนท่านใดมีกำหนดการเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศลาวแนะนำเว็บไซต์
http://hobomaps.com/index.html ซึ่งมีแผนที่ของเมืองต่างในลาวอย่างละเอียดและเข้าใจง่ายด้วยนะครับ)
ข้อมูลเบื้องต้น ทริปนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 6 คน ระยะเวลา 7 วัน 6 คืน โดยนอนที่ละ 3 คืน จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าแบบโปรโมชั่นถูกสุดสุดของ Bangkok Airways ไป-กลับคนละ 4,800 บาท จองที่พักทั้งที่ "หลวงพระบาง"และ"วังเวียง"ผ่านเว็บไซต์ Agoda.com ในเฉลี่ยห้องละประมาณ 800 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า ส่วนรายละเอียดของการเดินทางจะค่อยค่อยบอกเล่าไปตามเนื้อเรื่องนะครับ
เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปเที่ยวกันในวันแรกของการเดินทางเลยล่ะกันครับ เริ่มจากนัดหมายกันที่"สนามบินสุวรรณภูมิ"ในเวลาประมาณแปดโมงเช้า เจอกันที่ เคาน์เตอร์ F ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน "บางกอกแอร์เวย์"

ส่วนเวลาบินของไฟท์นี้ที่ไป"หลวงพระบาง"เวลาประมาณ 11.40 น.) ซึ่งก็เป็นที่รู้รู้กันอยู่ว่าควรจะมาเช็คอินล่วงหน้าก่อนเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการที่ สนามบินสุวรรณภูมิ มีเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
เมื่อเช็คอินเรียบร้อยก็เตรียมตัวเข้าไปภายในสนามบิน
ผ่านการตรวจเอกสารแล้วก็ถ่ายรูปคู่กับหนึ่งในไฮไลต์ของ"สนามบินสุวรรณภูมิ"
ไฟท์ของพวกเราอยู่ที่ Gate C2A ยังพอมีเวลาเหลืออีกพอสมควร แวะไปหาอะไรรองท้องกันก่อนที่"เลาน์ king power"
ทางเข้าเลาน์ king power อยู่ตรงข้ามกับทางไป Gate C ซึ่งใกล้กันนิดเดียว เมื่อถึง เลาน์ king power ก็แสดงบัตรสมาชิกและลงทะเบียน (บัตร 1 ใบ ใช้ได้ 3 คนรวมเจ้าของบัตร)
เลาน์ king power แบ่งออกเป็น 2 ส่วน สำหรับสมาชิกทั่วไปและสมาชิก VIP ล๊อบบี้ของ เลาน์ king power เรียบง่ายและสะอาดสะดวกสบาย มีอาหารว่างและเครื่องดื่มต่างๆ ไว้บริการ มี WIFI และมีเครื่องคอมฯ ให้ใช้ฟรีด้วย
พวกเราใช้เวลาที่ เลาน์ king power กันประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วก็ย้ายก้นกันไปนั่งรอเวลาขึ้นเครื่องที่ด้านหน้า Gate ของพวกเรา
บรรยากาศด้านนอกสนามบิน
ไม่นานก็ได้เวลาขึ้นรถเพื่อไปขึ้นเครื่อง
นี่งัย Apsara เครื่องบินที่นำพวกเราไปยัง"หลวงพระบาง"
เมื่อทุกอย่างพร้อม ล้อหมุนตรงเวลา แล้วพวกเราก็ขึ้นมาล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าในเวลาไม่อีกอึดใจ
เครื่องบินที่พวกเรานั่งมาเป็นเครื่องบินลำเล็กเล็ก มีที่นั่งประมาณ 70 ที่นั่ง เป็นเครื่องบินปีกหมุนที่ Classic มากมาก
ปุ่มและอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีเหมือนกับเครื่องบินลำใหญ่ใหญ่
หลังจากเครื่องขึ้นได้สักพัก พนักงานต้อนรับแสนสวยก็นำเอกสารการเข้าประเทศลาวมาแจก
ซึ่งเอกสารที่นำมาแจกแบ่งเป็น 2 อย่างคือ เอกสารสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้วีซ่า และเอกสารใบแจ้งเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องใช้วีซ่าอย่างพวกเรา
แล้วเวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานก็นำอาหารมาเสริฟ สำหรับทริปนี้ประกอบไปด้วย บะหมี่เนื้อปลารอดซอส ยำเห็ด ขนมเค๊กและผลไม้
ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้ง น้ำเปล่า-น้ำอัดลม-เบียร์-ไวน์และน้ำผลไม้ ส่วนของผมขอเป็น"เป๊ปซี่"เย็นเย็นสักแก้วก็พอ
ต้องขอบอกว่าอาหารที่จัดมาให้อร่อยพอสมควร โดยเฉพาะ"ยำเห็ด" หลังจากอิ่มกันแล้วบนเครื่องบินเล็กเล็กแบบนี้คงไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการนั่งหย่อนพุงชมวิวสวยภายนอก
เมฆขาวขาวที่สวยงาม
พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษ แล้วก็ได้เห็น"ลำน้ำโขง"อยู่เบื้องล่างลิบลิบเล็กเล็ก
ผ่านมาอีกไม่ไกล เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงจนสามารถเห็นสนามกอล์ฟสวยสวยริมน้ำโขง
ล้อแตะพื้นแล้ว
ขอบคุณ bangkok airways ที่ทำให้ความฝันของพวกเราหลายคนเป็นความจริงขึ้นมาในการมาเยือน"หลวงพระบาง"แห่งนี้
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถ้ามองดีดีจะเห็นกัปตันเครื่องชูนิ้วให้ด้วย
สนามบินหลวงพระบางหลังใหม่ เพิ่งเปิดใช้งานได้ไม่นาน
เข้าสู่ภายในอาคารเตรียมตัวไปตรวจเอกสาร
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย รับกระเป๋าสัมภาระแล้วก็ออกมาภายนอกเพื่อให้รถไปส่งที่ที่พัก ด้วยความที่พวกเรามากันหลายคนแถมยังมีสัมภาระใบใหญ่ใหญ่กันหลายใบ ก็เลยจำเป็นที่จะต้องเช่าเหมารถกันเข้าเมืองในอัตราคันละ 400 บาท (คนละ 80 บาท) ซึ่งถือว่าแพงพอสมควรกับระยะทางจากสนามบินไปยังที่พักที่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที แต่ถ้าเพื่อนเพื่อนไปกันน้อยคนและไม่มีสัมภาระพะรุงพะรังอย่างพวกเราก็อาจจะนั่งรถร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ซึ่งราคาก็น่าจะถูกลงพอสมควร(น่าจะประมาณคนละ 40 บาทหรือ 10,000 กีบ อัตราแลกเปลี่ยนเงินในช่วงเวลาที่ไป 250 กีบต่อ 1 บาทไทย)
นี่งัยครับ รถที่นำพวกเรามุ่งหน้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
15 นาทีต่อมา พวกเราก็ยืนเด่นเป็นสง่าที่พักของพวกเรา "แม่โขง ฮอลิเดย์ วิลล่า บาย ซานเดรีย" เฮือนพักหลังน้อยริมแม่น้ำโขง
[CR] อยากให้เวลาเดินช้าช้า ที่ "หลวงพระบางและวังเวียง" วันแรก
ข้อมูลเบื้องต้น ทริปนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 6 คน ระยะเวลา 7 วัน 6 คืน โดยนอนที่ละ 3 คืน จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าแบบโปรโมชั่นถูกสุดสุดของ Bangkok Airways ไป-กลับคนละ 4,800 บาท จองที่พักทั้งที่ "หลวงพระบาง"และ"วังเวียง"ผ่านเว็บไซต์ Agoda.com ในเฉลี่ยห้องละประมาณ 800 บาทต่อคืนรวมอาหารเช้า ส่วนรายละเอียดของการเดินทางจะค่อยค่อยบอกเล่าไปตามเนื้อเรื่องนะครับ
เอาล่ะครับเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปเที่ยวกันในวันแรกของการเดินทางเลยล่ะกันครับ เริ่มจากนัดหมายกันที่"สนามบินสุวรรณภูมิ"ในเวลาประมาณแปดโมงเช้า เจอกันที่ เคาน์เตอร์ F ซึ่งเป็นเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน "บางกอกแอร์เวย์"
เมื่อเช็คอินเรียบร้อยก็เตรียมตัวเข้าไปภายในสนามบิน
ผ่านการตรวจเอกสารแล้วก็ถ่ายรูปคู่กับหนึ่งในไฮไลต์ของ"สนามบินสุวรรณภูมิ"
ไฟท์ของพวกเราอยู่ที่ Gate C2A ยังพอมีเวลาเหลืออีกพอสมควร แวะไปหาอะไรรองท้องกันก่อนที่"เลาน์ king power"
ทางเข้าเลาน์ king power อยู่ตรงข้ามกับทางไป Gate C ซึ่งใกล้กันนิดเดียว เมื่อถึง เลาน์ king power ก็แสดงบัตรสมาชิกและลงทะเบียน (บัตร 1 ใบ ใช้ได้ 3 คนรวมเจ้าของบัตร)
เลาน์ king power แบ่งออกเป็น 2 ส่วน สำหรับสมาชิกทั่วไปและสมาชิก VIP ล๊อบบี้ของ เลาน์ king power เรียบง่ายและสะอาดสะดวกสบาย มีอาหารว่างและเครื่องดื่มต่างๆ ไว้บริการ มี WIFI และมีเครื่องคอมฯ ให้ใช้ฟรีด้วย
พวกเราใช้เวลาที่ เลาน์ king power กันประมาณครึ่งชั่วโมงแล้วก็ย้ายก้นกันไปนั่งรอเวลาขึ้นเครื่องที่ด้านหน้า Gate ของพวกเรา
บรรยากาศด้านนอกสนามบิน
ไม่นานก็ได้เวลาขึ้นรถเพื่อไปขึ้นเครื่อง
นี่งัย Apsara เครื่องบินที่นำพวกเราไปยัง"หลวงพระบาง"
เมื่อทุกอย่างพร้อม ล้อหมุนตรงเวลา แล้วพวกเราก็ขึ้นมาล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าในเวลาไม่อีกอึดใจ
เครื่องบินที่พวกเรานั่งมาเป็นเครื่องบินลำเล็กเล็ก มีที่นั่งประมาณ 70 ที่นั่ง เป็นเครื่องบินปีกหมุนที่ Classic มากมาก
ปุ่มและอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีเหมือนกับเครื่องบินลำใหญ่ใหญ่
หลังจากเครื่องขึ้นได้สักพัก พนักงานต้อนรับแสนสวยก็นำเอกสารการเข้าประเทศลาวมาแจก
ซึ่งเอกสารที่นำมาแจกแบ่งเป็น 2 อย่างคือ เอกสารสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องใช้วีซ่า และเอกสารใบแจ้งเข้าเมืองสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องใช้วีซ่าอย่างพวกเรา
แล้วเวลาผ่านไปไม่นาน พนักงานก็นำอาหารมาเสริฟ สำหรับทริปนี้ประกอบไปด้วย บะหมี่เนื้อปลารอดซอส ยำเห็ด ขนมเค๊กและผลไม้
ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้ง น้ำเปล่า-น้ำอัดลม-เบียร์-ไวน์และน้ำผลไม้ ส่วนของผมขอเป็น"เป๊ปซี่"เย็นเย็นสักแก้วก็พอ
ต้องขอบอกว่าอาหารที่จัดมาให้อร่อยพอสมควร โดยเฉพาะ"ยำเห็ด" หลังจากอิ่มกันแล้วบนเครื่องบินเล็กเล็กแบบนี้คงไม่มีอะไรมีความสุขไปกว่าการนั่งหย่อนพุงชมวิวสวยภายนอก
เมฆขาวขาวที่สวยงาม
พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงเศษ แล้วก็ได้เห็น"ลำน้ำโขง"อยู่เบื้องล่างลิบลิบเล็กเล็ก
ผ่านมาอีกไม่ไกล เครื่องบินก็เริ่มลดระดับลงจนสามารถเห็นสนามกอล์ฟสวยสวยริมน้ำโขง
ล้อแตะพื้นแล้ว
ขอบคุณ bangkok airways ที่ทำให้ความฝันของพวกเราหลายคนเป็นความจริงขึ้นมาในการมาเยือน"หลวงพระบาง"แห่งนี้
ถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ถ้ามองดีดีจะเห็นกัปตันเครื่องชูนิ้วให้ด้วย
สนามบินหลวงพระบางหลังใหม่ เพิ่งเปิดใช้งานได้ไม่นาน
เข้าสู่ภายในอาคารเตรียมตัวไปตรวจเอกสาร
หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย รับกระเป๋าสัมภาระแล้วก็ออกมาภายนอกเพื่อให้รถไปส่งที่ที่พัก ด้วยความที่พวกเรามากันหลายคนแถมยังมีสัมภาระใบใหญ่ใหญ่กันหลายใบ ก็เลยจำเป็นที่จะต้องเช่าเหมารถกันเข้าเมืองในอัตราคันละ 400 บาท (คนละ 80 บาท) ซึ่งถือว่าแพงพอสมควรกับระยะทางจากสนามบินไปยังที่พักที่ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 15 นาที แต่ถ้าเพื่อนเพื่อนไปกันน้อยคนและไม่มีสัมภาระพะรุงพะรังอย่างพวกเราก็อาจจะนั่งรถร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ซึ่งราคาก็น่าจะถูกลงพอสมควร(น่าจะประมาณคนละ 40 บาทหรือ 10,000 กีบ อัตราแลกเปลี่ยนเงินในช่วงเวลาที่ไป 250 กีบต่อ 1 บาทไทย)
นี่งัยครับ รถที่นำพวกเรามุ่งหน้าสู่ตัวเมืองหลวงพระบาง
15 นาทีต่อมา พวกเราก็ยืนเด่นเป็นสง่าที่พักของพวกเรา "แม่โขง ฮอลิเดย์ วิลล่า บาย ซานเดรีย" เฮือนพักหลังน้อยริมแม่น้ำโขง