..........กันย์มาที่โรงพยาบาลแต่เช้าตรู่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำไมในใจของเขาตอนนี้
มันมีแต่เรื่องราวของนวพรรษเต็มไปหมด เขาไม่สามารถสลัดภาพของเธอออกไปจากหัวได้เลย
“ผมไม่อยากห่างคุณไปไหนเลย แม้แต่วินาทีเดียว”
กันย์พูดกับตัวเองในใจ เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องพักฟื้นของนวพรรษเหมือนคนบ้า
“คุณยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรอ”
ธาวินเริ่มบทสนทนาด้วยท่าทางเคร่งเครียด การพบเจอกันวันนี้มันทำให้เขาแทบหมดความอดทน
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
กันย์ไม่ตอบโต้ แค่ยืนอยู่เฉยๆไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“คุณนวพรรษเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม แล้วผมก็ไม่คิดว่าเธอคงไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีกแล้ว”
ธาวินมองจ้องกันย์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“ผมไม่ได้อยากมารบกวนอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร”
กันย์พูดเบาๆด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทรมานความรู้สึกของเขาเหลือเกิน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
เขาขอเลือกที่จะไม่รู้จักเธอ
“นี่คงเป็นวิธีการแสดงความรักของคุณสินะ เฝ้ามองดูอยู่เงียบๆ อย่างคนขี้ขลาดแบบนี้...คุณกลับไปเถอะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
คุณคงไม่มีโอกาสได้กลับเข้ามาในชีวิตของพวกเขาอีกแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้ให้อภัยคนที่ทำให้พ่อเธอต้องตายได้หรอก
โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจเลวร้ายแบบคุณ คุณกลับไปเถอะ”
ธาวินยังคงยืนยันคำเดิม แต่กันย์ก็ยังคงดื้อดึงและยืนนิ่งไม่ยอมจากไปไหน
“ผมจะอยู่ตรงนี้เงียบๆ ปล่อยผมไว้ที่นี่แหละ”
กันย์พูดขึ้นน้ำตาคลอ หัวใจของเขามันอ่อนไหวเหลือเกินที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้ชีวิตของนวพรรษต้องพังพินาศย่อยยับด้วยมือของเขาเอง
“ไม่มีประโยชน์หรอก เธอกลับไปเถอะ”
เพียงพรเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยอีกคน หน้าตาท่าทางหมดอาลัยตายอยากในชีวิตของเธอยิ่งทำให้กันย์แทบล้มทั้งยืน
หัวใจของเขามันเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน
“คุณอาครับ ผมขอโทษ....ผม....”
กันย์ยืนกำหมัดแน่น เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลริน รู้สึกเจ็บในหัวใจเหมือนมีใครเอามีดมากรีดหัวใจของเขาซ้ำไปซ้ำมา
“เธอกลับไปเถอะ ฉันอภัยให้เธอหมดทุกอย่าง หมดเวรหมดกรรมกันซักที ทั้งยายเนย์ ทั้งยายเมย์ ไม่ต้องมีอะไรมาแค้นเคืองกันอีก”
เพียงพรพูดขึ้นอย่างปลงตก หมดแรงที่จะแค้นเคืองอาฆาตพยาบาทกันต่อไป
“ผมผิดไปแล้ว”
กันย์ก้มลงแทบเท้าเพียงพร ไม่เคยต้องการให้เรื่องราวมันออกมาเลวร้ายแบบนี้
“เธอไปซะเถอะ”
เพียงพรยืนน้ำตาเอ่อไหล ใบหน้าซีดเซียวไร้เนื้อนวลมันบอกได้อย่างดีว่าเธอหมดกำลังใจในชีวิตไปแล้ว
“ผมยอมรับผิดและยอมชดใช้กรรม ยกโทษให้ผมด้วย”
กันย์ก้มลงกราบแทบเท้าของเพียงพร ด้วยความรู้สึกผิดจริงๆจากหัวใจของเขา คำว่าให้อภัยจากเพียงพรมันมากเกินไปด้วยซ้ำ
สำหรับคนเลวๆที่ไม่เคยปรารถนาดีต่อใครอย่างเขา
“ฉันอภัยให้ ขอให้เวรกรรมของเราที่เคยทำร่วมกันมามันจบสิ้นลงแค่นี้”
เพียงพรกล่าวประโยคสุดท้าย ก่อนจะเดินหนีกลับเข้าห้องพักฟื้นผู้ป่วยทั้งน้ำตา
“คุณสมควรได้รับมัน ผมคิดว่านี่มันน้อยไปด้วยซ้ำในสิ่งที่คุณทำกับทุกคนเอาไว้ ความรู้สึกผิดนี้จะติดอยู่ในใจคุณไป
จนกว่าคุณจะตายนั่นแหละ”
ธาวินทิ้งท้าย ก่อนจะเดินตามเพียงพรเข้าไปด้วยความทุกข์ทรมานอีกคน เรื่องราวชีวิตของนวพรรษมันทำให้เขารู้สึกหดหู่
และไม่อยากทิ้งเธอไปไหนเลยในตอนนี้
กันย์ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าตู้กระจกในโรงพยาบาลอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ หัวใจของเขามันด้านชาไปหมดแล้วตอนนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำลงไปมันกำลังจะทำให้เขาถลำลึกเข้าไปในคำว่าคนเลวเข้าไปทุกที
“น้องแข็งแรงมากค่ะ คุณแม่เธอคงดูแลตัวเองดีมาก ขนาดคลอดก่อนกำหนดต้องหลายวันยังแข็งแรงขนาดนี้”
นางพยาบาลเดินเข้ามาทักทายกันย์ด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มเอาแต่ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร ยิ่งนับวันเขายิ่งรู้สึกอ้างว้างเดียวดายมากขึ้นทุกที
“แม่ของเด็กจะปลอดภัยมั้ยครับ”
กันย์เปิดปากพูดด้วยความเย็นชา
“คุณแม่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นมากซักหน่อยและต่อจากนี้ไปอาจจะต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ...เอ่อ...
แล้วเธอก็อาจจะมีลูกไม่ได้อีกแล้วค่ะ...แต่ถ้าเธอดูแลตัวเองดีๆ ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเองค่ะ”
นางพยาบาลพูดปลอบใจกันย์
“..........”
ชายหนุ่มยืนนิ่ง น้ำตาค่อยๆเอ่อไหลออกมาด้วยความรู้สึกทรมานที่ท้วมท้นอยู่ในใจ เขาทำพลาดไปแล้วอย่างใหญ่หลวง
เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าการรักใครซักคนมันเป็นยังไง
“ผมอยากมีโอกาสได้ดูแลคุณ....ผม...ผม....”
กันย์ยืนน้ำตาเอ่อไหล พูดกับตัวเองในใจทั้งน้ำตา สิ่งเดียวที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือชดใช้ในเรื่องเลวๆทั้งหมด
ที่เขาเคยได้ทำกับนวพรรษเอาไว้
“ภรรยาของคุณเธอจะต้องหายดีค่ะ อย่าเป็นห่วงไปเลยนะคะ”
นางพยาบาลมองดูสีหน้าเศร้าๆของกันย์ด้วยความกังวลใจ กันย์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยความเงียบงัน ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย
ประพนธ์วิ่งไปทั่วโรงพยาลด้วยความร้อนใจเพื่อตามหาภคพร แต่ไม่ว่าที่ใดๆที่เขาพยายามตามหา ก็ไม่พบวี่แววของภคพร
เลยแม้แต่น้อย
“อย่าเป็นอะไรนะคุณ”
ประพนธ์พูดกับตัวเอง มือก็พยายามกดโทรศัพท์หาภคพร
“ตุ๊บ!!”
ประพนธ์ยืนมองโทรศัพท์ที่ตกลงมาแตกละเอียดอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาของชายนุ่มเบิกกว้าง มือไม้สั่น
โดยเฉพาะหัวใจของเขาที่มันเจ็บแปลบขึ้นมาเหมือนมีใครเอามีดมากรีดลงตรงกลางหัวใจ
“ไม่นะคุณ...ไม่นะ...”
ประพนธ์วิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้งและตรงดิ่งไปที่ดาดฟ้าอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะต้องยืนถอนหายใจพร้อมกับเสียงหอบอย่างโล่งอก
เมื่อเห็นภคพรนั่งแน่นิ่งอยู่บนขอบกำแพงกั้นไม่ให้คนตกลงไปบนดาดฟ้า
“ทำบ้าอะไรของคุณ!!”
ประพนธ์ตะโกนสุดเสียง ภคพรหันมามองหน้าเขาอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงสาวนั้น
มันทำให้ประพนธ์แทบหยุดหายใจ
“อย่ามายุ่ง”
ภคพรพูดเสียงแผ่วเบา น้ำตาค่อยๆไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
“.....”
ประพนธ์ค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“อย่าเข้ามา ถ้าก้าวมาอีกก้าวเดียวฉันจะโดดลงไปเดี๋ยวนี้”
ภคพรยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ ประพนธ์หยุดชะงักลง ไม่อาจก้าวขาต่อไป เพราะแค่ภคพรออกแรงนิดเดียว
ร่างของเธอก็จะตกลงไปได้อย่างแสนง่ายดาย
“ผู้หญิงคนนี้ ที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าผม ผมอยากกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนเหลือเกิน ผมอยากให้เธอได้รู้ว่ามากแค่ไหนที่ผมรักเธอ”
ประพนธ์พูดกับตัวเองในใจ มองดูภคพรด้วยความสงสารจับหัวใจ
“พ่อฉันตายไปแล้ว คุณได้ยินไหมว่าพ่อจะไม่มากอดฉันตอนที่ฉันเสียใจแบบนี้อีกแล้ว”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้น ความทรมานเป็นเช่นไรเธอได้เข้าใจมันแจ่มแจ้งแล้ววันนี้
“ใจเย็นๆนะคุณ คุณหันหน้ามาหาผม แล้วลงมาจากบนนั้นเถอะ”
ประพนธ์ค่อยๆเขยิบเท้าเข้ามา
“บอกว่าอย่าเข้ามา”
ภคพรเขยิบตัว ประพนธ์ใจหายวาบอย่างหวาดระแวง
“ผมจะหยุดอยู่ตรงนี้ อย่าทำอะไรบ้าๆนะคุณ”
ประพนธ์ยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับเขยื้อน
“ฉันไม่น่าเริ่มต้นเรื่องนี้เลย ถ้าฉันไม่คิดที่จะแก้แค้นทุกคน พ่อกับลุงของฉันก็คงไม่ต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมานแบบนี้
ฉันมองไม่เห็นวิธีไหน ที่จะชดใช้ความผิดในครั้งนี้ได้เลย ฮือๆๆๆ”
ภคพรนั่งนิ่ง ร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน
“ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นหรอกคุณ ทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุ คุณลงมาคุยกับผมข้างล่างเถอะนะ แม่คุณ น้องคุณ แล้วก็หลานของคุณ
ทุกคนเขาต้องการคุณนะ ลงมาเถอะครับ”
ประพนธ์เอื้อมมือไปหาภคพรด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหดหู่
“ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ...”
ภคพรพูดขึ้นเสียงเรียบด้วยความเย็นชา ประพนธ์ยืนใจเต้นรัวกลัวเหลือเกินว่าจะต้องสูญเสียภคพรไป
“ฉันทนรับความเจ็บปวดทรมานมากมายขนาดนี้ไม่ไหวหรอก... หัวใจฉันมันเจ็บจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงแล้ว ฉัน.....”
ภคพรพร่ำเพ้อพรรณนาความทุกข์ทรมานในใจเธอออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบเต็มสองแก้ม
“.....”
ประพนธ์ยืนจดจ้องหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเขาไม่ตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง เขาคงต้องเสียภคพรไปจริงๆตลอดกาล
“ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ...."
ภคพรหันมามองประพนธ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย และในจังหวะนั้นเองที่ประพนธ์ตัดสินใจวิ่งเข้าหาร่างของภคพร
และฉุดกระชากเธอลงมาจากริมระเบียงและนอนล้มกลิ้งไม่เป็นท่าอยู่ในอ้อมอกของเขา หญิงสาวนอนแน่นิ่ง
โดยมีร่างของประพนธ์นอนทับอยู่บนตัวเธอ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวอย่างขอบคุณพระเจ้าที่เธอไม่เป็นอะไร
“..........”
ภคพรมองหน้าประพนธ์น้ำตาไหลอาบ ในใจเธอตอนนี้มันมีแต่คำถามว่าทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับเธอขนาดนี้
“ทำไมคุณถึงทำร้ายฉันขนาดนี้...”
ภคพรเอ่ยปากพูดเสียงแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน
“ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ประพนธ์มองหน้าหญิงสาวแววตาแดงกร่ำ ก่อนที่หยดน้ำตาของเขาจะหยดลงบนแก้มขาวๆของเธออย่างไม่อาจเก็บกลั้น
“อย่ามายุ่งกับชีวิตฉันอีก ฉันจะเป็นจะตายยังไงก็ไม่ต้องมาสนใจ เพราะว่าชาตินี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่มีวันอภัยให้คุณ”
ดวงตาคมกริบ ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆของภคพรมองจ้องเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวของประพนธ์
ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างต้องการคำว่าอภัย
“ผมขอโทษ”
ประพนธ์น้ำตาเอ่อไหล ก้มลงกอดหญิงสาวเอาไว้แนบแน่น ซบหน้าลงบนไหล่ของเธอด้วยความทุกข์ทรมานที่ไม่ต่างกัน
ภคพรเดินลงบันไดหนีไฟด้วยความนิ่งเฉยจนน่าใจหาย เธอไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงความรู้สึกใดๆ
เธอแค่เดินลงมาจากบนดาดฟ้าด้วยความเย็นชาจนน่ากลัว
“ผมจะพาคุณไปส่งที่ห้องพักฟื้นของน้องสาวคุณนะ”
ประพนธ์เดินตามมาด้วยความกังวลใจ กลัวว่าภคพรจะคิดทำร้ายตัวเองอีก
“.....”
ภคพรยังคงเดินนิ่ง ไม่ยอมปริปากพูดอะไร
“อ้วก ๆๆๆ”
หญิงสาวนั่งลงกับพื้นและอาเจียนออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ประพนธ์เข้าไปประคองแขนของเธอแต่ก็ถูกผลักกระเด็นออกมา
“อ้วกๆๆ”
ภคพรยังคงอาเจียนออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ประพนธ์รีบร้อนเข้าไปประคองเธออีกครั้งและไม่ยอมถูกภคพรผลักออกมาอีกง่ายๆแน่
“นี่คุณท้องใช่มั้ย”
ประพนธ์โพล่งถามออกไปด้วยความตกใจ ภคพรเบิกตากว้างหันมามองหน้าประพนธ์ กลัวในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา
“ฉันไม่ได้ท้อง ไม่มีวันท้อง...”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ตาแข็ง น้ำตาไหลทะลักออกมาอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่แสนอ่อนไหว
“คุณท้องใช่มั้ย”
ประพนธ์ถามย้ำอีกครั้งอย่างคาดคั้น
“ฉันไม่ได้ท้อง แต่ถึงฉันท้อง เด็กคนนี้ก็จะไม่มีวันได้เกิดมา อย่ามายุ่งกับชีวิตฉัน”
ภคพรผลักประพนธ์ให้ห่างออกไปและลุกขึ้นเดินต่ออย่างไม่สนใจใยดี
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคุณ”
ประพนธ์คว้ามือหญิงสาวและฉุดร่างของเธอให้หันมา
“เพี๊ยะ!!”
ภคพรตบหน้าประพนธ์เต็มแรงอย่างหมดความอดทน
“ทำกับฉันขนาดนี้ คุณยังกล้าถามฉันแบบนี้อีกหรอ ออกไปให้พ้นจากชีวิตฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันเกลียดคุณ เกลียด เกลียด!!”
ภคพรตะโกนใส่หน้าประพนธ์ทั้งน้ำตา ไม่สามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้กับครอบครัวของเธอ
“ไปตรวจกับผม”
ประพนธ์กระชากแขนภคพร
“ฉันไม่ไป”
หญิงสาวสะบัดมือ
“.....”
ประพนธ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกอุ้มร่างบางของหญิงสาวขึ้นในอ้อมอก และพาเธอเดินลงบันไดอย่างทุลักทุเล
เพราะฤทธิ์เดชของภคพรที่กรีดร้องและดิ้นรนขัดขืนอยู่ตลอดเวลา
ต่อด้านล่างจร้า 
ไร้หัวใจ ตอนที่ 34
..........กันย์มาที่โรงพยาบาลแต่เช้าตรู่ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ทำไมในใจของเขาตอนนี้
มันมีแต่เรื่องราวของนวพรรษเต็มไปหมด เขาไม่สามารถสลัดภาพของเธอออกไปจากหัวได้เลย
“ผมไม่อยากห่างคุณไปไหนเลย แม้แต่วินาทีเดียว”
กันย์พูดกับตัวเองในใจ เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องพักฟื้นของนวพรรษเหมือนคนบ้า
“คุณยังมีหน้ามาที่นี่อีกหรอ”
ธาวินเริ่มบทสนทนาด้วยท่าทางเคร่งเครียด การพบเจอกันวันนี้มันทำให้เขาแทบหมดความอดทน
“ไม่เกี่ยวกับคุณ”
กันย์ไม่ตอบโต้ แค่ยืนอยู่เฉยๆไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“คุณนวพรรษเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของผม แล้วผมก็ไม่คิดว่าเธอคงไม่อยากจะเห็นหน้าคุณอีกแล้ว”
ธาวินมองจ้องกันย์ด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“ผมไม่ได้อยากมารบกวนอะไรทั้งนั้น ผมแค่อยากมาดูให้แน่ใจว่าเธอไม่เป็นอะไร”
กันย์พูดเบาๆด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันทรมานความรู้สึกของเขาเหลือเกิน ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
เขาขอเลือกที่จะไม่รู้จักเธอ
“นี่คงเป็นวิธีการแสดงความรักของคุณสินะ เฝ้ามองดูอยู่เงียบๆ อย่างคนขี้ขลาดแบบนี้...คุณกลับไปเถอะ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
คุณคงไม่มีโอกาสได้กลับเข้ามาในชีวิตของพวกเขาอีกแล้ว ไม่มีผู้หญิงคนไหนบนโลกนี้ให้อภัยคนที่ทำให้พ่อเธอต้องตายได้หรอก
โดยเฉพาะคนที่มีจิตใจเลวร้ายแบบคุณ คุณกลับไปเถอะ”
ธาวินยังคงยืนยันคำเดิม แต่กันย์ก็ยังคงดื้อดึงและยืนนิ่งไม่ยอมจากไปไหน
“ผมจะอยู่ตรงนี้เงียบๆ ปล่อยผมไว้ที่นี่แหละ”
กันย์พูดขึ้นน้ำตาคลอ หัวใจของเขามันอ่อนไหวเหลือเกินที่ได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนทำให้ชีวิตของนวพรรษต้องพังพินาศย่อยยับด้วยมือของเขาเอง
“ไม่มีประโยชน์หรอก เธอกลับไปเถอะ”
เพียงพรเดินออกมาจากห้องพักผู้ป่วยอีกคน หน้าตาท่าทางหมดอาลัยตายอยากในชีวิตของเธอยิ่งทำให้กันย์แทบล้มทั้งยืน
หัวใจของเขามันเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน
“คุณอาครับ ผมขอโทษ....ผม....”
กันย์ยืนกำหมัดแน่น เพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลริน รู้สึกเจ็บในหัวใจเหมือนมีใครเอามีดมากรีดหัวใจของเขาซ้ำไปซ้ำมา
“เธอกลับไปเถอะ ฉันอภัยให้เธอหมดทุกอย่าง หมดเวรหมดกรรมกันซักที ทั้งยายเนย์ ทั้งยายเมย์ ไม่ต้องมีอะไรมาแค้นเคืองกันอีก”
เพียงพรพูดขึ้นอย่างปลงตก หมดแรงที่จะแค้นเคืองอาฆาตพยาบาทกันต่อไป
“ผมผิดไปแล้ว”
กันย์ก้มลงแทบเท้าเพียงพร ไม่เคยต้องการให้เรื่องราวมันออกมาเลวร้ายแบบนี้
“เธอไปซะเถอะ”
เพียงพรยืนน้ำตาเอ่อไหล ใบหน้าซีดเซียวไร้เนื้อนวลมันบอกได้อย่างดีว่าเธอหมดกำลังใจในชีวิตไปแล้ว
“ผมยอมรับผิดและยอมชดใช้กรรม ยกโทษให้ผมด้วย”
กันย์ก้มลงกราบแทบเท้าของเพียงพร ด้วยความรู้สึกผิดจริงๆจากหัวใจของเขา คำว่าให้อภัยจากเพียงพรมันมากเกินไปด้วยซ้ำ
สำหรับคนเลวๆที่ไม่เคยปรารถนาดีต่อใครอย่างเขา
“ฉันอภัยให้ ขอให้เวรกรรมของเราที่เคยทำร่วมกันมามันจบสิ้นลงแค่นี้”
เพียงพรกล่าวประโยคสุดท้าย ก่อนจะเดินหนีกลับเข้าห้องพักฟื้นผู้ป่วยทั้งน้ำตา
“คุณสมควรได้รับมัน ผมคิดว่านี่มันน้อยไปด้วยซ้ำในสิ่งที่คุณทำกับทุกคนเอาไว้ ความรู้สึกผิดนี้จะติดอยู่ในใจคุณไป
จนกว่าคุณจะตายนั่นแหละ”
ธาวินทิ้งท้าย ก่อนจะเดินตามเพียงพรเข้าไปด้วยความทุกข์ทรมานอีกคน เรื่องราวชีวิตของนวพรรษมันทำให้เขารู้สึกหดหู่
และไม่อยากทิ้งเธอไปไหนเลยในตอนนี้
กันย์ยืนนิ่งอยู่ที่หน้าตู้กระจกในโรงพยาบาลอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ หัวใจของเขามันด้านชาไปหมดแล้วตอนนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำลงไปมันกำลังจะทำให้เขาถลำลึกเข้าไปในคำว่าคนเลวเข้าไปทุกที
“น้องแข็งแรงมากค่ะ คุณแม่เธอคงดูแลตัวเองดีมาก ขนาดคลอดก่อนกำหนดต้องหลายวันยังแข็งแรงขนาดนี้”
นางพยาบาลเดินเข้ามาทักทายกันย์ด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มเอาแต่ยืนนิ่งไม่ตอบอะไร ยิ่งนับวันเขายิ่งรู้สึกอ้างว้างเดียวดายมากขึ้นทุกที
“แม่ของเด็กจะปลอดภัยมั้ยครับ”
กันย์เปิดปากพูดด้วยความเย็นชา
“คุณแม่อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นมากซักหน่อยและต่อจากนี้ไปอาจจะต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ...เอ่อ...
แล้วเธอก็อาจจะมีลูกไม่ได้อีกแล้วค่ะ...แต่ถ้าเธอดูแลตัวเองดีๆ ทุกอย่างจะค่อยๆดีขึ้นเองค่ะ”
นางพยาบาลพูดปลอบใจกันย์
“..........”
ชายหนุ่มยืนนิ่ง น้ำตาค่อยๆเอ่อไหลออกมาด้วยความรู้สึกทรมานที่ท้วมท้นอยู่ในใจ เขาทำพลาดไปแล้วอย่างใหญ่หลวง
เขาเพิ่งรู้ตัวตอนนี้เองว่าการรักใครซักคนมันเป็นยังไง
“ผมอยากมีโอกาสได้ดูแลคุณ....ผม...ผม....”
กันย์ยืนน้ำตาเอ่อไหล พูดกับตัวเองในใจทั้งน้ำตา สิ่งเดียวที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้คือชดใช้ในเรื่องเลวๆทั้งหมด
ที่เขาเคยได้ทำกับนวพรรษเอาไว้
“ภรรยาของคุณเธอจะต้องหายดีค่ะ อย่าเป็นห่วงไปเลยนะคะ”
นางพยาบาลมองดูสีหน้าเศร้าๆของกันย์ด้วยความกังวลใจ กันย์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยความเงียบงัน ไม่ยอมพูดอะไรอีกเลย
ประพนธ์วิ่งไปทั่วโรงพยาลด้วยความร้อนใจเพื่อตามหาภคพร แต่ไม่ว่าที่ใดๆที่เขาพยายามตามหา ก็ไม่พบวี่แววของภคพร
เลยแม้แต่น้อย
“อย่าเป็นอะไรนะคุณ”
ประพนธ์พูดกับตัวเอง มือก็พยายามกดโทรศัพท์หาภคพร
“ตุ๊บ!!”
ประพนธ์ยืนมองโทรศัพท์ที่ตกลงมาแตกละเอียดอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาของชายนุ่มเบิกกว้าง มือไม้สั่น
โดยเฉพาะหัวใจของเขาที่มันเจ็บแปลบขึ้นมาเหมือนมีใครเอามีดมากรีดลงตรงกลางหัวใจ
“ไม่นะคุณ...ไม่นะ...”
ประพนธ์วิ่งเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้งและตรงดิ่งไปที่ดาดฟ้าอย่างไม่คิดชีวิต ก่อนจะต้องยืนถอนหายใจพร้อมกับเสียงหอบอย่างโล่งอก
เมื่อเห็นภคพรนั่งแน่นิ่งอยู่บนขอบกำแพงกั้นไม่ให้คนตกลงไปบนดาดฟ้า
“ทำบ้าอะไรของคุณ!!”
ประพนธ์ตะโกนสุดเสียง ภคพรหันมามองหน้าเขาอย่างไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาของหญิงสาวนั้น
มันทำให้ประพนธ์แทบหยุดหายใจ
“อย่ามายุ่ง”
ภคพรพูดเสียงแผ่วเบา น้ำตาค่อยๆไหลรินออกมาไม่ขาดสาย
“.....”
ประพนธ์ค่อยๆก้าวเท้าเข้ามาใกล้ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“อย่าเข้ามา ถ้าก้าวมาอีกก้าวเดียวฉันจะโดดลงไปเดี๋ยวนี้”
ภคพรยังคงพูดด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความรู้สึกทุกข์ร้อนใดๆ ประพนธ์หยุดชะงักลง ไม่อาจก้าวขาต่อไป เพราะแค่ภคพรออกแรงนิดเดียว
ร่างของเธอก็จะตกลงไปได้อย่างแสนง่ายดาย
“ผู้หญิงคนนี้ ที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าผม ผมอยากกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนเหลือเกิน ผมอยากให้เธอได้รู้ว่ามากแค่ไหนที่ผมรักเธอ”
ประพนธ์พูดกับตัวเองในใจ มองดูภคพรด้วยความสงสารจับหัวใจ
“พ่อฉันตายไปแล้ว คุณได้ยินไหมว่าพ่อจะไม่มากอดฉันตอนที่ฉันเสียใจแบบนี้อีกแล้ว”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้น ความทรมานเป็นเช่นไรเธอได้เข้าใจมันแจ่มแจ้งแล้ววันนี้
“ใจเย็นๆนะคุณ คุณหันหน้ามาหาผม แล้วลงมาจากบนนั้นเถอะ”
ประพนธ์ค่อยๆเขยิบเท้าเข้ามา
“บอกว่าอย่าเข้ามา”
ภคพรเขยิบตัว ประพนธ์ใจหายวาบอย่างหวาดระแวง
“ผมจะหยุดอยู่ตรงนี้ อย่าทำอะไรบ้าๆนะคุณ”
ประพนธ์ยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับเขยื้อน
“ฉันไม่น่าเริ่มต้นเรื่องนี้เลย ถ้าฉันไม่คิดที่จะแก้แค้นทุกคน พ่อกับลุงของฉันก็คงไม่ต้องมาตายอย่างทุกข์ทรมานแบบนี้
ฉันมองไม่เห็นวิธีไหน ที่จะชดใช้ความผิดในครั้งนี้ได้เลย ฮือๆๆๆ”
ภคพรนั่งนิ่ง ร้องไห้ออกมาด้วยความทุกข์ทรมาน
“ไม่มีใครเขาคิดแบบนั้นหรอกคุณ ทั้งหมดมันเป็นอุบัติเหตุ คุณลงมาคุยกับผมข้างล่างเถอะนะ แม่คุณ น้องคุณ แล้วก็หลานของคุณ
ทุกคนเขาต้องการคุณนะ ลงมาเถอะครับ”
ประพนธ์เอื้อมมือไปหาภคพรด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความหดหู่
“ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ...”
ภคพรพูดขึ้นเสียงเรียบด้วยความเย็นชา ประพนธ์ยืนใจเต้นรัวกลัวเหลือเกินว่าจะต้องสูญเสียภคพรไป
“ฉันทนรับความเจ็บปวดทรมานมากมายขนาดนี้ไม่ไหวหรอก... หัวใจฉันมันเจ็บจนไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงแล้ว ฉัน.....”
ภคพรพร่ำเพ้อพรรณนาความทุกข์ทรมานในใจเธอออกมาพร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลอาบเต็มสองแก้ม
“.....”
ประพนธ์ยืนจดจ้องหญิงสาวอย่างใจจดใจจ่อ ถ้าเขาไม่ตัดสินใจทำอะไรซักอย่าง เขาคงต้องเสียภคพรไปจริงๆตลอดกาล
“ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ...."
ภคพรหันมามองประพนธ์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมาย และในจังหวะนั้นเองที่ประพนธ์ตัดสินใจวิ่งเข้าหาร่างของภคพร
และฉุดกระชากเธอลงมาจากริมระเบียงและนอนล้มกลิ้งไม่เป็นท่าอยู่ในอ้อมอกของเขา หญิงสาวนอนแน่นิ่ง
โดยมีร่างของประพนธ์นอนทับอยู่บนตัวเธอ ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวอย่างขอบคุณพระเจ้าที่เธอไม่เป็นอะไร
“..........”
ภคพรมองหน้าประพนธ์น้ำตาไหลอาบ ในใจเธอตอนนี้มันมีแต่คำถามว่าทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับเธอขนาดนี้
“ทำไมคุณถึงทำร้ายฉันขนาดนี้...”
ภคพรเอ่ยปากพูดเสียงแผ่วเบาแทบจะไม่ได้ยิน
“ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ประพนธ์มองหน้าหญิงสาวแววตาแดงกร่ำ ก่อนที่หยดน้ำตาของเขาจะหยดลงบนแก้มขาวๆของเธออย่างไม่อาจเก็บกลั้น
“อย่ามายุ่งกับชีวิตฉันอีก ฉันจะเป็นจะตายยังไงก็ไม่ต้องมาสนใจ เพราะว่าชาตินี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่มีวันอภัยให้คุณ”
ดวงตาคมกริบ ไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆของภคพรมองจ้องเข้าไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนไหวของประพนธ์
ชายหนุ่มมองหน้าหญิงสาวอย่างต้องการคำว่าอภัย
“ผมขอโทษ”
ประพนธ์น้ำตาเอ่อไหล ก้มลงกอดหญิงสาวเอาไว้แนบแน่น ซบหน้าลงบนไหล่ของเธอด้วยความทุกข์ทรมานที่ไม่ต่างกัน
ภคพรเดินลงบันไดหนีไฟด้วยความนิ่งเฉยจนน่าใจหาย เธอไม่ยอมพูด ไม่ยอมแสดงความรู้สึกใดๆ
เธอแค่เดินลงมาจากบนดาดฟ้าด้วยความเย็นชาจนน่ากลัว
“ผมจะพาคุณไปส่งที่ห้องพักฟื้นของน้องสาวคุณนะ”
ประพนธ์เดินตามมาด้วยความกังวลใจ กลัวว่าภคพรจะคิดทำร้ายตัวเองอีก
“.....”
ภคพรยังคงเดินนิ่ง ไม่ยอมปริปากพูดอะไร
“อ้วก ๆๆๆ”
หญิงสาวนั่งลงกับพื้นและอาเจียนออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ประพนธ์เข้าไปประคองแขนของเธอแต่ก็ถูกผลักกระเด็นออกมา
“อ้วกๆๆ”
ภคพรยังคงอาเจียนออกมาอย่างเอาเป็นเอาตาย ประพนธ์รีบร้อนเข้าไปประคองเธออีกครั้งและไม่ยอมถูกภคพรผลักออกมาอีกง่ายๆแน่
“นี่คุณท้องใช่มั้ย”
ประพนธ์โพล่งถามออกไปด้วยความตกใจ ภคพรเบิกตากว้างหันมามองหน้าประพนธ์ กลัวในสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา
“ฉันไม่ได้ท้อง ไม่มีวันท้อง...”
ภคพรมองจ้องประพนธ์ตาแข็ง น้ำตาไหลทะลักออกมาอีกครั้งด้วยอารมณ์ที่แสนอ่อนไหว
“คุณท้องใช่มั้ย”
ประพนธ์ถามย้ำอีกครั้งอย่างคาดคั้น
“ฉันไม่ได้ท้อง แต่ถึงฉันท้อง เด็กคนนี้ก็จะไม่มีวันได้เกิดมา อย่ามายุ่งกับชีวิตฉัน”
ภคพรผลักประพนธ์ให้ห่างออกไปและลุกขึ้นเดินต่ออย่างไม่สนใจใยดี
“นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะคุณ”
ประพนธ์คว้ามือหญิงสาวและฉุดร่างของเธอให้หันมา
“เพี๊ยะ!!”
ภคพรตบหน้าประพนธ์เต็มแรงอย่างหมดความอดทน
“ทำกับฉันขนาดนี้ คุณยังกล้าถามฉันแบบนี้อีกหรอ ออกไปให้พ้นจากชีวิตฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ฉันเกลียดคุณ เกลียด เกลียด!!”
ภคพรตะโกนใส่หน้าประพนธ์ทั้งน้ำตา ไม่สามารถทำใจยอมรับในสิ่งที่เขาหยิบยื่นให้กับครอบครัวของเธอ
“ไปตรวจกับผม”
ประพนธ์กระชากแขนภคพร
“ฉันไม่ไป”
หญิงสาวสะบัดมือ
“.....”
ประพนธ์ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรอีกอุ้มร่างบางของหญิงสาวขึ้นในอ้อมอก และพาเธอเดินลงบันไดอย่างทุลักทุเล
เพราะฤทธิ์เดชของภคพรที่กรีดร้องและดิ้นรนขัดขืนอยู่ตลอดเวลา
ต่อด้านล่างจร้า