เรามองเห็นอะไร จากกรณี ปัน ปัน

เรามองเห็นความคิดที่แตกต่าง
ภายหลังจากที่คนรับรู้ข่าวน้องปันปัน หลายความคิดแสดงความคิดเห็นในบอร์ดคล้ายกันคือ  เป็นการกระทำที่ผิด แต่แตกต่างเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือให้กำลังใจ ให้การยอมรับหากกลับตัว
อีกกลุ่มคือมองว่ากระทำผิด ไม่ควรให้ท้าย  ควรแบนหรือลงโทษ หรือไม่ยอมรับในการกระทำผิด   จริงๆทั้งสองกลุ่มใหญ่ๆ  นี่เป็นความคิดเห็นที่ดีมากๆ ยิ่งหลากหลาย  ยิ่งได้มุมมอง
เด็กควรรู้ตัวว่าทำผิด  สังคมไม่ยอมรับ และเด็กควรได้กำลังใจ  เพื่อการปรับปรุงตัว  หากความคิดมีแต่ด้านที่ให้กำลังใจ  เด็กอาจจะเหลิง ไม่สำนึกผิด ไม่รู้จักว่าการกระทำแบบนี้เป็นความผิดที่ส่งผลมากมายกับคนที่รักเขา และคนรอบตัว  แต่ถ้าเด็กรับรู้แต่ความคิดที่ประนาม  ความคิดที่มองแต่ว่าเขาทำผิด  มันก็เกิดความคิดด้านลบกับตัวเด็กได้เช่นเดียวกัน  
เราชอบอ่านทุกความคิดเห็นนะ ไม่ว่าจะเห็นเหมือนหรือเห็นต่าง  แต่ส่วนตัวไม่ชอบเท่าไหร่สำหรับการพูดแบบชักจูงให้คิดเหมือนกันและตีโต้ความเห็นที่คิดต่าง

เรามองเห็นวิธีการจัดการความผิดของผู้ใหญ่
คนนึงยอมรับ  อีกคนไม่ยอมรับกับความผิด  ขึ้นชื่อว่าความผิด คนทำก็หายาก  คนรับก็รับยาก  ไม่มีใครอยากทำความผิด  แต่คนทุกคนก็ทำ หรือเคยทำ ไอ้ความผิด นี่  พอทำปุป  ก็ละอาย
ก็ร้องไห้  ก็ทุกข์ ก็เสียใจ  ไม่ได้สุขสมเท่ากับช่วงวันเวลาที่กำลังทำความผิดอยู่  ช่วงเวลานั้นบางทีกลับระรื่นด้วยซ้ำ
เมื่อผู้ใหญ่รับทราบความผิด  เราจะได้เห็นเลยว่าผู้ใหญ่รับมือกับความผิด และจัดการมันเช่นไร  ผู้ใหญ่ไม่ได้ทำความผิด  เด็กต่างหากที่ทำ  แต่ผู้ใหญ่  อาทิ พ่อ แม่  กลับมีความรู้สึกกับเรื่องความผิดของลูกหลาน  ผู้ใหญ่มักจัดการไปตามประสบการณ์ของตนเอง  บางคนจัดการไปตามหลักความถูกผิด  บางคนจัดการตามอารมณ์ตัว  ทุกการจัดการ ล้วนแล้วแต่มีผลต่อความคิดจิตใจเด็กทั้งสิ้น

คำถามในใจส่วนตัวที่เกิดขึ้น  คือ  เรารอดมาได้ไงวะ  จนอายุสามสิบ  เราเคยทำผิด  พ่อแม่เสียใจร้องไห้ก็เคย  แต่เราก็รอดมาได้จนถึงวันนี้  และเก็บสิ่งนั้นเป็นประสบการณ์ชีวิต
อาจเป็นเพราะผ่านมาได้เพราะเรา  คนที่รักเราเข้าใจและให้โอกาส  และตระหนักว่ามันคือความผิด ทำไปไม่คุ้มเสีย  อ้อ  เป็นแบบนี้นี่เอง
ถึงตรงนี้ เรามองย้อนตัวเองเดินทางมาสามสิบปี ตรายเท่าที่เรายังไม่ตาย  มันคงมีความผิดที่รอเราทำอยู่ข้างหน้าทั้งๆทีไม่ได้ตั้งใจ  มันคงมีความผิดของลูกหลาน ของบุคคลที่เรารัก  รอให้เราจัดการ
เราเห็นคนที่ทำความผิดโดยไม่ได้รู้สึกตัว โดยไม่รู้ว่าผิด เพราะพ่อแม่หรือคนที่รักเขามาก คอยแก้ให้    คอยรับผิดชอบให้  เห็นคนๆนั้นเสียคนจากความรักที่ผิดที่ผิดทาง กลายเป็นคนที่โกหกไปวันๆและทำร้ายคนอื่นแบบไม่รู้ตัว  เพราะจัดการกับความผิดไม่เป็น ไม่ยอมรับความจริง

กรณีแบบนี้อย่าให้มันผ่านเลยไป  เก็บมาคิด  มามองด้วยสติ  บางทีมันอาจให้อะไรกับเราก็ได้  มันอาจให้แนวทางการจัดการความผิดของตัวเรา  ของคนรอบตัว  แนวทางการสอนให้กับลูกหลาน  นอกจากอ่านเอามันอย่างเดียว  ให้มันเป็น butterfly effect ที่เริ่มจากตัวเราได้ เพราะเราทุกคนทำความผิดได้   แต่เราใช้สติกับมันได้เพื่อหาทางออก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่