เป็นแม่บ้านค่ะ ในวันว่างๆ ไม่รู้จะชวนใครคุยดี ก็เลยหาเพื่อนเม้าท์ เม้าท์เรื่องสามีนี่แหละค่ะ
พอดีเพิ่งเป็นแม่บ้านมือใหม่ ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพฤติกรรมหลังแต่งงานของสามี
เราคิดว่าหลายคนคงเจอแบบนี้ (?)
1. แก้ผ้าเดินโทงเทงไปมา
2. ขยันทำความสกปรก
3. ตด (อุ๊ยกบร้อง คริ คริ)
4. เรอ (ทุกที่ จริงๆ นะ)
5. จับที่พุงของเราแล้วทำมาพูด "เริ่มย้อยแล้วนะจ๊ะ" แต่ตกดึก "ที่ร้าก.." ชวนกินขนมค่ะ แล้วอิฉันจะอดใจได้เหรอคะ!?
นั่งเคี้ยวกรุบๆ อยู่ข้างเตียง
6. "ไม่ต้องแต่งหรอกหน้า เธอมีสามีแล้วนะ" เอิ่ม..
7. เอามือเกาๆ ในกางเกง (คิดว่าทุกคนคงจินตนการตามได้) แล้วเอามือข้างนั้นแหละมาปิดจมูกเรา -__-''
ถามว่าโกรธมั้ย แปลกเนอะที่เราไม่รู้สึกโกรธกับพฤติกรรมของเค้าเลย (มีบางครั้งที่ตดเหม็น แล้วเราอยู่ใต้ลมพอดี ตอนนั้นจะเกิดสงครามหมอนขนาดย่อมๆ)
ทีนี้ลองมาดูส่วนดี ที่คิดว่าเพราะเค้าเป็นแบบนี้ เราถึงได้รักเค้ากว่าใคร
1.สามีเป็นคนมองโลกในแง่ดี เค้าเห็นทุกอย่างเป็นพระพรที่มาจากพระเจ้า ไม่ว่าจะดีจะร้าย (พวกเราเป็นคริสเตียนค่ะ)
2.เค้าบอกกับเราเสมอว่า "ฉันภูมิใจที่ได้เธอมาเป็นภรรยา"
3.เวลาเราโกรธ หรือหงุดหงิด เค้าจะต้องถามให้ได้คำตอบว่า ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? เพราะเค้าเชื่อว่า การพูดคุยอย่างเปิดอกจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น
4.เค้าเป็นคนที่ร่าเริง และเปิดเผย เวลาอยู่ในที่สาธารณะเค้ามักแสดงออกถึงความรักที่เขามีต่อเราอย่างเปิดเผย (ไม่ใช่กอดจูบกัน อันนั้นไม่ค่อยดีนะเราว่า)
เช่นเดินจับมือ ลูบหัว หยิกแก้ม เราว่าบางครั้งผู้หญิงก็ต้องการการแสดงออกแบบนั้น เมื่อก่อนนึกหมั่นไส้เวลาเห็นคนเดินจับมือกัน 5555 แต่พอมีสามีแล้วเข้าใจเลย (ตอนเป็นแฟนกัน ยังไม่กล้าจับมือกันเท่าไหร่)
5.ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของเรา เช่น เวลานั่งรถมอร์ไซค์วันไหนแดดร้อนๆ เค้าก็จะเอามือเรายัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุม
(ใครเคยนึกหมั่นไส้เวลาเห็นคนซ้อนท้ายรถมอร์ไซค์นั่งซะชิดคนขับมั้ยคะ? ทั้งที่เบาะด้านหลังเหลือโคตรเยอะเลย เราเป็นหนึ่งในนั้นยอมรับเลย (หมั่นไส้ไปทั่ว แย่เนอะ) สุดท้ายตัวเองเป็นเอง -__-''
คือรถเค้าทำแบบบาดเบาะให้บางๆ ลาดเทไปข้างหน้า เบรกทีเราก็ไปกองกับเค้าที แล้วก็ต้องกอดเอวให้แน่นด้วยนะ
เพราะเวลาขับรถมอร์ไซค์เคยเห็นใช่มั้ยคะ ต้องซิกแซกไปมาระหว่างรถใหญ่อ่ะค่ะ การกอดเอวคนขับทำให้เขาควบคุมรถง่ายด้วยหละ)
6.ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะ พออยู่พอกิน สามีจะบอกเสมอว่า "อย่าเอาชีวิตเราไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะพระเจ้าให้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่พระองค์ให้เรา พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าดีและเหมาะสมแล้ว ถ้าจะคิดเปรียบเทียบก็เปรียบเทียบกับตัวเราเอง ดูสิว่าอดีตที่ผ่านเราเป็นยังไง แล้วตอนนี้เราเป็นยังไง ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมั้ยหรือว่ามันแย่ลง ถ้าแย่ลงเราจะต้องปรับปรุงตัวเองตรงไหน ต้องทำยังไงให้ดีขึ้น
สำรวจตัวเองอย่าเพิ่งไปมองคนอื่น"
7.เป็นผู้ชายขี้อ้อน นอนห่างๆ ก็ไม่ได้ ไม่นอนกอดก็ไม่ได้ ชอบนอนซุกใกล้ๆ เหมือนลูกแมว
8.เค้าค่อนข้างเข้มงวดเรื่องเงิน มีแค่ไหนใช้แค่นั้น แต่ต้องแบ่งเก็บก่อน
9.ชีวิตมีแผนสำรองเสมอ
10. "ถ้าเป็นฉันนะ ต่อให้ต้องเก็บขยะ ฉันก็จะทำเพื่อครอบครัว จะกลัวทำไมเสียฟงเสียฟอร์ม มันกินไม่ได้หรอก" เค้าพูดในวันหนึ่งที่เรากำลังคุยถึงเรื่องปัญหาของเพื่อนเก่าสมัยเรียนของเขา ประโยคนี้ทำให้เรารู้สึกว่า ภูมิใจที่สุดแล้วที่มีเค้าเป็นสามี
11. 'เราต้องมีช่วงเวลาสำหรับกันและกันทุกวัน' อันนี้เราสองคนได้เรียนรู้ก่อนแต่งงานค่ะ (คริสเตียนต้องเรียนก่อนแต่งงานเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ค่ะ) ไม่ว่าเราจะยุ่งหรืออยากทำอะไรส่วนตัวบ้างแต่เมื่อถึงเวลา เราสองคนจะละทุกอย่าง เพราะมันคือเวลาของเรา เช่น นอนดูหนัง ระหว่างนี้ก็จะถาม พูดคุยกันเรื่องงาน วันนี้เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ปรึกษากันในเรื่องทั่วไป
พิมพ์ซะยาวเลย.. ที่จริงยังมีความน่ารักๆ ของเค้าอีกเยอะ (ทำไมอ่ะ ก็เค้าอยากอวดสามีเค้านี่นา
)
แค่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวค่ะ เราทั้งสองคนรู้ดีว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้น ข้างหน้ายังมีหลายๆ อย่างรอเราอยู่
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้เรามองเห็นส่วนดีของกันและกันให้มากๆ อย่าให้ข้อเสียต่างๆ มันมีมากกว่าส่วนดี
พูดคุยกันอย่างเปิดอก ไม่งั้นจะแน่นอกไม่รู้ด้วยน้า
สุดท้ายขอจบลงที่ข้อพระคำที่เป็นสิ่งหนุนใจสำหรับชีวิตคู่ชาวคริสเตียน ที่เราอยากแบ่งปันค่ะ
"ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง"
(1โครินธ์ 13:4-7)
มาเม้าท์สามีกันเถอะสาวๆ
พอดีเพิ่งเป็นแม่บ้านมือใหม่ ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับพฤติกรรมหลังแต่งงานของสามี
เราคิดว่าหลายคนคงเจอแบบนี้ (?)
1. แก้ผ้าเดินโทงเทงไปมา
2. ขยันทำความสกปรก
3. ตด (อุ๊ยกบร้อง คริ คริ)
4. เรอ (ทุกที่ จริงๆ นะ)
5. จับที่พุงของเราแล้วทำมาพูด "เริ่มย้อยแล้วนะจ๊ะ" แต่ตกดึก "ที่ร้าก.." ชวนกินขนมค่ะ แล้วอิฉันจะอดใจได้เหรอคะ!?
นั่งเคี้ยวกรุบๆ อยู่ข้างเตียง
6. "ไม่ต้องแต่งหรอกหน้า เธอมีสามีแล้วนะ" เอิ่ม..
7. เอามือเกาๆ ในกางเกง (คิดว่าทุกคนคงจินตนการตามได้) แล้วเอามือข้างนั้นแหละมาปิดจมูกเรา -__-''
ถามว่าโกรธมั้ย แปลกเนอะที่เราไม่รู้สึกโกรธกับพฤติกรรมของเค้าเลย (มีบางครั้งที่ตดเหม็น แล้วเราอยู่ใต้ลมพอดี ตอนนั้นจะเกิดสงครามหมอนขนาดย่อมๆ)
ทีนี้ลองมาดูส่วนดี ที่คิดว่าเพราะเค้าเป็นแบบนี้ เราถึงได้รักเค้ากว่าใคร
1.สามีเป็นคนมองโลกในแง่ดี เค้าเห็นทุกอย่างเป็นพระพรที่มาจากพระเจ้า ไม่ว่าจะดีจะร้าย (พวกเราเป็นคริสเตียนค่ะ)
2.เค้าบอกกับเราเสมอว่า "ฉันภูมิใจที่ได้เธอมาเป็นภรรยา"
3.เวลาเราโกรธ หรือหงุดหงิด เค้าจะต้องถามให้ได้คำตอบว่า ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? เพราะเค้าเชื่อว่า การพูดคุยอย่างเปิดอกจะทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น
4.เค้าเป็นคนที่ร่าเริง และเปิดเผย เวลาอยู่ในที่สาธารณะเค้ามักแสดงออกถึงความรักที่เขามีต่อเราอย่างเปิดเผย (ไม่ใช่กอดจูบกัน อันนั้นไม่ค่อยดีนะเราว่า)
เช่นเดินจับมือ ลูบหัว หยิกแก้ม เราว่าบางครั้งผู้หญิงก็ต้องการการแสดงออกแบบนั้น เมื่อก่อนนึกหมั่นไส้เวลาเห็นคนเดินจับมือกัน 5555 แต่พอมีสามีแล้วเข้าใจเลย (ตอนเป็นแฟนกัน ยังไม่กล้าจับมือกันเท่าไหร่)
5.ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อยของเรา เช่น เวลานั่งรถมอร์ไซค์วันไหนแดดร้อนๆ เค้าก็จะเอามือเรายัดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อคลุม
(ใครเคยนึกหมั่นไส้เวลาเห็นคนซ้อนท้ายรถมอร์ไซค์นั่งซะชิดคนขับมั้ยคะ? ทั้งที่เบาะด้านหลังเหลือโคตรเยอะเลย เราเป็นหนึ่งในนั้นยอมรับเลย (หมั่นไส้ไปทั่ว แย่เนอะ) สุดท้ายตัวเองเป็นเอง -__-''
คือรถเค้าทำแบบบาดเบาะให้บางๆ ลาดเทไปข้างหน้า เบรกทีเราก็ไปกองกับเค้าที แล้วก็ต้องกอดเอวให้แน่นด้วยนะ
เพราะเวลาขับรถมอร์ไซค์เคยเห็นใช่มั้ยคะ ต้องซิกแซกไปมาระหว่างรถใหญ่อ่ะค่ะ การกอดเอวคนขับทำให้เขาควบคุมรถง่ายด้วยหละ)
6.ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรค่ะ พออยู่พอกิน สามีจะบอกเสมอว่า "อย่าเอาชีวิตเราไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะพระเจ้าให้แต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่พระองค์ให้เรา พระองค์ทรงเห็นแล้วว่าดีและเหมาะสมแล้ว ถ้าจะคิดเปรียบเทียบก็เปรียบเทียบกับตัวเราเอง ดูสิว่าอดีตที่ผ่านเราเป็นยังไง แล้วตอนนี้เราเป็นยังไง ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมั้ยหรือว่ามันแย่ลง ถ้าแย่ลงเราจะต้องปรับปรุงตัวเองตรงไหน ต้องทำยังไงให้ดีขึ้น
สำรวจตัวเองอย่าเพิ่งไปมองคนอื่น"
7.เป็นผู้ชายขี้อ้อน นอนห่างๆ ก็ไม่ได้ ไม่นอนกอดก็ไม่ได้ ชอบนอนซุกใกล้ๆ เหมือนลูกแมว
8.เค้าค่อนข้างเข้มงวดเรื่องเงิน มีแค่ไหนใช้แค่นั้น แต่ต้องแบ่งเก็บก่อน
9.ชีวิตมีแผนสำรองเสมอ
10. "ถ้าเป็นฉันนะ ต่อให้ต้องเก็บขยะ ฉันก็จะทำเพื่อครอบครัว จะกลัวทำไมเสียฟงเสียฟอร์ม มันกินไม่ได้หรอก" เค้าพูดในวันหนึ่งที่เรากำลังคุยถึงเรื่องปัญหาของเพื่อนเก่าสมัยเรียนของเขา ประโยคนี้ทำให้เรารู้สึกว่า ภูมิใจที่สุดแล้วที่มีเค้าเป็นสามี
11. 'เราต้องมีช่วงเวลาสำหรับกันและกันทุกวัน' อันนี้เราสองคนได้เรียนรู้ก่อนแต่งงานค่ะ (คริสเตียนต้องเรียนก่อนแต่งงานเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ค่ะ) ไม่ว่าเราจะยุ่งหรืออยากทำอะไรส่วนตัวบ้างแต่เมื่อถึงเวลา เราสองคนจะละทุกอย่าง เพราะมันคือเวลาของเรา เช่น นอนดูหนัง ระหว่างนี้ก็จะถาม พูดคุยกันเรื่องงาน วันนี้เป็นยังไงบ้าง เหนื่อยมั้ย ปรึกษากันในเรื่องทั่วไป
พิมพ์ซะยาวเลย.. ที่จริงยังมีความน่ารักๆ ของเค้าอีกเยอะ (ทำไมอ่ะ ก็เค้าอยากอวดสามีเค้านี่นา
แค่อยากจะแบ่งปันประสบการณ์การเริ่มต้นชีวิตครอบครัวค่ะ เราทั้งสองคนรู้ดีว่านี่เป็นแค่การเริ่มต้น ข้างหน้ายังมีหลายๆ อย่างรอเราอยู่
แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้เรามองเห็นส่วนดีของกันและกันให้มากๆ อย่าให้ข้อเสียต่างๆ มันมีมากกว่าส่วนดี
พูดคุยกันอย่างเปิดอก ไม่งั้นจะแน่นอกไม่รู้ด้วยน้า
สุดท้ายขอจบลงที่ข้อพระคำที่เป็นสิ่งหนุนใจสำหรับชีวิตคู่ชาวคริสเตียน ที่เราอยากแบ่งปันค่ะ
"ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง"
(1โครินธ์ 13:4-7)