โอ้อกเอ๋ยเคยทำกรรมไฉน
วาสนานำพาจรลาไกล
จำจากไปไกลนุชสุดพรรณนา
แต่ก่อนเคยเชยชิดสนิทใกล้
แสนอาลัยหวงห่วงและห่วงหา
โอ้จำใจจำจากพี่จำลา
จากน้องมาล่าหนูอยู่ดอนกลอย
หนังสติ๊กกระติกพายคล้องสายย่าม
จิตเฝ้าถามถึงน้องนุชสุดเหงาหงอย
เก็บลูกหินข้างทางพลางใจลอย
หินใหญ่น้อยเลือกเอาเท่าที่พอ
หินเจ้าเอ๋ยเปรียบเปรยดังใจพี่
ก่อนเคยมีก้อนโตโก้จริงหนอ
พอคืนวันผ่านไปไร้คนคลอ
หินเจ้าก็กร่อนไปดังใจคน
จากดอนแดงแสงศรีสุรีย์จ้า
หมู่เมฆาเคลื่อนคล้อยลอยสับสน
เรียกเจ้าแดงเจ้าน้อยกลอยกมล
มาวิ่งวนหูตั้งหางแกว่งไกว
ถึงเวลาที่เราจะเข้าล่า
รีบตามมาเร็วหนาอย่าสงสัย
เห็นหนูนาหนูพุกจงลุกไว
รีบวิ่งไล่มันมาให้ข้ายิง
เรียกแดงพลางน้อยพลางเดินทางมุ่ง
เลาะเลียบทุ่งท้องนาถึงป่าขิง
เห็นรูหนูรูใหญ่ไม่ประวิง
เยี่ยมจริงๆ รูหนูพุกฉุกคิดไว
ทำอย่างไรดีเล่าคราวนี้หนอ
ผิวปากรอน้อยแอะแอะแมะไปไหน
พอเจอรูหนูเข้าเจ้าถอดใจ
ชักสงสัยเมื่อไหร่จะได้ลอง
ครั้นสิ้นเสียงทำนองที่ร้องเรียก
น้อยแดงเพรียกพร้อมพลันกันทั้งสอง
แดงรูหน้าน้อยรูหลังกลางประคอง
แต่แล้วต้องหุนหันพลันจากไป
อนิจจาวาสนามาเจอหนู
ต่อเมื่อรูร้างพงศ์สิ้นสงสัย
เปรียบกับพี่พบเจ้าคราวเขาไกล
เหลืออะไรให้พี่ทำสุดช้ำทรวง
ลาแล้วหนาลาแล้วแม่แก้วจิต
ก่อนเคยคิดคำนึงทั้งหึงหวง
พี่รู้แล้วแก้วใจไร้คนควง
จึงมาลวงหลอกกันให้ช้ำใจ
จากป่าขิงยิ่งเดินเพลินในป่า
ลัดเลาะมาดอนกลางทางสดใส
แดดระเรื่อยลมละลิ่วพัดปลิวใบ
กิ่งไม้ไหวลู่ลมน่าชมดู
ค่อยพาใจไหวลอยไม่พลอยคิด
เรื่องกวนจิตกวนใจให้ลืมหนู
จึงตั้งหน้าตั้งตาเสาะหารู
ได้สักครู่ถึงดอนดู่หนูไร้รัง
ดอนดู่นี้ที่เคยมีเรื่องเล่า
แต่ก่อนเก่าถึงวันนี้มีความหลัง
ณ ถิ่นนี้ที่ป่าช้าน่าระวัง
ที่เขาฝังคนตายผู้วายชนม์
สาธุถ้ามีจริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำแดงฤทธิ์ช่วยข้าสักคราหน
ป้องปกปักษ์ภัยพาลบันดาลดล
ให้ลูกพ้นเภทภัยไร้โรคา
ให้เจอรูเจอหนูนั้นด้วยเถิด
อย่าให้เกิดสิ่งไม่คาดปรารถนา
ทำใจมั่นพลันว่าสัพเพสัตตา
ขอจงอย่ามีเวรแก่กันเลย
ลับดอนไปอุ่นใจใคร่ยังชั่ว
ที่เต้นรัวคือหัวใจได้เฉลย
เหงื่อท่วมกายหายใจไม่ท้นเลย
ก็ไม่เคยเข้าป่าช้าคนเดียว
ถึงหนองน้ำฮางเกลือเหนื่อยเหลือล้น
จำต้องทนผ่านไปไม่หันเหลียว
เรียกหนองน้ำไม่มีน้ำสักนิดเดียว
เจ้าของเทียวไถดันเป็นคันนา
เชื่อได้หรือกับคำที่เขาบอก
มองตาหรอกรู้ใจใช่ไหมหนา
แต่หนองน้ำยังมิใช่ให้ค้างคา
น้องปอยล่ะที่จริงหญิงหรือชาย
คิดมากไปจิตใจได้ฟุ้งซ่าน
เขาพระวิหารนั้นหรือคือที่หมาย
ฮุนเซนว่าของมันอย่ากร้ำกราย
ลองก็ร้ายว่าของเราอย่าเข้ามา
แย่งกันไปทำไมไอ้แค่หิน
ที่จะกินอภิสิทธิ์คิดไหมหนา
ทักษิณก็ยุยงส่งแดงมา
เห้อ…หนูนายังหาไม่ได้ที
เบื่อการเมืองเปลี่ยนเรื่องมาหาหนู
เจอหลายรูล้วนร้างบ้างก็หนี
แดงก็เหนื่อยน้อยก็นิ่งวิ่งไม่ดี
จนถึงที่ดอนกลอยค่อยชื้นใจ
ดอนกลอยนี้ถิ่นที่บ้านเกิดเก่า
มีเรื่องเล่าก่อนกาลเขาขานไข
ชื่อหมู่บ้านดอนกลอยละห้อยใจ
นับบ้านได้สิบกว่าหลังคาเรือน
อยู่กันมาสี่ห้าปีไม่มีทุกข์
มีแต่สุขสดใสใครไม่เหมือน
ครั้นคราวมีเคราะห์ซ้ำกรรมมาเยือน
โรคห่าเถื่อนระบาดดาษดาตาย
คนที่เหลือกระจัดจายย้ายถิ่นฐาน
ตั้งหมู่บ้านดอนแดงแหล่งมุ่งหมาย
ถิ่นคอกช้างคนดีมิครั่นคลาย
สืบเชื้อสายเผ่าพงศ์คงคู่แดน
เห็นดอนกลอยตอนนี้สิ่งที่เหลือ
เถาวัลย์เครือเกาะเกี่ยวเปลี่ยวเหลือแสน
มีนาไร่รายรอบขอบเขตแดน
ที่ขึ้นแทนนั้นหนาป่าไผ่คลุม
ดอนกลอยเอ๋ยเคยเป็นถิ่นอาศัย
กาลผ่านไปเป็นป่าพนาสุม
เปรียบดังเจ้าเยาว์วัยใครรักรุม
ทั้งแก่หนุ่มเลือกได้ดังใจปอง
ต่อเมื่อเจ้าเก่าไปให้ได้คิด
รักพี่ทิตย์คงดีไม่มีสอง
ไม่ต้องทำงามหน้าน้ำตานอง
เมื่อคราวต้องลาร้างห่างคนรวย
พอแดดร่มลมดีที่ท้องปวด
มองสำรวจทำเลดีที่สวยสวย
เหลียวมองไกล้มองไกลใจระทวย
คุณพระช่วยไม่มีใครได้ปลดปลง
ปร้าด ปรู้ด ปรุ้ด รูดระนาวยาวและสั้น
อูยส์.. อูยส์.. อัลล.. เสียงนั้นที่ลั่นหลง
พลันแดงรี่ปรี่มาทำหน้างง
เซ้ เซ้ จง รีบไปไล่หนูนา
เสร็จธุระกลับมาหาหนูต่อ
น้อยครางคลออิ๋งอิ๋ง วิ่งวนหา
แดงโฮ่งโฮ่งปีนขึ้นลงส่งสายตา
เราเอื้อมหาอาวุธเตรียมฉุดยิง
ตุ๊บ แคร่ก แคร่ก นัดแรกแหวกใบไม้
หนูวิ่งไปกิ่งใหม่ไม่หยุดนิ่ง
ฮืมมส์…จำไว้นัดต่อไปจะเอาจริง
หนูหยุดวิ่งยิงดังเฟียส..เฉียดนิดเดียว
เกือบแล้วหนาเอาล่ะเริ่มไหม่ได้
แต่หนูไซร้โจนไปไม่แลเหลียว
แดงโดดงับหวุดหวิดติดแล้วเชียว
หนูหลุดเลี้ยวเกี้ยวไปที่ในรู
น้อยตามติดฟุดฟิดสูดกลิ่นชัด
ตะกุยกัดดินดันชันชูหู
หมดปัญญาวาสนาได้แค่ดู
ที่ปากรูมีรากไม้ใหญ่กั้นกาง
จากเที่ยงวันจวนจันสายัญคล้อย
แดงกับน้อยเห็นรูเลิกชูหาง
หมดกำลังทรุดนั่งลงข้างทาง
เห็นย่านางงามเชียวเขียวขจี
โบราณว่ากำขี้ดีกว่าตด
เพียรจำจดทุกวันขมันขมี
เก็บย่านางข้างทางมิรอรี
คั่วหนูนี้ ชิชิ มิใฝ่ปอง
ครั้นจะนั่งนานไปก็ใกล้ค่ำ
จึงเร่งย่ำเดินไปด้วยใจหมอง
ถึงต้นไผ่เดิมทีมิเคยมอง
ครานี้จ้องจับตาหาที่โคน
หน่อไม้ป่ากลับมาเป็นเป้าหมาย
ให้โผล่ปลายเล็กใหญ่นั้นไม่สน
เพียรเก็บเอาพอเต็มกระเป๋าตน
แล้วเดินพ้นจากมาป่าดอนกลอย
นิราศร้าวคราวนี้ถึงที่จบ
แม้ไม่พบสิ่งที่รออย่าท้อถอย
เผื่อไว้บ้างทางฝันอันรอคอย
ตัวเลือกน้อยก็จบกันเท่านั้นเอย
ชอบสุนทรภู่ครับ เลยแต่งนิราศเรื่องนี้ไว้เมื่อสองสามปีก่อน นิราศดอนกลอย ลองอ่านกันดูครับ
วาสนานำพาจรลาไกล
จำจากไปไกลนุชสุดพรรณนา
แต่ก่อนเคยเชยชิดสนิทใกล้
แสนอาลัยหวงห่วงและห่วงหา
โอ้จำใจจำจากพี่จำลา
จากน้องมาล่าหนูอยู่ดอนกลอย
หนังสติ๊กกระติกพายคล้องสายย่าม
จิตเฝ้าถามถึงน้องนุชสุดเหงาหงอย
เก็บลูกหินข้างทางพลางใจลอย
หินใหญ่น้อยเลือกเอาเท่าที่พอ
หินเจ้าเอ๋ยเปรียบเปรยดังใจพี่
ก่อนเคยมีก้อนโตโก้จริงหนอ
พอคืนวันผ่านไปไร้คนคลอ
หินเจ้าก็กร่อนไปดังใจคน
จากดอนแดงแสงศรีสุรีย์จ้า
หมู่เมฆาเคลื่อนคล้อยลอยสับสน
เรียกเจ้าแดงเจ้าน้อยกลอยกมล
มาวิ่งวนหูตั้งหางแกว่งไกว
ถึงเวลาที่เราจะเข้าล่า
รีบตามมาเร็วหนาอย่าสงสัย
เห็นหนูนาหนูพุกจงลุกไว
รีบวิ่งไล่มันมาให้ข้ายิง
เรียกแดงพลางน้อยพลางเดินทางมุ่ง
เลาะเลียบทุ่งท้องนาถึงป่าขิง
เห็นรูหนูรูใหญ่ไม่ประวิง
เยี่ยมจริงๆ รูหนูพุกฉุกคิดไว
ทำอย่างไรดีเล่าคราวนี้หนอ
ผิวปากรอน้อยแอะแอะแมะไปไหน
พอเจอรูหนูเข้าเจ้าถอดใจ
ชักสงสัยเมื่อไหร่จะได้ลอง
ครั้นสิ้นเสียงทำนองที่ร้องเรียก
น้อยแดงเพรียกพร้อมพลันกันทั้งสอง
แดงรูหน้าน้อยรูหลังกลางประคอง
แต่แล้วต้องหุนหันพลันจากไป
อนิจจาวาสนามาเจอหนู
ต่อเมื่อรูร้างพงศ์สิ้นสงสัย
เปรียบกับพี่พบเจ้าคราวเขาไกล
เหลืออะไรให้พี่ทำสุดช้ำทรวง
ลาแล้วหนาลาแล้วแม่แก้วจิต
ก่อนเคยคิดคำนึงทั้งหึงหวง
พี่รู้แล้วแก้วใจไร้คนควง
จึงมาลวงหลอกกันให้ช้ำใจ
จากป่าขิงยิ่งเดินเพลินในป่า
ลัดเลาะมาดอนกลางทางสดใส
แดดระเรื่อยลมละลิ่วพัดปลิวใบ
กิ่งไม้ไหวลู่ลมน่าชมดู
ค่อยพาใจไหวลอยไม่พลอยคิด
เรื่องกวนจิตกวนใจให้ลืมหนู
จึงตั้งหน้าตั้งตาเสาะหารู
ได้สักครู่ถึงดอนดู่หนูไร้รัง
ดอนดู่นี้ที่เคยมีเรื่องเล่า
แต่ก่อนเก่าถึงวันนี้มีความหลัง
ณ ถิ่นนี้ที่ป่าช้าน่าระวัง
ที่เขาฝังคนตายผู้วายชนม์
สาธุถ้ามีจริงสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สำแดงฤทธิ์ช่วยข้าสักคราหน
ป้องปกปักษ์ภัยพาลบันดาลดล
ให้ลูกพ้นเภทภัยไร้โรคา
ให้เจอรูเจอหนูนั้นด้วยเถิด
อย่าให้เกิดสิ่งไม่คาดปรารถนา
ทำใจมั่นพลันว่าสัพเพสัตตา
ขอจงอย่ามีเวรแก่กันเลย
ลับดอนไปอุ่นใจใคร่ยังชั่ว
ที่เต้นรัวคือหัวใจได้เฉลย
เหงื่อท่วมกายหายใจไม่ท้นเลย
ก็ไม่เคยเข้าป่าช้าคนเดียว
ถึงหนองน้ำฮางเกลือเหนื่อยเหลือล้น
จำต้องทนผ่านไปไม่หันเหลียว
เรียกหนองน้ำไม่มีน้ำสักนิดเดียว
เจ้าของเทียวไถดันเป็นคันนา
เชื่อได้หรือกับคำที่เขาบอก
มองตาหรอกรู้ใจใช่ไหมหนา
แต่หนองน้ำยังมิใช่ให้ค้างคา
น้องปอยล่ะที่จริงหญิงหรือชาย
คิดมากไปจิตใจได้ฟุ้งซ่าน
เขาพระวิหารนั้นหรือคือที่หมาย
ฮุนเซนว่าของมันอย่ากร้ำกราย
ลองก็ร้ายว่าของเราอย่าเข้ามา
แย่งกันไปทำไมไอ้แค่หิน
ที่จะกินอภิสิทธิ์คิดไหมหนา
ทักษิณก็ยุยงส่งแดงมา
เห้อ…หนูนายังหาไม่ได้ที
เบื่อการเมืองเปลี่ยนเรื่องมาหาหนู
เจอหลายรูล้วนร้างบ้างก็หนี
แดงก็เหนื่อยน้อยก็นิ่งวิ่งไม่ดี
จนถึงที่ดอนกลอยค่อยชื้นใจ
ดอนกลอยนี้ถิ่นที่บ้านเกิดเก่า
มีเรื่องเล่าก่อนกาลเขาขานไข
ชื่อหมู่บ้านดอนกลอยละห้อยใจ
นับบ้านได้สิบกว่าหลังคาเรือน
อยู่กันมาสี่ห้าปีไม่มีทุกข์
มีแต่สุขสดใสใครไม่เหมือน
ครั้นคราวมีเคราะห์ซ้ำกรรมมาเยือน
โรคห่าเถื่อนระบาดดาษดาตาย
คนที่เหลือกระจัดจายย้ายถิ่นฐาน
ตั้งหมู่บ้านดอนแดงแหล่งมุ่งหมาย
ถิ่นคอกช้างคนดีมิครั่นคลาย
สืบเชื้อสายเผ่าพงศ์คงคู่แดน
เห็นดอนกลอยตอนนี้สิ่งที่เหลือ
เถาวัลย์เครือเกาะเกี่ยวเปลี่ยวเหลือแสน
มีนาไร่รายรอบขอบเขตแดน
ที่ขึ้นแทนนั้นหนาป่าไผ่คลุม
ดอนกลอยเอ๋ยเคยเป็นถิ่นอาศัย
กาลผ่านไปเป็นป่าพนาสุม
เปรียบดังเจ้าเยาว์วัยใครรักรุม
ทั้งแก่หนุ่มเลือกได้ดังใจปอง
ต่อเมื่อเจ้าเก่าไปให้ได้คิด
รักพี่ทิตย์คงดีไม่มีสอง
ไม่ต้องทำงามหน้าน้ำตานอง
เมื่อคราวต้องลาร้างห่างคนรวย
พอแดดร่มลมดีที่ท้องปวด
มองสำรวจทำเลดีที่สวยสวย
เหลียวมองไกล้มองไกลใจระทวย
คุณพระช่วยไม่มีใครได้ปลดปลง
ปร้าด ปรู้ด ปรุ้ด รูดระนาวยาวและสั้น
อูยส์.. อูยส์.. อัลล.. เสียงนั้นที่ลั่นหลง
พลันแดงรี่ปรี่มาทำหน้างง
เซ้ เซ้ จง รีบไปไล่หนูนา
เสร็จธุระกลับมาหาหนูต่อ
น้อยครางคลออิ๋งอิ๋ง วิ่งวนหา
แดงโฮ่งโฮ่งปีนขึ้นลงส่งสายตา
เราเอื้อมหาอาวุธเตรียมฉุดยิง
ตุ๊บ แคร่ก แคร่ก นัดแรกแหวกใบไม้
หนูวิ่งไปกิ่งใหม่ไม่หยุดนิ่ง
ฮืมมส์…จำไว้นัดต่อไปจะเอาจริง
หนูหยุดวิ่งยิงดังเฟียส..เฉียดนิดเดียว
เกือบแล้วหนาเอาล่ะเริ่มไหม่ได้
แต่หนูไซร้โจนไปไม่แลเหลียว
แดงโดดงับหวุดหวิดติดแล้วเชียว
หนูหลุดเลี้ยวเกี้ยวไปที่ในรู
น้อยตามติดฟุดฟิดสูดกลิ่นชัด
ตะกุยกัดดินดันชันชูหู
หมดปัญญาวาสนาได้แค่ดู
ที่ปากรูมีรากไม้ใหญ่กั้นกาง
จากเที่ยงวันจวนจันสายัญคล้อย
แดงกับน้อยเห็นรูเลิกชูหาง
หมดกำลังทรุดนั่งลงข้างทาง
เห็นย่านางงามเชียวเขียวขจี
โบราณว่ากำขี้ดีกว่าตด
เพียรจำจดทุกวันขมันขมี
เก็บย่านางข้างทางมิรอรี
คั่วหนูนี้ ชิชิ มิใฝ่ปอง
ครั้นจะนั่งนานไปก็ใกล้ค่ำ
จึงเร่งย่ำเดินไปด้วยใจหมอง
ถึงต้นไผ่เดิมทีมิเคยมอง
ครานี้จ้องจับตาหาที่โคน
หน่อไม้ป่ากลับมาเป็นเป้าหมาย
ให้โผล่ปลายเล็กใหญ่นั้นไม่สน
เพียรเก็บเอาพอเต็มกระเป๋าตน
แล้วเดินพ้นจากมาป่าดอนกลอย
นิราศร้าวคราวนี้ถึงที่จบ
แม้ไม่พบสิ่งที่รออย่าท้อถอย
เผื่อไว้บ้างทางฝันอันรอคอย
ตัวเลือกน้อยก็จบกันเท่านั้นเอย