"บดินทร์"ไล่ต่อย "มณีพงศ์" คลิปฉาวทั่วโลกต่างฝ่ายอ้าง โดนให้ "ของลับ" ก่อน สมาคมออกแถลงการณ์ขอโทษ
วันที่ 22 ก.ค.56 งามหน้า! แบดไทยไล่ชกกันเองคาสนาม “เจ้าอาร์ต” บดินทร์ อิสระ วิ่งไล่สาวหมัดใส่อดีตคู่หู “เจ้าเอ” มณีพงศ์ จงจิตร ระหว่างเปลี่ยนแดน นัดชิงชายคู่ ศึกขนไก่แคนาดา โอเพ่น กลายเป็นคลิปดังไปทั่วโลก ต่างฝ่ายยัน โดนอีกฝ่ายแจก “ของลับ” ก่อน ขณะที่ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ชี้เป็นความเสียหายครั้งใหญ่ อยู่วงการมา 58 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ พร้อมเตรียมเรียกประชุมใหญ่สมาคมพิจารณาเรื่องนี้
เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอีกครั้งกับวงการแบดมินตันไทย เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืด วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายคู่ แบดมินตันระดับกรังด์ปรีซ์ รายการ แคนาดา โอเพ่น ที่เมืองแวนคูเวอร์ ที่คู่นักตบไทยผ่านเข้ามาชิงกันเอง คือคู่ของ “เจ้าเอ” มณีพงศ์ จงจิตร กับ “ต้นน้ำ” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ที่เป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ พบคู่ของ “เจ้าอาร์ต” บดินทร์ อิสระ กับ “เจ้าท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ คู่มือ 8 ของรายการ ที่ถือเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ อดีต “คู่หูนรกแตก” มณีพงศ์ กับ บดินทร์ ที่เคยโชว์ฟอร์มได้ดี สร้างชื่อโด่งดังทั่วประเทศเมื่อครั้งกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปีก่อน ก่อนที่จะมามีปัญหาจนต้องแยกคู่กันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
การเล่นในเกมแรก ปรากฏว่าคู่ของ มณีพงศ์ กับ นิพิฐพนธ์ เป็นฝ่ายชนะไปก่อน 21-12 แต่ในช่วงการเปลี่ยนแดนเพื่อเล่นเกมที่ 2 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ บดินทร์ ก็วิ่งไล่ชก มณีพงศ์ ที่วิ่งหนีไปยังคอร์ตข้างๆ ก่อนถูกมือของบดินทร์เกี่ยวล้มลงไปกับพื้น จากนั้นบดินทร์ก็ชกหมัดซ้ายไปยังมณีพงศ์ 2 ครั้งซ้อน ก่อนลุกขึ้นมากระทืบซ้ำอีก 1 ครั้ง และชกอีก 1 ครั้ง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันเข้ามาแยกศึก ซึ่งปรากฏว่า มณีพงศ์สามารถดึงตัวออกมาจากวงหมัดนอกสังเวียนได้ ในสภาพที่เสื้อหลุดออกจากตัว โดยมี ภควัฒน์ ที่เข้ามาห้ามทัพด้วยเดินปลอบใจตามหลังไปติดๆ ซึ่งภาพดังกล่าวถูกช่างภาพสมัครเล่นของแคนาดา บันทึกเป็นคลิปถูกเผยแพร่ออกไป กลายเป็นข่าวโด่งดังทั้งในเมืองไทยและทั่วโลกด้วย
หลังจากความวุ่นวายดังกล่าว กรรมการชี้ขาดและฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ตัดสินใจปรับให้คู่ของ บดินทร์ กับ ภควัฒน์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้คู่ มณีพงศ์ กับ นิพิฐพนธ์ เป็นฝ่ายชนะได้แชมป์ไปครอง ซึ่งถือเป็นแชมป์รายการแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่เริ่มจับคู่กันเมื่อต้นปีอีกด้วย
ส่วนเหตุการณ์ซึ่งถือเป็นชนวนก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นนั้น “เจ้าเอ” มณีพงศ์ กล่าวว่า เรื่องเริ่มจากการที่ฝั่งของตนเองได้แต้ม แล้วดีใจเสียงดัง ทำให้บดินทร์ไม่พอใจ ตะโกนถามว่าทำไมต้องเสียงดัง และเริ่มด่า แจกของลับ รวมถึงท้าต่อยตลอดทั้งเกม ซึ่งตนก็ได้ด่าสวนกลับไป กระทั่งจบเกมแรก มีการเปลี่ยนแดน บดินทร์ไม่ยอมเปลี่ยนแดนและวิ่งเข้ามาชกตนเองจนเกิดเรื่องราวขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภควัฒน์ ซึ่งเป็นคู่หูของบดินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ในอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าดูเหตุการณ์จากคลิปแล้ว บดินทร์เป็นฝ่ายผิดแน่นอน แต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ช่วงเปลี่ยนแดน ที่มณีพงศ์ไปแจกของลับให้บดินทร์ ทำให้บดินทร์โมโหต่อยใส่มณีพงศ์ ซึ่งมณีพงศ์ก็ตอบโต้ด้วยการเอาแร็กเก็ตฟาดหน้าของบดินทร์ จนทำให้บดินทร์ตบะแตกวิ่งไล่ชกมณีพงศ์ในที่สุด
เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับผู้ที่อ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ ที่โพสต์ลงในเวบแบดมินตัน www.badmintoncentral.com <
http://www.badmintoncentral.com> ว่า มณีพงศ์เป็นฝ่ายใช้แร็กเก็ตตีใส่บดินทร์ก่อนๆ ที่จะเกิดเหตุการณ์ชกต่อยกันขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นางรุ่งนภา พินทุวัฒน์ ผู้จัดการทีมแบดมินตันไทย ได้พามณีพงศ์ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ขณะที่บดินทร์เองก็ได้เดินทางไปโรงพยาบาล เพื่อทำแผลที่อ้างว่าถูกมณีพงศ์ใช้แร็กเก็ตฟาดจนเลือดอาบเช่นกัน
ด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันไทย เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นความเสียหายของประเทศ ตนเองอยู่ในวงการแบดมินตันมา 58 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ อย่างแย่ที่สุดก็ท้ากันในสนาม และไปต่อยกันนอกสนาม โดยเรื่องนี้นอกจากจะต้องมีการประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลและการชี้แจงจากทุกฝ่ายแล้ว คงต้องรอดูทางสหพันธ์แบดมินตันโลกด้วยว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร
ศ.เจริญ ได้กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางสมาคมเตรียมประชุมสภากรรมการ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด ซึ่งตามกำหนดการเดิมคณะนักกีฬากำหนดกลับวันพุธที่ 24 กรกฎาคมนี้ และ อาจมีการประชุมกรรมการในวันศุกร์หรือเสาร์ที่ 26-27 กรกฎาคมนี้
ล่าสุดสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟสบุ๊กขอโทษคนไทยความว่า "ขอโทษคนไทยทั้งประเทศที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจนเป็นข่าวทั่วโลกเกิดขึ้น โดยจะดำเนินการเรื่องทั้งหมดหลังจากที่คณะนักกีฬาเดินทางกลับมาแล้ว"
ส่วนการเล่นประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “น้องแนต” ณิชชาอร จินดาพล มือ 1 ของรายการ ชนะ ยิป ปุย ยิน มือ 3 ของรายการจากฮ่องกง 21-18, 21-16 คว้าแชมป์ประเภทที่ 2 ให้ทัพขนไก่ไทยได้สำเร็จ
Credit
http://www.komchadluek.net/detail/20130722/164018/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9!%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1.html#.Ue4mY-vIjVQ
สมาคมขอโทษ!แบดไทยชกกันเองคาสนาม
วันที่ 22 ก.ค.56 งามหน้า! แบดไทยไล่ชกกันเองคาสนาม “เจ้าอาร์ต” บดินทร์ อิสระ วิ่งไล่สาวหมัดใส่อดีตคู่หู “เจ้าเอ” มณีพงศ์ จงจิตร ระหว่างเปลี่ยนแดน นัดชิงชายคู่ ศึกขนไก่แคนาดา โอเพ่น กลายเป็นคลิปดังไปทั่วโลก ต่างฝ่ายยัน โดนอีกฝ่ายแจก “ของลับ” ก่อน ขณะที่ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ชี้เป็นความเสียหายครั้งใหญ่ อยู่วงการมา 58 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ พร้อมเตรียมเรียกประชุมใหญ่สมาคมพิจารณาเรื่องนี้
เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอีกครั้งกับวงการแบดมินตันไทย เกิดขึ้นในช่วงเช้ามืด วันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ประเภทชายคู่ แบดมินตันระดับกรังด์ปรีซ์ รายการ แคนาดา โอเพ่น ที่เมืองแวนคูเวอร์ ที่คู่นักตบไทยผ่านเข้ามาชิงกันเอง คือคู่ของ “เจ้าเอ” มณีพงศ์ จงจิตร กับ “ต้นน้ำ” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ที่เป็นมือวางอันดับ 2 ของรายการ พบคู่ของ “เจ้าอาร์ต” บดินทร์ อิสระ กับ “เจ้าท็อป” ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ คู่มือ 8 ของรายการ ที่ถือเป็นการโคจรมาพบกันครั้งแรกของ อดีต “คู่หูนรกแตก” มณีพงศ์ กับ บดินทร์ ที่เคยโชว์ฟอร์มได้ดี สร้างชื่อโด่งดังทั่วประเทศเมื่อครั้งกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปีก่อน ก่อนที่จะมามีปัญหาจนต้องแยกคู่กันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
การเล่นในเกมแรก ปรากฏว่าคู่ของ มณีพงศ์ กับ นิพิฐพนธ์ เป็นฝ่ายชนะไปก่อน 21-12 แต่ในช่วงการเปลี่ยนแดนเพื่อเล่นเกมที่ 2 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ บดินทร์ ก็วิ่งไล่ชก มณีพงศ์ ที่วิ่งหนีไปยังคอร์ตข้างๆ ก่อนถูกมือของบดินทร์เกี่ยวล้มลงไปกับพื้น จากนั้นบดินทร์ก็ชกหมัดซ้ายไปยังมณีพงศ์ 2 ครั้งซ้อน ก่อนลุกขึ้นมากระทืบซ้ำอีก 1 ครั้ง และชกอีก 1 ครั้ง ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันเข้ามาแยกศึก ซึ่งปรากฏว่า มณีพงศ์สามารถดึงตัวออกมาจากวงหมัดนอกสังเวียนได้ ในสภาพที่เสื้อหลุดออกจากตัว โดยมี ภควัฒน์ ที่เข้ามาห้ามทัพด้วยเดินปลอบใจตามหลังไปติดๆ ซึ่งภาพดังกล่าวถูกช่างภาพสมัครเล่นของแคนาดา บันทึกเป็นคลิปถูกเผยแพร่ออกไป กลายเป็นข่าวโด่งดังทั้งในเมืองไทยและทั่วโลกด้วย
หลังจากความวุ่นวายดังกล่าว กรรมการชี้ขาดและฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้ตัดสินใจปรับให้คู่ของ บดินทร์ กับ ภควัฒน์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทำให้คู่ มณีพงศ์ กับ นิพิฐพนธ์ เป็นฝ่ายชนะได้แชมป์ไปครอง ซึ่งถือเป็นแชมป์รายการแรกของทั้งคู่นับตั้งแต่เริ่มจับคู่กันเมื่อต้นปีอีกด้วย
ส่วนเหตุการณ์ซึ่งถือเป็นชนวนก่อให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นนั้น “เจ้าเอ” มณีพงศ์ กล่าวว่า เรื่องเริ่มจากการที่ฝั่งของตนเองได้แต้ม แล้วดีใจเสียงดัง ทำให้บดินทร์ไม่พอใจ ตะโกนถามว่าทำไมต้องเสียงดัง และเริ่มด่า แจกของลับ รวมถึงท้าต่อยตลอดทั้งเกม ซึ่งตนก็ได้ด่าสวนกลับไป กระทั่งจบเกมแรก มีการเปลี่ยนแดน บดินทร์ไม่ยอมเปลี่ยนแดนและวิ่งเข้ามาชกตนเองจนเกิดเรื่องราวขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภควัฒน์ ซึ่งเป็นคู่หูของบดินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์ในอีกมุมหนึ่งว่า ถ้าดูเหตุการณ์จากคลิปแล้ว บดินทร์เป็นฝ่ายผิดแน่นอน แต่ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น ช่วงเปลี่ยนแดน ที่มณีพงศ์ไปแจกของลับให้บดินทร์ ทำให้บดินทร์โมโหต่อยใส่มณีพงศ์ ซึ่งมณีพงศ์ก็ตอบโต้ด้วยการเอาแร็กเก็ตฟาดหน้าของบดินทร์ จนทำให้บดินทร์ตบะแตกวิ่งไล่ชกมณีพงศ์ในที่สุด
เรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับผู้ที่อ้างว่าอยู่ในเหตุการณ์ ที่โพสต์ลงในเวบแบดมินตัน www.badmintoncentral.com <http://www.badmintoncentral.com> ว่า มณีพงศ์เป็นฝ่ายใช้แร็กเก็ตตีใส่บดินทร์ก่อนๆ ที่จะเกิดเหตุการณ์ชกต่อยกันขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าว นางรุ่งนภา พินทุวัฒน์ ผู้จัดการทีมแบดมินตันไทย ได้พามณีพงศ์ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ขณะที่บดินทร์เองก็ได้เดินทางไปโรงพยาบาล เพื่อทำแผลที่อ้างว่าถูกมณีพงศ์ใช้แร็กเก็ตฟาดจนเลือดอาบเช่นกัน
ด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันไทย เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ถือเป็นความเสียหายของประเทศ ตนเองอยู่ในวงการแบดมินตันมา 58 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ อย่างแย่ที่สุดก็ท้ากันในสนาม และไปต่อยกันนอกสนาม โดยเรื่องนี้นอกจากจะต้องมีการประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลและการชี้แจงจากทุกฝ่ายแล้ว คงต้องรอดูทางสหพันธ์แบดมินตันโลกด้วยว่า จะมีการพิจารณาในเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร
ศ.เจริญ ได้กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางสมาคมเตรียมประชุมสภากรรมการ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด ซึ่งตามกำหนดการเดิมคณะนักกีฬากำหนดกลับวันพุธที่ 24 กรกฎาคมนี้ และ อาจมีการประชุมกรรมการในวันศุกร์หรือเสาร์ที่ 26-27 กรกฎาคมนี้
ล่าสุดสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ผ่านเฟสบุ๊กขอโทษคนไทยความว่า "ขอโทษคนไทยทั้งประเทศที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจนเป็นข่าวทั่วโลกเกิดขึ้น โดยจะดำเนินการเรื่องทั้งหมดหลังจากที่คณะนักกีฬาเดินทางกลับมาแล้ว"
ส่วนการเล่นประเภทหญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “น้องแนต” ณิชชาอร จินดาพล มือ 1 ของรายการ ชนะ ยิป ปุย ยิน มือ 3 ของรายการจากฮ่องกง 21-18, 21-16 คว้าแชมป์ประเภทที่ 2 ให้ทัพขนไก่ไทยได้สำเร็จ
Credit
http://www.komchadluek.net/detail/20130722/164018/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A9!%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1.html#.Ue4mY-vIjVQ