คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
พอจะเข้าใจปัญหาจขทก.นะ
ประเด็นคือเป็นค่ายที่มีอัตราการชิงดีชิงเด่นสูงมาก กว่าจะได้เข้าไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องอะไรจะต้องไม่ไปทั้งๆที่เสียแรงกายแรงใจไปเยอะขนาดนี้? เพียงเพราะแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงเลือกทางนี้ เพียงเพราะทางเดินที่แม่หวังไว้ไม่ใช่ทางที่คุณต้องการ
เราค่อนข้างเชื่อนะว่า "มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบังคับขู่เข็ญให้อีกฝ่ายทำอย่างที่เราต้องการได้เพียงเพราะคำว่าหวังดีคำเดียว"
ไม่มีใครเข้าใจอีกฝ่ายได้ 100% ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากขนาดไหนก็ไม่ได้ทำให้การคาดการณ์ของใครถูกได้ 100%
เพราะฉะนั้นการบังคับไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น หลายๆความคิดเห็นบอกว่าไม่ไปครั้งเดียวก็ไม่เป็นไร ฟังแม่ดีกว่า แต่คุณลองคิดดูนะว่าเรื่องนี้มันจะเป็นแผลในใจของจขทก.มากขนาดไหน เวลาทะเลาะไม่เข้าใจกันครั้งต่อๆไปเรื่องพวกนี้คงผุดขึ้นมาในใจทำให้ยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้น ส่งผลเสียต่อไปเรื่อยๆ
ขอแนะนำตามความคิดเห็นต้นๆว่าให้เอาคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องค่าย(และมีอายุมากๆหน่อย เป็นครูก็ดี) มาคุยกับแม่ และให้แม่ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้มากขึ้น ค่อยๆตกลงกันอย่างมีเหตุผล ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง และทางที่ดีก็จงมีตัวกลางมานั่งด้วยเวลาเคลียร์กัน(เอาคนที่แม่เกรงใจ) บางทีคุณอาจจะต้องยอมกันครึ่งทาง แต่มันก็ดีกว่าไม่พยายาม ไม่ได้อะไรเลยนะ
ประเด็นคือเป็นค่ายที่มีอัตราการชิงดีชิงเด่นสูงมาก กว่าจะได้เข้าไม่ใช่เรื่องง่าย
เรื่องอะไรจะต้องไม่ไปทั้งๆที่เสียแรงกายแรงใจไปเยอะขนาดนี้? เพียงเพราะแม่ไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงเลือกทางนี้ เพียงเพราะทางเดินที่แม่หวังไว้ไม่ใช่ทางที่คุณต้องการ
เราค่อนข้างเชื่อนะว่า "มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบังคับขู่เข็ญให้อีกฝ่ายทำอย่างที่เราต้องการได้เพียงเพราะคำว่าหวังดีคำเดียว"
ไม่มีใครเข้าใจอีกฝ่ายได้ 100% ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากขนาดไหนก็ไม่ได้ทำให้การคาดการณ์ของใครถูกได้ 100%
เพราะฉะนั้นการบังคับไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น หลายๆความคิดเห็นบอกว่าไม่ไปครั้งเดียวก็ไม่เป็นไร ฟังแม่ดีกว่า แต่คุณลองคิดดูนะว่าเรื่องนี้มันจะเป็นแผลในใจของจขทก.มากขนาดไหน เวลาทะเลาะไม่เข้าใจกันครั้งต่อๆไปเรื่องพวกนี้คงผุดขึ้นมาในใจทำให้ยิ่งไม่เข้าใจกันมากขึ้น ส่งผลเสียต่อไปเรื่อยๆ
ขอแนะนำตามความคิดเห็นต้นๆว่าให้เอาคนที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องค่าย(และมีอายุมากๆหน่อย เป็นครูก็ดี) มาคุยกับแม่ และให้แม่ทำความเข้าใจกับเรื่องนี้มากขึ้น ค่อยๆตกลงกันอย่างมีเหตุผล ไม่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้อง และทางที่ดีก็จงมีตัวกลางมานั่งด้วยเวลาเคลียร์กัน(เอาคนที่แม่เกรงใจ) บางทีคุณอาจจะต้องยอมกันครึ่งทาง แต่มันก็ดีกว่าไม่พยายาม ไม่ได้อะไรเลยนะ
แสดงความคิดเห็น
แม่ไม่เข้าใจ.. เราทำสิ่งที่ดีแต่แม่ไม่เข้าใจ!?
เค้ารับไม่ถึงร้อยคน แล้วเราก็ติดหนึ่งในนั้น แทนที่แม่จะดีใจ เหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ กลับว่าเรา ว่าโดนหลอกอะไรรึเปล่า จะไปทำไม ตั้งใจเรียนเอาเกรดเข้ามหาลัยก็พอ เพราะการเรียนเราไม่ได้ดี แค่กลางๆ เรามีปัญหากับแม่เรื่องเรียนมานานมาก ตั้งแต่ก่อนเข้าม.4 แม่ต้องการให้เราเรียนวิท-คณิต แต่เราชอบภาษาอังกฤษ เราจึงเลือกศิลป์-ภาษา แม่ก็บ่นทุกๆวัน เรียนสายนี้จะไปทำอะไร ไปเป็นไกด์หรอ นั่งรับใช้คนอื่นหรอ ทำไมไมเรียนหมอเหมือนคนนู้นคนนี้ เห็นมั้ยเค้าเลี้ยงพ่อแม่เค้าได้.. เราเถียงไปร้องไห้ไป แม่ก็ว่าอีกจะร้องทำไม เสียใจมาก แต่เรื่องนี้ก็จบไป เพราะมีครูแถวบ้านช่วยพูด แม่ถึงยอม แล้วพอเข้าม.ปลาย ก็จะมีค่ายต่างๆ เพื่อให้เด็กรู้ว่าควรจะเดินไปทางไหน เราชอบทำกิจกรรม ชอบมากๆ พบปะคนอื่นๆ ได้แลกเปลี่ยนความคิด รู้ว่าถ้าเราเดินสายนี้จะทำอะไรบ้าง ได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนทางนั้นว่าเค้าเป็นยังไง ได้เพื่อนใหม่ๆ ซึ่งส่วนมากไม่เสียเงินไปค่าย แต่จะต้องค้างคืนส่วนมากจะ 3 วัน ซึ่งแม่เราไม่เข้าใจตรงนี้ ก่อนหน้านี้เราเคยไปมาแล้ว 1 ค่าย แม่เราไม่ชอบเลย แต่สุดท้ายเราก็ไป(ขอไม่บอกว่าค่ายอะไรกลัวเจอคนรู้จักแต่ว่าคนแย่งเข้าประมาณพันคนรับไม่ถึงร้อย) เราติด เราดีใจมากกกก แต่แม่เรา เหมือนเดิม ไม่เข้าใจ อธิบายจนเราโมโห เราขึ้นเสียงก็มาตีเรา เราเงียบ ไม่พูดมาตลอด จนสุดท้ายเราก็ได้ไปอยู่ดีนั่นแหละ.. แล้วพอมาตอนนี้ ค่ายที่ 2 เราติดอีกเช่นกัน เหมือนแม่เราจะไม่ทน.. ไม่ให้ ไม่ให้อย่างเดียว อธิบายเท่าไหร่ก็หาเรื่องมาแย้งตลอด ค่ายนี้เป็นค่ายเกี่ยวกับจิตอาสา เราชอบอยู่แล้วเรื่องแบบนี้ แม่ก็บอกมหาลัยกิจกรรมเยอะแยะค่อยทำ ตอนนี้จะทำไปทำไมไร้สาระ เรียนไปเถอะ
มันไม่ใช่เลย มันไม่เหมือนกัน ไม่งั้นเค้าจะบอกทำไมว่าสำหรับม.ปลายอย่างเดียว แม่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีจนเราไม่รู้จะพูดยังไง
ทำไมแม่เราไม่เหมือนคนอื่นๆ เค้าดีใจที่ลูกเค้าได้ไป แต่แม่เรากลับด่าว่า เสียใจ น้อยใจมากๆ ค่ายนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย
แม่ก็ว่าอีก ค่ารถค่ารามันก็ต้องใช้ ก็ใช่แต่เราก็ทำเองเก็บเงินเอง ใช้เงินตัวเอง เราขอแม่น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทุกครั้งที่เราทำอะไรก็ตาม แม่ก็บอกว่าหาไปใช้แต่เรื่องไร้สาระ เรื่องเรียนไม่เห็นตั้งใจแบบนี้บ้าง เราไม่เก่งวิชาการ
เกรดเรากลางๆ 3 นิดๆ แม่เราไม่พอใจ ต้องการให้ได้เกรดสวยๆเหมือนพี่แถวบ้าน แล้วทำไมเราต้องเป็นแบบนั้นล่ะ
เราไม่เข้าใจ เราทำเท่าที่เราทำได้ เราเดินทางที่เราชอบ ทำไมแม่ไม่ส่งเสริมเราบ้าง แม่ก็ว่าอีก เค้าหลอกให้ไปเก็บขยะ
ไปถือกล่องรับบริจาคน่ะสิ เราดูฟีดแบคจากปีที่แล้วๆมันไม่ใช่เลย เหมือนจะเป็นการใช้ความคิดเพื่อพัฒนา
และสันทนาการมากกว่า ซึ่งเค้าไม่บอกรายละเอียดอะไรมากเพราะเป็นความลับของค่ายอยู่แล้ว เราถึงอยากไป
อยากไปมากๆ แล้วพอผิดเทอมก็ต้องมีค่ายหลายๆค่ายอีก เราอยากไปเยอะมากแต่ถ้าแม่ไม่เข้าใจก็ไม่รู้ในอนาคต
เราจะได้ไปทำอะไรอีกมั้ย เราคงได้แต่นั่งเรียนไปวันๆรอลุ้นเกรด ปิดเทอมนั่งอยู่บ้าน แบบนี้หรอชีวิตวัยรุ่นของเรา?
เราควรจะทำยังไงดี ไม่รู้จะปรึกษาใคร ตอนนี้กำลังคิดๆว่าจะให้แม่คุยกับครูที่ดูแลค่ายดีไหม แต่ก็กลัวแม่จะบอกครู
เค้าว่าไม่ให้เราไปโดยที่ไม่ฟังเลย.. อาจจะเล่างงๆข้ามๆบ้าง เราพิมพ์ตามความรู้สึก เราไม่มีที่พึ่งแล้ว บางทีก็คิดนะ
ว่าเบื่อกับชีวิตมากๆ อยากจะไปอยู่ในป่า หรือที่ไหนไกลๆมีแต่ธรรมชาติไม่ต้องมีตึกราบ้านช่อง ผู้คน หรืออะไรให้วุ่นวาย เหนื่อยมากจริงๆ
ปล.กรุณาอย่าแชร์ใน fb กลัวมากๆอันนี้ ไม่ต้องการให้ใครรู้ค่ะ แค่ในนี้พอ