ผมอายุได้ 35 ปี ส่วนภรรยาอายุ 34 ปี เราใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมา 10 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ขวบ ย้อนกลับไปเมื่อปี 46 ผมกลับมาจากราชการที่ต่างประเทศ ซึ่งตอนนั้นผมคบอยู่กับแฟนเก่าเรารู้จักกันตั้งแต่มัธยมต้น มาเจอคนที่เป็นภรรยาของผมเธอโทรมาหาผมว่ามีคนแจ้งเรื่องทะเบียนราษฎร์อะไรซักอย่าง ผมต้องไปหาเธอที่อำเภอผมก็ไปตามที่เธอบอก หลังจากนั้นเธอก็โทรหาผมตลอด อาจด้วยผมกับแฟนเก่าเราอยู่คนละจังหวัดทำให้ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กันบ่อยนัก ในขณะที่ภรรยาของผมเธอเข้ามาในจังหวะเช่นนี้พอดี ผมคบกับภรรยาเพียงไม่ถึง 2 อาทิตย์ผมกับเธอก็ได้เสียกัน เธอร้องไห้ ผมคิดแต่ว่าผมคงต้องรับผิดชอบ นับแต่นั้นมาผมต้องจดทะเบียนสมรสกับเธอเรื่องนี้ทำให้แฟนเก่าผมเสียใจมากเธอ พูดกับผมว่า "เธอเสียใจกับผมมากๆๆ เสียความรู้สึกที่ดีๆๆกับผม" ในตอนแรกภรรยาผมก็เป้นคนที่ไม่มีงานเป็นที่มั่นคง จนเธอไปได้งานอยู่ธนาคารและทำธนาคารมาโดยตลอด ในขณะที่การสร้างฐานะครอบครัว เรื่องการเงิน เรื่องทุกอย่างกลายเป็นผมที่ต้องอดทน ผมเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวกลางคืน จนปัจจุบันมีบ้านราคากว่า 6 ล้านบาท รถยนต์ 3 คัน(Fortuner BMW Accord) ที่ดินกว่า 20 ไร่ เงินฝากธนาคารร่วม 5 ล้านบาท : ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการทำงานของผม
ตลอดระยะเวลาการเป็นสามีภรรยา ภรรยาผมเธอไม่เคยทำให้ผมดีใจหรือภูมิใจกับเธอเลยซักอย่างเดียว แม้แต่เรื่อองการเลี้ยงลูก ผมเลี้ยงมากกว่าเธออีก ผมอุ้มลูกมากกว่าเธออีก เธอเอาแต่ใจตัวเอง ผมมานึกในใจว่าเธอหลอกเราเมื่อ 10 ปีก่อน เธอพยายามให้เราได้เธอ เพราะรุ้จุดอ่อนของเราคือ เป็นคนดี มีความรับผิดชอบ
แต่ทุกอย่างมันไม่ใช่รักแท้ ผมเคยเสนอยกทุกอย่างให้เธอทั้งหมด ทรัพย์สินที่มี .....แต่เธอปฏิเสธแถมมาทำร้ายร่างกายผมอีก
ผมรู้ว่าเธอฉลาดเพราะรู้ว่า สิ่งทีผมยกให้เธอเมื่อผมไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ผมก็สามารถหามาใหม่ได้ ในขณะที่เธอแทบพึ่งตนเองไม่ได้เลย เงินที่มีอยู่อาจหมดไป
แต่ผมรู้ว่า วันนี้ผมรู้แล้วว่า "รักแท้" คืออะไร มันไม่ใช่การรับผิดชอบ
เชื่อผมอย่าเพียงเพราะว่าเราได้เขาแล้วเราต้อง "รับผิดชอบ" อย่าเลยครับ
เพราะการรับผิดชอบมันไม่ใช่คำตอบในชีวิตคู่เลย
เมื่อปี 53 พี่สาวของภรรยาผม หย่า กับสามีเธอ โดยให้เหตุผลว่า สามีไม่เป็นหลักให้ครอบครัวไม่ทำงานที่มั่นคงไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินชีวิตคู่ค่าใช้จ่ายในบ้านต่างๆล้วนแต่เกิดจากพี่สาวภรรยาผมเป็นคนหา ทั้งๆที่มีลูกด้วยกันถึง 2 คน สามีเธอไม่ยอม ..... แต่เธอก็สามารถทำให้สามีหย่าจนได้ ในขณะนั้นผมคิดว่าการทำตัวไม่ได้เรื่องได้ราวอาจทำให้ภรรยาของผมยอม หย่า จากผมได้....แต่มันก็ขัดกับมโนสำนึกของผม ผมไม่ใช่คนขี้เกียจ ผมทำงานตั้งแต่เช้าเลิกงานเย็นตลอด กลับมาเอางานมาทำที่บ้านทั้งเจ้านาย เพื่อนร่วมงานก็ถือว่าผมทำงานได้ 2 ขั้น แทบทุกปี มีเฉพาะบางปีเพราะได้ต่อเนื่อง 3 ปีติด ต้องรอไว้บางปี ชีวิตการงานผมก้าวหน้าตามลำดับ
ผมอยากจะให้เธอเห็นว่าผมไม่ได้เรื่อง เธอจะได้เลิกกับผมแบบ พี่สาวเธอครับ
พื้นฐานการศึกษาของภรรยาผมจบพาณิชย์ แล้ว จบ ป.ตรีจากราชฎัช ด้วยคะแนนไม่ถึง 2.5 ในขณะที่ผมตอนจบ ป.ตรี ได้เกียรตินิยม จบ.ป.โท ได้ 4.00 (จากสถาบันอันดับต้นของไทย และ โทจากมหาลัยที่สหรัฐโดยทุนหลวง)ทุกวันนี้เธอกลายเป้นคนมีหน้ามีตาในสังคมของเพื่อนที่มาจากที่เรียนเดียวกับเธอ ในขณะที่ผมเองไม่กล้าเอาไปงานรุ่นหรืออะไรเลย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเองที่พาไปเพราะไม่งั้นต้องทะเลาะกันจนบ้านแตก(ถ้าทะเลาะแล้วเลิก หย่ากัน ผมคงยอมทะเลาะให้สุดดๆเธอจะได้หย่า หรือ เลิก)
ใครเคยอยากที่จะกลับไปหาแฟนเก่าบ้างถึงแม้ว่าจะมีครอบครัวแล้วแต่ในใจมันยังขัดกับความรู้สึกว่า"รักแท้"คือแฟนเก่าบ้าง?
ตลอดระยะเวลาการเป็นสามีภรรยา ภรรยาผมเธอไม่เคยทำให้ผมดีใจหรือภูมิใจกับเธอเลยซักอย่างเดียว แม้แต่เรื่อองการเลี้ยงลูก ผมเลี้ยงมากกว่าเธออีก ผมอุ้มลูกมากกว่าเธออีก เธอเอาแต่ใจตัวเอง ผมมานึกในใจว่าเธอหลอกเราเมื่อ 10 ปีก่อน เธอพยายามให้เราได้เธอ เพราะรุ้จุดอ่อนของเราคือ เป็นคนดี มีความรับผิดชอบ
แต่ทุกอย่างมันไม่ใช่รักแท้ ผมเคยเสนอยกทุกอย่างให้เธอทั้งหมด ทรัพย์สินที่มี .....แต่เธอปฏิเสธแถมมาทำร้ายร่างกายผมอีก
ผมรู้ว่าเธอฉลาดเพราะรู้ว่า สิ่งทีผมยกให้เธอเมื่อผมไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ผมก็สามารถหามาใหม่ได้ ในขณะที่เธอแทบพึ่งตนเองไม่ได้เลย เงินที่มีอยู่อาจหมดไป
แต่ผมรู้ว่า วันนี้ผมรู้แล้วว่า "รักแท้" คืออะไร มันไม่ใช่การรับผิดชอบ
เชื่อผมอย่าเพียงเพราะว่าเราได้เขาแล้วเราต้อง "รับผิดชอบ" อย่าเลยครับ
เพราะการรับผิดชอบมันไม่ใช่คำตอบในชีวิตคู่เลย
เมื่อปี 53 พี่สาวของภรรยาผม หย่า กับสามีเธอ โดยให้เหตุผลว่า สามีไม่เป็นหลักให้ครอบครัวไม่ทำงานที่มั่นคงไม่รับผิดชอบต่อการดำเนินชีวิตคู่ค่าใช้จ่ายในบ้านต่างๆล้วนแต่เกิดจากพี่สาวภรรยาผมเป็นคนหา ทั้งๆที่มีลูกด้วยกันถึง 2 คน สามีเธอไม่ยอม ..... แต่เธอก็สามารถทำให้สามีหย่าจนได้ ในขณะนั้นผมคิดว่าการทำตัวไม่ได้เรื่องได้ราวอาจทำให้ภรรยาของผมยอม หย่า จากผมได้....แต่มันก็ขัดกับมโนสำนึกของผม ผมไม่ใช่คนขี้เกียจ ผมทำงานตั้งแต่เช้าเลิกงานเย็นตลอด กลับมาเอางานมาทำที่บ้านทั้งเจ้านาย เพื่อนร่วมงานก็ถือว่าผมทำงานได้ 2 ขั้น แทบทุกปี มีเฉพาะบางปีเพราะได้ต่อเนื่อง 3 ปีติด ต้องรอไว้บางปี ชีวิตการงานผมก้าวหน้าตามลำดับ
ผมอยากจะให้เธอเห็นว่าผมไม่ได้เรื่อง เธอจะได้เลิกกับผมแบบ พี่สาวเธอครับ
พื้นฐานการศึกษาของภรรยาผมจบพาณิชย์ แล้ว จบ ป.ตรีจากราชฎัช ด้วยคะแนนไม่ถึง 2.5 ในขณะที่ผมตอนจบ ป.ตรี ได้เกียรตินิยม จบ.ป.โท ได้ 4.00 (จากสถาบันอันดับต้นของไทย และ โทจากมหาลัยที่สหรัฐโดยทุนหลวง)ทุกวันนี้เธอกลายเป้นคนมีหน้ามีตาในสังคมของเพื่อนที่มาจากที่เรียนเดียวกับเธอ ในขณะที่ผมเองไม่กล้าเอาไปงานรุ่นหรืออะไรเลย มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเองที่พาไปเพราะไม่งั้นต้องทะเลาะกันจนบ้านแตก(ถ้าทะเลาะแล้วเลิก หย่ากัน ผมคงยอมทะเลาะให้สุดดๆเธอจะได้หย่า หรือ เลิก)