คนอวดหุ้นวันนี้ ข่าวร้ายที่น่าสยดสยองของ.......กุ้ง วันนี้จะเชิญคุณริว มาพูดดค๊าบบ

กระทู้สนทนา
ขอเน้น CFRESH เพราะกุ้งเพียวๆ CPF กับ TUF ยังไม่ค่อยมีมากเท่าไรของสัดส่วนรายได้หลักครับ

พอดีนะครับ ผมเด็กใหม่ลงทุนหุ้นก็ไม่เก่ง แต่ผมจะลงทุนตามเหตุและผล ซึ่งจากข่าวก็นับว่าร้ายมาก EMS โรคกุ้งตายด่วนนะครับ คำถามคือหากวิกฤตเป้นโอกาสจะเป็นไปได้ไหมนะครับ
1. วิกฤตราคาหุ้นที่ทุกคนกลัวข่าวร้าย  เรื่องจริงโรงงานกุ้งแช่แข็งปิดตัวลง เพราะ supply ไม่พอ พวก SME หรือป่าวครับที่ปิดเพราะฉะนั้นปัญหาพวกที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่น แรงงานไม่พอ  ราคากุ้งสูง วัตถุดิบน้อย คนว่างงาน  เพราะฉะนั้น คู่แข่งรายย่อยๆ จะล้มหายไป เหลือการควบรวม และเหลือรายใหญ่ พอโรค EMS กลับมาปกติ ทั้งแรงงานทั้งวัตถุ จะไม่เกิด over demand มาก ไม่แย่ง เพราะเหลือรายใหญ่

2. แล้วราคาลงเรื่อยๆ เพราะข่าวร้ายเป็นไปได้ไหมที่เราจะเก้บในช่วงวิกฤต กลัวเมื่อคนอื่นกล้า และจงบ้าในตอนที่คนอื่นกลัว

ผมลองวิเคราะห์จาก ข้อมูลบริษัท




-ตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ Seafresh Industry Invest Limited (“SII”)วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป
-SII เข้าลงทุนใน Blue Earth Foods Limited (“BEF”) ซึ่งประกอบธุรกิจจัดหาผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง จัดตั้งอยู่ ในประเทศอังกฤษ  
-ในเดือนพฤศจิกายน 2554 SII ได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ชื่อ Sea Farms Limited (“SF”) โดยจดทะเบียนในประเทศอังกฤษ และ SII ถือหุ้นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว วัตถุประสงค์เพื่อดำเนินธุรกิจซื้อมาและจำหน่ายไป (Trading) ในผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารจาก CFRESH และผู้จัดจำหน่ายรายอื่นๆ เพื่อจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในอังกฤษและประเทศในแถบยุโรป

พาพันขยันลองวิเคราะห์เล่นๆ นะครับ  CFRESH ไปลงทุนใน BEF ส่งกุ้งจากไทยไป ซึ่งในข่าวคือสหรัฐประเทศเดียวใช่ไหมครับ เพราะฉะนั้นถ้าสหรัฐไม่- โทษทีครับ ถ้าไม่ทานยังมี BEF ที่เป็นเหมือนโรงงานกระจายกุ้งไปตาม ซูปเปอร์มาเก็ต ที่สำคัญคือ TESCO LOTUS  ทุกสาขา ขอย้ำนะครับทุกสาขา   โดย CFRESH ไม่ได้ขายผ่านโบรกรับซื้อกุ้ง แต่เป็นบริษัทที่ไปถือหุ้น และกำหนดมารืจิ้นได้ไม่ต้องแข่งใคร ซึ่งเป็นความฉลาดของผู้บริหาร ต่อมาลงทุนใน seafarm ธุรกิจซื้อมาขายไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องซื้อจากไทยถูกไหมครับ อาจซื้อจากอินเดีย หรือแหล่งอื่นๆ ที่ไม่มีโรค EMS เพราะฉะนั้น เรื่องของขาดก็ไม่น่ามีปัญหา จบประเด็นแรกนะครับ



เราข้ามมาดูแถบอเมริกา

พาพันขยันในเดือนสิงหาคม 2555 SII เข้าลงทุนใน Belize Aquaculture Limited (“BAL”) ประกอบธุรกิจฟาร์มกุ้งครบวงจรที่ประเทศเบลิซ ซึ่งมีตั้งแต่เพาะพันธุ์ลูกกุ้ง ฟาร์มกุ้ง จนถึงโรงงานแปรรูป

-ในเดือนพฤศจิกายน 2555 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ บริษัทฯ และ SII จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ Sea Farms, Inc (“SFI”) ซึ่งประกอบธุรกิจซื้อมาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็ง

ผมวิแคะนะครับ ในเมกาคล้ายๆ ในอังกฤษ ต่างตรงมีฟาร์ม ผมว่าปัญหาเมกามันมีมานาน และผู้บริหารวิสัยทัศน์มองไกลอยู่ละคงคิดอยู่ละว่า พี่เมกาเนี่ยชอบโวยวาย นู้นนี้นั้น บลาๆ  เลยไปจัดการเทคฟาร์ม แมร่งเลย ทั้งระบบ ตั้งแต่เลี้ยงจนจัดขาย มันติดที่จัดขายยังไม่มีช่องทาง เลยจัดไป เดือน พย56 ทำแบบที่ อังกฤษ ตั้งบริษัท เทรด แมร่งเลยเอาไงละ รับซื้อด้วย เหมากุ้งใน เบลิซ อย่าลืมนะครับ บริษัทที่ CFRESH ไปเทคใหญ่ที่สุดในประเทศ ตอนนี้ที่ อเมริกากลาง


ในเดือนธันวาคม 2555 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้ บริษัทฯ เข้าลงทุนใน บริษัท แมนนูแฟคเจอริ่ง ซิสเต็ม อิมพลีเมนเทชั่น จำกัด (“MSI”) ซึ่งประกอบธุกิจที่ปรึกษาและวางแผนระบบคอมพิวเตอร์อย่างครบวงจรโดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือ Oracle application โดยบริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด และมีการดำเนินการเรียบร้อยในเดือนมกราคม 2556


ประเด็นนี้ผมไม่รู้

มีข่าวว่าตั้งบริษัทวิจัยปลาป่น เข้าใจว่าจะมองช่องทางทำอาหารกุ้ง หรือป่าวดูกันต่อไปครับ


คราวนี้มาดูทำไมหุ้นลง นะครับบทสัมภาษณ์

ณฤทธิ์ ยังคงย้ำจุดยืนของเขา คือ "Investor" (นักลงทุน) ไม่ใช่ "นักเล่นหุ้น" และตลาดหลักทรัพย์ก็เป็นเพียงทางเลือกหนึ่งของการบริหารเงินเท่านั้น ที่ผ่านมา "ตระกูลเจียอาภา" ก็มักจะโยกเงินเข้าออกระหว่าง ตลาดหุ้น และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 15 ปี ยกเว้นหุ้น CFRESH ที่ยืนยันว่าจะไม่ขาย เพราะเป็นธุรกิจไม่ใช่การลงทุน

จากข้อมูล หรือบทความจะพอทราบดีว่า ผู้บริหารถือหุ้นเยอะมากๆ ประมาณ 70  และ % Free float ประมาณ 30 หมายความว่า การขึ้น หรือลงจะแรงมากๆ เพราะหุ้นในตลาดไมามากนัก เวลาเม่าขายๆ ก็ขายกันไป พร้อมใจขายราคาลงแรงเกิด panic เวลาขึ้นก็แรง แต่สุดท้ายมันจะสะท้อนผลประกอบการอยู่ดี


สรุป ค่าเงินบาทสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ที่สุด เพราะหากสังเกตปี 2540 ที่บริษัท เศรษฐกิจไทย แย่แต่ CFRESH เป็น 1 ใน 57 บริษัท ที่จ่ายปันผลออกมาให้ผู้ถือหุ้น เข้าใจว่าเงินบาทคงจะอ่อน เงินทุนไหลออก ค้าขายจึงดีในช่วงนั้น

โรค EMS ทำให้กุ้งโดยรวมไทยลดลงครึ่ง ฉุด GDP ไปเยอะ เยอะกว่าข้าวเน่าแน่นอน จากที่เคยเป็นพระเอก

จับเอาข้อมูลมาโยงใส่กับคำพูดของกุรุ อย่างเบนจามิน เกรแฮม ที่ว่า 1 วัฎจักรธุรกิจ คือ 3-5 ปี หากปีนี้แย่ ยังเเหลืออีก 2 ปีที่แก้ตัว เป็นการดีที่เราจะได้สะสม จริงหรือ ต้องไปเพิ่มเติม

จากมุมมองCEO ที่ทำธุรกิจกุ้งมาเกือบๆ 30-40 ปี คงไม่จบด้วยเรื่องตื่นๆ แบบนี้ จากแผนการรบที่ท้าน จูกัดเหลียง เขียนออกมา ข้าเชื่อว่าเราจะเอาชนะโจโฉในเร็ววัน (เมกา) ไปหนังจีนซะงั้น    


ปล. ควรตัดสินใจลงทุนด้วยตัวเองครับ มดงานทั้งหลาย หาเหตุ และผลอย่าอ่านข่าวอย่างเดียว เพราะถ้าอ่านข่าวแล้วรวย คงไม่มีคนจนในตลาดหุ้นครับ


ผมมีหุ้น CFRESH ไม่ถึง 20 เปอร์ของพอร์ตนะครับ และราคาเฉลี่ยๆ อยู่ที่ 3 บาทกว่าๆ จึงไม่ใช่ข้อมูลที่ใช้ในการเก็งกำไร เหมาะพิจารณา เข้าลงทุน ต่อไปครับ ขอบคุณพี่ๆครับ





ผมชอบทานกุ้งครับเอาตรงๆผู้ชาย

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่