ข้อความที่นำบาบอกเล่าต่อไปนี้
เป็นเรื่องที่ไม่สนุกสำหรับผมแถมยังเสียสตางค์โดยไม่เต็มใจอีกด้วย ... ครับ
กล่าวคือเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2556 วันแรกของช่วงหยุดยาวที่น่าจะมีความสุข แต่ก็มีเรื่องทุกข์มาเยี่ยมเข้าจนได้
วันเดียวกันนี้เองเวลาประมาณ 12.10 ขับรถยนต์ไปรับลูกที่ห้างสุขอนันต์ ถ.สุดบรรทัด อ.เมือง จ.สระบุรี
มุ่งหน้าจะกลับบ้านโดยวิ่งไปตามถนนสุดบรรทัดเพื่อออกสู่ถนนมิตรภาพ ตรงบริเวณแยกหัวถนน ร้านอาหารบุญบันดาล ของคุณฤทธิ์ ลือชา ดาราและนักการเมืองท้องถิ่นผู้มีชื่อเลื่องลือ
ผมได้ขับรถไปถึงทางแยกขณะกำลังบังคับรถเลี้ยวซ้ายก็ตกใจเลยครับ มีตำรวจกระโดดเหยงออกจากบริเวณใกล้หัวมมุมถนน วิ่งออกมายืนกั้นและเรียกให้หลบซ้ายเข้าข้างทาง
เหตุการณ์ต่อมาก็ตามธรรมเนียมที่ทุกท่านมักจะพานพบนั่นแหละครับ ตำรวจนายดังกล่าวน่าจะมีตำแหน่งยศเป็นนายสิบ ได้ขอดูใบขับขี่ก็หยิบยื่นให้เขาดู แต่ผมไม่มอบให้ใบขับขี่ให้เขา ดูสีหน้าอากัปกิริยาก็พอจะรู้ว่าทำให้เขาไม่พอใจเข้าแล้ว และก็เป็นเช่นนั้นจริง
คุณตำรวจผู้ขอตรวจใบขับขี่คนนั้น ใช้สายตาสอดส่องอย่างรวดเร็วแคล่วคล่อง พร้อมเอื้อนเอ่ยแบบออโตเมติกว่า ขับรถผิดกฎจราจรเพราะไม่รัดเข็มขัด แล้วจะขอยึดใบขับขี่ไว้เป็นประกัน เมื่อผมไม่ส่งใบขับขี่ให้เขา จึงถูกข้อหาไม่พกใบขับขี่ติดตัว ... ทั้งที่พกติดตัวใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ตลอดเวลา (เฮ้อ ... จะให้ศรัทธาตำรวจไทยยังไงนี่)
ทีมงานตำรวจที่มาด้วยกัน ก็ได้เขียนใบสั่ง ระบุข้อความไว้ด้วยว่าให้อายัดเลขทะเบียนรถ จากนั้นก็แจ้งให้ผมไปจ่ายค่าปรับที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จ.สระบุรี (เพราะผมไม่นิยมยื่นเงินสดให้ใครในที่เกิดเหตุ)
ความจริงแล้วผมเห็นว่าไม่ได้ทำผิดคิดร้ายหรือผิดกฎจราจรอะไรรุนแรง ตำรวจก็น่าจะว่ากล่าวตักเตือไม่สั่งปรับก็ทำได้ จึงขอความเห็นใจจากเขา แต่เขาก็ไม่ยอม จะจับ จะปรับกันลูกเดียวเลย (เฮ้อ เงินทองของข้าแต่เอ็งจ้องจะเอาหรือเปล่านี่ 555)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสียความรู้สึกอย่างยิ่ง เนื่องจากขับรถอยู่ดีๆก็มีตำรวจ ที่เลือกใช้ location หัวมมุมทางแยก อำพรางตัวเพื่อมุ่งเน้นจับกุมและสั่งปรับผู้ขับขี่ยวดยานอย่างเดียวไม่มีข้อยกเว้นว่ากล่าวตักเตือน ... เงินรายได้จะได้เข้ารัฐและค่าคอมมิชชั่นเข้าตัวเอง และ/หรือ หากมีใครไม่อยากไปเสียค่าปรับที่โรงพัก ก็ใช้ศาลเตี้ยลดราคากันไปเสร็จสิ้นทันที ก็น่าจะมีไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
ความเสื่อมศรัทธาในการปฎิบัติงานของตำรวจดังกล่าว ทำให้รู้สึกเหมือน ผมถูกตำรวจดักปล้น
มีท่านใดเคยพบและประสบเหตุการณ์เช่นนี้บ้างใหม
และก็ให้สงสัยว่าสถานีตำรวจต้นสังกัดได้ออกคำสั่งตั้งด่านตรวจให้ตำรวจเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่
และการเลือกใช้ทำเลแอบบหลบ เพื่อหาทางจับกุมแบบไม่ให้ตั้งตัวเช่นนี้
อาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้
จึงขอนำมาบอกกล่าวสู่กันฟัง และแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้
ตามสบายเลยน่ะครับ
ผมถูกตำรวจดักปล้น
เป็นเรื่องที่ไม่สนุกสำหรับผมแถมยังเสียสตางค์โดยไม่เต็มใจอีกด้วย ... ครับ
กล่าวคือเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2556 วันแรกของช่วงหยุดยาวที่น่าจะมีความสุข แต่ก็มีเรื่องทุกข์มาเยี่ยมเข้าจนได้
วันเดียวกันนี้เองเวลาประมาณ 12.10 ขับรถยนต์ไปรับลูกที่ห้างสุขอนันต์ ถ.สุดบรรทัด อ.เมือง จ.สระบุรี
มุ่งหน้าจะกลับบ้านโดยวิ่งไปตามถนนสุดบรรทัดเพื่อออกสู่ถนนมิตรภาพ ตรงบริเวณแยกหัวถนน ร้านอาหารบุญบันดาล ของคุณฤทธิ์ ลือชา ดาราและนักการเมืองท้องถิ่นผู้มีชื่อเลื่องลือ
ผมได้ขับรถไปถึงทางแยกขณะกำลังบังคับรถเลี้ยวซ้ายก็ตกใจเลยครับ มีตำรวจกระโดดเหยงออกจากบริเวณใกล้หัวมมุมถนน วิ่งออกมายืนกั้นและเรียกให้หลบซ้ายเข้าข้างทาง
เหตุการณ์ต่อมาก็ตามธรรมเนียมที่ทุกท่านมักจะพานพบนั่นแหละครับ ตำรวจนายดังกล่าวน่าจะมีตำแหน่งยศเป็นนายสิบ ได้ขอดูใบขับขี่ก็หยิบยื่นให้เขาดู แต่ผมไม่มอบให้ใบขับขี่ให้เขา ดูสีหน้าอากัปกิริยาก็พอจะรู้ว่าทำให้เขาไม่พอใจเข้าแล้ว และก็เป็นเช่นนั้นจริง
คุณตำรวจผู้ขอตรวจใบขับขี่คนนั้น ใช้สายตาสอดส่องอย่างรวดเร็วแคล่วคล่อง พร้อมเอื้อนเอ่ยแบบออโตเมติกว่า ขับรถผิดกฎจราจรเพราะไม่รัดเข็มขัด แล้วจะขอยึดใบขับขี่ไว้เป็นประกัน เมื่อผมไม่ส่งใบขับขี่ให้เขา จึงถูกข้อหาไม่พกใบขับขี่ติดตัว ... ทั้งที่พกติดตัวใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ตลอดเวลา (เฮ้อ ... จะให้ศรัทธาตำรวจไทยยังไงนี่)
ทีมงานตำรวจที่มาด้วยกัน ก็ได้เขียนใบสั่ง ระบุข้อความไว้ด้วยว่าให้อายัดเลขทะเบียนรถ จากนั้นก็แจ้งให้ผมไปจ่ายค่าปรับที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จ.สระบุรี (เพราะผมไม่นิยมยื่นเงินสดให้ใครในที่เกิดเหตุ)
ความจริงแล้วผมเห็นว่าไม่ได้ทำผิดคิดร้ายหรือผิดกฎจราจรอะไรรุนแรง ตำรวจก็น่าจะว่ากล่าวตักเตือไม่สั่งปรับก็ทำได้ จึงขอความเห็นใจจากเขา แต่เขาก็ไม่ยอม จะจับ จะปรับกันลูกเดียวเลย (เฮ้อ เงินทองของข้าแต่เอ็งจ้องจะเอาหรือเปล่านี่ 555)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เสียความรู้สึกอย่างยิ่ง เนื่องจากขับรถอยู่ดีๆก็มีตำรวจ ที่เลือกใช้ location หัวมมุมทางแยก อำพรางตัวเพื่อมุ่งเน้นจับกุมและสั่งปรับผู้ขับขี่ยวดยานอย่างเดียวไม่มีข้อยกเว้นว่ากล่าวตักเตือน ... เงินรายได้จะได้เข้ารัฐและค่าคอมมิชชั่นเข้าตัวเอง และ/หรือ หากมีใครไม่อยากไปเสียค่าปรับที่โรงพัก ก็ใช้ศาลเตี้ยลดราคากันไปเสร็จสิ้นทันที ก็น่าจะมีไม่น้อยอยู่เหมือนกัน
ความเสื่อมศรัทธาในการปฎิบัติงานของตำรวจดังกล่าว ทำให้รู้สึกเหมือน ผมถูกตำรวจดักปล้น
มีท่านใดเคยพบและประสบเหตุการณ์เช่นนี้บ้างใหม
และก็ให้สงสัยว่าสถานีตำรวจต้นสังกัดได้ออกคำสั่งตั้งด่านตรวจให้ตำรวจเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่
และการเลือกใช้ทำเลแอบบหลบ เพื่อหาทางจับกุมแบบไม่ให้ตั้งตัวเช่นนี้
อาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้
จึงขอนำมาบอกกล่าวสู่กันฟัง และแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันได้
ตามสบายเลยน่ะครับ