ไร้หัวใจ ตอนที่ 33

กระทู้สนทนา
..........ประพนธ์ยืนแน่นิ่งอยู่บนโรงพักด้วยหัวใจที่เต้นรัวไม่เป็นส่ำ เพราะเพิ่งได้เห็นกับตาตัวเองว่าชาติชายกำลังพากองทัพนักข่าว
และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกจากโรงพักเพื่อไปจับกุมตัวนวภค นักธุรกิจขายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ชื่อดังอันดับต้นๆของเมืองไทย
ที่เป็นที่รู้จักกันดีในความใจบุญและเป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่ช่วยเหลือเด็กยากจนไปทั่วทุกแห่งทุกหนในประเทศไทย
ในข้อหาค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์และฟอกเงินโดยผิดกฎหมายโดยใช้บริษัทพรพรรษเป็นที่บังหน้า โดยเอกสารทุกอย่างนั้น
รัดตัวนวภคอย่างแน่นหนาโดยที่เขาไม่มีทางต่อสู้คดีได้เลย ทั้งหมดเป็นเพราะความไว้ใจที่นวภคมีต่อชาติชายน้องชายคนโต
ของภรรยาตัวเอง ทำให้ทุกลายเซ็นในเอกสารล้วนแล้วแต่เป็นลายมือของนวภคเองทั้งสิ้น
“พี่กันย์ เราช้าไปแล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังจะไปที่บริษัทพรพรรษแล้ว พี่รีบพาตัวคุณนวภคหนีออกจากบริษัทเร็วเข้า”
ประพนธ์พูดใส่โทรศัพท์เสียงสั่น หวาดกลัวเหลือเกินกับปัญหาครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะตามมา จุดจบที่เขาคลาดไม่ถึงกำลังจะนำหายนะ
มาสู่ทุกคนแล้ว

    กันย์เดินตามหานวภคไปทั่วบริษัทด้วยความร้อนใจ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาจะต้องพานวภคออกไปจากที่นี่ให้ได้  
ไม่นานเขาก็เจอนวภคนั่งหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องประชุมแต่เพียงลำพัง
“คุณอา”
กันย์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
“เธอยังกล้ามาเหยียบที่นี่อีกหรอ”
นวภคหันมาพูดกับกันย์อย่างใจเย็น แววตาดุดันถูกมองไปหากันย์อย่างต้องการคำตอบ
“ผมผิดไปแล้ว ผมแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เรารีบหนีไปจากที่นี่กันเถอะครับ”
กันย์ยื่นข้อเสนอ ร้อนรน
“...ชาติชายมันไม่ได้ต้องการบริษัทนี้...ไม่ได้ต้องการเงินทอง...แต่เธอรู้มั้ยว่ามันต้องการอะไร”
นวภคมองหน้ากันย์ตาไม่กระพริบ ชายหนุ่มยืนนิ่งงันไม่สามารถตอบคำถามได้
“มันอยากเห็นความพังพินาศย่อยยับของพรพรรษไง มันก็เหมือนกับเธอนั่นแหละ ที่อยากจะทำให้ทุกอย่างที่ฉันสร้างมากับมือมันหายไป
เธอทำกับลูกสาวอาแบบนั้น แม้แต่ครั้งเดียวอาก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเธอ อาไม่เคยคิดที่จะใช้บริษัทเป็นเครื่องต่อรองกับเธอ....”
กันย์ยืนนิ่ง หน้าชา เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปล่อยให้ตัวเองเดินมาไกลขนาดนี้ได้ยังไง
“แต่เธอทำได้ เธอคิดที่จะทำลายคนที่อุ้มชูชุบเลี้ยงบริษัทของเธอ...จากที่ไม่มีอะไรเลยได้ มันเป็นบุญของลูกสาวอาแล้ว
ที่ไม่ต้องใช้ชีวิตร่วมกับเธอ....จิตใจเธอมันเลวทรามต่ำช้ายากเกินจะเยียวยาแล้ว...ต่อให้ครอบครัวเราไม่เหลืออะไรเลย
เราก็อยู่ได้เพราะว่าเรามีกันและกัน...แต่ดูชีวิตที่น่าสมเพชของเธอสิ ทิ้งขว้างคนที่รักเธอจนสุดหัวใจ ทำแต่เรื่องเลวร้าย
ที่ทำให้คนที่เธอรักเสียใจ ต่อให้ร่ำรวยเงินทองเป็นร้อยล้านพันล้าน ชีวิตของเธอก็ไม่มีวันมีความสุข จำคำของอาเอาไว้ให้ดี”
นวภคสั่งสอนกันย์ ทุกครั้งที่ได้มองหน้ากันย์ ทุกครั้งที่ได้เห็นแววตาเศร้าๆคู่นั้น มันทำให้เขารู้ดีว่าภายในใจของเขานั้นอ้างว้าง
และโดดเดี่ยวขนาดไหน
“.....”
กันย์ยืนนิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก เขามาไกลเกินกว่าที่จะแก้ไขอะไรได้แล้วจริงๆ
“อาประเมินจิตใจเธอสูงเกินไป เธอทำในเรื่องที่อาไม่คิดว่าเธอจะทำได้”
นวภคมองจ้องหน้ากันย์ด้วยความเย็นชา สายตาแห่งความผิดหวังที่มองมาที่ชายหนุ่มมันทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่หนักไปกว่าเดิม
“หนีไปกับผมเถอะครับ อาอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ตำรวจกำลังมาที่นี่”
กันย์ขอร้องอ้อนวอน
“อาไม่หนี อาจะสู้คดี อาไม่ได้ทำอะไรผิด”
นวภคดื้อดึง
“หลักฐานทุกอย่างที่ผมปลอมขึ้นมา มันมือลายเซ็นของอาอยู่ทั้งนั้น อาดิ้นไม่หลุดแน่ เอกสารพวกนั้นตอนนี้อยู่ที่ตำรวจหมดแล้ว
หนีออกนอกประเทศเถอะครับ ผมสัญญาว่าผมจะทำทุกวีถีทางเพื่อพาลูกๆกับอาเพียงพรตามไป”
กันย์มองซ้ายมองขวาด้วยความร้อนรน
“รับหนีเร็วเข้าครับ เราไม่มีเวลาแล้ว”
กันย์ฉุดแขนนวภค
“ทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจ”
นวภคมองจ้องหน้ากันย์ คาดคั้น
“เพราะนวพรรษ เพราะผมสงสารเธอ”
กันย์ยอมพูดความจริง นวภคมอบรอยยิ้มให้กับเขาเพื่อเป็นการตอบแทน อย่างน้อยจิตใจของเขาก็ยังไม่ถลำลึก
จนมองไม่เห็นบาปบุญคุณโทษ อย่างน้อยเขาก็ยังคงมีเลือดเนื้อ มีหัวใจ
“คุณนวภค”
เสียงดังมาจากประตู ทั้งกันย์และนวภคหันไปตามต้นเสียงพร้อมๆกัน มีตำรวจหลายสิบนายเดินเข้ามาในห้องพร้อมอาวุธครบมือ
โดยมีชาติชายเป็นผู้นำ
“คุณนวภค คุณถูกจับในข้อหาค้ายาเสพติด ค้าประเวณี และฟอกเงินโดยผิดกฎหมาย รวมถึงคดีอุ้มฆ่าผู้บริสุทธิ์เพื่อปกปิดความจริง
คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูดและสู้คดีในชั้นศาล เชิญ”
ทันทีที่พูดจบตำรวจหลายสิบนายก็บุกเข้ามาถึงตัวนวภค ชายวัยกลางคนยืนนิ่งอย่างสง่างาม ไม่แสดงอาการหวาดหวั่น
ให้ใครได้เห็นแม้แต่น้อย
“...”
กันย์ยืนแน่นิ่ง หัวใจสลาย ถ้าวันนี้เขาไม่สามารถช่วยนวภคได้ นั่นหมายความว่าชาตินี้เขาจะไม่มีวันมองหน้านวพรรษได้อีกเลย
“เชิญครับคุณนวภค”
ตำรวจนายหนึ่งเข้ามาใส่กุญแจมือนวภคและคุมตัวเขาออกไป ท่ามกลางบรรดานักข่าวจากทั่วทุกสารทิศที่มารวมกันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย

    ข่าวคราวการถูกจับกุมของนวภคและการถูกฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายแพร่สะพัดไปทั่วอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สื่อทุกช่องทุกแขนงต่างให้ความสนใจกับบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างพรพรรษที่ต้องปิดตัวลงอย่างน่าใจหาย
“ไม่จริง นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ประไพรนั่งตัวสั่นอยู่หน้าจอทีวี ตกใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
“ผมไม่มีทางเลือก ถ้าเราไม่ร่วมมือกับเจ้ากันย์ บริษัทเราก็จะมีสภาพไม่ต่างอะไรกับคุณนวภค”
พิภพกล่าวเสียงเข้ม นั่งหน้าตาเคร่งเครียดด้วยความทุกข์ทรมาน
“คุณค่ะ ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้ คุณลืมไปแล้วหรอว่าใครที่ช่วยบริษัทของเราเอาไว้ ตอนที่เรากำลังจะหมดตัว คุณทำแบบนี้ได้ยังไง”
ประไพรร้องไห้โฮ มองหน้าสามีของเธอด้วยความผิดหวัง
“เราทำดีที่สุดแล้ว”
พิภพพยายามปลอบใจตัวเอง รู้สึกแย่ที่สุดแล้วในตอนนี้
“แม่”
ประพนธ์เรียกแม่ของเขาและเดินเข้ามาหาใกล้ๆ น้ำตาที่นองใบหน้าทำให้ประไพรรู้ดีว่าลูกชายของเขารู้สึกยังไง
ในหัวสมองของประพนธ์ตอนนี้มันมีแต่หน้าของภคพรลอยไปลอยมาเต็มไปหมด
“ผมทำร้ายเธอ ผมทำให้เธอไม่เหลืออะไรเลย ผมช่วยคนที่ผมรักไม่ได้ ผมนี่มันเลวจริงๆ เลวจริงๆ ฮือ......”
ประพนธ์คุกเข่าลงตรงหน้าแม่ของเขา ร้องไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ ชาตินี้เขากับภคพรคงคุยกันดีๆไม่ได้อีกแล้ว
การลงโทษเธอด้วยวิธีนี้มันช่างแสนโหดร้ายและทรมานจิตใจของเขาเหลือเกิน
“แม่รู้จ๊ะลูก แม่รู้”
ประไพรโอบกอดลูกชายไว้ในอ้อมแขน ร้องไห้ออกมาพร้อมๆกับเขาด้วยความเสียใจที่ไม่ต่างกัน การตัดสินใจในครั้งนี้
มันเป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อพวกเขาทุกคนอย่างไม่มีวันลบเลือนตลอดการ

    เพียงพรจับมือลูกสาวคนเล็กที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลด้วยความเสียใจ ข่าวร้ายที่เพิ่งได้รับรู้มันทำให้เธอ
แทบหยุดหายใจ
“เกิดอะไรขึ้นครับ”
ธาวินเดินหน้าตาตื่นเข้ามาหาเพียงพร
“วิน พาแม่ไปโรงพักที แม่อยากไปหาพ่อ แม่อยากไปหาพ่อ”
เพียงพรขอร้องอ้อนวอน น้ำตานองหน้าอย่างไร้สติ
“ครับแม่”
ธาวินรับคำ ประคองเพียงพรลุกขึ้นยืน มองดูนวพรรษที่นอนหลับสนิทอยู่ตรงหน้า โดยมีสายระโยงรยางค์เพื่อให้เลือด
ให้น้ำเกลือด้วยความสงสารจับหัวใจ โลกใบนี้มันช่างโหดร้ายกับผู้หญิงที่แสนดีอย่างนวพรรษเหลือเกิน
ทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตเธอมันมีเต็มไปด้วยความเสียใจ

    ทนายความของนวภคคาดการตามความเป็นจริงและบอกทุกอย่างที่มันน่าจะเกิดขึ้นกับโดยไม่ปิดบัง ว่าเขาอาจจะต้องถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่เพราะไม่เคยก่อคดีใดๆอาจจะได้รับยดหย่อนโทษเหลือแค่สามสิบปี และกลายเป็นบุคคลล้มละลายในชั่วข้ามคืน ทั้งบริษัท
บ้าน รถ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีอาจจะต้องถูกยึดเข้าธนาคารจนหมดสิ้น ตัวเขาและครอบครัวอาจจะต้องกลายเป็นคนจนที่ไม่เหลืออะไรเลย
แต่สำหรับครอบครัวของนวภคแล้ว ข่าวที่ร้ายที่สุดไม่ใช่เรื่องการสูญเสียทรัพย์สินทุกอย่างที่พวกเขาเคยมีไป หากแต่เป็นข่าวการสูญเสีย
นวภคที่เส้นเลือดในสมองแตกเพราะเกิดอาการเครียดอย่างหนักขณะที่กำลังให้ปากคำกับตำรวจเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา



    หลังจากได้นอนพักผ่อนจนเต็มอิ่มภคพรก็ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่สดชื่นกว่าเดิม ทันทีที่ได้สติ
หญิงสาวก็วิ่งถลาลงจากเตียงคนไข้เพราะความกังวลใจเกี่ยวกับอาการป่วยน้องสาวของเธอ
“คุณจะไปไหน”
ประพนธ์เรียกภคพรที่ยืนหน้าตาเลิ่กลั่กอยู่ข้างๆเตียง
“ฉันจะไปหายายเมย์”
ภคพรรีบร้อน ประพนธ์ค่อยเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวและขวางหน้าเธอเอาไว้
“เธอปลอดภัยแล้ว แค่ยังไม่ฟื้นเท่านั้นเอง”
ประพนธ์ยืนนิ่งงัน ไม่กล้าสบตาภคพร
“ฉันต้องไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง”
ภคพรทำท่าจะเดินออกจากห้อง แต่ประพนธ์ก็ตามไปขวางทางเอาไว้
“หมายความว่าไงคุณ”
ภคพรเริ่มเสียงดัง
“ผมมีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องบอกคุณ”
ประพนธ์เงยหน้าขึ้นสบตากับภคพรอย่างไม่มีทางเลือก
“..........”
ภคพรยืนนิ่ง เบิกตากว้างด้วยความตกใจที่อยู่ดีๆประพนธ์ก็มายืนหลั่งน้ำตาอยู่ตรงหน้าเธอ
“ถ้าอยู่ใกล้ฉันแล้วมันทรมานมากก็กลับบ้านคุณไปเถอะ...ส่วนเรื่องหย่า ถ้าเสร็จจากธุระเรื่องยายเมย์ ฉันจะไปเซ็นหย่าให้คุณทันที
จะได้หมดเวรหมดกรรมกันซะที”
ภคพรเริ่มอ่อนไหวขึ้นมาบ้างเมื่อพูดถึงเรื่องหย่าของเขาสองคน
“คุณอานวภคท่านเสียแล้ว”
ประพนธ์กลั้นใจพูดออกไปทั้งน้ำตา ภคพรยืนนิ่งสนิทไม่ไหวติงอีกครั้งด้วยความสับสน
“คุณจะมาปั่นอะไรฉันอีก เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะคุณ เมาก็กลับบ้านไปนอน ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตฉัน”
ภคพรโวยวาย
“ผมพูดความจริง พ่อคุณตายแล้ว ได้ยินมั้ยว่าพ่อคุณตายแล้ว พ่อคุณตายแล้ว!!”
ประพนธ์ตะโกนสุดเสียง ภคพรยืนอ้าปากค้าง ล้มตัวลงนั่งอย่างหมดเรี่ยวแรง ถ้าไม่มีพ่อแล้วเธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง แม่เธอ
น้องเธอ ทุกคนจะอยู่กันต่อไปบนโลกใบนี้ได้อย่างไร
“ฉันไม่เชื่อ คุณโกหก ฉันจะไปถามคุณแม่”
ภคพรปฏิเสธความจริง รีบร้อนวิ่งออกจากห้องไป สับสนวุ่นวายเหลือเกินกับเรื่องยุ่งๆที่มันเกิดกับชีวิตเธอ

    ภคพรยืนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ต่อหน้าแม่ของเธอทั้งน้ำตา ความจริงที่ได้รับรู้มันโหดร้ายเกินกว่าที่ใจของเธอจะยอมรับได้
“........”
หญิงสาวยกมือขึ้นแตะหน้าอกข้างซ้ายเอาไว้อย่างแสนทุกข์ทรมาน หัวใจของเธอมันเจ็บแปลบ
เหมือนมีใครเอามีดมากรีดซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา
“ฮือๆๆๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อาจเก็บกลั้น ตอนจบของเรื่องราวที่เธอเป็นคนเริ่มต้นขึ้นมันร้ายแรงเกินกว่าที่เธอจะทำใจยอมรับได้
“หนูไม่เคยคิดที่จะเอาบริษัทของพวกเขามา หนูไม่เคยคิดที่จะอยู่กับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิต หนูไม่เคยคิดที่จะทำแบบนั้น
กับพวกเขาเลย ฮือๆๆๆๆ ทำไมเขาถึงทำกับเราขนาดนี้ ทำไมคนพวกนั้นถึงใจร้ายกับเราขนาดนี้ ฮือๆๆๆ
หนูแค่อยากสั่งสอนผู้ชายคนนั้นเท่านั้นเอง หนูแค่อยากให้เขาได้รู้ว่าความเสียใจมันเป็นยังไงเท่านั้นเอง ฮือๆๆๆๆๆๆๆ”
ภคพรร้องไห้สะอึกสะอื้นทั้งน้ำตา เพ้อพรรณนาความอัดอั้นในหัวใจของเธอออกมาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดในหัวใจ
“แม่รู้จ๊ะลูก แม่รู้ดี แม่รู้ดีว่าหนูเป็นคนยังไง”
เพียงพรกอดลูกสาวเอาไว้แนบแน่น เจ็บปวดทุกข์ทรมานไม่ได้น้อยไปกว่าลูกสาวของเธอเลย
“หนูทำให้ลุงชนินทร์ตาย ทำให้น้องกับหลานต้องมานอนทรมานอยู่ที่นี่ และที่สำคัญ หนูทำให้พ่อต้องตาย หนูมันสมควรตาย
คนที่สมควรตายควรจะเป็นหนู  ควรจะเป็นหนูๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ”
ภคพรกรีดร้องอยู่ในอ้อมอกของแม่เธออย่างทุกข์ทรมาน ความเสียใจที่เธอได้รับมันมากมายจนไม่รู้จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ยังไง
“แม่รักลูกนะ แม่รักหนูนะ อย่าคิดอะไรตื้นๆแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะ แม่ไม่เหลือใครแล้วนอกจากลูกสองคน
ถ้าไม่มีลูกแม่ก็คงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว”
เพียงพรลูบหลังลูกสาวเบาๆด้วยความรัก ไม่อาจกลั้นน้ำตามไม่ให้ไหลริน
    

สาวแว่น ต่อด้านล่าง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่