ตั้งแต่จำความได้ ที่บ้านไม่เคยได้เลี้ยงหมาเลย เพราะ พ่อไม่ค่อยชอบ
ตอนเด็กๆ ชอบไปอุ้มหมาเด็กวัดมาบ้าน แต่สุดท้ายก็โดนพ่อเอากลับไปปล่อยวัดเหมือนเดิม
พ่อขู่ว่า ถ้าเอาหมามาอีก พ่อจะกิน หมา แง้ๆๆๆๆๆ
( มารู้ความจริงๆตอนโตแล้วว่าพ่อเป็นคนใจดี ชอบไปเลี้ยงหมาจรจัดนอกบ้าน )
ตอนปี 2554 ได้ไปเรียนภาษาที่ประเทศจีน เรียนไป ดูที่ทางทำการค้าไป อยากทำร้านกาแฟ แบบง่ายๆ นั่งสบาย เป็นของตัวเอง
จนถึง ต้นกลางปีนั้น ก็ได้ที่ทาง ทำร้านกาแฟ ในพื้นที่บ้านรกร้างที่ไหล่เขาข้างๆมหาลัย ด้วยเนื้อที่ 500 ตร.วา
ค่าเช่าตอนนั้นถูกมากๆๆๆๆๆๆ ชวนเพื่อนๆมาถางหญ้า ถมทราย ทำโต๊ะเก้าอี้กันเอง แล้วทำบ้านต้นไม้กัน เอาแบบง่ายๆ ดิบๆ เพราะงบก็ไม่ได้มีเยอะ
บรรยากาศ และ บริเวณ ร้าน อุตส่าห์ปีนไปบนหลังคา ถ่ายมา เชิญเพื่อนมาเล่นกีต้า และ เพื่อนๆมางานวันเปิดร้าน
หากินง่ายมั๊ยค่ะ 5555+

ตอนนั้นคุณครูที่แผนก ให้สนุข พันธ์ โกลเด้น มา 1 จำนวน เป็นของขวัญเปิดร้าน เพราะ เป็นคอกใหม่
ครูเลี้ยงเยอะมาก กำลังหาเจ้าของใหม่ให้เด็กๆพอดี
ดีใจๆๆๆๆ ได้หมาสวยๆฟรี ให้ชื่อว่า บอดี้ Body ไม่รู้ทำไมให้ชื่อนี้ แต่หนูน้อยก็ร่าเริงดี มีพื้นที่วิ่งเล่น
ถ่ายคู่ๆๆๆๆ 5555+

เปิดร้านไปไม่นาน การค้าก็เรื่อยๆ เลี้ยงหมาเป็นส่วนใหญ่ วันไหนไม่ค่อยมีลูกค้า(ประจำ 555+)
ก็มีเรื่องต้องรับใช้นายท่านบอดี้ทุกวัน ไม่ว่าจะแปลงขน อาบน้ำ แตะบอล
เรื่องเยอะกว่าลูกค้าขี้วีนอีกแหนะ ( ร้านเราไม่เคยมีลูกค้าขี้วีนนะ เปรียบเปรยเฉยๆ )
ส่วนใหญ่ก็เป็นครูฝรั่งมานั่งประจำๆ และพาสาวๆมาแนะนำด้วย
โชว์หื่นๆ

มีสีสันไม่เหงาเลย สนุกทุกวัน
วันหนึ่งก็ออกไปซื้อของเตรียมทำขนมเค้กให้เเขกที่สั่งจองไว้ว่าอีก 2-3 วันจะเป็นวันเกิด
( คิดอยู่หละสิว่าเราทำเป็นด้วยเรอะ ทำเป็น สิจ๊ะ ชีสเค้กๆ)
การไปร้านค้า ต้องเดินผ่านแยกกองขยะ ขนาดใหญ่มากๆๆๆๆๆ มีหมาจรจัด บริเวณนั้นมากมาย
ทันใดนั้น ( ตาเรามันติดเรดารึอย่างไรไม่ทราบ ชอบไปเห็นสิ่งมหัศจรรย์) ก็ไปเห็น
ก้อนอะไรขาวๆดำๆสกปรกๆ อยู่ตรงขยะเปียก ในแยกกองขยะ ก็เดินตรงเข้าไปดูให้แน่ใจ ( สายตาสั้น )
- ตัวไรหว่าาาา แมว? ??? เอ๊ยยยย นั้นมัน หมาเเคระ ! ( ไม่รู้ว่ามันเป็นพันธุ์อะไร )
คือมันโดนทิ้งไว้ตรงขยะเน่าๆ น่าจะโดนทิ้งมานานระยะ 1 แล้ว
เป็นโรคผิวหนังแห้งๆกรั่งๆ . ตามตัวไม่เว้นแม้แต่ ในหู มีเห็บหมัดเกาะแน่เอียดไปหมด
มารุมสูบเลือดกินเนื้อมัน ดวงตามันที่ปิดสนิทด้วยคราบหนองทั้ง 2 ข้าง ลมหายใจแผ่วๆ และชักกระตุกเป็นบางช่วง
เหมือนกำลังจะตาย ( ภาพนี้จำแม่น ผังใจเลยค่ะ )
อารมณ์ตอนนั้น ทั้งขยะแขยง และสงสาร มากกกกกก
เพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า เดียวมันก็ตายแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ
เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว



โอ้โห น้ำตาไหลพรากเลยคุณเอ๊ย ไม่ไหวแล้ว
ตายในกองขยะเน่าๆเนี๊ยะนะ จับช๊านฆ่าให้ตายไปเลยดีกว่า ปล่อยไปได้ยังไงกัน บัดโซบบที่ไหนมันทำหว่า


ร้องไห้ไป เดินไปซื้อเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งมา 1 ชุด พร้อมกับ ถุงมือล้างห้องน้ำ 1 จำนวน
แต่งตัวเรียบร้อย ไปอุ้มเจ้าหมาแคระออกมาจากกองขยะ มหาอเวจีนั้น กลับไปที่ร้าน
บอกเพื่อนให้เอา คุณชายบอดี้ แยกบริเวณเพราะกลัวมันเป็นโรคติดต่อ และทำการฆาตกรรมเห็บหมัด โดยทันที
ถุงมือนี้เต็มไปด้วยทั้งเลือดหมา เลือดเห็บ อาบโชกเลย จากนั้น เอาแอกกอฮอร์ผสมน้ำเช็ดตัวเช็ดหน้า เช็ดคราบหนองที่ตา
ทำไปร้องไห้ไป

ผ่านไปอทิตย์ 1เนื้อตัวเริ่มดีขึ้น ตาเหมือนมีเนื้องอก และที่ตรงกระจกตาด้านนั้นมีแผลหลุม
ซึ่งตอนนั้นคิดว่าคงจะตาบอด อีกข้างปกติดี แต่ยังมีอาการกระตุกชักอยู่
เวลาเดินก็เขย่งๆกะโดดๆ เป็นหมาขาเป๋ เดินกระโดดๆแล้วชักกระตุก 1 ที
เหตุการนี้ ขอบคุณเพื่อนสัตวแพทย์จากมหาลัยมหิดล ( วิทยาเขตอะไรไม่รุลืม ที่มันไกลๆหน่อย จำไม่ได้เดี๋ยวถามให้ใหม่ )
เพื่อนนักเรียนคนไทยด้วยกันที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี หายานู้นี้แนะนำ เพื่อนดอกกระเจียวของเราเอง 555+
ส่วนอาการ ชักนั้น น่าจะเป็นเพราะโรคหัด ( รึเปล่าหว่า ลืม 555+ ) ไม่ติดต่อแล้วเพราะเป็นหมาแก่ โล่งใจ
ส่วนที่ขาเป๋ อือออ หลายสาเหตุ ไม่จินตนาการดีกว่า
ค่าใช้จ่าย ครูๆชาวต่างชาติก็ค่อยมาอุดหนุน แล้วก็ให้ทิป เป็นค่าใช้จ่าย น้ำใจงามกันทุกคน
หมาแคระ ผู้โชดี ตัวนี้ มีชื่อไทยว่า ลุงบุญเก็บ เพราะ เพื่อนบอกว่ามันน่าจะ 6-7 ขวบแล้ว ดูจากฟัน
ส่วนชื่อจีนที่คนอื่นๆ ลูกค้า เรียกกันว่า ตู ตู เพราะอะไรเรอะ นั้นสิไม่ร็ทำไมถึงเรียกชื่อนี้เหมือนกัน เรียกง่ายมั้ง
เป็นหมาเเคระแก่ๆที่ร่าเริงจ๊า และรู้บุญคุณฮะ เฝ้าร้านเก่งกว่าคุณชายบอดี้อีก
รูปนี้ รักษามาเกือบเดือนแล้วค่ะ แทบเเย่

เก็บตก เรื่อง บอดี้ คุณชายน้อย และลุงบุญเก็บ แห่งร้านกาแฟ
บอดี้เป็นหมาร่าเริง ขี้เล่น ชอบชวนเราเล่นไม่ว่าเราจะยุ่งซักแค่ไหน ...ก็จะมาดึงมาตื้อ เล่นให้ได้ ( ฮ่วยยยย ไม่รู้เวล่ำเวลา )
ส่วนลุงบุญเก็บ เป็นลุงแอ๊บแบ๋ว( คตรงข้ามกับบุคลิกสุดๆ ) ขี้อิจฉา กลัวเรารักบอดี้มากกว่า
มันคงกลัวโดนทิ้งอีก เลยทะเลาะกับบอดี้บ่อยๆ ( อะไรกันฮ่วยยย )
ภาพบรรยากาศ ภายในร้าน ซื่งอาจจะเห็น คุณแมวๆที่บริเวณรอบๆ ร้าน ไว้จะเล่าความเป็นในไม่ช้านะค่ะ อย่าพึ่งเบื่อกัน

ลูกค้าที่น่ารักของเรา แบ่งที่นอนให้ลุงโดยไม่รังเกียจเลย ( แต่ลุงคงคิดในใจว่า มาแย่งที่ ตูทำไมฟ่ะ ฮาาาา)

บอดี้ เด็กน้อยหน้าแก่ และลุงบุญเก็บ ที่หน้าก็แก่ เหมือนกัน ฮาาาาา

แม้จะทะเลาะกันบ่อยๆ เจอลมหนาว ก็แบ่งปันกัน (เหมือนแย่งพื้นที่ นิดๆ )

นี้ก็เช่นกัน
คนหละเผ่าพันธุ์ ก็แบ่งกันได้ ....แต่ แบบห่างๆนะ ฮาาา

มาอะไรกับผมมมคร้าบบบ ฮ่วย 1 และ 2 ฮาาาาา ลูกค้าเอาส้มโอมาให้กิน แกล้งเลย


นางเธอ (แมวจรจัด ขาประจำ อยู่ๆก็ได้เลี้ยงไปโดยปริยาย งงๆ )
หอบท้องมาคลอดที่บ้านต้นไม้ของฉัน เป็นทั้งบ้านฉัน และ บ้านเธอ

เพื่อนคนไทยและเพื่อนดอกกระเจียวของเราแถวหน้า กะเด็กเกาหลี เพื่อนที่เรียนภาษาด้วยกัน

วันอากาศร้อนๆ สบายๆ
และท้ายสุด สุดท้าย เมื่อเดือน มิถุนายา ปี 2555 ร้านของเราก็ได้ปิดตัวลง
ไม่ใช่เพราะขาดทุน แต่ มีสิ่งรบกวนหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามา
ไหนจะ เรื่องมาเฟียพื้นที่ อะไรอีก โกงมิตเตอร์ สารพัด ต่างๆนานา
หมดตูดเลย ฮาาาา ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ
แต่ค่าเทอมแพงไปหน่อย เกือบทำใจไม่ได้




ส่วนลูกๆหลานๆก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งขว้าง เราห่วงมากกว่าร้านเราอีก
ทั้งนี้
คุณชายบอดี้ ลุงบุญเก็บ และแมวๆทั้งหลาย ถูกรับอุปการะโดย คุณครู และลูกค้าใจดี
คุณชายบอดี้ เพื่อนที่เป็นทั้งครู และ ลูกค้า ชาวฝรั่งเศส รับเลี้ยงดูเรียบร้อยแล้ว มีพาสเปอร์ไปต่างประเทศด้วย ฮ่วยยยย อะไรมันจะโชคดีขนาดนั้น โกอินเตอร์อะ เชอะ
ส่วนลุงบุญเก็บ ตอนแรกเป็นห่วงมาก กลัวไม่มีคนเลี้ยง เพราะมันขี้เหล่ในสายตาคนอื่น
แต่เจ้าของร้านขายของที่เราไปซื้อเสื้อกันฝนในตอนแรกมาขอรับไปเลี้ยงเอง
บอกว่าถูกชะตา แล้วก็รู้ว่าเราเป็นห่วงมันด้วย ดีใจจริงๆ น้ำตาไหลๆๆๆ ตอนส่งมอบ




ส่วนแมวๆทั้งหลาย ก็มีครูต่างชาติมารับอุปการะไปคนหละตัว 2 ตัว ซึ่งแต่หละคนที่มาที่ร้านก็เป็นคนรักสัตว์
และมีความรับผิดชอบทั้งนั้น พวกเค้าสัญญาว่าจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี เอาไปปุ๊บก็พาไปฉีดยา ทำหมัด เรียบร้อบ
สภาพของเราตอนที่ ไม่มีร้านกาแฟแล้ว เห็นอนิจังเลย ทุกสิ่งไม่แน่นอน

ขอบคุณเพื่อนที่ให้ที่อยู่อาศัย ก็ยังคงเป็นเพื่อนดอกกระเจียว ของผมที่ให้กำลังใจและคำปรึกษา สอนให้รู้จักปล่อยวาง
การใช้ชีวิตหลังจากปิดร้านกาแฟไปแล้ว
ขณะยังไม่กางถุงนอน น่าจะราว. 3-5 ตร.ม. 5555+ ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกัน

ก็ฉันมันหญฺิงเหล็กล่ำ ผู้ไม่ยอมแพ้ อ่านการ์ตูนมากไปนะ ฮาาาาายะฮู้ .....

โคตร ขี้โม้เลย ( จริงๆร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหลายวัน ฮา)
เราคิดว่า ในสังคมยังมีคนดีๆอยู่เยอะแยะมากมาย ที่ยังค่อยให้ความช่วยเหลือ
ระหว่างคนกับสัตว์ คนกับคน สัตว์กับสัตว์
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็เป็นความช่วยเหลือเกื้อกูลที่ให้ไป และ รับมา
ระหว่าง สิ่งมีชีวิต กับ สิ่งมีชีวิต ที่มีลมหายใจ
( นางเอกมากกกกกก แต่รู้สึกดีจริงๆนะจ๊ะ )
เวลาผ่านไปไม่นานไม่ถึง ครึ่งปี
ถึงปัจจุบัน เราก็มีงาน มีรายได้ ที่ยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว
พร้อมกับมีเพื่อนตัวเล็กตัวใหม่ ชื่อ ไอ้ป๋าแหย่ เด็กชายสกินเฮด
ปล. ณ โอกาศนี้ อยากจะพูดออก สื่อ ซะหน่อย
จริงๆแล้วก็ได้ กอดๆกราบๆขอบคุณพ่อไปตั้งนานแล้ว
ก็ขอบคุณ พ่อ ที่ไม่ว่ายังไง ก็อยู่ข้างเรา ช่วยเหลือเรามาโดยตลอด
ตอนที่ทุกข์ใจเหลือเกิน ก็ได้กำลังใจต่างๆนานา
- ก็ไม่เป็นไร เรียนรู้กันไป ข้างหน้ายังมีอะไรอีกเยอะแยะ เรื่องแค่นี้เริ่มตันใหม่ได้ ยังมีเพื่อน มีน้องๆ แล้วยังไงพ่อก็รักลูกนะ -
จริงๆแล้ว พ่อ เป็นคนห่ามๆพูดไม่เก่งหรอกค่ะ
ข้อความข้างต้นเป็นสิ่งที่กรองออกมาจากหัวใจเขียนมาเป็นคำพูดที่เรารู้สึกเอง มันอ่อนโยนขนาดนี้เลยค่ะ
ซึ้งๆๆๆๆ รักพ่อมากๆ จุ๊บๆ

อัพเดต ลิค์ ของ ไอ้ป๋าแหย่เพื่อนรักตัวใหม่ค่ะ
http://pantip.com/topic/30739085
- อยากให้ทุกคนได้ยิ้มค่ะ -
มิตรภาพและการเรียนรู้ ในต่างแดน
ตอนเด็กๆ ชอบไปอุ้มหมาเด็กวัดมาบ้าน แต่สุดท้ายก็โดนพ่อเอากลับไปปล่อยวัดเหมือนเดิม
พ่อขู่ว่า ถ้าเอาหมามาอีก พ่อจะกิน หมา แง้ๆๆๆๆๆ
( มารู้ความจริงๆตอนโตแล้วว่าพ่อเป็นคนใจดี ชอบไปเลี้ยงหมาจรจัดนอกบ้าน )
ตอนปี 2554 ได้ไปเรียนภาษาที่ประเทศจีน เรียนไป ดูที่ทางทำการค้าไป อยากทำร้านกาแฟ แบบง่ายๆ นั่งสบาย เป็นของตัวเอง
จนถึง ต้นกลางปีนั้น ก็ได้ที่ทาง ทำร้านกาแฟ ในพื้นที่บ้านรกร้างที่ไหล่เขาข้างๆมหาลัย ด้วยเนื้อที่ 500 ตร.วา
ค่าเช่าตอนนั้นถูกมากๆๆๆๆๆๆ ชวนเพื่อนๆมาถางหญ้า ถมทราย ทำโต๊ะเก้าอี้กันเอง แล้วทำบ้านต้นไม้กัน เอาแบบง่ายๆ ดิบๆ เพราะงบก็ไม่ได้มีเยอะ
บรรยากาศ และ บริเวณ ร้าน อุตส่าห์ปีนไปบนหลังคา ถ่ายมา เชิญเพื่อนมาเล่นกีต้า และ เพื่อนๆมางานวันเปิดร้าน
หากินง่ายมั๊ยค่ะ 5555+
ตอนนั้นคุณครูที่แผนก ให้สนุข พันธ์ โกลเด้น มา 1 จำนวน เป็นของขวัญเปิดร้าน เพราะ เป็นคอกใหม่
ครูเลี้ยงเยอะมาก กำลังหาเจ้าของใหม่ให้เด็กๆพอดี
ดีใจๆๆๆๆ ได้หมาสวยๆฟรี ให้ชื่อว่า บอดี้ Body ไม่รู้ทำไมให้ชื่อนี้ แต่หนูน้อยก็ร่าเริงดี มีพื้นที่วิ่งเล่น
ถ่ายคู่ๆๆๆๆ 5555+
เปิดร้านไปไม่นาน การค้าก็เรื่อยๆ เลี้ยงหมาเป็นส่วนใหญ่ วันไหนไม่ค่อยมีลูกค้า(ประจำ 555+)
ก็มีเรื่องต้องรับใช้นายท่านบอดี้ทุกวัน ไม่ว่าจะแปลงขน อาบน้ำ แตะบอล
เรื่องเยอะกว่าลูกค้าขี้วีนอีกแหนะ ( ร้านเราไม่เคยมีลูกค้าขี้วีนนะ เปรียบเปรยเฉยๆ )
ส่วนใหญ่ก็เป็นครูฝรั่งมานั่งประจำๆ และพาสาวๆมาแนะนำด้วย
โชว์หื่นๆ
มีสีสันไม่เหงาเลย สนุกทุกวัน
วันหนึ่งก็ออกไปซื้อของเตรียมทำขนมเค้กให้เเขกที่สั่งจองไว้ว่าอีก 2-3 วันจะเป็นวันเกิด
( คิดอยู่หละสิว่าเราทำเป็นด้วยเรอะ ทำเป็น สิจ๊ะ ชีสเค้กๆ)
การไปร้านค้า ต้องเดินผ่านแยกกองขยะ ขนาดใหญ่มากๆๆๆๆๆ มีหมาจรจัด บริเวณนั้นมากมาย
ทันใดนั้น ( ตาเรามันติดเรดารึอย่างไรไม่ทราบ ชอบไปเห็นสิ่งมหัศจรรย์) ก็ไปเห็น
ก้อนอะไรขาวๆดำๆสกปรกๆ อยู่ตรงขยะเปียก ในแยกกองขยะ ก็เดินตรงเข้าไปดูให้แน่ใจ ( สายตาสั้น )
- ตัวไรหว่าาาา แมว? ??? เอ๊ยยยย นั้นมัน หมาเเคระ ! ( ไม่รู้ว่ามันเป็นพันธุ์อะไร )
คือมันโดนทิ้งไว้ตรงขยะเน่าๆ น่าจะโดนทิ้งมานานระยะ 1 แล้ว
เป็นโรคผิวหนังแห้งๆกรั่งๆ . ตามตัวไม่เว้นแม้แต่ ในหู มีเห็บหมัดเกาะแน่เอียดไปหมด
มารุมสูบเลือดกินเนื้อมัน ดวงตามันที่ปิดสนิทด้วยคราบหนองทั้ง 2 ข้าง ลมหายใจแผ่วๆ และชักกระตุกเป็นบางช่วง
เหมือนกำลังจะตาย ( ภาพนี้จำแม่น ผังใจเลยค่ะ )
อารมณ์ตอนนั้น ทั้งขยะแขยง และสงสาร มากกกกกก
เพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า เดียวมันก็ตายแล้ว ปล่อยมันไปเถอะ
เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว เดียวมันก็ตายแล้ว
โอ้โห น้ำตาไหลพรากเลยคุณเอ๊ย ไม่ไหวแล้ว
ตายในกองขยะเน่าๆเนี๊ยะนะ จับช๊านฆ่าให้ตายไปเลยดีกว่า ปล่อยไปได้ยังไงกัน บัดโซบบที่ไหนมันทำหว่า
ร้องไห้ไป เดินไปซื้อเสื้อกันฝนแบบใช้แล้วทิ้งมา 1 ชุด พร้อมกับ ถุงมือล้างห้องน้ำ 1 จำนวน
แต่งตัวเรียบร้อย ไปอุ้มเจ้าหมาแคระออกมาจากกองขยะ มหาอเวจีนั้น กลับไปที่ร้าน
บอกเพื่อนให้เอา คุณชายบอดี้ แยกบริเวณเพราะกลัวมันเป็นโรคติดต่อ และทำการฆาตกรรมเห็บหมัด โดยทันที
ถุงมือนี้เต็มไปด้วยทั้งเลือดหมา เลือดเห็บ อาบโชกเลย จากนั้น เอาแอกกอฮอร์ผสมน้ำเช็ดตัวเช็ดหน้า เช็ดคราบหนองที่ตา
ทำไปร้องไห้ไป
ผ่านไปอทิตย์ 1เนื้อตัวเริ่มดีขึ้น ตาเหมือนมีเนื้องอก และที่ตรงกระจกตาด้านนั้นมีแผลหลุม
ซึ่งตอนนั้นคิดว่าคงจะตาบอด อีกข้างปกติดี แต่ยังมีอาการกระตุกชักอยู่
เวลาเดินก็เขย่งๆกะโดดๆ เป็นหมาขาเป๋ เดินกระโดดๆแล้วชักกระตุก 1 ที
เหตุการนี้ ขอบคุณเพื่อนสัตวแพทย์จากมหาลัยมหิดล ( วิทยาเขตอะไรไม่รุลืม ที่มันไกลๆหน่อย จำไม่ได้เดี๋ยวถามให้ใหม่ )
เพื่อนนักเรียนคนไทยด้วยกันที่ให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี หายานู้นี้แนะนำ เพื่อนดอกกระเจียวของเราเอง 555+
ส่วนอาการ ชักนั้น น่าจะเป็นเพราะโรคหัด ( รึเปล่าหว่า ลืม 555+ ) ไม่ติดต่อแล้วเพราะเป็นหมาแก่ โล่งใจ
ส่วนที่ขาเป๋ อือออ หลายสาเหตุ ไม่จินตนาการดีกว่า
ค่าใช้จ่าย ครูๆชาวต่างชาติก็ค่อยมาอุดหนุน แล้วก็ให้ทิป เป็นค่าใช้จ่าย น้ำใจงามกันทุกคน
หมาแคระ ผู้โชดี ตัวนี้ มีชื่อไทยว่า ลุงบุญเก็บ เพราะ เพื่อนบอกว่ามันน่าจะ 6-7 ขวบแล้ว ดูจากฟัน
ส่วนชื่อจีนที่คนอื่นๆ ลูกค้า เรียกกันว่า ตู ตู เพราะอะไรเรอะ นั้นสิไม่ร็ทำไมถึงเรียกชื่อนี้เหมือนกัน เรียกง่ายมั้ง
เป็นหมาเเคระแก่ๆที่ร่าเริงจ๊า และรู้บุญคุณฮะ เฝ้าร้านเก่งกว่าคุณชายบอดี้อีก
รูปนี้ รักษามาเกือบเดือนแล้วค่ะ แทบเเย่
เก็บตก เรื่อง บอดี้ คุณชายน้อย และลุงบุญเก็บ แห่งร้านกาแฟ
บอดี้เป็นหมาร่าเริง ขี้เล่น ชอบชวนเราเล่นไม่ว่าเราจะยุ่งซักแค่ไหน ...ก็จะมาดึงมาตื้อ เล่นให้ได้ ( ฮ่วยยยย ไม่รู้เวล่ำเวลา )
ส่วนลุงบุญเก็บ เป็นลุงแอ๊บแบ๋ว( คตรงข้ามกับบุคลิกสุดๆ ) ขี้อิจฉา กลัวเรารักบอดี้มากกว่า
มันคงกลัวโดนทิ้งอีก เลยทะเลาะกับบอดี้บ่อยๆ ( อะไรกันฮ่วยยย )
ภาพบรรยากาศ ภายในร้าน ซื่งอาจจะเห็น คุณแมวๆที่บริเวณรอบๆ ร้าน ไว้จะเล่าความเป็นในไม่ช้านะค่ะ อย่าพึ่งเบื่อกัน
ลูกค้าที่น่ารักของเรา แบ่งที่นอนให้ลุงโดยไม่รังเกียจเลย ( แต่ลุงคงคิดในใจว่า มาแย่งที่ ตูทำไมฟ่ะ ฮาาาา)
บอดี้ เด็กน้อยหน้าแก่ และลุงบุญเก็บ ที่หน้าก็แก่ เหมือนกัน ฮาาาาา
แม้จะทะเลาะกันบ่อยๆ เจอลมหนาว ก็แบ่งปันกัน (เหมือนแย่งพื้นที่ นิดๆ )
นี้ก็เช่นกัน
คนหละเผ่าพันธุ์ ก็แบ่งกันได้ ....แต่ แบบห่างๆนะ ฮาาา
มาอะไรกับผมมมคร้าบบบ ฮ่วย 1 และ 2 ฮาาาาา ลูกค้าเอาส้มโอมาให้กิน แกล้งเลย
นางเธอ (แมวจรจัด ขาประจำ อยู่ๆก็ได้เลี้ยงไปโดยปริยาย งงๆ )
หอบท้องมาคลอดที่บ้านต้นไม้ของฉัน เป็นทั้งบ้านฉัน และ บ้านเธอ
เพื่อนคนไทยและเพื่อนดอกกระเจียวของเราแถวหน้า กะเด็กเกาหลี เพื่อนที่เรียนภาษาด้วยกัน
วันอากาศร้อนๆ สบายๆ
และท้ายสุด สุดท้าย เมื่อเดือน มิถุนายา ปี 2555 ร้านของเราก็ได้ปิดตัวลง
ไม่ใช่เพราะขาดทุน แต่ มีสิ่งรบกวนหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามา
ไหนจะ เรื่องมาเฟียพื้นที่ อะไรอีก โกงมิตเตอร์ สารพัด ต่างๆนานา
หมดตูดเลย ฮาาาา ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ
แต่ค่าเทอมแพงไปหน่อย เกือบทำใจไม่ได้
ส่วนลูกๆหลานๆก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งขว้าง เราห่วงมากกว่าร้านเราอีก
ทั้งนี้
คุณชายบอดี้ ลุงบุญเก็บ และแมวๆทั้งหลาย ถูกรับอุปการะโดย คุณครู และลูกค้าใจดี
คุณชายบอดี้ เพื่อนที่เป็นทั้งครู และ ลูกค้า ชาวฝรั่งเศส รับเลี้ยงดูเรียบร้อยแล้ว มีพาสเปอร์ไปต่างประเทศด้วย ฮ่วยยยย อะไรมันจะโชคดีขนาดนั้น โกอินเตอร์อะ เชอะ
ส่วนลุงบุญเก็บ ตอนแรกเป็นห่วงมาก กลัวไม่มีคนเลี้ยง เพราะมันขี้เหล่ในสายตาคนอื่น
แต่เจ้าของร้านขายของที่เราไปซื้อเสื้อกันฝนในตอนแรกมาขอรับไปเลี้ยงเอง
บอกว่าถูกชะตา แล้วก็รู้ว่าเราเป็นห่วงมันด้วย ดีใจจริงๆ น้ำตาไหลๆๆๆ ตอนส่งมอบ
ส่วนแมวๆทั้งหลาย ก็มีครูต่างชาติมารับอุปการะไปคนหละตัว 2 ตัว ซึ่งแต่หละคนที่มาที่ร้านก็เป็นคนรักสัตว์
และมีความรับผิดชอบทั้งนั้น พวกเค้าสัญญาว่าจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี เอาไปปุ๊บก็พาไปฉีดยา ทำหมัด เรียบร้อบ
สภาพของเราตอนที่ ไม่มีร้านกาแฟแล้ว เห็นอนิจังเลย ทุกสิ่งไม่แน่นอน
ขอบคุณเพื่อนที่ให้ที่อยู่อาศัย ก็ยังคงเป็นเพื่อนดอกกระเจียว ของผมที่ให้กำลังใจและคำปรึกษา สอนให้รู้จักปล่อยวาง
การใช้ชีวิตหลังจากปิดร้านกาแฟไปแล้ว
ขณะยังไม่กางถุงนอน น่าจะราว. 3-5 ตร.ม. 5555+ ก็เปลี่ยนบรรยากาศดีเหมือนกัน
ก็ฉันมันหญฺิงเหล็กล่ำ ผู้ไม่ยอมแพ้ อ่านการ์ตูนมากไปนะ ฮาาาาายะฮู้ .....
โคตร ขี้โม้เลย ( จริงๆร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหลายวัน ฮา)
เราคิดว่า ในสังคมยังมีคนดีๆอยู่เยอะแยะมากมาย ที่ยังค่อยให้ความช่วยเหลือ
ระหว่างคนกับสัตว์ คนกับคน สัตว์กับสัตว์
ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็เป็นความช่วยเหลือเกื้อกูลที่ให้ไป และ รับมา
ระหว่าง สิ่งมีชีวิต กับ สิ่งมีชีวิต ที่มีลมหายใจ
( นางเอกมากกกกกก แต่รู้สึกดีจริงๆนะจ๊ะ )
เวลาผ่านไปไม่นานไม่ถึง ครึ่งปี
ถึงปัจจุบัน เราก็มีงาน มีรายได้ ที่ยืนได้ด้วยตัวเองแล้ว
พร้อมกับมีเพื่อนตัวเล็กตัวใหม่ ชื่อ ไอ้ป๋าแหย่ เด็กชายสกินเฮด
ปล. ณ โอกาศนี้ อยากจะพูดออก สื่อ ซะหน่อย
จริงๆแล้วก็ได้ กอดๆกราบๆขอบคุณพ่อไปตั้งนานแล้ว
ก็ขอบคุณ พ่อ ที่ไม่ว่ายังไง ก็อยู่ข้างเรา ช่วยเหลือเรามาโดยตลอด
ตอนที่ทุกข์ใจเหลือเกิน ก็ได้กำลังใจต่างๆนานา
- ก็ไม่เป็นไร เรียนรู้กันไป ข้างหน้ายังมีอะไรอีกเยอะแยะ เรื่องแค่นี้เริ่มตันใหม่ได้ ยังมีเพื่อน มีน้องๆ แล้วยังไงพ่อก็รักลูกนะ -
จริงๆแล้ว พ่อ เป็นคนห่ามๆพูดไม่เก่งหรอกค่ะ
ข้อความข้างต้นเป็นสิ่งที่กรองออกมาจากหัวใจเขียนมาเป็นคำพูดที่เรารู้สึกเอง มันอ่อนโยนขนาดนี้เลยค่ะ
ซึ้งๆๆๆๆ รักพ่อมากๆ จุ๊บๆ
อัพเดต ลิค์ ของ ไอ้ป๋าแหย่เพื่อนรักตัวใหม่ค่ะ
http://pantip.com/topic/30739085
- อยากให้ทุกคนได้ยิ้มค่ะ -