เวียดนาม 1-7 อาเซน่อล
สรุปคร่าวๆ สำหรับคนที่ไม่ได้ดูครับ
ไลน์อัพ 11 คนแรก
เชสนี่ – เจนกินสัน, ซานญ่า, กอสเซียลนี่ย์, กิปส์ – อาเตต้า, แชมเบอร์เลน, โรซิคกี้ – กนาบี้, ชิรูด์, โพดอลสกี้
ซานญ่า รับหน้าที่เซ็นเตอร์แบ็ค กนาบี้ ได้ออกสต๊าตเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่โยกมาเล่นด้านขวาแทน และแชมเบอร์เลน เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้ว
ฟอร์มการเล่นของ ชิรูด์ คือความแตกต่าง เขามีความมั่นใจสูงขึ้นมาก สับไกยิงได้ลุ้นทุกครั้ง นอกจากนี้ การเล่นประสานงานกับเพื่อนก็ทำได้ดี ฟอร์มแบบนี้ อาแซน เวนเกอร์ อาจเกิดเปลี่ยนใจไม่เซ็นสัญญาศูนย์หน้าบิ๊กเนมเข้ามาก็เป็นได้
แชมเบอร์เลน เล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง มีประโยชน์เวลาเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุก เขาพาบอลขึ้นไปข้างหน้าด้วยทักษะความสามารถเฉพาะตัวและสปีดต้นที่รวดเร็ว ต่างจากฤดูกาลก่อนที่แผงมิดฟิลด์ขึ้นบอลได้ค่อนข้างช้า แต่ก็เป็นดาบสองคมเวลาเสียบอลก็เสี่ยงโดนสวนกลับเช่นกัน
กนาบี้ ได้เล่นขวาข้างถนัด แต่กลับเงียบกว่าแม็ทช์แรก ไม่ฝืนเล่นเกินงาม มีจังหวะทำเกมสวยๆ อยู่บ้าง น่าจะเป็นตัวโจ๊กเกอร์ยามที่เกมอึดอัดมาก
ครึ่งหลังไลน์อัพ 11 คนมี
เชสนี่ – เจนกินสัน, ซานญ่า, เมอร์เตซัคเกอร์, มิเกล – เซลาเร็ม, แชมเบอร์เลน, แรมซี่ย์ – วัลค็อตต์, อัคปอม, มิยาอิชิ
อัคปอม ลงมาครึ่งหลัง พร้อมผลงานทำ 2 ประตู เป็นศูนย์หน้าธรรมชาติที่มีการหาตำแหน่งได้ดีมาก ประสานงานกับเพื่อนได้ดี อันตรายในกรอบเขตโทษ น่าจะเป็นตัวที่อาแซนตั้งความหวังไว้สูงมากๆ ทีเดียว
เซลาเร็ม คล่องแคล่ว เทคนิคดี จ่ายบอลฉลาด ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้อายุแค่ 16 ปี เล่นได้เด่นเกินวัยมาก ลงสนามมาพร้อมๆ แรมซี่ย์ แต่มีส่วนร่วมมากกว่าซะอีก
เรียว มิยาอิชิ ลงสนามมาในครึ่งหลัง แต่เล่นได้ไม่ถึง 20 นาทีก็โดนถอดออก แทบจะไม่มีอะไรให้พูดถึงเลยในแม็ทช์นี้ เอาชนะแบ็คในการดวลเดี่ยวไม่ได้เลย เกมฝั่งซ้ายแทบจะบอดสนิท น่าเป็นห่วงว่าจะไปได้ไม่ไกลเหมือนรุ่นพี่ฝั่งเอเชียคนก่อนหน้า
ช่วงนาทีที่ 65-70 มีการเปลี่ยน วิลเชียร์ แทน แชมเบอร์เลน, มาติเนส แทน เชสนี่, อนิกี้ แทน ซานญ่า, ไอส์เฟล แทน มิยาอิชิ, โอลล์สัน แทน เจนกินสัน
ไอส์เฟล สไตล์การเล่นและรูปร่างคล้ายกับ อาชาวิน เล่นในตำแหน่งที่คล้ายคลึงกันด้วย มีเซ้นส์บอลที่สูง แต่ไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก
โอลล์สัน เล่นแบ็คขวา แต่ก็ไม่ได้เจองานยากอะไร เล่นง่ายๆ จ่ายบอลได้แม่นยำ
อนิกี้ ในบทบาทเซ็นเตอร์แบ็ค ดูเก้งก้าง ไม่เป็นธรรมชาติ ดูไปแล้วคงสอดแทรกในทีมชุดใหญ่ได้ยาก และรอวันโดนขายออกไปเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับเขา
สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลย คือ เราไม่มีมิดฟิลด์ที่เล่นเกมรับได้ดีเลยสักคน บอลโต้กลับมาเร็วเหมือนไม่มีเขื่อนชะออน้ำ เรามีมิดฟิลด์เชื่อมเกมที่เล่นคล้ายๆ กันหลายคน แต่ไม่มีใครที่แย่งบอลเก่ง ไม่มีใครที่อ่านเกมขาด ไม่มีใครที่คอยเบรกเกมคู่แข่ง ทำให้กองหลังต้องอ่านเกม ขึ้นสูงมาตัดเกมตรงกลางสนามเอง ผลคือ บางครั้งพลาด หลังลอยสูงอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือน อาแซน ดูจะละเลยจุดนี้ ให้ความสำคัญกับการครอบครองบอลมากกว่าไล่แย่งบอล
เวียดนาม 1-7 อาเซน่อล สรุปคร่าวๆ สำหรับคนที่ไม่ได้ดู
สรุปคร่าวๆ สำหรับคนที่ไม่ได้ดูครับ
ไลน์อัพ 11 คนแรก
เชสนี่ – เจนกินสัน, ซานญ่า, กอสเซียลนี่ย์, กิปส์ – อาเตต้า, แชมเบอร์เลน, โรซิคกี้ – กนาบี้, ชิรูด์, โพดอลสกี้
ซานญ่า รับหน้าที่เซ็นเตอร์แบ็ค กนาบี้ ได้ออกสต๊าตเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่โยกมาเล่นด้านขวาแทน และแชมเบอร์เลน เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้ว
ฟอร์มการเล่นของ ชิรูด์ คือความแตกต่าง เขามีความมั่นใจสูงขึ้นมาก สับไกยิงได้ลุ้นทุกครั้ง นอกจากนี้ การเล่นประสานงานกับเพื่อนก็ทำได้ดี ฟอร์มแบบนี้ อาแซน เวนเกอร์ อาจเกิดเปลี่ยนใจไม่เซ็นสัญญาศูนย์หน้าบิ๊กเนมเข้ามาก็เป็นได้
แชมเบอร์เลน เล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง มีประโยชน์เวลาเปลี่ยนเกมจากรับเป็นรุก เขาพาบอลขึ้นไปข้างหน้าด้วยทักษะความสามารถเฉพาะตัวและสปีดต้นที่รวดเร็ว ต่างจากฤดูกาลก่อนที่แผงมิดฟิลด์ขึ้นบอลได้ค่อนข้างช้า แต่ก็เป็นดาบสองคมเวลาเสียบอลก็เสี่ยงโดนสวนกลับเช่นกัน
กนาบี้ ได้เล่นขวาข้างถนัด แต่กลับเงียบกว่าแม็ทช์แรก ไม่ฝืนเล่นเกินงาม มีจังหวะทำเกมสวยๆ อยู่บ้าง น่าจะเป็นตัวโจ๊กเกอร์ยามที่เกมอึดอัดมาก
ครึ่งหลังไลน์อัพ 11 คนมี
เชสนี่ – เจนกินสัน, ซานญ่า, เมอร์เตซัคเกอร์, มิเกล – เซลาเร็ม, แชมเบอร์เลน, แรมซี่ย์ – วัลค็อตต์, อัคปอม, มิยาอิชิ
อัคปอม ลงมาครึ่งหลัง พร้อมผลงานทำ 2 ประตู เป็นศูนย์หน้าธรรมชาติที่มีการหาตำแหน่งได้ดีมาก ประสานงานกับเพื่อนได้ดี อันตรายในกรอบเขตโทษ น่าจะเป็นตัวที่อาแซนตั้งความหวังไว้สูงมากๆ ทีเดียว
เซลาเร็ม คล่องแคล่ว เทคนิคดี จ่ายบอลฉลาด ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้อายุแค่ 16 ปี เล่นได้เด่นเกินวัยมาก ลงสนามมาพร้อมๆ แรมซี่ย์ แต่มีส่วนร่วมมากกว่าซะอีก
เรียว มิยาอิชิ ลงสนามมาในครึ่งหลัง แต่เล่นได้ไม่ถึง 20 นาทีก็โดนถอดออก แทบจะไม่มีอะไรให้พูดถึงเลยในแม็ทช์นี้ เอาชนะแบ็คในการดวลเดี่ยวไม่ได้เลย เกมฝั่งซ้ายแทบจะบอดสนิท น่าเป็นห่วงว่าจะไปได้ไม่ไกลเหมือนรุ่นพี่ฝั่งเอเชียคนก่อนหน้า
ช่วงนาทีที่ 65-70 มีการเปลี่ยน วิลเชียร์ แทน แชมเบอร์เลน, มาติเนส แทน เชสนี่, อนิกี้ แทน ซานญ่า, ไอส์เฟล แทน มิยาอิชิ, โอลล์สัน แทน เจนกินสัน
ไอส์เฟล สไตล์การเล่นและรูปร่างคล้ายกับ อาชาวิน เล่นในตำแหน่งที่คล้ายคลึงกันด้วย มีเซ้นส์บอลที่สูง แต่ไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก
โอลล์สัน เล่นแบ็คขวา แต่ก็ไม่ได้เจองานยากอะไร เล่นง่ายๆ จ่ายบอลได้แม่นยำ
อนิกี้ ในบทบาทเซ็นเตอร์แบ็ค ดูเก้งก้าง ไม่เป็นธรรมชาติ ดูไปแล้วคงสอดแทรกในทีมชุดใหญ่ได้ยาก และรอวันโดนขายออกไปเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับเขา
สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลย คือ เราไม่มีมิดฟิลด์ที่เล่นเกมรับได้ดีเลยสักคน บอลโต้กลับมาเร็วเหมือนไม่มีเขื่อนชะออน้ำ เรามีมิดฟิลด์เชื่อมเกมที่เล่นคล้ายๆ กันหลายคน แต่ไม่มีใครที่แย่งบอลเก่ง ไม่มีใครที่อ่านเกมขาด ไม่มีใครที่คอยเบรกเกมคู่แข่ง ทำให้กองหลังต้องอ่านเกม ขึ้นสูงมาตัดเกมตรงกลางสนามเอง ผลคือ บางครั้งพลาด หลังลอยสูงอยู่บ่อยๆ แต่ดูเหมือน อาแซน ดูจะละเลยจุดนี้ ให้ความสำคัญกับการครอบครองบอลมากกว่าไล่แย่งบอล