นโยบายจำนำจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร เมื่อไทยเข้าสู่AEC

เป็นที่ทราบกันดีว่าในอีก2ปีข้างหน้าไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน  ซึ่งการทำงาน การค้าขายทุกอย่างจะเปิดเสรี  แต่อาจมีข้อยกเว้นในบางประการ

กรณีของข้าวนั้น ไม่แน่ใจว่าจะเปิดให้มีการค้าขายเสรีระหว่างกันหรือไม่  แต่หากต้องเปิดเสรี ไม่เพียงเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศที่3เท่านั้น การขายข้าวเพื่อผู้บริโภคในประเทศก็จะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ที่สำคัญคือเวียดนามและเขมร

รัฐบาลควรวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ตอนนี้ ว่าหากจะดำเนินนโยบายจำนำต่อไปในราคาสูง  อาจส่งผลให้ไม่สามารถแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งได้ ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชน เพราะหากใกล้ระยะเวลาดังกล่าวแล้ว เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะปรับตัวไม่ทันหากมีการปรับลดหรือยกเลิกมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว

สำหรับการส่งออกไปยังประเทศที่3  รัฐบาลไทยควรตั้งโต๊ะเจรจากับรัฐบาลในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือด้านราคา   เพื่อไม่ให้เกิดการแข่งขันแบบตัดราคากันเอง  ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อประเทศในกลุ่มอาเซียนใดเลย

เป็นไปได้หรือไม่ ที่จะจัดตั้งความร่วมมือแบบเดียวกับกลุ่มประเทศOPEC เพื่อกำหนดทิศทางของราคาข้าวในตลาดโลก  ซึ่งจริงๆแล้วกลุ่มผู้ประกอบการโรงสีในไทยมีความพยายามผลักดันแนวคิดนี้อยู่ระยะหนึ่งแล้ว แต่ขาดการสนับสนุนเชิงนโยบายจากภาครัฐ

ไม่เพียงแต่ข้าวเท่านั้น  ธุรกิจทุกประเภทต้องเริ่มหันมามองและวางแผนเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิภาคของเรา