-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
ผมเห็นใจคนที่ไม่มีโอกาสในสังคม
ถูกบีบคั้นถูกเอาเปรียบทุกอย่าง
ประเทศไทยจะดีขึ้น ถ้าคนที่มีโอกาส
ยอมสละโอกาสบ้าง ผมอยากเห็นคนที่มีโอกาส
สละโอกาสให้กับคนที่ไม่มีโอกาสบ้าง
อย่าได้เที่ยวกอบโกยมากกว่านี้เลย
เพราะมันจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีหลายคำที่คนพูดกับเขา
“เรียนนิเทศศาสตร์ แน่ใจเหรอ"
“ใช่ๆ แล้วต่อไปจะทำอะไรกิน ดูสิ คิดว่าตัวเองเป็นคนกล้าแสดงออกหรือไง"
“นีลออกจะเรียนเก่งขนาดนี้ ทำไม่ไม่เรียนหมอล่ะ"
“ใช่แล้ว เป็นหมอน่ะดีนะ ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังเจ็บป่วย"
“เป็นหมอแล้วก็ยังเป็นนักแสดง ยังทำงานศิลปะได้อยู่นะ แต่เรียนนิเทศ แล้ว จะมารักษาคนก็ไม่ได้"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
หนึ่งปีผ่านไป...
“นรเวช เข้ามาพบกับอาจารย์ได้แล้วค่ะ" พยาบาลเรียกชื่อ
นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งก้าวเข้าไปในห้องตรวจตามที่ได้รับการเรียกอย่างเงียบๆ
“อาจารย์ขอเรียกชื่อเราด้วยชื่อเล่นได้หรือเปล่า" อาจารย์ถามอย่างเป็นกันเอง
“นีล ครับ" อีกฝ่ายหนึ่งตอบสั้นๆ
“นีล ได้ข่าวว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยู่ใช่ไหม"
“ครับ"
“มีอะไรเรื่องอะไร"
“ผมไม่อยากเรียนหมอครับ"
“ทำไมล่ะ"
“ผมไม่ชอบ" อีกฝ่ายว่า "ผมอยากเรียนอย่างอื่นมากกว่า"
“แล้วทำไมถึงเข้ามาเรียนหมอได้"
“ถูกบังคับครับ"
“บังคับนี่คืออย่างไง ใช่แบบว่าถูกจับมัดใส่เก้าอี้ให้มาทำสัญญาเรียนหรือเปล่า"
“ไม่ใช่ครับ"
“แล้วตอนนี้เป็นยังไง"
“เครียด ไม่ชอบ"
“แล้วมีใครรู้บ้างหรือเปล่า"
“ก็เล่าให้พ่อแม่ฟังครับ พ่อแม่เลยอยากให้มาหาอาจารย์"
“ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้มาหาอาจารย์ล่ะ"
“เพราะผมทำร้ายตัวเอง กัดมือตัวเอง วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถ"
“เล่าให้พ่อแม่ฟังอย่างนั้นหรือ"
“ใช่ครับ"
“แล้วทำไมนีลถึงไม่อยากเป็นหมอล่ะ คนอื่นเข้าอยากเป็นตั้งเยอะ และมีคนมากมายที่ไม่มีโอกาสได้เรียนนะ"
“และตอนนี้ผมก็ไม่อยากทำกิจกรรมของคณะ อย่างกีฬาน้องใหม่ผมก็ไม่ได้ลงเล่นอะไรเลย"
“แต่การทำกิจกรรมของคณะจะช่วยให้เรามีเพื่อนมีฝูงนะ และมันก็กำหนดไว้ในเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยด้วย กีฬาน้องใหม่ก็เข้าไปสมัครทีหลังก็น่าจะได้นี่น่า"
“ผมไม่ชอบ"
“นีล เราโตแล้วนะ เราควรจะทำให้พ่อแม่สบายใจได้แล้ว"
มีการสนทนาต่ออีกหลายคำ โดยที่นีลพูดว่าเพียงว่าครับจนกระทั่งขอตัวออกไปเท่านั้น
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
พ่อแม่พาเขาไปงานรวมญาติในไม่กี่เดือนหลังจากนั้น พ่อแม่ของเขาแยกย้านเดินไปคุยอีกทางหนึ่ง เขาจึงนั่งอยู่กับอา
“เป็นไงบ้างล่ะ นีล" อาของเขาถาม "เรียนหมอมาได้จะเกือบครบเทอมแล้ว ชอบไหมล่ะ"
“ไม่ชอบครับ"
“นี่นีล ฟังอานะ ในเมื่อเราได้เลือกมาแล้ว เราก็ต้องพอใจกับทางทีตัวเองเลือกสิ" อาของนีลว่า "เรียนหมอน่ะดีจะตายไป อายังอยากให้น้องเรียนเลย"
อาของนีลมีลูกอายุน้อยกว่านีลหนึ่งปี เพิ่งเอนทรานซ์เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ในปีนั้นสดๆ ร้อน
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีหลายคำที่นีลได้ยินตลอดหลายปีนั้น
“เข้ามาเรียนหมอแล้วก็ต้องตั้งใจเรียน เพราะว่าทุกอย่างเป็นหน้าเป็นตาของคณะทั้งนั้น" อาจารย์คนหนึ่งพูด "ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็มีชื่อของคณะติดอยู่ และถึงจบไป
แล้ว ก็จะยังมีชื่อของสถาบันติดตัวพวกคุณไป"
“แค่เพียงทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วนนั้นยังไม่พอหรอก" อาจารย์อีกคนหนึ่งพูด "ต้องมีอุดมการณ์ มีจิตวิญญาณด้วย ไม่งั้นพวกคุณก็ไม่ต่างอะไรจากคนขายก๋วยเตี๋ยว"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีอยู่ปีหนึ่งที่เขาคุยกับเพื่อน
“อ้าว เธอไม่อยากเรียนหมอหรือ นีล" เพื่อนของเขาถาม "เธออยากเรียนอะไรล่ะ"
“นิเทศ" เขาว่า
“นี่นีล เธอไม่เห็นเหรอว่าเธอเรียนหมออยู่นี่เธอโชคดีแค่ไหนแล้ว เธอไม่เห็นหรือว่าตอนนี้พวกเพื่อนเราที่อยู่คณะอื่นเขาเครียดกันแค่ไหน ต้องหางานทำ หาได้หาไม่ได้ก็ไม่รู้ เธอเรียน
หมอก็ดีอยู่แล้ว"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
นีลเคยกลับไปหาครูสมัยมัธยม
“บางทีครูก็ว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันก็ถูกลิขิตเอาไว้แล้วนะ เราคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก" ครูของเขาบอก
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
หลายครั้ง นีลก็สงสัย...
ทำไมสถานที่แห่งนี้จึงเรียกร้องจากเขามากนัก ในเมื่อวันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในคณะนี้ วันที่เขาสูญเสียทุกอย่างในชีวิต ที่นี่กลับต้อนรับเขาด้วยการ "ว้าก"
ทำไมถึงต้องเรียกร้องมากขึ้นไปอีก แค่ทำหน้าที่ให้ไม่ก็บกพร่องก็ไม่พอ ยังต้องมาบังคับจิตใจให้รักอีก
...แต่ก็นั่นแหละ โลกนี้ยังห่างไกลจากคำว่าอุดมคติมากนัก และคนเพียงคนเดียวก็คงเปลี่ยนแปลโลกนี้ไม่ได้
จริงหรือ...?
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
สามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังดูข่าวภาคค่ำหลังจากที่ส่งลูกไว้ห้าขวบเข้านอน
“ข่าวนี่น่ากลัวจังเลยนะ พ่อ"
“ข่าวนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดังกระโดดตึกฆ่าตัวตายนี่น่ะหรือ"
“ใช่"
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ เห็นแม่บอกว่าตามข่าวมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วไม่ใช่หรือ" ฝ่ายสามีถาม "สงสัยจะเรื่องอกหักเสียกระมัง"
“เห็นในข่าวบอกว่าเพราะเขาถูกบังคับให้เรียนหมอน่ะ" ภรรยาว่า "มีคนเอาจดหมายลาตายของเขามาอออกอากาศ เห็นเขาเขียนว่าทุกคนเอาแต่ดันๆๆ เขามาอยู่ตรงนี้ แล้วก็ไม่สนใจ"
“อย่างนั้นหรือ"
“คุณว่ามันดูน่าสงสารเนอะ"
“โธ่ มันก็เรื่องเฉพาะบุคคลน่าคุณ" สามีตอบ "คนปกติเขาไม่ฆ่าตัวตายกันหรอก เด็กนั่นมันสิ้นคิดเอง"
“นั่นสินะคะ" ภรรยาว่า "พูดไปก็นึกถึงลูกของเรา ฉันอยากให้แกเป็นหมอนะ ต่อไปเราป่วยจะได้ฝากฝีฝากไข้"
“ใช่ ผมว่าพอแกโตขึ้นก็จะเกลี้ยกล่อมให้แกเรียนหมอเหมือนกัน"
หมายเหตุ
1. ข้อความต้นเรื่องเป็นคำพูดของ "สืบ นาคะเสถียร" ขออภัยที่ไม่ให้อ้างอิงแต่แรก เพราะเกรงว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องทั้งหมด
2. นีล เป็นชื่อของพระเอกเรื่อง Dead poet society ที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกบังคับให้เรียนหมอ (เรื่องนี้เขียนโดย inspire จากเรื่อง dead poet society ครับ)
Orders of the World
ผมเห็นใจคนที่ไม่มีโอกาสในสังคม
ถูกบีบคั้นถูกเอาเปรียบทุกอย่าง
ประเทศไทยจะดีขึ้น ถ้าคนที่มีโอกาส
ยอมสละโอกาสบ้าง ผมอยากเห็นคนที่มีโอกาส
สละโอกาสให้กับคนที่ไม่มีโอกาสบ้าง
อย่าได้เที่ยวกอบโกยมากกว่านี้เลย
เพราะมันจะไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีหลายคำที่คนพูดกับเขา
“เรียนนิเทศศาสตร์ แน่ใจเหรอ"
“ใช่ๆ แล้วต่อไปจะทำอะไรกิน ดูสิ คิดว่าตัวเองเป็นคนกล้าแสดงออกหรือไง"
“นีลออกจะเรียนเก่งขนาดนี้ ทำไม่ไม่เรียนหมอล่ะ"
“ใช่แล้ว เป็นหมอน่ะดีนะ ได้ช่วยเหลือคนที่กำลังเจ็บป่วย"
“เป็นหมอแล้วก็ยังเป็นนักแสดง ยังทำงานศิลปะได้อยู่นะ แต่เรียนนิเทศ แล้ว จะมารักษาคนก็ไม่ได้"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
หนึ่งปีผ่านไป...
“นรเวช เข้ามาพบกับอาจารย์ได้แล้วค่ะ" พยาบาลเรียกชื่อ
นักศึกษาแพทย์คนหนึ่งก้าวเข้าไปในห้องตรวจตามที่ได้รับการเรียกอย่างเงียบๆ
“อาจารย์ขอเรียกชื่อเราด้วยชื่อเล่นได้หรือเปล่า" อาจารย์ถามอย่างเป็นกันเอง
“นีล ครับ" อีกฝ่ายหนึ่งตอบสั้นๆ
“นีล ได้ข่าวว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยู่ใช่ไหม"
“ครับ"
“มีอะไรเรื่องอะไร"
“ผมไม่อยากเรียนหมอครับ"
“ทำไมล่ะ"
“ผมไม่ชอบ" อีกฝ่ายว่า "ผมอยากเรียนอย่างอื่นมากกว่า"
“แล้วทำไมถึงเข้ามาเรียนหมอได้"
“ถูกบังคับครับ"
“บังคับนี่คืออย่างไง ใช่แบบว่าถูกจับมัดใส่เก้าอี้ให้มาทำสัญญาเรียนหรือเปล่า"
“ไม่ใช่ครับ"
“แล้วตอนนี้เป็นยังไง"
“เครียด ไม่ชอบ"
“แล้วมีใครรู้บ้างหรือเปล่า"
“ก็เล่าให้พ่อแม่ฟังครับ พ่อแม่เลยอยากให้มาหาอาจารย์"
“ทำไมพ่อแม่ถึงอยากให้มาหาอาจารย์ล่ะ"
“เพราะผมทำร้ายตัวเอง กัดมือตัวเอง วิ่งข้ามถนนตัดหน้ารถ"
“เล่าให้พ่อแม่ฟังอย่างนั้นหรือ"
“ใช่ครับ"
“แล้วทำไมนีลถึงไม่อยากเป็นหมอล่ะ คนอื่นเข้าอยากเป็นตั้งเยอะ และมีคนมากมายที่ไม่มีโอกาสได้เรียนนะ"
“และตอนนี้ผมก็ไม่อยากทำกิจกรรมของคณะ อย่างกีฬาน้องใหม่ผมก็ไม่ได้ลงเล่นอะไรเลย"
“แต่การทำกิจกรรมของคณะจะช่วยให้เรามีเพื่อนมีฝูงนะ และมันก็กำหนดไว้ในเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยด้วย กีฬาน้องใหม่ก็เข้าไปสมัครทีหลังก็น่าจะได้นี่น่า"
“ผมไม่ชอบ"
“นีล เราโตแล้วนะ เราควรจะทำให้พ่อแม่สบายใจได้แล้ว"
มีการสนทนาต่ออีกหลายคำ โดยที่นีลพูดว่าเพียงว่าครับจนกระทั่งขอตัวออกไปเท่านั้น
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
พ่อแม่พาเขาไปงานรวมญาติในไม่กี่เดือนหลังจากนั้น พ่อแม่ของเขาแยกย้านเดินไปคุยอีกทางหนึ่ง เขาจึงนั่งอยู่กับอา
“เป็นไงบ้างล่ะ นีล" อาของเขาถาม "เรียนหมอมาได้จะเกือบครบเทอมแล้ว ชอบไหมล่ะ"
“ไม่ชอบครับ"
“นี่นีล ฟังอานะ ในเมื่อเราได้เลือกมาแล้ว เราก็ต้องพอใจกับทางทีตัวเองเลือกสิ" อาของนีลว่า "เรียนหมอน่ะดีจะตายไป อายังอยากให้น้องเรียนเลย"
อาของนีลมีลูกอายุน้อยกว่านีลหนึ่งปี เพิ่งเอนทรานซ์เข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ในปีนั้นสดๆ ร้อน
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีหลายคำที่นีลได้ยินตลอดหลายปีนั้น
“เข้ามาเรียนหมอแล้วก็ต้องตั้งใจเรียน เพราะว่าทุกอย่างเป็นหน้าเป็นตาของคณะทั้งนั้น" อาจารย์คนหนึ่งพูด "ไม่ว่าจะเข้ามาด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ก็มีชื่อของคณะติดอยู่ และถึงจบไป
แล้ว ก็จะยังมีชื่อของสถาบันติดตัวพวกคุณไป"
“แค่เพียงทำตามหน้าที่ให้ครบถ้วนนั้นยังไม่พอหรอก" อาจารย์อีกคนหนึ่งพูด "ต้องมีอุดมการณ์ มีจิตวิญญาณด้วย ไม่งั้นพวกคุณก็ไม่ต่างอะไรจากคนขายก๋วยเตี๋ยว"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
มีอยู่ปีหนึ่งที่เขาคุยกับเพื่อน
“อ้าว เธอไม่อยากเรียนหมอหรือ นีล" เพื่อนของเขาถาม "เธออยากเรียนอะไรล่ะ"
“นิเทศ" เขาว่า
“นี่นีล เธอไม่เห็นเหรอว่าเธอเรียนหมออยู่นี่เธอโชคดีแค่ไหนแล้ว เธอไม่เห็นหรือว่าตอนนี้พวกเพื่อนเราที่อยู่คณะอื่นเขาเครียดกันแค่ไหน ต้องหางานทำ หาได้หาไม่ได้ก็ไม่รู้ เธอเรียน
หมอก็ดีอยู่แล้ว"
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
นีลเคยกลับไปหาครูสมัยมัธยม
“บางทีครูก็ว่าหลายสิ่งหลายอย่างมันก็ถูกลิขิตเอาไว้แล้วนะ เราคงเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก" ครูของเขาบอก
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
หลายครั้ง นีลก็สงสัย...
ทำไมสถานที่แห่งนี้จึงเรียกร้องจากเขามากนัก ในเมื่อวันแรกที่เขาก้าวเข้ามาในคณะนี้ วันที่เขาสูญเสียทุกอย่างในชีวิต ที่นี่กลับต้อนรับเขาด้วยการ "ว้าก"
ทำไมถึงต้องเรียกร้องมากขึ้นไปอีก แค่ทำหน้าที่ให้ไม่ก็บกพร่องก็ไม่พอ ยังต้องมาบังคับจิตใจให้รักอีก
...แต่ก็นั่นแหละ โลกนี้ยังห่างไกลจากคำว่าอุดมคติมากนัก และคนเพียงคนเดียวก็คงเปลี่ยนแปลโลกนี้ไม่ได้
จริงหรือ...?
...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...-...
สามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังดูข่าวภาคค่ำหลังจากที่ส่งลูกไว้ห้าขวบเข้านอน
“ข่าวนี่น่ากลัวจังเลยนะ พ่อ"
“ข่าวนักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยชื่อดังกระโดดตึกฆ่าตัวตายนี่น่ะหรือ"
“ใช่"
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ เห็นแม่บอกว่าตามข่าวมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วไม่ใช่หรือ" ฝ่ายสามีถาม "สงสัยจะเรื่องอกหักเสียกระมัง"
“เห็นในข่าวบอกว่าเพราะเขาถูกบังคับให้เรียนหมอน่ะ" ภรรยาว่า "มีคนเอาจดหมายลาตายของเขามาอออกอากาศ เห็นเขาเขียนว่าทุกคนเอาแต่ดันๆๆ เขามาอยู่ตรงนี้ แล้วก็ไม่สนใจ"
“อย่างนั้นหรือ"
“คุณว่ามันดูน่าสงสารเนอะ"
“โธ่ มันก็เรื่องเฉพาะบุคคลน่าคุณ" สามีตอบ "คนปกติเขาไม่ฆ่าตัวตายกันหรอก เด็กนั่นมันสิ้นคิดเอง"
“นั่นสินะคะ" ภรรยาว่า "พูดไปก็นึกถึงลูกของเรา ฉันอยากให้แกเป็นหมอนะ ต่อไปเราป่วยจะได้ฝากฝีฝากไข้"
“ใช่ ผมว่าพอแกโตขึ้นก็จะเกลี้ยกล่อมให้แกเรียนหมอเหมือนกัน"
หมายเหตุ
1. ข้อความต้นเรื่องเป็นคำพูดของ "สืบ นาคะเสถียร" ขออภัยที่ไม่ให้อ้างอิงแต่แรก เพราะเกรงว่าถ้าทำอย่างนั้นแล้วจะกลายเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่องทั้งหมด
2. นีล เป็นชื่อของพระเอกเรื่อง Dead poet society ที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกบังคับให้เรียนหมอ (เรื่องนี้เขียนโดย inspire จากเรื่อง dead poet society ครับ)