สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
เข้ามาเสริมให้ครับ......ก่อนที่ทุกอย่างมันจะไถลลึกไปไกลกว่านี้.......การทำรูปทรงตัวLของ Ducati นั่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเขาครับ.....ไม่เกี่ยวกับแรงบิดแรงม้าอะไรทั้งสิ้น(หากวิศวกรของเขาจะทำเป็นลูกสูบเขาควายแบบ Moto guzzi เขาก็สามารถให้แรงบิดและแรงม้าได้เช่นเดิม) ลองหันมาดูบริษัทฮอนด้าดูบ้างก็ได้ว่า เขาไม่แคร์ไม่ยึดติดกับรูปทรงของเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็น V-Twin(Honda NV400-750) หรือตัวLแบบดูคาติ(Honda Spada 250) หรือรูปสูบทรงเขาควายแบบ Motoguzzi( Honda Gl500/750)....ฯลฯ สารพัดสารเพรุ่นที่ฮอนด้าทำเล่นเพื่อล่อตาล่อใจนักบิดทั่วโลก.....แต่เวลาทำรถแข่งจริง เขาก็จะหันมาทำรถ V4 เพื่อให้แคร็งค์มันแคบลง อันเป็นผลให้การเข้าโค้งได้ลึกขึ้น....ส่วนดูคาติมันได้จุดลงตัวสำหรับการทำเป็นรถสปอร์ตอยู่เองแล้ว....เวลาผลิตขายหรือทำแข่งก็เลยอยู่ในแคตตากอรี่เดียวกันหมด(คือไม่ต้องลงทุนวิจัยใหม่).........ส่วนวาล์วระบบเดสโมของดูคาตินั่น มันมีสปริงวาล์เป็นปีกผีเสื้อเป็นตัวอำนวยการปิดวาล์(แทนที่จะเป็นขดๆแบบรถทั่วไป).......สาเหตุที่เขาไม่ทำสปริงวาล์วให้เป็นขดๆนั่น ก็เพื่อเปิดที่ว่างให้กระเดื่องวาล์วตัวคุมการปิดวาล์วสอดกระเดื่องเข้าไปเสริมแรงดีดของสปริง.......ที่เราเห็นในรูปสาธิตการทำงานว่าไม่มีสปริงนั้น เขาลบตัวสปริงออกไปให้เห็นการทำงานของลูกเบี้ยวทั้ง4ตัวอย่างชัดเจนครับ......เพราะโดยปกตินั้นการตั้งวาล์วของเครื่องยนต์ทุกชนิดมันจะต้องมีเคลียร์เรนซ์ระหว่างกระเดื่องและยอดก้านวาล์วประมาณ 30 ฟิลเลอร์อยู่แล้ว......หากไปอาศัยเฉพาะลูกเบี้ยวกดและงัดให้วาล์วปิดได้ตามกำหนดทุกรอบงานนั้น ก็แปลว่าวาล์วจะยันตลอดเวลา.......วิ่งไปไม่กี่ร้อยเมตร....วาล์วก็จะยันและเครื่องยนต์ดับไป สรุปแล้วระบบเดสโม จะมีลูกเบี้ยวอยู่4ลูก/สูบเพื่อกำหนดการเปิด-ปิดให้ตรง(วาล์วไม่เกิดอาการลอยตัวเมื่อรอบจัดๆ)และสปริงวาล์วจะเป็นดาบ2เพื่อปิดวาล์วให้สนิทตอนที่กระเดื่องกำลังนั่งแท่น(30ฟิลเลอร์ที่กล่าว)......พอเข้าใจไหมครับ.....ดูคาติเดสโม่นั้น ในเมืองไทยมีตัว350อยู่เพียง1หรือ2คัน.(นอกนั้นเป็นตัว250 Mach3)..คือมีผมและปรีดา จุลละมณฑล(เสียชีวิตไปแล้ว) ครอบครองอยู่เมื่อ40ปีที่ผ่านมา.....ผมขายให้เพื่อนนักขี่ที่ทำงานอยู่ในการไฟฟ้าฝ่ายผลิตบางกรวยไปเมื่อประมาณ20ปีที่ผ่านมาในราคา15,000 บาทครับ.......ขออภัยทุกท่านที่ได้ตอบกระทู้ไปแล้ว.....ผมไม่มีเจตนาอื่นเพื่อหักล้างคำพูดของใครครับ เพียงแต่อยากให้เพื่อนพ้องน้องพี่ในนี้ได้รับความรู้อย่างจริงๆจังๆเท่านั้นเอง......ไม่เช่นนั้นเราจะกลายเป็นสังคมข่าวลือกันไปเปล่าๆ...ขอบคุณที่รับฟังและขออภัยทุกท่านข้างบนด้วย
ความคิดเห็นที่ 15
ขออธิบายเพิ่มอีกนิดเดียวนะครับ..เกี่ยวกับระบบวาล์วเดสโมฯอันเป็นลิขสิทธิของดูคาตินั่น.....ซึ่งมีบางท่านเข้ามาอธิบายว่ามันทำหน้าที่เป็นเพียงปริงกันกระพือ มิได้ทำหน้าที่เป็นสปริงหลัก.(คือยังไงก็สรุปว่าลูกเบี้ยวตัวงัดกลับทำหน้าที่ปิดวาล์ว)....ผมขอยืนยันว่าหากมันเป็นสปริงกันกระพือ....มันก็ไม่จำเป็นต้องแข็งมากนัก(สปริงปีกผีเสื้อตัวนี้แข็งขนาดยืนเหยียบยังไม่ลง-ต้องใช้เครื่องมืออัดอย่างเดียวจึงจะประกอบได้).......และหากอยากจะรู้ว่าสปริงทำหน้าที่หลักหรือลูกเบี้ยวทำหน้าที่เป็นตัวปิดวาล์วหลัก......เราก็ปลดสปริงวาล์วออกเสีย......หากเครื่องยังติดได้ดีอยู่ ก็แปลว่ากระเดื่องทำหน้าที่ปิดวาล์วจริง(และสปริงวาล์วจะทำหน้าที่กันกระพือ).................แต่หากถอดสปริงวาล์วออกแล้วเครื่องติดไม่ได้ก็หมายความว่าปริงวาล์วทำหน้าที่หลักของมันอยู่......แค่นี้ก็น่าจะพอนะครับ อย่ามัวมาเอาชนะคะคานกับเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย เพราะบางมุมของความคิดแต่ละคนย่อมมีมุมอับด้วยกันทุกคนแหละ......ขออภัยท่านที่เข้ามาช่วยชี้นำผมอีกครั้งนะครับ.....ข้อคิดเห็นของท่านมีประโยชน์ต่อเพื่อนหลายๆคนในนี้ เพียงแต่ผมเข้ามาเสริมและต่อยอดให้เท่านั้นแหละ.......
ความคิดเห็นที่ 1
เครืือง L-Twin ของ Ducati มีข้อดีหลักๆ คือ
1.ก้านสูบใช้เพลาข้อเหวียงแบบร่วมทำมุม 90 องศาตลอดเวลาการเคลื่อนที่
2.การใช้วาล์วแบบ Desmodromic ไม่มีสปริงวาล์วทั้งไอดีไอเสีย การเปิดปิดไอดีไอเสียใช้กระเดื่องเปิดปิดวาล์วโดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ใช้สปริงวาล์ว เอาง่ายๆว่าแรงต้านขนาดไหน ลองเอาสปริงวาล์วมาสักตัวสิ ตั้งไว้กับพื้่นขั้นไปเหยียบทั้งตัวมันยังแทบไม่ยุบเลย ดังนั้นลองคิดดูครับว่า เครื่องยนต์ต้องออกแรงเพิ่มเท่าไหร่ อันนี้คือเหตุผลที่รถยี่ห้ออื่นทำแรงบิดได้ไม่เท่าดูคาติครับ
ทั้งสองส่วนนี้คือจุดที่ทำให้เครื่อง L-Twin ของ Ducati เป็นเครื่องยนต์ที่มีเร่งบิดตั้งแต่้รอบ Slow Idle ขึ้นไปจนถึงรอบสูงตอบสนองได้ต่อเนื่อง เพราะไม่มีแรงต้านจากสปริงวาล์วเหมือนรถยี่ห้ออื่นๆ และการใช้เพลาข้อเหวี่ยงร่วมทำให้เครื่องยนต์แคบเล็กและเบากว่าครับ
อันนี้คือประเด็นหลักๆครับ
อัพเดทครับ ดูเพิ่มเติมในความเห็นข้างล่างครับ http://pantip.com/topic/30728677/comment22
ไม่คิดว่าจะต้องอธิบายอะไรยาวขนาดนี้
1.ก้านสูบใช้เพลาข้อเหวียงแบบร่วมทำมุม 90 องศาตลอดเวลาการเคลื่อนที่
2.การใช้วาล์วแบบ Desmodromic ไม่มีสปริงวาล์วทั้งไอดีไอเสีย การเปิดปิดไอดีไอเสียใช้กระเดื่องเปิดปิดวาล์วโดยตรง เมื่อเปรียบเทียบกับรถที่ใช้สปริงวาล์ว เอาง่ายๆว่าแรงต้านขนาดไหน ลองเอาสปริงวาล์วมาสักตัวสิ ตั้งไว้กับพื้่นขั้นไปเหยียบทั้งตัวมันยังแทบไม่ยุบเลย ดังนั้นลองคิดดูครับว่า เครื่องยนต์ต้องออกแรงเพิ่มเท่าไหร่ อันนี้คือเหตุผลที่รถยี่ห้ออื่นทำแรงบิดได้ไม่เท่าดูคาติครับ
ทั้งสองส่วนนี้คือจุดที่ทำให้เครื่อง L-Twin ของ Ducati เป็นเครื่องยนต์ที่มีเร่งบิดตั้งแต่้รอบ Slow Idle ขึ้นไปจนถึงรอบสูงตอบสนองได้ต่อเนื่อง เพราะไม่มีแรงต้านจากสปริงวาล์วเหมือนรถยี่ห้ออื่นๆ และการใช้เพลาข้อเหวี่ยงร่วมทำให้เครื่องยนต์แคบเล็กและเบากว่าครับ
อันนี้คือประเด็นหลักๆครับ
อัพเดทครับ ดูเพิ่มเติมในความเห็นข้างล่างครับ http://pantip.com/topic/30728677/comment22
ไม่คิดว่าจะต้องอธิบายอะไรยาวขนาดนี้
แสดงความคิดเห็น
เครื่อง L twin ของ ducati มีข้อดียังไงบ้างครับ