- อย่างแรกถ้าเรารู้ความผิดของตัวเองเราจะโกรธน้อยลงคือ
- น้องคนนี้ก็มาทำความรู้จักเราก่อน
- การที่เราจะคบกับใครหรือเอาใครเข้ามาในชีวิต ต้องเลือก การเลือกคบเป็นมงคลในศาสนาพุทธไม่ต้องไปบูชาอิฐปูนเครื่องรางของขลังที่ไหนเลย แค่ไม่คบคนไม่ดีก็เป็นมงคลสำหรับตัวเองแล้ว (เหมือนว่าถ้าคนเป็นเอดส์มาตื้อคบกับเราถ้าเราไม่รู้ก็ยอมคบกับเขาตอนไม่เป็นแผลเป็นทางเข้าของเชื้อก็ยังไม่ติด แต่วันใดเราเกิดแผลเล็กๆที่มือเขามานั่งมาใช้สอยของร่วมกับเราก็ต้องมีหนทางที่เชื้อจะติดเขาไปในแผลของเราและเมื่อนั้นเราก็เป็นเอดส์ แต่ถ้าเรารู้ก่อนเรามีทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงอย่างไม่ให้กระทบกระเทือนใจได้) การให้ของ หรือการช่วยเหลือ คือ การคบในพุทธศาสนา และเมื่อเราไม่เลือกไม่ไตร่ตรองพิจารณาด้วยคำสอนในการเลือกคบคนตามคำสอนในศาสนา (ที่จำเป็นต้องศึกษาเพราะเมื่อศึกษาแล้ว ทุกข์ที่ควรจะได้ก็จะไม่ได้ เพราะรู้ตัวระวังไว้ก่อน) ความเดือดร้อนจากการคบคนไม่ดีต้องมีตามมาแน่นอน เจอแล้วยอมรับเขามาในชีวิตแล้วสะบัดออกจากชีวิตยากด้วย คราวต่อไปต้องพิจารณาใคร่ครวญก่อนให้ ก่อนคบ ที่แล้วมาก็แล้วไป
- มาถึงปัญหาว่าเขามาวนเวียนในวงจรชีวิตทำให้เดือดร้อน
- ต้องทำดีให้มากๆ ดีดตัวเองให้หนีไปจากเขาด้วยความดี ปฏิบัติตามความดี และัตั้งใจแน่วแน่ว่าำจะไม่ทำเหมือนเขา (ซึ่งถ้าด่าตอบ แช่งตอบ โกรธตอบ ทำชั่วเสมอกันก็ต้องอยู่ด้วยกันต่อไปหนีไปไหนไม่พ้น) เหมือนอย่างคนเราชอบดื่มเหล้าก็จะมีเพื่อน ๆ ขี้เหล้า คนชอบตีกอล์ฟก็จะมีก๊วนกอล์ฟ คนชอบดูหนังก็จะคุยกันเรื่องหนัง แต่เมื่อไหร่เราเลิกพฤติกรรมที่เราเห็นว่าเขาไม่ดีแล้วเราก็ไม่ทำเหมือนเขา อดทน เงียบ ไม่โต้ตอบ ไม่ว่าร้าย ไม่กล่าวคำหยาบ ตกแต่งใจเราให้สวย ความชิงชัง อาฆาต ทำให้ใจเราน่าเกียจ ลองหันมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าแทน เราไม่เหมือนเขาเมื่อไหร่ เขาจะหลุดจากวงจรชีวิตของเราเอง
ตอบ กระทู้เราอโหสิกรรมให้ไม่ได้
- น้องคนนี้ก็มาทำความรู้จักเราก่อน
- การที่เราจะคบกับใครหรือเอาใครเข้ามาในชีวิต ต้องเลือก การเลือกคบเป็นมงคลในศาสนาพุทธไม่ต้องไปบูชาอิฐปูนเครื่องรางของขลังที่ไหนเลย แค่ไม่คบคนไม่ดีก็เป็นมงคลสำหรับตัวเองแล้ว (เหมือนว่าถ้าคนเป็นเอดส์มาตื้อคบกับเราถ้าเราไม่รู้ก็ยอมคบกับเขาตอนไม่เป็นแผลเป็นทางเข้าของเชื้อก็ยังไม่ติด แต่วันใดเราเกิดแผลเล็กๆที่มือเขามานั่งมาใช้สอยของร่วมกับเราก็ต้องมีหนทางที่เชื้อจะติดเขาไปในแผลของเราและเมื่อนั้นเราก็เป็นเอดส์ แต่ถ้าเรารู้ก่อนเรามีทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงอย่างไม่ให้กระทบกระเทือนใจได้) การให้ของ หรือการช่วยเหลือ คือ การคบในพุทธศาสนา และเมื่อเราไม่เลือกไม่ไตร่ตรองพิจารณาด้วยคำสอนในการเลือกคบคนตามคำสอนในศาสนา (ที่จำเป็นต้องศึกษาเพราะเมื่อศึกษาแล้ว ทุกข์ที่ควรจะได้ก็จะไม่ได้ เพราะรู้ตัวระวังไว้ก่อน) ความเดือดร้อนจากการคบคนไม่ดีต้องมีตามมาแน่นอน เจอแล้วยอมรับเขามาในชีวิตแล้วสะบัดออกจากชีวิตยากด้วย คราวต่อไปต้องพิจารณาใคร่ครวญก่อนให้ ก่อนคบ ที่แล้วมาก็แล้วไป
- มาถึงปัญหาว่าเขามาวนเวียนในวงจรชีวิตทำให้เดือดร้อน
- ต้องทำดีให้มากๆ ดีดตัวเองให้หนีไปจากเขาด้วยความดี ปฏิบัติตามความดี และัตั้งใจแน่วแน่ว่าำจะไม่ทำเหมือนเขา (ซึ่งถ้าด่าตอบ แช่งตอบ โกรธตอบ ทำชั่วเสมอกันก็ต้องอยู่ด้วยกันต่อไปหนีไปไหนไม่พ้น) เหมือนอย่างคนเราชอบดื่มเหล้าก็จะมีเพื่อน ๆ ขี้เหล้า คนชอบตีกอล์ฟก็จะมีก๊วนกอล์ฟ คนชอบดูหนังก็จะคุยกันเรื่องหนัง แต่เมื่อไหร่เราเลิกพฤติกรรมที่เราเห็นว่าเขาไม่ดีแล้วเราก็ไม่ทำเหมือนเขา อดทน เงียบ ไม่โต้ตอบ ไม่ว่าร้าย ไม่กล่าวคำหยาบ ตกแต่งใจเราให้สวย ความชิงชัง อาฆาต ทำให้ใจเราน่าเกียจ ลองหันมาศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าแทน เราไม่เหมือนเขาเมื่อไหร่ เขาจะหลุดจากวงจรชีวิตของเราเอง