“ปู”ขู่ฟ้องคนแฉข้าวเน่า
เสียงอ่อยถุงรั่วในบางจุด
ทีมสอบสวนพบอีก8โรงสี
ส่อแววโกง-ห้ามรับจำนำ
พานิชย์เปิดTORระบายข้าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ยอมรับว่าไม่สบายใจหลังมีกระแสข่าวข้าวถุงไม่ได้คุณภาพ พร้อมระบุการที่ข้าวถุงจะมีปัญหา เราคงต้องตรวจเฉพาะจุด ไม่ได้หมายความว่าขั้นตอนการปฎิบัติจะทำให้ข้าวถุงทุกรายหรือทั้งประเทศมีปัญหา ต้อขอความร่วมมือช่วยกันสร้างความมั่นใจ เพราะข้าวเป็นรายได้หลักของประเทศ และได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพมาตลอด
“รัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่น แต่ขอความกรุณาอย่าปล่อยข่าวลือ การเสนอข่าวให้ความเป็นธรรมบ้าง อย่ามองรวมเป็นข้าวถุงหรือเป็นข้าวไทยทั้งหมดทั้งประเทศ จะทำให้เสียความเชื่อมั่น บางครั้งเป็นข่าวลือ และไม่ได้เกิดความผิดพลาดที่โรงงาน อาจเกิดจากขั้นตอนเล็กน้อยหรือการบรรจุถุงอาจรั่ว คงต้องตรวจสอบก่อน อย่ามองเป็นภาพรวมทั้งหมด”นายกฯกล่าว
เล็งฟ้องตบปากคนปล่อยข่าวลือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ายังหยุดข่าวลือไม่ได้จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ปล่อยข่าวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คงต้องดำเนินการ ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายก็ออกมายืนยันแล้ว ขอความร่วมมือสื่อมวลชน อะไรที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ข่าวออกไปจะเป็นการมองภาพทั้งประเทศ เพราะบางครั้งประเด็นนิดเดียวก็ไม่ควรไปอยู่บนหน้าหลักของสื่อ ส่วนกรณีฝ่ายค้านออกมาเปิดเผยข้าวเน่าหลายพื้นที่นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลตรวจสอบตลอดถ้ามีข้อมูล แต่การบอกทั้งระบบตรวจสอบยาก ถ้ามีระบุจุดไหนอย่างไร ตรวจสอบได้ง่ายกว่า ก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน
ผลเช็คสต๊อกโรงสี8จุดส่อโกง
ส่วนความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกและข้าวสารในโรงสีและโกดังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือขององค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รอการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลปริมาณสต๊อกข้าวของรัฐบาลจากกระทรวงเกษตร ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่กลางน้ำว่ามีผลตรงกับพื้นที่ปลายน้ำที่ดำเนินการตรวจสอบเสร็จแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกระบวนการสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารในแต่ละพื้นที่ว่าส่งเข้าคลังเก็บข้าวกลางของรัฐบาลครบถ้วนหรือไม่ หากผลตรวจสอบออกมาว่าปริมาณสต๊อกข้าวในแต่ละพื้นที่ไม่ตรงกัน แสดงว่ามีการทุจริตปริมาณข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ในพื้นที่ใด นอกจากถูกดำเนินคดีแล้ว จะถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลอีกต่อไป
รองเลขาธิการนายกฯกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ปลายน้ำ ล่าสุดมีโรงสีข้าวมีความน่าสงสัยประมาณ 8 จุด และดำเนินคดีไปแล้วประมาณ 6-7 คดี โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงสีและโกดังกลางจะนำข้าวมาเวียนใหม่ ซึ่งการที่รัฐบาลลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีและโกดังกลางพร้อมกันทั่วประเทศ ช่วยให้ไม่สามารถนำปริมาณข้าวมาเวียนใหม่ได้อีก จากนั้นเจ้าหน้าที่จะหาเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงว่าผู้ที่ถูกตั้งข้อสงสัยมีความผิดจริงหรือไม่ต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรม
เปิดTORระบายข้าวรัฐ3.5แสนตัน
วันเดียวกัน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร อนุมัติการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำฤดูกาล 2554/55 แบ่งเป็น 2 ล็อต ได้แก่ ข้าวสารเจ้า 5% ปริมาณ 1.528 แสนตันเศษ เพื่อใช้ส่งออก และข้าวปลายข้าวสารเจ้า เอ วัน เลิศ ปริมาณ 2 แสนตัน เพื่อใช้ในประเทศและการส่งออก โดยให้ผู้ประกอบการที่สนใจยื่นซองประกวดราคาวันที่ 26 กรกฎาคม และจะเปิดซองประกวดราคาในวันที่ 29 กรกฎาคม
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลล็อตนี้ ให้เสนอราคาในรูปเงินบาทตามราคาหน้าคลัง (เอ็กแวร์เฮ้าส์) โดยคณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร จะมีราคากลางเป็นเกณฑ์ไว้ เพื่อต่อรองราคากับผู้เสนอราคาเข้ามาสูงสุด ซึ่งราคากลางจะยึดราคาตลาดปัจจุบันเป็นหลัก นอกจากนี้ ในอีก 1-2 วัน จะเปิดประมูลข้าวเปลือก เพื่อทำข้าวนึ่งส่งออกเพิ่มเติม ปริมาณ 2 แสนตัน
นพ.วรงค์-บุญยอดเก้ออดโชว์ซุกข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าทำเนียบฯมาพบทีมโฆษกรัฐบาล เพื่อสาธิตการนำข้าวเน่าข้าวเหลืองเสื่อมคุณภาพซ่อนไว้ตรงกลาง หรือที่เรียกว่าการหยอดข้าวลงหลุม ที่ฝ่ายค้านเคยแถลงข่าว แต่โฆษกรัฐบาลออกมาตอบโต้และท้าทายให้มาสาธิตวิธีการดังกล่าวเพราะเชื่อว่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงต้องการมาชี้แจง ปรากฏว่าทีมโฆษกรัฐบาลไม่อยู่เดินทางร่วมขบวนทัวร์นกขมิ้นไปกับนายกรัฐมนตรี นพ.วรงค์จึงนัดหมายจะมาอีกครั้งวันที่ 17 กรกฎาคม
ยันมีหลักฐานโกงจี้เปิดบัญชีระบายข้าว
โดยนพ.วรงค์กล่าวว่า ตนต้องการชี้ให้เห็นว่าการซุกข้าวเน่ามีจริง และเป็นอุปสรรคในการระบายข้าวของรัฐบาล ทำให้ประเทศคู่ค้าไม่มั่นใจคุณภาพ จึงอยากให้ตรวจสอบเชิงคุณภาพด้วย ส่วนที่นายกฯ ออกมาระบุว่ามีข้าวเน่าทำให้รัฐบาลเสียหาย ตนยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และฝ่ายค้านมีหลักฐานทุจริต และรัฐบาลต้องยอมรับความจริง
นพ.วรงค์ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลเปิดตัวเลขการระบายข้าวแบบจีทูจี เพราะมีตัวละครใหม่เป็นผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายข้าว แล้วเซ็นชื่อด้วยภาษาจีน รัฐบาลต้องชี้แจง การที่รัฐบาลตั้งเป้าระบายข้าวเดือนละ 5 แสนตันนั้น จะทำให้ขาดทุนมากกว่าเดิม และคาดว่ารัฐบาลจะขายข้าวสารได้ไม่เกินตันละ 1.3 หมื่นบาท ทั้งที่ควรจะขายได้ราคาตันละ 2.4 หมื่นบาท และตนไม่เชื่อว่าแผนการระบายข้าวจะประสบความสำเร็จ
“มาร์ค”เมินนายกฯสั่งฟันปูดข้าวเน่า
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีนายกฯระบุจะดำเนินคดีกับผู้ปล่อยข่าวลือข้าวเน่าว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูดเป็นข้อเท็จจริง นายกฯน่าจะไปเตือนคนของตัวเองมากกว่าที่ออกมาบอกว่าเป็นการเล่นการเมือง แต่สุดท้ายกรมป้องกันสาธารณภัยก็ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง การฟ้องร้องคนที่พูดความจริงน่าเป็นห่วง พวกตนยืนยันและเตือนผลกระทบจากโครงการจำนำข้าวมานานแล้ว นายกฯน่าจะไปดูสิ่งที่เป็นปัญหากระทบส่วนรวมสมมติฝ่ายค้านพูดไม่จริงทำผิดกฎหมาย รัฐบาลก็ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่เห็นว่ามีเรื่องไหนที่ละเว้น
การที่นายกฯระบุจะดำเนินคดีกับคนที่พูดเรื่องข้าวเน่า คงหยุดปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวไม่ได้ และไม่ว่าจะเป็นนายกฯ รัฐมนตรีหรือใครก็ตามที่พยายามจะบอกให้ทุกคนไม่พูดเรื่องนี้ ปัญหาไม่หายไป รัฐบาลควรกลับไปแก้ปัญหาดีกว่า
ซัดรัฐบาลคนล้มข้าวตัวจริง
“ผมยืนยันว่าคนล้มข้าวตัวจริงคือ รัฐบาลนี้ที่ใช้นโยบายผิด ทำลายอุตสาหกรรมข้าวไทย แข่งขันไม่ได้ เพราะเริ่มต้นจำนำสูงกว่าราคาตลาด และรัฐบาลถือสต๊อกข้าวมหาศาลอยู่ในมือ” นายอภิสิทธิ์กล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการระบายข้าวอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมเปิดเผยตัวเลขการระบายข้าว รายละเอียดสัญญาจีทูจี การอ้างเป็นความลับแต่สุดท้ายก็ต้องเปิดเผยรายได้ของรัฐบาลอยู่ดี
หวังปปช.เร่งสรุปสอบโกงจำนำ
ส่วนการตรวจสอบเช็คการระบายข้าวจีทูจี 80,000 บาทที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะรอผลการตรวจสอบของป.ป.ช. เชื่อป.ป.ช.จะเร่งพิจารณา เพราะถ้าสรุปออกมาก็จะเป็นตัวที่ทำให้รัฐบาลต้องดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ถ้าปล่อยทิ้งไปเรื่อย ๆ ปัญหาจะสะสม และเดือนตุลาคมที่รัฐบาลต้องกำหนดแนวทางสำหรับฤดูกาลใหม่จะได้สอดรับกับความจำเป็นในการแก้ปัญหาการทุจริตด้วย
“สารี”แถลงผลตรวจข้าวถุง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมูลนิธิชีววิถีไทยจะแถลงข่าวผลการเก็บตัวอย่างข้าวสุ่มตรวจมาตรฐาน ซึ่งจัดเก็บตัวอย่างข้าว 46 ยี่ห้อ 46 ตัวอย่างจากท้องตลาด โดยมูลนิธิจะเปิดเผยรายชื่อยี่ห้อข้าวที่จัดเก็บมาตรวจ แต่จะเปิดเผยเฉพาะยี่ห้อที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานที่ดีเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการที่ดี
ถ้าแน่จริงก็เปิดโกดังรัฐทั้งหมดให้ตรวจสอบ กล้าๆหน่อยแล้วจะรุ่ง
“ปู”ขู่ฟ้องคนแฉข้าวเน่า เสียงอ่อยถุงรั่วในบางจุด ทีมสอบสวนพบอีก8โรงสี
เสียงอ่อยถุงรั่วในบางจุด
ทีมสอบสวนพบอีก8โรงสี
ส่อแววโกง-ห้ามรับจำนำ
พานิชย์เปิดTORระบายข้าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ยอมรับว่าไม่สบายใจหลังมีกระแสข่าวข้าวถุงไม่ได้คุณภาพ พร้อมระบุการที่ข้าวถุงจะมีปัญหา เราคงต้องตรวจเฉพาะจุด ไม่ได้หมายความว่าขั้นตอนการปฎิบัติจะทำให้ข้าวถุงทุกรายหรือทั้งประเทศมีปัญหา ต้อขอความร่วมมือช่วยกันสร้างความมั่นใจ เพราะข้าวเป็นรายได้หลักของประเทศ และได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพมาตลอด
“รัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่น แต่ขอความกรุณาอย่าปล่อยข่าวลือ การเสนอข่าวให้ความเป็นธรรมบ้าง อย่ามองรวมเป็นข้าวถุงหรือเป็นข้าวไทยทั้งหมดทั้งประเทศ จะทำให้เสียความเชื่อมั่น บางครั้งเป็นข่าวลือ และไม่ได้เกิดความผิดพลาดที่โรงงาน อาจเกิดจากขั้นตอนเล็กน้อยหรือการบรรจุถุงอาจรั่ว คงต้องตรวจสอบก่อน อย่ามองเป็นภาพรวมทั้งหมด”นายกฯกล่าว
เล็งฟ้องตบปากคนปล่อยข่าวลือ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้ายังหยุดข่าวลือไม่ได้จะใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการกับผู้ปล่อยข่าวหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า คงต้องดำเนินการ ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายก็ออกมายืนยันแล้ว ขอความร่วมมือสื่อมวลชน อะไรที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ข่าวออกไปจะเป็นการมองภาพทั้งประเทศ เพราะบางครั้งประเด็นนิดเดียวก็ไม่ควรไปอยู่บนหน้าหลักของสื่อ ส่วนกรณีฝ่ายค้านออกมาเปิดเผยข้าวเน่าหลายพื้นที่นั้น ยืนยันว่ารัฐบาลตรวจสอบตลอดถ้ามีข้อมูล แต่การบอกทั้งระบบตรวจสอบยาก ถ้ามีระบุจุดไหนอย่างไร ตรวจสอบได้ง่ายกว่า ก็ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงาน
ผลเช็คสต๊อกโรงสี8จุดส่อโกง
ส่วนความคืบหน้าการลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกและข้าวสารในโรงสีและโกดังกลางที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวทั่วประเทศ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือขององค์การคลังสินค้า(อคส.)และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้รอการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลปริมาณสต๊อกข้าวของรัฐบาลจากกระทรวงเกษตร ในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่กลางน้ำว่ามีผลตรงกับพื้นที่ปลายน้ำที่ดำเนินการตรวจสอบเสร็จแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะกระบวนการสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารในแต่ละพื้นที่ว่าส่งเข้าคลังเก็บข้าวกลางของรัฐบาลครบถ้วนหรือไม่ หากผลตรวจสอบออกมาว่าปริมาณสต๊อกข้าวในแต่ละพื้นที่ไม่ตรงกัน แสดงว่ามีการทุจริตปริมาณข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ในพื้นที่ใด นอกจากถูกดำเนินคดีแล้ว จะถูกขึ้นบัญชีดำไม่ให้เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลอีกต่อไป
รองเลขาธิการนายกฯกล่าวอีกว่า ในพื้นที่ปลายน้ำ ล่าสุดมีโรงสีข้าวมีความน่าสงสัยประมาณ 8 จุด และดำเนินคดีไปแล้วประมาณ 6-7 คดี โดยเฉพาะผู้ประกอบการโรงสีและโกดังกลางจะนำข้าวมาเวียนใหม่ ซึ่งการที่รัฐบาลลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีและโกดังกลางพร้อมกันทั่วประเทศ ช่วยให้ไม่สามารถนำปริมาณข้าวมาเวียนใหม่ได้อีก จากนั้นเจ้าหน้าที่จะหาเอกสารหลักฐานข้อเท็จจริงว่าผู้ที่ถูกตั้งข้อสงสัยมีความผิดจริงหรือไม่ต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรม
เปิดTORระบายข้าวรัฐ3.5แสนตัน
วันเดียวกัน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร อนุมัติการเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำฤดูกาล 2554/55 แบ่งเป็น 2 ล็อต ได้แก่ ข้าวสารเจ้า 5% ปริมาณ 1.528 แสนตันเศษ เพื่อใช้ส่งออก และข้าวปลายข้าวสารเจ้า เอ วัน เลิศ ปริมาณ 2 แสนตัน เพื่อใช้ในประเทศและการส่งออก โดยให้ผู้ประกอบการที่สนใจยื่นซองประกวดราคาวันที่ 26 กรกฎาคม และจะเปิดซองประกวดราคาในวันที่ 29 กรกฎาคม
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การเปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลล็อตนี้ ให้เสนอราคาในรูปเงินบาทตามราคาหน้าคลัง (เอ็กแวร์เฮ้าส์) โดยคณะอนุกรรมการระบายข้าวสาร จะมีราคากลางเป็นเกณฑ์ไว้ เพื่อต่อรองราคากับผู้เสนอราคาเข้ามาสูงสุด ซึ่งราคากลางจะยึดราคาตลาดปัจจุบันเป็นหลัก นอกจากนี้ ในอีก 1-2 วัน จะเปิดประมูลข้าวเปลือก เพื่อทำข้าวนึ่งส่งออกเพิ่มเติม ปริมาณ 2 แสนตัน
นพ.วรงค์-บุญยอดเก้ออดโชว์ซุกข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางเข้าทำเนียบฯมาพบทีมโฆษกรัฐบาล เพื่อสาธิตการนำข้าวเน่าข้าวเหลืองเสื่อมคุณภาพซ่อนไว้ตรงกลาง หรือที่เรียกว่าการหยอดข้าวลงหลุม ที่ฝ่ายค้านเคยแถลงข่าว แต่โฆษกรัฐบาลออกมาตอบโต้และท้าทายให้มาสาธิตวิธีการดังกล่าวเพราะเชื่อว่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงต้องการมาชี้แจง ปรากฏว่าทีมโฆษกรัฐบาลไม่อยู่เดินทางร่วมขบวนทัวร์นกขมิ้นไปกับนายกรัฐมนตรี นพ.วรงค์จึงนัดหมายจะมาอีกครั้งวันที่ 17 กรกฎาคม
ยันมีหลักฐานโกงจี้เปิดบัญชีระบายข้าว
โดยนพ.วรงค์กล่าวว่า ตนต้องการชี้ให้เห็นว่าการซุกข้าวเน่ามีจริง และเป็นอุปสรรคในการระบายข้าวของรัฐบาล ทำให้ประเทศคู่ค้าไม่มั่นใจคุณภาพ จึงอยากให้ตรวจสอบเชิงคุณภาพด้วย ส่วนที่นายกฯ ออกมาระบุว่ามีข้าวเน่าทำให้รัฐบาลเสียหาย ตนยืนยันว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และฝ่ายค้านมีหลักฐานทุจริต และรัฐบาลต้องยอมรับความจริง
นพ.วรงค์ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลเปิดตัวเลขการระบายข้าวแบบจีทูจี เพราะมีตัวละครใหม่เป็นผู้หญิงเข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายข้าว แล้วเซ็นชื่อด้วยภาษาจีน รัฐบาลต้องชี้แจง การที่รัฐบาลตั้งเป้าระบายข้าวเดือนละ 5 แสนตันนั้น จะทำให้ขาดทุนมากกว่าเดิม และคาดว่ารัฐบาลจะขายข้าวสารได้ไม่เกินตันละ 1.3 หมื่นบาท ทั้งที่ควรจะขายได้ราคาตันละ 2.4 หมื่นบาท และตนไม่เชื่อว่าแผนการระบายข้าวจะประสบความสำเร็จ
“มาร์ค”เมินนายกฯสั่งฟันปูดข้าวเน่า
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีนายกฯระบุจะดำเนินคดีกับผู้ปล่อยข่าวลือข้าวเน่าว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านพูดเป็นข้อเท็จจริง นายกฯน่าจะไปเตือนคนของตัวเองมากกว่าที่ออกมาบอกว่าเป็นการเล่นการเมือง แต่สุดท้ายกรมป้องกันสาธารณภัยก็ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องจริง การฟ้องร้องคนที่พูดความจริงน่าเป็นห่วง พวกตนยืนยันและเตือนผลกระทบจากโครงการจำนำข้าวมานานแล้ว นายกฯน่าจะไปดูสิ่งที่เป็นปัญหากระทบส่วนรวมสมมติฝ่ายค้านพูดไม่จริงทำผิดกฎหมาย รัฐบาลก็ดำเนินการอยู่แล้ว ไม่เห็นว่ามีเรื่องไหนที่ละเว้น
การที่นายกฯระบุจะดำเนินคดีกับคนที่พูดเรื่องข้าวเน่า คงหยุดปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวไม่ได้ และไม่ว่าจะเป็นนายกฯ รัฐมนตรีหรือใครก็ตามที่พยายามจะบอกให้ทุกคนไม่พูดเรื่องนี้ ปัญหาไม่หายไป รัฐบาลควรกลับไปแก้ปัญหาดีกว่า
ซัดรัฐบาลคนล้มข้าวตัวจริง
“ผมยืนยันว่าคนล้มข้าวตัวจริงคือ รัฐบาลนี้ที่ใช้นโยบายผิด ทำลายอุตสาหกรรมข้าวไทย แข่งขันไม่ได้ เพราะเริ่มต้นจำนำสูงกว่าราคาตลาด และรัฐบาลถือสต๊อกข้าวมหาศาลอยู่ในมือ” นายอภิสิทธิ์กล่าว และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการระบายข้าวอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมเปิดเผยตัวเลขการระบายข้าว รายละเอียดสัญญาจีทูจี การอ้างเป็นความลับแต่สุดท้ายก็ต้องเปิดเผยรายได้ของรัฐบาลอยู่ดี
หวังปปช.เร่งสรุปสอบโกงจำนำ
ส่วนการตรวจสอบเช็คการระบายข้าวจีทูจี 80,000 บาทที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จะรอผลการตรวจสอบของป.ป.ช. เชื่อป.ป.ช.จะเร่งพิจารณา เพราะถ้าสรุปออกมาก็จะเป็นตัวที่ทำให้รัฐบาลต้องดูว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่ถ้าปล่อยทิ้งไปเรื่อย ๆ ปัญหาจะสะสม และเดือนตุลาคมที่รัฐบาลต้องกำหนดแนวทางสำหรับฤดูกาลใหม่จะได้สอดรับกับความจำเป็นในการแก้ปัญหาการทุจริตด้วย
“สารี”แถลงผลตรวจข้าวถุง
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า วันที่ 16 กรกฎาคม เวลา 13.30 น. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และมูลนิธิชีววิถีไทยจะแถลงข่าวผลการเก็บตัวอย่างข้าวสุ่มตรวจมาตรฐาน ซึ่งจัดเก็บตัวอย่างข้าว 46 ยี่ห้อ 46 ตัวอย่างจากท้องตลาด โดยมูลนิธิจะเปิดเผยรายชื่อยี่ห้อข้าวที่จัดเก็บมาตรวจ แต่จะเปิดเผยเฉพาะยี่ห้อที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐานที่ดีเท่านั้น เพื่อให้ผู้บริโภคสนับสนุนผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการที่ดี
ถ้าแน่จริงก็เปิดโกดังรัฐทั้งหมดให้ตรวจสอบ กล้าๆหน่อยแล้วจะรุ่ง