ข้อ 42 ..Vi & Vs..อย่าซื้อขายหุ้นเพียงเพราะ ...หมดความอดทน...ในราคาหุ้นที่รออยู่ เพราะอาจมีคนใจเย็นกว่าจ้องลงมือสวนการลงมือของตัวเราเอง
(อธิบาย ... คนส่วนใหญ่แพ้ตลาดด้วยอารมณ์ตนเอง ไม่อดทน รีบร้อนเหมือนจะไปแย่งเงินเขา ทั้งที่ไม่มีแผนการใดๆ รองรับการลงมือครั้งนั้นเลย อย่าลืมว่า ในหุ้นแต่ละตัวจะมีคนหลากหลายสถานะจ้องอยู่เสมอ เขาอาจเป็นรายใหญ่กว่า รู้เกมดีกว่า ฉลาดกว่าเราเสมอ จ้องลงมือตามหลังเรา แต่ที่สำคัญ ทำสวนทางกับตัวเรา นี่คือเรื่องน่าเจ็บปวดยิ่งนัก)
ข้อ 43 .. Vi & Vs..อย่าขายหุ้นเพราะคิดว่าราคาแพง จงขาย เพราะหุ้นตัวนั้นขึ้นต่อไม่ได้อีกแล้ว
(อธิบาย ... บ่อยครั้งที่มักได้ข่าวจากรอบข้างว่า ตอนนี้หุ้นตัวนี้ราคาแพงแล้ว แต่ไม่บอกว่าแพงเพราะอะไร ทำไมแพง เท่าใดจึงถูก หากพบเจอข่าวแบบนี้ทั้งที่ตัวเราเองมีหุ้นนั้นครอบครองอยู่ จงรีบตรวจสอบราคาหุ้นว่า เคยขึ้นกี่ % ในระยะเวลาเท่าใด และบัดนี้ ขึ้นช้าลงหรือ วกวนอยู่กรอบราคาแคบๆนี้ นานแล้ว จึงค่อยตัดสินใจปล่อยออก อย่าดื้อรั้นถือ และก็อย่ารีบร้อนเชื่อข่าวตามความกลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อมเสมอๆ โดยเฉพาะข่าวจากนักวิชาการ )
ข้อ 44..Vi & Vs.. ผู้ประสบผลสำเร็จต้องชนะ...จุดอ่อน... ของผู้อื่นให้ได้
(อธิบาย ... ในตลาดหุ้นมีคนมากมาย แต่ส่วนใหญ่มีจุดอ่อนที่ใจ ความฉลาดหรือกลยุทธการเล่นอาจรู้เรียนเท่าทันได้ แต่อารมณ์ในใจ ควบคุมยากและแตกต่างกันราวฟ้าดิน คนที่จะชนะเอากำไรได้ดี ต้องชนะจุดอ่อนคนในตลาดภาครวมให้ได้)
ข้อ 45 ..Vs.. เมื่อมีกำไรมาก ๆ จงลดจำนวนซื้อให้น้อยลง มิเช่นนั้นกำไรที่ได้อาจหายเกลี้ยงชั่วข้ามคืน
(อธิบาย ... ตลาดจะไม่ยืนแจกเงินให้คนเล่นยาวนาน แต่หากมีเวลาเอาคืนก็หนักหนาสาหัสและรวดเร็วเช่นกัน จนทำให้เกิดการตื่นตระหนกได้ ถึงตอนนั้น แม้ขอกำไรคืนสักเล็กน้อยก็ไม่ให้ อย่าหวังเลย )
ข้อ 46 .. Vi & Vs..คนเล่นหุ้นมีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ การตั้งความหวังเป็นตัวเลขเกินจริง และต้องผิดหวังเสมอ จงเล่นหุ้นตามทิศทางตลาด ให้ตลาดกำหนดกำไรให้เราดีกว่า จนเกิดภาษิตที่ว่า ...กำไรตลาดเป็นผู้ให้ ส่วนขาดทุนเรานั่นแหละทำเอง....
(อธิบาย...คนเล่นหุ้นมักมีความคิดยะโสในปัญญาตนเอง คิดว่าตนเองเก่งความรู้สูงอ่านงบออกเข้าใจตลาดดี แต่โดยส่วนใหญ่สุดท้ายมักแพ้ตลาดจนต้องคอตกออกจากตลาดไป แม้เป็นนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญ หากวันใดออกจากระบบเงินเดือน มาลงมือเองจะพบความพ่ายแพ้ชัดเจน เหตุผลง่ายๆ สองข้อ คือ ตลาดคือระบบมีคนได้ต้องมีคนเสียเสมอๆ เพื่อชดเชยกัน ตลาดจะมีแนวโน้มของมันเองตามกระแสรวม ใครจะมาเก่งสวนกระแสแนวโน้มก็รอวันขาดทุนไป ใครจะลงมือ 100 ครั้งกำไร 100 ครั้งไม่มี ตลาดไม่ยอมให้แน่ๆ อย่าหวังเสียให้ยาก)
ตำราเล่นหุ้น.....(ตอน 10 )
(อธิบาย ... คนส่วนใหญ่แพ้ตลาดด้วยอารมณ์ตนเอง ไม่อดทน รีบร้อนเหมือนจะไปแย่งเงินเขา ทั้งที่ไม่มีแผนการใดๆ รองรับการลงมือครั้งนั้นเลย อย่าลืมว่า ในหุ้นแต่ละตัวจะมีคนหลากหลายสถานะจ้องอยู่เสมอ เขาอาจเป็นรายใหญ่กว่า รู้เกมดีกว่า ฉลาดกว่าเราเสมอ จ้องลงมือตามหลังเรา แต่ที่สำคัญ ทำสวนทางกับตัวเรา นี่คือเรื่องน่าเจ็บปวดยิ่งนัก)
ข้อ 43 .. Vi & Vs..อย่าขายหุ้นเพราะคิดว่าราคาแพง จงขาย เพราะหุ้นตัวนั้นขึ้นต่อไม่ได้อีกแล้ว
(อธิบาย ... บ่อยครั้งที่มักได้ข่าวจากรอบข้างว่า ตอนนี้หุ้นตัวนี้ราคาแพงแล้ว แต่ไม่บอกว่าแพงเพราะอะไร ทำไมแพง เท่าใดจึงถูก หากพบเจอข่าวแบบนี้ทั้งที่ตัวเราเองมีหุ้นนั้นครอบครองอยู่ จงรีบตรวจสอบราคาหุ้นว่า เคยขึ้นกี่ % ในระยะเวลาเท่าใด และบัดนี้ ขึ้นช้าลงหรือ วกวนอยู่กรอบราคาแคบๆนี้ นานแล้ว จึงค่อยตัดสินใจปล่อยออก อย่าดื้อรั้นถือ และก็อย่ารีบร้อนเชื่อข่าวตามความกลัว เพราะความกลัวทำให้เสื่อมเสมอๆ โดยเฉพาะข่าวจากนักวิชาการ )
ข้อ 44..Vi & Vs.. ผู้ประสบผลสำเร็จต้องชนะ...จุดอ่อน... ของผู้อื่นให้ได้
(อธิบาย ... ในตลาดหุ้นมีคนมากมาย แต่ส่วนใหญ่มีจุดอ่อนที่ใจ ความฉลาดหรือกลยุทธการเล่นอาจรู้เรียนเท่าทันได้ แต่อารมณ์ในใจ ควบคุมยากและแตกต่างกันราวฟ้าดิน คนที่จะชนะเอากำไรได้ดี ต้องชนะจุดอ่อนคนในตลาดภาครวมให้ได้)
ข้อ 45 ..Vs.. เมื่อมีกำไรมาก ๆ จงลดจำนวนซื้อให้น้อยลง มิเช่นนั้นกำไรที่ได้อาจหายเกลี้ยงชั่วข้ามคืน
(อธิบาย ... ตลาดจะไม่ยืนแจกเงินให้คนเล่นยาวนาน แต่หากมีเวลาเอาคืนก็หนักหนาสาหัสและรวดเร็วเช่นกัน จนทำให้เกิดการตื่นตระหนกได้ ถึงตอนนั้น แม้ขอกำไรคืนสักเล็กน้อยก็ไม่ให้ อย่าหวังเลย )
ข้อ 46 .. Vi & Vs..คนเล่นหุ้นมีนิสัยเสียอยู่อย่างหนึ่งคือ การตั้งความหวังเป็นตัวเลขเกินจริง และต้องผิดหวังเสมอ จงเล่นหุ้นตามทิศทางตลาด ให้ตลาดกำหนดกำไรให้เราดีกว่า จนเกิดภาษิตที่ว่า ...กำไรตลาดเป็นผู้ให้ ส่วนขาดทุนเรานั่นแหละทำเอง....
(อธิบาย...คนเล่นหุ้นมักมีความคิดยะโสในปัญญาตนเอง คิดว่าตนเองเก่งความรู้สูงอ่านงบออกเข้าใจตลาดดี แต่โดยส่วนใหญ่สุดท้ายมักแพ้ตลาดจนต้องคอตกออกจากตลาดไป แม้เป็นนักวิเคราะห์ที่เชี่ยวชาญ หากวันใดออกจากระบบเงินเดือน มาลงมือเองจะพบความพ่ายแพ้ชัดเจน เหตุผลง่ายๆ สองข้อ คือ ตลาดคือระบบมีคนได้ต้องมีคนเสียเสมอๆ เพื่อชดเชยกัน ตลาดจะมีแนวโน้มของมันเองตามกระแสรวม ใครจะมาเก่งสวนกระแสแนวโน้มก็รอวันขาดทุนไป ใครจะลงมือ 100 ครั้งกำไร 100 ครั้งไม่มี ตลาดไม่ยอมให้แน่ๆ อย่าหวังเสียให้ยาก)