ขอเล่าความเป็นมาก่อนซื้อรถคันนี้ครับ เนื่องจากตอนแรกผมไม่ได้กะจะซื้อรถรุ่นนี้เลย

แต่เนื่องจากรถคันเดิมพบปัญหาบ้าง เอาเข้าศูนย์ ก็อย่างว่า ศูนย์บริการไม่มีการพัฒนา ทำให้ผมโมโห ขายคันดังกล่าวทิ้ง แล้วทำการซื้อคันใหม่เลยครับ ผมเลยเข็ดกับการซื้อรถที่การบริการหลังการขายไม่ได้เรื่องถึงแม้ว่าจะเป็นรถที่ดี และสวยก็ตาม

Review ที่ผมเคยทำเอาไว้
Review Honda City 2011 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2011/02/V10215661/V10215661.html
Review Honda Civic FD 2010 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/11/V9893796/V9893796.html
Review Ford Everest 2009 http://topicstock.pantip.com/ratchada/topicstock/2010/02/V8915836/V8915836.html

ทำไมเป็นถึงต้องเป็น Civic FB 2012

รถที่ผมอยากใช้ ก็เป็นรถ Compact Car ครับ ซึ่งผมก็ดูไว้ทั้ง CivicFB LancerEX Cruze Mazda3 หรือแม้กระทั่ง Sylphy และ Pulsar ที่(ตอนนั้น)ยังไม่ได้เปิดตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมก็ตัดสินใจไปที่ Civic FB ทั้งๆ ที่ตอนแรกเห็นรูปก็บอกว่าไม่สวย ไปดูตัวจริงก็ดีกว่าในรูปหน่อย แต่ไม่ได้สวยอะไร แต่เลือกเพราะที่ใช้ Honda มา หลังการขายไม่เคยมีปัญหาเลย

ทำไมต้อง Civic FB
- E85 ประหยัดค่าน้ำมัน
- บริการหลังการขายของ Honda ดีพอสมควร
- ภายในนั่ง OK ไม่อึดอัด
- ขับสนุก
- สดใหม่ เพิ่งออก
- แฟนชอบรุ่นนี้ที่สุด (อันนี้สำคัญมาก)

ทำไมไม่เอา Lancer EX ทั้งๆ ที่ราคา OK Option เพียบ
- ซดน้ำมัน
- แฟนไม่ชอบ (เลยต้องโดนตัดทิ้งอย่างรวดเร็ว)

ทำไมไม่เอา Cruze
- เข้าไปอ่านใน Club แล้วปัญหาเพียบ
- แรกๆ สวยมาก แต่ดูไปดูมา กลับไม่ค่อยชอบ

ทำไมไม่เอา Mazda3
- นั่ง-ขับแล้ว อึดอัด
- ราคาตามงบที่ตั้งไว้ ได้แค่ 1.6 อืด และกินน้ำมัน

ทำไมไม่เอา Sylphy
- กว่ารถจะออก และได้รถ ต้องรออีกซักระยะ
- ศูนย์ nissan บริการยังไม่ค่อยคงเส้นคงวา

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เลยเป็นที่มาของ FB

ส่วนรุ่นของ FB นั้น ตอนที่ซื้อ มีดังนี้

1.8S/MT 773000
1.8S/AT 828000
1.8E/AT 909000
1.8E/AT Navi 964000
2.0EL/AT Navi 1124000

ทำไมผมถึงเลือก 1.8S/AT
เนื่องด้วยตอนแรก จริงๆ ผมชอบรุ่น 1.8E/AT เนื่องจาก Option ที่ครบครัน และจะเอาไปทำเครื่องเสียงเอง รวมทั้งระบบ Navi ของ Honda ยังไม่ดีพอสำหรับผม ผมเลยอยากได้รุ่น E/AT มากที่สุด แต่พอเปรียบเทียบราคากับ 1.8S/AT แล้ว Option ที่ได้เพิ่มมา กับราคาที่ต่างกัน 81000 บาท สำหรับผม มันไม่คุ้มค่าเลย ก็เลยลดลงไปดูรุ่น 1.8S แทน อยากได้ Option อะไร เอาไปทำเองได้หมด อันไหนที่ไม่ได้ใช้ก็ไม่ต้องทำ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ)

รูปภายนอก
















ด้านข้าง


ไฟหน้า Projector เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นครับ


ไฟท้าย


กันสาดแท้ สมัยนี้ มี Logo รุ่นติดที่คู่หน้าแล้วนะครับ


ปลายท่อไอเสียสแตนเลส


Mag ขอบ 15 มาพร้อมยาง Bridgestone B390 195/65R15 แบบว่า เปลี่ยนเหอะ แต่ยางไม่หมดซะที เสียดาย

ภายใน


เปิดเข้ามา มุมแรก


คอนโซล ที่ทุกคนว่าเอียง มันเอียงจริงครับ ตอนแรกผมก็ไม่ชอบ แต่ลองไปขับสิครับ ติดใจ คอนโซลแบบนี้เอาใจคนขับรถมากครับ กด ปรับ มอง ง่ายมาก ไปขับคันอื่นนี่รู้สึกว่าไม่ชอบเลย ชอบ Civic FB นี่แหละ

เครื่องเสียงที่แถมมา ต่อ iPod ได้ เล่น CD USB AM/FM ได้ แต่เสียง กับกำลังขับไม่ดี ก็เลยจัดการเปลี่ยนยกชุดออกไปแล้วครับ


คอนโซลฝั่งซ้าย


คันเกียร์กับเบรคมือ จริงอยู่ว่ามันธรรมดาไป เมื่อเทียบกับตัวเก่า แต่แบบนี้ ใช้ถนัดมือกว่าครับ


เบาะผ้า สีเบจ ผมว่าสวยกว่าสีเทา และไม่อึดอัดเหมือนสีดำครับ แต่ก็เปื้อนง่ายอยู่ครับ


วัสดุ ดูแย่ลงครับ แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร ผมยัง OK อยู่ เพราะไปดูก่อนซื้ออยู่แล้ว

ห้องเครื่อง





อื่นๆ


กุญแจพับได้ มีปุ่มเปิดฝาท้าย


ฟิล์มบานหน้า 3M 9901 กันร้อนดีสมราคา ขับกลางคืนสบายๆ
ฟิล์มบานหลัง 3M FXR20 มีปรอท กันร้อน ดี กลางคืนมองหลัง ก็ยังใช้ได้

รูปรถปัจจุบัน
เหลือแค่ Mag ที่ยังไม่ได้เปลี่ยน รอยางเดิมหมดครับ











การใช้งาน
เครื่องยนต์ประหยัดมากพอควร ใช้ E85 ได้ อาจจะอืดลงหน่อย แต่ไม่ได้มากมาย ใช้งานได้ตามปกติทั้งเร่งแซง ขึ้นเขา ช่วงล่างอยู่ในเกณฑ์ดีเพียงพอกับการใช้งานปกติ แต่สู้พวก Cruze Focus EX Mazda3 ไม่ได้ครับ ช่วงล่างออกแนวกระด้าง ตึงตังหน่อย การเปลี่ยนเลนเร็วๆ ดีกว่า FD ครับ พวงมาลัยเบา คล่องตัวในเมือง แต่นอกเมือง ความเร็วสูงๆ น่าจะมีน้ำหนักมากกว่านี้หน่อย เบาะนั่งก็ OK ขับ กทม.-เชียงใหม่ ก็สบายๆ ครับ ไม่เครียด ไม่เหนื่อย

อัตราการใช้น้ำมัน (ผมค่อนข้างเท้าหนักนะ)
โดยทั่วไป ใช้ในเมืองเชียงใหม่ รถติดเยอะๆ ก็ได้ราวๆ 8.5-9 ก.ม./ลิตร
ถ้าไม่ค่อยติดก็จำได้ราวๆ 10 ก.ม./ลิตร
วิ่งทางไกล ที่ความเร็ว 120 จะอยู่ราวๆ 13 กว่าๆ ก.ม./ลิตร
ถือว่าประหยัดน้ำมันมาก สำหรับการวิ่งทางไกล ราวๆ 1.7 บาท/ก.ม.

โดย 1 ปีที่ผ่านมา ผมวิ่งไปราวๆ 19002 ก.ม. ใช้น้ำมันไป 2065 ลิตร ใช้เงินไป 47680 บาท ก็เฉลี่ย ก.ม. ละ 2.5 บาท การกินน้ำมันเฉลี่ย 9.202 ก.ม./ลิตร ครับ ซึ่งถ้าเทียบกับ Honda City รุ่นปัจจุบันแล้ว ถ้าใช้ E20 ก็มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ย ก.ม. ละ 2.5 บาท ไม่ต่างกันเลยครับ แต่ Civic ได้เครื่องที่แรงกว่า และช่วงล่างดีกว่า ความคล่องตัวก็ไม่ได้ต่างกันเลย

Civic FB ใช้ E20 จะมีค่าใช้จ่ายที่ ก.ม. ละประมาณ 3.0 บาทครับ จริงอยู่ ที่ 1 ลิตรวิ่งได้มากกว่า แต่เนื่องด้วยน้ำมันแพงกว่า จึงมีค่าใช้จ่ายต่อ ก.ม. ที่สูงกว่า E85 ครับ

สรุป E85 ประหยัดที่สุดกับ Civic ครับ

ปล.น้ำมันที่เชียงใหม่ แพงกว่า ก.ท.ม. 75 สตางค์ครับ

ปัญหาของรถ
ด้านปัญหาของรถนั้น มีเหมือนกันครับ แต่ทาง Honda ได้แก้ไขทุกปัญหาของผมจบได้ด้วยดีทั้งหมดครับ ซึ่งผิดกับศูนย์บริการรถบางยี่ห้อ ที่แม้แต่เห็นอาการ ก็ไม่แก้ไขให้ ต้องให้ complain ก่อน

วันที่ 21 ก.ค. 55
นำรถเข้าตรวจสายพานมีเสียงดัง ตรวจสอบแล้ว ช่างแจ้งว่าพูเลสายพานแกว่งนิดนึง เลยทำเรื่องเคลมพูเล แล้วทำการนัดหมายอีกครั้ง

วันที่ 24 ก.ค. 55
นำรถเข้าเปลี่ยนพูเล ตามนัดหมาย ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. ก็เสร็จ แต่อาการไม่หายครับ จึงต้องกลับบ้านก่อน แล้วเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อให้ช่างเทคนิคเข้ามาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งแจ้งปัญหาสนิม

วันที่ 8 ส.ค. 55
ช่างเทคนิดฮอนด้า มาจาก กทม. โดยนำรถ FB สีดำ มาด้วย ได้ทำการตรวจเช็ค และทำการสลับสายพานจากรถคันที่ขับมา มาใส่รถผม ปรากฎว่าหายครับ แล้วนำสายพานตัวปัญหาไปใส่รถช่าง ทำให้รถช่างพูเลแกว่ง ดังนั้นได้ขอสรุป ว่าสายพานมีปัญหา แต่ดูด้วยตาไม่เห็น ต้องส่งตรวจสอบ และให้ผมใช้สายพานที่ไม่มีปัญหาไปเลย แล้วทำการสั่งสายพานเบิกใหม่มาเปลี่ยนให้อีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งปัญหากระจกมองหลังมีเสียง

ส่วนเรื่องสนิม ช่างบอกยินดีเปลี่ยนให้ แต่เปลี่ยนแล้วไม่รับประกันว่าจะหายหรือไม่ ผมจึงบอกไปว่า รอดูผลสรุปท้ายที่สุดของเรื่องนี้ก่อน ถ้าแก้ไขปัญหา Part แล้ว สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้เลย โดยเบื้องต้น ด้านหลังศูนย์ได้ขัดนิมออก และพ่นสีกันสนิมไว้แล้ว ส่วนด้านหน้า รอดูสถานการณ์อีกครั้ง แต่ไม่มีผลกับการใช้งานแน่นอน

วันที่ 11 ส.ค. 55
นำรถเข้าเปลี่ยนสายพานเส้นที่เปลี่ยนมาใหม่ เงียบกริบ เรียบร้อย

วันที่ 18 ส.ค. 55
อาการกระจกมองหลังมีเสียง มีอาการพอดี เลยขับเข้าศูนย์ เพื่อทำการอัดวีดีโอ และทำเรื่องเคลม

วันที่ 24 ส.ค. 55
เข้าไปเคลมกระจกมองหลัง ซึ่งพอเปลี่ยนมาก็เรียบร้อย เงียบกริบเลยครับ

ทิ้งท้าย


รูปรุ่นพี่ รุ่นน้อง


มันเหมือน City ตรงไหนหว่า ก็แค่คล้าย ก็เหมือนๆ กับ BMW แหละ 3 5 ก็คล้าย หรือแม้แต่ Altis และ Vios ใหม่ ก็คล้าย หรือมองไปถึง Sylphy+Teana

สรุป
รถคันนี้ ซื้อมาไม่ผิดหวังเลยครับ ลดค่าน้ำมันจากคันเก่าได้เยอะพอควร อะไหล่-อุปกรณ์ที่ซื้อมาแล้วบางตัว ราคาไม่แพง ของแต่งเยอะ ช่วงล่างอยู่ในระดับดี เพียงพอต่อการใช้งานปกติ ระบบและระยะเบรคดีใช้งานได้เป็นอย่างดี หน่วงความเร็วเวลากระทันหันได้ดี และจะดีขึ้นถ้าเปลี่ยนยางและผ้าเบรคให้ดีขึ้นอีก และที่สำคัญ ศูนย์บริการมีการรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์สูงมาก เรียกได้ว่าพบเจออาการ แก้-เคลมให้หมด ไม่มีการงอแง เรียกว่าคุ้มราคามากครับ

ให้คะแนน 4.5/5 ครับ
เนื่องจากวัสดุยังไม่อยู่ในเกณฑ์ดี ช่วงล่างยังสู้บางยี่ห้อไม่ได้ และ Mag ไม่มีความสวยเลย และเสียงลมเวลาใช้ความเร็ว มีพอควร การเก็บเสียงไม่ค่อยดีครับ

ปล. บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น อาจจะขัดใจใครไปบ้างก็ขออภัยครับ