ทำไมฝนตกแล้วไฟฟ้าต้องดับ

อยากทราบจริงๆครับ  ขอความรู้หน่อย ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาให้ความรู้ด้วยครับ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
สาเหตุของไฟฟ้าดับ กรณีฝนตก หรือฝนไม่ตกมีหลายกรณีคับ ข้อแยกเป็นข้อๆดังนี้

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าระบบจำหน่ายไฟฟ้าในบ้านเราเป็นแบบอยู่บนดิน ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงกับการกระทบกระเทือนอยู่แล้ว...

ปัญหาคือ
1.ปัญหาจากสัตว์  เช่น งู นก ซึ่งพบมาก มาเกาะจุดที่ติดตั้งหม้อแปลง ทำให้ไฟฟ้าแรงสูงไหลผ่านตัวสัตว์เหล่านั้น ลงกราวด์ที่เสาไฟ ส่งผลให้ ดรอปเอาว์ฟิวส์แรงสูงที่หม้อแปลงระเบิด (ตามภูมิภาคจะพบบมาก )
2.ปัญหาจาก ต้นไม้  เพราะระบบจำหน่ายไม่ใช่มีระยะทางแค่ 1-2 กม. แต่บางวงจรมีระยะทางถึง 30 กม. หากมีจุดที่ต้นไม้ เช่น ต้นมะพร้าว กิ่งมาโดนสายไฟ ก็สามารถทำให้ไฟดับได้เช่นกัน (ในปัจจุบันเพื่อให้มีผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟน้อยที่สุด การไฟฟ้าจะติดตั้งฟิวส์แรงสูง ตามจุดต่างๆ เพื่อที่จะตัดจุดลัดวงจรนั้นออกจากระบบ )
3.ปัญหาจาก ตัวอุปกรณ์ เช่น ลูกถ้วย , สายแรงสูงขาด ,หม้อแปลงชำรุด หรือ อุปกรณ์ประกอบต่างๆ มากมาย  เนื่องจากติดตั้งมาจากหลายสิบปี โอกาสเสื่อมคุณภาพ ความเป็นฉนวนจึงเป็นอีกปัญหาหนึ่ง
4.ปัญหาจากรถยนต์ชนเสา  นี้ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
5.ปัญหาจาก ภัยธรรมชาติ เช่นฟ้าผ่า ลมพายุพัดแผ่นสักกะสีหรือ สิ่งต่างๆ มาพันสายแรงสูง

จากตัวอย่างที่ว่ามานี้เป็นเพียงหัวข้อใหญ่ๆเท่าที่ จขกท. กล่าวถึง และยังไม่ได้กล่าวถึงสาเหตุเล็กๆอีกมาก

ดังนั้นจึงขอให้เข้าใจตรงกันว่า เวลาฝนตก การไฟฟ้าไม่ได้ดับไฟนะครับ เพราะ เวลาฝนจะตกแต่ละที พวกเราได้แต่ภาวนาว่าพายุอย่าเข้าเลย  ไฟอย่าดับเลย  แต่เมื่อไฟดับเราก็พร้อมที่จะออกไปทำ แม้แต่ทำงานกลางสายฝน เพื่อให้ไฟฟ้าติดให้เร็วที่สุด
ความคิดเห็นที่ 21
เพิ่มเติมนิดนึงนะครับ เสต็ปการทำงานง่ายของระบบจำหน่ายไฟฟ้าครับ

หากเกิดมีสิ่งผิดปกติเข้ามาในระบบสายส่ง จะทำให้เกิดกระแสเกินซึ่งอาจเกิดอันตรายต่ออุปกรณ์การจ่ายไฟหลักๆ ซึ่งถ้าเกิดจริงๆจะทำให้เสียเวลามากในการซ่อมแซม(ไฟดับนานโคตร) จึงออกแบบให้มีการตัดวงจรไฟฟ้าออกไปครับ  โดยมีเสต็ปดังนี้

1. เมื่อตรวจจับกระแสเกินได้ครั้งแรก จะตัดวงจรออกเพียงแค่ 1/10 วินาที (ถ้าตามองทันจะเห็นเป็นกระพริบแว้บๆ) ออกแบบไว้สำหรับเผื่อว่าเป็นลักษณะเช่นกิ่งไม้พาดสายชั่วคราว แล้วก็ร่วงไป หรือช็อตงูแล้วงูร่วงไป พอครบ 1/10 วินาทีถ้าสถาณการณ์ปกติ ก็จ่ายไฟตามระบบต่อไป

2. หากตามข้อ 1.) จ่ายไฟกลับมาหลังจากตัดครั้งแรกแล้วยังพบว่ามีกระแสเกินเกิดขึ้นอยู่  จะทำการตัดวงจรออกอีกครั้ง แล้วรออีก 15 วินาที(โดยประมาณ) แล้วจึงทำการต่อวงจรอีก หากสิ่งผิดปกตินั้นหลุดหายไป ก็ถือว่าจ่ายไฟคืนระบบปกติ

3. หากตามข้อ 2.) จ่ายไฟกลับมาแล้วหลังจากตัดไฟไปสองครั้ง (ครั้งแรกกระพริบ 1/10 วินาที ครั้งที่สองดับ 15 วินาที) ยังพบว่ามีกระแสเกินเกิดขึ้นอีก(รถยนต์ชนเสาทำให้เสาหักสายพันกัน ช็อตงูแล้วดันค้าง กิ่งไม้พาดค้าง ฯลฯ ) ระบบจะทำการตัดไฟแบบถาวร ซึ่งไม่ใช่ว่าการไฟฟ้าฯ ปล่อยให้ดับไปเลยแล้วรอให้มีคนโทรตามจึงจะแก้ปัญหาแต่อย่างใด การไฟฟ้าฯจะมีศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟ ที่มองเห็นสถานะของอุปกรณ์ และติดต่อสอบถามการไฟฟ้าฯหน้างาน เพื่อให้ขับรถไฟฟ้า ออกไปดูสำรวจตามสายไฟไปว่า มีสาเหตุอะไร ถ้ามีกิ่งไม้พาดอยู่ก็เขี่ยออก แล้วมีอุปกรณ์อะไรเสียหายหรือไม่ ซึ่งประเด็นตรงนี้แหละ ที่คนเราชอบหงุดหงิดกันนักว่าทำไมนาน ลองมองต่างมุม เป็นผู้ปฏิบัติงานนะครับ ฝนตกฟ้าคะนองอยู่ ต้องตากฝนไปแก้ไขสาเหตุ ซึ่งบางทีที่มันนานจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์ชนเสาหัก ไม่ก็สายไฟแรงสูงขาด ทำให้ต้องต่อสาย ซึ่งต้องใช้เวลาสักพัก บางทีตรงนี้ต้องเห็นใจกันบ้าง

มาชี้แจงข้อมูล แค่นี้ครับ สงสัยอะไรสอบถามได้อีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่