ถึงเธอ คนที่เอาหัวใจของผมไปตลอดกาล

ผมยืมอมยิ้มน้องมานะครับ  ปกติอ่านอย่างเดียว

คืนนี้เหงาๆ เลยอยาก แบ่งปันประสบการณ์อกหักกับหลายๆคนครับ



ยังไง ขอแท๊กเพิ่ม   ขอเพลง อกหัก ตอกย้ำความเศร้า ด้วยนะครับ

>>>
    ถึงเธอ คนที่เอาหัวใจของผมไปตลอดกาล

              ผมเพิ่งเข้าใจว่าการไปงานรับปริญญาของเพื่อน  มันทำให้ผมต้องพบเจอคนมากมาย  ผมได้เจอรุ่นพี่ที่ไม่ได้เจอกันมาตั้งแต่สมัยเรียนจบมัธยม  ได้เจออาจารย์ที่ผมไม่เคยได้กลับไปกราบท่าน  ได้เจอเพื่อนเก่าสมัยประถม รวมถึงได้เจอ ‘แฟนเก่า’ คนที่ผมไม่ได้เจอมาตลอดสี่ปีเต็ม

               สิ่งที่ผมอยากจะเล่าให้ทุกคนทราบคงเป็นความรู้สึกในใจที่ติดค้างมาตลอดหลังจากเลิกรากันไป  ตั้งแต่เราเลิกกันเมื่อสี่ปีก่อนนับจากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย  แต่ยังคงติดตามข่าวคราวเธอในเฟซบุ๊คหรือจากคำบอกเล่าของเพื่อนๆที่รู้จักเราทั้งสองคน  สาเหตุที่เราสองคนเลิกกันก็มาจากทัศนคติไม่ตรงกัน   ผมชอบอีกอย่าง  เธอชอบอีกอย่างเลยทำให้ไปกันไม่รอด  ถึงทุกวันนี้เราต่างก็แยกย้ายกันไปมีวิถีชีวิตของตัวเอง  ขณะที่เธอกำลังเดินไปข้างหน้ากับคนที่เธอรัก  ตัวผมก็ยังยืนอยู่ที่เดิม ไปตามทางของผมคนเดียว  จะบอกยังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า…ผมยังรักเธออยู่ และยังคอยมองเธออยู่ด้านหลังจากที่เดิมนับตั้งแต่สี่ปีที่แล้วจวบจนวันนี้
                จะขอเล่าช่วงที่ผมได้มีโอกาสเจอเธอที่มหาลัยของเธอเมื่ออาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน  เพื่อนของผมเรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์  ซึ่งผมกับเธอก็เป็นเพื่อนกับเพื่อนคนนี้  ซึ่งผมกับเธอ เธอเป็นแฟนเก่าของผม เราเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน  ผมทำใจไว้แต่แรกแล้วว่าวันนี้ผมจะได้เจอเธอ  แต่ก็พยายามไม่คิดอะไรมากนัก  เพราะถ้าผมยิ่งคิดคนที่ต้องรู้สึกเจ็บก็คือผมคนเดียว  ผมได้แต่คิดในใจว่าเจอก็เจอ  ก็คงพูดคุยกันแบบเพื่อนตามปกติ  แต่ถ้าเธอพาแฟนใหม่มาด้วยผมก็คงต้องยิ้มทักทายตามมารยาทแต่ในใจก็คงจะรู้สึกเจ็บอยู่ไม่น้อย

             ขณะที่เพื่อนกลุ่มผมก็มาแสดงความยินดีกับเพื่อนคนนี้  เพื่อนอีกคนหนึ่งสะกิดผมเมื่อเห็นเธอ เดินมาพร้อมกับเพื่อนของเธอ  สิ่งที่ผมเห็นคือ  เธอสวยขึ้น แล้วก็ดูดีกว่าในรูปบนเฟซบุ๊คเสียอีก เล่นเอาหัวใจผมเต้นแรงอยู่เหมือนกัน  ผมได้แต่ยืนนิ่งๆ  ยิ้มให้เธอเท่านั้น  ระหว่างที่ถ่ายรูปอยู่ผมก็ปรายตาไปมองเธอบ้าง  เธอมองผมแล้วยิ้มให้บ้าง  แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร  แต่เธอรู้ไหมตอนนั้นหัวใจผมเริ่มเต้นแรงมากขึ้น  ความรู้สึกเดิมๆมันย้อนกลับมาอีกครั้ง  ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากมีโอกาสคุยกับเธอตามลำพังเหมือนกัน  หวังว่าเธอจะเข้าใจความรู้สึกของผมนะครับ
             หลังจากที่เราถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว  กลุ่มเพื่อนๆก็ชวนกันไปทานอาหารกันต่อที่ห้างแถวๆนั้น  ซึ่งผมก็ไปเธอ ก็ไปเช่นกัน  ระหว่างที่เราทานอาหารกันอยู่  เพื่อนๆต่างก็ไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน  ผมก็เล่าว่าผมทำอะไรอยู่ เธอก็เล่าว่าเธอทำอะไรอยู่  แล้วไอ้เพื่อนของผมมันก็สะเหร่อถามเรื่องส่วนตัวของเธอ  ผมปรายตาไปหามันเหมือนกำลังจะถามมันว่ามันกำลังจะเล่นอะไร  เพราะมันก็รู้ว่าผมยังรู้สึกยังไงกับเธอ แต่ไอ้เพื่อนมันก็ไม่สนใจ  ผมแทบอยากจะลุกออกจากโต๊ะไปทันที
    ขณะที่เธอกำลังเล่า ผมก็หูผึ่งโดยอัตโนมัติ  เธอเล่าว่า  เธอกำลังจะได้เข้าทำงานเป็น AE ของบริษัทแห่งหนึ่ง แล้วจู่ๆไอ้เพื่อนของผมมันก็ถามเธอว่า
    เพื่อน : เห็นในเฟซก็ดูโอเคกับพี่คนนั้นนะ
    เธอ : ก็โอเคนะ  พี่เขาก็น่ารักดีจ้ะ
    เพื่อน : นี่เค้ามีแฟนใหม่ละ  เหลืออะ  
    เพื่อนคนนั้นมาโอบบ่าผม แล้วพูดต่อว่า
    เพื่อน : เธอช่วยหาแฟนให้มันหน่อยไป  เรียนจบแล้วยังไม่คิดจะมีแฟนเลย
    เธอยิ้มให้ผม
    เธอ : เลือกมากอยู่ล่ะสิ
          ผมไม่ได้ตอบอะไรไปนอกจากยิ้มให้เธอเท่านั้น  วันนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองกินได้น้อยกว่าปกตินะ  อาจจะเป็นเพราะมีเธอนั่งอยู่ตรงข้ามล่ะมั้ง  ตลอดชั่วโมงกว่าผมแทบจะไม่ได้คุยอะไรออกมาเลยนอกจากนั่งฟังแล้วก็หัวเราะกับบทสนทนาของเพื่อนๆ  แต่มีหลายครั้งที่ผมกับเธอแอบสบตากันแล้วก็รีบหันไปมองทางอื่น  ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอจะรู้สึกอย่างไรบ้าง  แต่ผมก็ยังรู้สึกคิดถึงเธอ และอยากจะคุยกับเธอให้มากกว่านี้
        
            เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วเพื่อนแต่ละคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนก็แวะไปซื้อของต่อ  ส่วนผมก็จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน ซึ่งเป็นทางเดียวกับที่เธอไป  แต่ผมไปหมอชิต  ส่วนเธอไปวงเวียนใหญ่  ผมกับเธอจึงเดินไปด้วยกันสองคน  ตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมาก  และไม่รู้ว่าจะเริ่มบทสนทนาอะไรก่อนดี  จึงได้แต่เงียบกันมาตลอดทาง  แล้วจู่ๆเธอก็เริ่มบทสนทนาขึ้นมา
    เธอ :  ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ
    ผม : อื้ม  ดูสวยขึ้นนะ
    เธอยิ้มเขินๆแล้วถามต่อ
    เธอ : แล้วเธอเป็นยังไงบ้าง
    ผม : ก็เรื่อยๆน่ะแหละ ไม่มีอะไรหวือหวา
    เธอ : แล้วทำไมยังไม่มีแฟนอีก
    คำถามของเธอทำเอาผมชะงัก  หันหน้ามองเธออย่างตกใจ  หัวใจของผมเต้นเร็วมาก มื้อไม้เย็นเฉียบไปหมด  แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้
    ผม : เอ่อ…ก็…มันไม่มีเข้ามานี่นา
    เธอ : ยังคิดถึงเราอยู่ล่ะสิ
    ผมเอ๋อ-ไปเลย!!!  เธอจะพูดออกมาทำไม…เธอต้องการอะไร…หรือเธอต้องการจะแกล้งผม??
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่